แบบนี้ยาวแน่ แม้โฆษกห่านอูจะบอกว่าไม่รู้เรื่อง 'หมุดคณะราษฎร' ที่หาย
เวลานี้มีทั้งการเรียกร้อง ฟ้องร้อง
และรณรงค์เพื่อให้ได้หมุดเดิมกลับไปประทับที่เดิมบนลานหน้าพระรูปทรงม้า
ไม่ช้าก็เร็ว
หมุดใหม่ขนาดใหญ่กว่ากันนิดหนึ่งมาแทนที่ ยาปูนใหม่รายล้อมอย่างดี
มีข้อความล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่คณะอภิวัฒน์สร้างไว้อย่างชัดแจ้ง
ซึ่งข้อความในหมุดใหม่มาจากตรา ‘ดาราจักรี’ เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ บางตอนของหมุดใหม่แปลจากคาถาบาลีที่ปักดิ้นบนตรา
มีฝ่ายรอยัลลิสต์เพียงรายสองรายที่แสดงท่าสนับสนุนการเปลี่ยนหมุดครั้งนี้โจ่งแจ้ง
ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา รมว. กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนหนึ่งละ แต่ก็เขียนกำกวมไม่ได้ศัพท์
อีกคนเคยสามหาวประกาศเรียกหาเจ้าของหมุดดั้งเดิมอายุ ๘๕ ปี บอกว่าไม่งั้นจะจัดการถอดออก
ก็คือ เทพมนตรี ลิมปพยอม ซึ่งอ้างตนเป็นนักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ แต่ถูก
ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ย้อนตรวจสอบข้อมูลพบว่ามั่วหลายครั้ง
ถึงอย่างนั้นครั้งนี้ไม่ใช่คนทำแน่ๆ เจ้าตัวเองก็ปฏิเสธแล้ว
เพราะดูจากเบาะแสของการขุดเจาะเปลี่ยนหมุดนี้ น่าจะเป็นชุดทำงานมืออาชีพ เครื่องไม้เครื่องมือพร้อม
แถมทำอย่างมีอำนาจเต็ม ไม่ใช่ลักลอบ
N'S@i @sai_hanami ทวี้ตว่า “ไปกราบสักการะเสด็จพ่อในวันที่ ๕ เมษายน เห็นเต๊นด้านขวาเลยเดินเข้าไปถาม จนท. จนท. บอกภาระกิจนี้ลับไม่สามารถบอกได้”
Sataporn Pongpipatwattana โพสต์เฟชบุ๊คไว้ว่า “ได้ไปคุยกับคนขายพวงมาลัย
ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า...ได้ความว่า
“วันที่มีคนมาทำเป็นวันพุธ
น่าจะพุธเมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว มีเต๊นมากางตรงจุดที่หมุดถูกเปลี่ยน
แต่พวกเราไม่เห็นว่าใครเป็นคนมาเปลี่ยน
วันนั้นตำรวจมาไล่คนขายพวงมาลัยออกไปตั้งแต่สามทุ่ม
เขาปิดถนนบอกว่าจะปรับปรุงอนุสาวรีย์เสด็จพ่อ ร.๕”
Pravit Rojanaphruk @PravitR
ลงรูปแสดงให้เห็นเต๊นขนาดใหญ่ดังว่า “รูปนี้แสดงให้เห็นว่าอาจมีการกางเต๊นท์ขุด #หมุดคณะราษฎร
แบบมือโปรอย่างไม่อายฟ้าดิน+เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรเลย”
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เขียนถึงไว้เช่นกันบนหน้าเฟชบุ๊คว่า “การเปลี่ยนหมุดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๒-๘ เม.ย. ตามที่ อจ.เกษตรศาสตร์เล่าว่า
ให้นิสิตไปทำรายงานหมุดคณะราษฎรสองชุด ชุดแรกวันที่ ๑-๒ เม.ย.
หมุดคณะราษฎรยังอยู่ ชุดสองไปวันที่ ๘ พบว่าเป็น ‘หมุดหน้าใส’ ไปแล้ว...
คนทำจึงไม่ใช่คณะบุคคลส่วนตัวที่ลงมือทำกันเองโดยทางการไม่รู้เรื่อง!”
"ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ผู้เขียนหนังสือ ๒๔๗๕ และ ๑ ปีหลังการปฏิวัติ (1932 Revolution and Aftermath) พิมพ์โดยมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตส่วนหนึ่งว่า
บริเวณโดยรอบหมุดคณะราษฎร มีสถานที่ราชการรวมถึงกล้อง CCTV จะไม่รู้เลยหรือว่าใครขุดหมุดคณะราษฎรไป”
ดร.ธำรงค์ศักดิ์ วิจารณ์ต่อไปด้วยว่า “การถอดหมุดกลับช่วยกระตุ้นให้เกิดการอยากรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติ
๒๔๗๕ และคณะราษฎรเพิ่มขึ้น
ผมคิดว่าแทนที่หมุดใหม่จะทำลายพลังของประชาธิปไตยไป
หมุดนี้กลับกลายเป็นเครื่องหมายกระตุ้น”
เหตุนี้จึงมีตั้งแต่ ศรีสุวรรณ จรรยา เรียกร้องให้ทางการนำหมุดคืนมาประดิษฐานตรงจุดเดิม
พริษฐ์ รัตนกุล
เสรีเริงฤทธิ์ ตัวแทนลูกหลานคณะราษฎร แจ้งความที่ สน.ดุสิต เหตุหมุดคณะราษฎรหาย และ
ชำนาญ จันทร์เรือง เริ่มทำ petition ให้คนร่วมลงชื่อเรียกร้อง “เอาผิดผู้ทำลายและต้องคืนหมุดคณะราษฎร” ผ่านทางเวปไซต์ chang.org โดยมีข้อความว่า
“หมุดคณะราษฎรหรือหมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ ๒๔๗๕ เป็นสมบัติของสังคมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
สังคมต้องช่วยกันนำคืนและเอาผิดผู้ขโมยประวัติศาสตร์นี้”
(ผู้สนใจตามไปเพิ่มรายชื่อได้ที่ https://www.change.org/p/%A3?source_location=minibar ภายในไม่กี่ชั่วโมง
มีผู้เข้าร่วมลงชื่อแล้วเกือบ ๒ พันราย)
อย่างไรก็ดี
มีปฏิกิริยาย้อนแย้งอย่างศรีธนญชัยต่อการรณรงค์เอาหมุดเก่ามาคืน ควรต้องบันทึกไว้
จาก ‘Thong
D Thong K’ ทวี้ตว่า
“ถ้าหมุดเก่าเป็นการฝังโดยคณะปฏิวัติที่มีอำนาจสูงสุดในเวลานั้น
แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าจะมีการเปลี่ยนหมุด โดยคณะปฏิวัติที่มีอำนาจสูงสุดในเวลานี้”
อันนี้ตอบเลยว่า ไม่แปลกได้อย่างไร
ในเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดเวลานี้ทำไม่รู้ไม่ชี้กันหมด
ถ้าเอาจริงต้องออกมาประกาศชัดถ้อยอย่างที่คณะราษฎรทำ มิฉะนั้นเท่ากับเป็นพวกแหยและอีแอบ