วันศุกร์, กันยายน 30, 2559

Visa Khanthap : เก้าอี้ตัวนั้น กับ 6 ตุลา 2519 ความขัดแย้งระหว่างปิดกับเปิด





เก้าอี้ตัวนั้น กับ 6 ตุลา 2519
ความขัดแย้งระหว่างปิดกับเปิด

เขาต้องการดับไฟให้มืดมิด
ไม่ให้ใคร จุดติด สว่างไสว
พอมีใครเชื่อมสายประกายไฟ
ไหม้ลามทุ่งเมื่อไร เขาไล่ล้าง

เราจุดไฟติดบ้างเป็นบางหน
เขาเพียรทน ดับไฟ เราได้บ้าง
เราเคยไหม ทบทวน ขบวนทาง
ที่จะสร้างไฟสว่างอย่างยั่งยืน

เราควรต้องครุ่นคิด ผิดตรงไหน
เขาและเรา อย่างไร ในลึกตื้น
เขารุนแรง รุกรบ จบด้วยปืน
แล้วคลีนคาวเลือดขื่นกลับยืนยง
เราสันติสงบนิ่งอหิงสา
ด้วยดวงจิตศรัทธาอันสูงส่ง
แต่ละครั้งการยุทธสิ้นสุดลง
เรานำธง ถูกทิศ หรือผิดทาง

ศตวรรษรัฐประหารอันเวียนวน
ภาพเก้าอี้ ตีคน เหลือแต่ร่าง
แม้กี่ปีผ่านไปจักไม่จาง
คนจะยิ่งย้ายข้างมาเข้าใจ

เราจะพาคนเป็นจำนวนมาก
ฝ่าข้ามความทุกข์ยากไปได้ไหม
เราจะหา หนทาง สู้อย่างไร
จึงได้ชัยชนะแน่อย่างแท้จริง

พร้อมคำถามหนทางสู้อย่างไร
จะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง...

กวีศรีประชา
19 กันยายน 2549
ปารีส / ฝรั่งเศส


Visa Khanthap 


WRONG DIRECTION : A prominent Thai artist says his country is becoming “a hybrid of Singapore and North Korea”




Apichatpong Weerasethakul. (Apichatpong Weerasethakul)


Source: QZ.com
September 29, 2016

Apichatpong Weerasethakul envies Hong Kong. Coming from a country that was taken over by a military coup two years ago, the acclaimed contemporary artist from Thailand says the ongoing political turmoil has not only turned his country backward, but also put his countrymen’s freedom under threat.




“Ghost Teen” (2009). (Apichatpong Weerasethakul)

“It’s becoming a hybrid of Singapore and North Korea,” Weerasethakul said of his homeland.


Weerasethakul was in Hong Kong for the Sept. 17 opening of The Serenity of Madness, a traveling exhibition and his first solo show in the city. The exhibition, which runs until Nov. 27 at the nonprofit art space Para Site, shows a glimpse of the artist’s vast body of work, from video installations to photography and sculptures that reflect his grassroots-level take on Thailand’s current political system.

Weerasethakul has made award-winning films such as Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives. At the 2010 Cannes Film Festival, that work earned him a Palme d’Or, one of the film world’s highest honors (never before bestowed on a Thai filmmaker). Here’s a trailer:





The exhibit opened to the public about two weeks after the dramatic election of Hong Kong’s Legislative Council. Weerasethakul noted that while Hong Kongers do not enjoy full democracy, they still have the right to vote and express themselves freely to a certain extent, which makes him feel sad about his home country.

I can’t help but [see] how backward things have become. I always had the dream of [the government] supporting cultural development, but then the government changed, and the plans were scrapped to boost military spending. There is also censorship. I envy how culture is integrated into the community in Hong Kong, and Hong Kongers are still enjoying freedom.




“Mr. Electrico (for Ray Bradbury)” is inspired by the memory of the artist’s favorite writer.(Apichatpong Weerasethakul)


The growing censorship in Thailand aims at silencing critics, Weerasethakul said, and has made it harder not only to create art, but also to host exhibitions. The artist decided against showing his 2015 film Cemetery of Splendour—which revolves around a group of ill soldiers—in Thailand in order to steer clear of government censorship. Here’s a trailer for that film:





The fact that most Thais choose to keep their heads down under the military regime has made things worse, Weerasethakul believes. Meanwhile the deep-rooted Confucius culture has influenced generations to believe in the law of karma and to accept the military as an institution.

Generals come to take power in cycles. Political problems are not solved by the parliament but by force. People are used to this, and they have accepted the military. They prefer to have ‘parents’ looking after them, to keep society safe under tanks and guns.




“TEEM (The Vapor of Melancholy).” (Apichatpong Weerasethakul)


The people of Thailand are not yet politically awakened, Weerasethakul believes. But he said some artists have decided to challenge the status quo with provocative artwork, despite facing possible “attitude adjustment.” This involves detention and being forced to sign a statement promising not to criticize the ruling regime. The authorities have summoned hundreds since 2014, he noted, among them artists.

Weerasethakul said that his works are mostly a reflection of his personal memories and his take on Thai culture, but that politics inevitably creep in. His 2009 multi-screen video installation Primitive, now on show at the Tate Modern in London, is a dreamlike re-imagination of Nabua, a village in northeast Thailand. It evokes bloody but largely forgotten clashes between the Thai military and communists in the 1960s, and questions the nation’s ongoing political chaos.

“Creative people have to ask questions,” he said.


คลิป LIVE เสวนา “ความรู้และความไม่รู้ ว่าด้วย 6 ตุลา 2519” ถ่ายทอดสด ผ่านเว็บไซต์ ประชาไท





16.30 LIVE เสวนา “ความรู้และความไม่รู้ ว่าด้วย 6 ตุลา 2519” พร้อมถ่ายทอดสด ผ่านเว็บไซต์ ประชาไท www.prachatai.com

* สุรชาติ บำรุงสุข
* ภัทรภร ภู่ทอง (นักวิจัยและผู้สร้างหนัง)
* ธงชัย วินิจจะกูล
* สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
* พวงทอง ภวัครพันธุ์ (ดำเนินรายการ)

และทวีตรายงานที่ https://twitter.com/prachatai


ประชาไท Prachatai.com

ooo

ทวีตรายงาน https://twitter.com/prachatai


สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งคำถามทำอย่างไรไม่ให้งานหกตุลาเป็นงานทำบุญรวมญาติ ให้คนยุคหลังมีความทรงจำไปพร้อมคนรุ่นเรา

สุรชาติ บำรุงสุข: น่าตกใจที่จุฬาฯ ไม่มีข้อเขียนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวช่วงหกตุลาเลย หากไม่นับของอ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ

สุรชาติ บำรุงสุข: ขอเรียกร้องกับคนรุ่นผมและเพื่อนๆ ชาวหกตุลา ขอให้เขียนถึงเหตุการณ์หกตุลา เอาความทรงจำกลับมา

สุรชาติย้ำ เวทีหกตุลาไม่มีเจตนาฟื้นฝอยหาตะเข็บทั้งสิ้น เพียงหวังให้สังคมไทยรับรู้สถานการณ์การเมืองชุดหนึ่งในปี 19 ก่อนที่คนรุ่นผมจะลาจากไป

สุรชาติ: เราเองไม่เคยมีการศึกษาจริงๆว่าขบวนฝ่ายขวาในหกตุลาคืออะไร ทั้งที่ฝ่ายขวามีอำนาจมากกว่าซ้าย ซึ่งทำให้เราทำความเข้าใจสังคมไทยลำบาก




ภัทรภร:เรารู้จักใบหน้า-ชีวิตของคนที่จากไปแค่ไหน ส่วนใหญ่เรารู้แค่ตาย-บาดเจ็บกี่คน การทำความรู้จักตัวตน-ปสก.ของพวกเขาเป็นการให้เกียรติพวกเขา

ภัทรภร ภู่ทอง: นักศึกษา ม.รามคำแหงและมหิดลที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นการ์ดดูแลความปลอดภัยให้เพื่อนนักศึกษา #ความรู้และความไม่รู้ว่าด้วยหกตุลา

ภัทรภร:10ครอบครัวที่ติดต่อได้ พบว่า น.ศ.ที่ตาย ส่วนใหญ่เป็นลูกชายคนเดียว/คนแรกของครอบครัว เป็นคนที่มีโอกาสดีสุด พ่อแม่หวังพึ่งพาหลังเรียนจบ

ภัทรภร: หลายครอบครัวกังวลว่าจะเดือดร้อนไหมใต้เผด็จการทหารแบบนี้ บางครอบครัวยินดีแต่ต่อมาขอปกปิดข้อมูลเพราะห่วงสวัสดิภาพ

ภัทรภรตีความว่า ครอบครัวเหยื่อไม่ใช่ไม่เห็นประโยชน์ในการให้ข้อมูล แต่มองว่ามันไม่นำสู่การเปลี่ยนแปลงความยุติธรรม และอาจนำมาซึ่งความเดือดร้อน

ภัทรภร: หลายครอบครัวบอกว่า "คุณไม่รู้หรอกว่าครอบครัวของเราต้องเจออะไรมาบ้าง" "เราเจอมามากพอแล้ว"

ธงชัยชี้ ได้เห็นภาพคนถูกแขวนคอคนอื่นๆ เพิ่ม ทำให้มั่นใจว่า มีคนถูกแขวนคออย่างน้อยๆ 4 คน คำถามคือจากรายงานชันสูตรแค่ 2 คน

ภัทรภร: จากการสัมภาษณ์ จุดที่เผา-หน้าศาลอาญา พระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนระหว่างมธ.-สนามหลวง แต่เราเห็นแค่ภาพจากหน้าพระแม่ธรณีฯ

ภัทรภร: ชายที่ใช้เก้าอี้ฟาดที่สนามหลวงในหลายภาพ แต่ยังไม่มีใครทราบว่าเขาเป็นใคร ส่วนตัวอยากพบเพื่อถามถึงความรู้สึกของเขาในขณะนั้นและขณะนี้

ภาพยนตร์ 'ความทรงจำไร้เสียง' ของภัทรภร ภู่ทอง จะฉายที่ มธ. (ชมฟรี) ในวันที่ 7 ต.ค. http://prachatai.org/activity/2016/09/67984 …

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: ทำไมต้องมาหาข้อมูลเอาตอนนี้ ขณะนั้นไม่มีข้อมูล เหตุการณ์ปราบ ตามมาด้วยรัฐประหารในเย็นวันนั้น คณะปฏิรูปปิดสื่อสองวัน

สุธาชัย: มีเพียงข้อมูลออกมาจากฝ่ายรัฐเท่านั้น สื่อฝ่ายซ้ายถูกปิดหมด พอวันที่ 9 ต.ค. สื่อก็เสนอเรื่องอื่นแล้ว

สุธาชัย: ธงชัยอยู่ในคุกสองปี คนอื่นก็เข้าป่าหมด ไม่มีการทำหรือตามข้อมูลอะไรเลยแต่ต้น เมื่อถึงวันทำข้อมูลจึงเหลือแต่ข้อมูลจากฝ่ายรัฐเป็นหลัก

สุธาชัย: ข้อมูลใหม่ ในบรรดาคนที่ถูกจับ มีคนผูกคอตายในคุก ชื่อ "วันชาติ ศรีจันทร์สุข" ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าเขาคือใคร

สุธาชัย: ที่สุดแล้ว ความไม่รู้เรื่องหกตุลาแม้ในหมู่พวกเราเองมันเยอะมาก

ธงชัย วินิจจะกูล: ข้อมูลในรายละเอียดเช่น ต้นไม้ที่ใช้แขวนคออยู่ตรงไหน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องวิชาการ เพราะไม่ได้ส่งผลต่อบทสรุปทางประวัติศาสตร์

ธงชัย: แต่เป็นเรื่องว่า เขาถูก dehumanization ดังนั้น เราต้องคืนความเป็นมนุษย์ให้กับเขาทุกราย

ธงชัย: เมื่อใดที่ครอบครัวเขายินดีรับรู้ข้อมูลเหล่านี้เขาต้องได้รับรู้ "เราคืนรายละเอียดทุกอย่างให้กับชีวิตเขา"

ธงชัย: ตั้งข้อสังเกต 1. "นวพล" ซึ่งเชื่อมาตลอดว่าองค์กรใหญ่โตมีพลังมาก ไม่แน่ใจ อาจเป็นองค์กรเสือกระดาษ มีสมาชิกไม่กี่คน

ธงชัย: 2.ที่เชื่อกันว่า "กระทิงแดง" เป็นคนก่อการเช้าวันนั้น ไม่แน่ใจ เพราะหลายคนให้การตรงกันว่าเหตุการณ์เช้าวันนั้นคาดไม่ถึง เพราะ"นอกสั่ง"

ธงชัย: ถ้าจะมีกระทิงแดงอยู่ ก็เป็นตัวบุคคล ไม่ได้ต้องการให้กระทิงแดงพ้นผิด แต่มันมีปริศนาว่าเรารู้จักเขาได้มากกว่านี้

ธงชัย: 3.ชมรมแม่บ้านที่ชุมนุมที่พระรูป สามสายนี้มาจากที่เดียวกันคือ กอ.รมน. ใครมีบทบาทก่อตั้ง กอ.รมน.ตอนนั้น ผมเขียนไว้นิดหน่อยในหนังสือผม

ธงชัยชี้ยังมีรายละเอียดอีกเยอะที่ทำได้ แต่ไม่มีคนทำหรือยังพยายามกันไม่พอ

ธงชัย: เวลาฟังญาติสรุปได้ว่า หกตุลาเป็น"เรื่องละเอียดอ่อน" ไม่อยากทึกทักว่าญาติรู้ว่าเกิดอะไร แต่เขาแค่รู้ว่ามีอะไรบางอย่างที่เกินกว่าจะพูด

ธงชัย: ช่วง20 ปีหกตุลาที่สำเร็จคือสามารถออกมาพูดอย่างเปิดเผยว่ามีการฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ แต่มีเพดานเยอะมาก พูดได้แค่นั้น

ธงชัย: "สังคมไทยอยู่ในภาวะที่ ... อนุญาตให้พูดแค่นั้นแหละ"

ธงชัย:มีคนบอกว่าหกตุลาเงียบเสมอ ไม่จริง บางทีเสียงดังจนน่ารำคาญ แต่เราพูดได้แค่ว่ามีคนตาย-โหดเหี้ยม สังคมแบบไหนที่อนุญาตให้เราพูดได้แค่นี้

ธงชัยเชิญชวนผู้มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ให้ส่งข้อมูลมาในโครงการแหล่งข้อมูลหกตุลา เพื่อรวมขึ้นเว็บ "เมื่อมีข้อมูลอยู่ สักวันจะมีคนค้นคว้า"

ขอจบการรายงานสด #ความรู้และความไม่รู้ว่าด้วยหกตุลา ขอบคุณสำหรับการติดตาม อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://prachatai.com เร็วๆ นี้

ooooo


ฟังยัง บิ๊กตู่ เตือนอย่าทำอีก ประชดนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนน ชี้ภาพไปถึงยูเอ็น (คลิป):




อบจ.ตากซ่อมทางหลังสาวประท้วงอาบน้ำ

.....

บิ๊กตู่ เตือนอย่าทำอีก ประชดนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนน ชี้ภาพไปถึงยูเอ็น อายเขา(คลิป)






ที่มา มติชนออนไลน์
30 ก.ย. 59

เตือนสาวกระโจมอกอาบน้ำกลางถนนจ.ตาก อย่าทำอีก อายเขาพ้อใช้ม.44 สั่งหยุดน้ำท่วมไม่ได้ ลั่นกลับจากสหรัฐเวียนหัว แต่ไม่บ้าแน่นอน




เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 กันยายน ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งถึงกรณีน.ส.อธิชา กุศลตระกูลพัฒน์ อายุ 22 ปี เด็กสาวชาวกะเหรี่ยงที่โพสต์รูปอาบน้ำกลางถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อที่บ้านตีนธาตุอ.แม่ระมาด จ.ตากเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาว่า ภาพผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนนภาพนั้นไปถึงองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) แล้ว หลายประเทศนำเอาไปเป็นแบบอย่าง แล้วบอกว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดีกว่านี้ อายเขาไหมล่ะ ประชาชนเข้าใจกันหรือไม่ว่าถนนเส้นนั้นเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใครก็เป็นของท้องถิ่น เอาเงินมาจากไหนก็เอาเงินมาจากภาษีของตัวเอง แล้วทำกันได้ไหม บางอย่างทำได้ บางอย่างทำไม่ได้บางที่ทำดี บางที่ทำไม่ดีเขาต้องปรับปรุงตัวเองทุกภาคส่วนต้องพัฒนารวมถึงรัฐวิสาหกิจก็ต้องมีการพัฒนา ประชาชนก็ต้องมีการปรับปรุงไปด้วย

“อย่าให้มีอีก คราวหน้าจะนุ่งชุดว่ายน้ำอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็ น้ำมันลึกขึ้นไง แหม ทำกันเป็นเรื่องสนุกไปได้ ผมก็สงสารเห็นใจ ป้าๆ ยายๆ คนแก่เขาต้องกันให้เห็นว่าตั้งแต่สาวจนแก่ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องอธิบายว่าให้ท้องถิ่นเข้ามาพูดคุยผมไม่ได้รังเกียจใครเลยเพราะท้องถิ่นเป็นกลไกที่ประชาชนอยู่ใกล้มากที่สุด เขาสามารถเป็นตัวเองให้พวกเราได้ การทำงานต้องลงไปสู่ข้างล่าง จะต้องมีการชี้แจงด้วยตัวของท่านเอง จะดีกว่าใครคนอื่นชี้แจง ต้องชี้แจงว่าอดีต ปัจจุบันอนาคตประชาชนจะได้อะไร วันนี้อาจไม่ได้ วันหน้าอาจไม่ได้” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวถึงการจราจรที่ติดขัดช่วงวันศุกร์ว่า พอรถติดก็ด่าตน มันติดมาเป็นสิบชาติแล้วติดมาเป็น 20 ปีแล้ว ก็บ่นกันตั้งแต่คสช.เข้ามา ไม่เห็นจะทำได้ ให้เอามาตรา 44 มาแก้สิ ไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะใช้มาตรา44 สั่งน้ำได้ไหมว่าอย่าให้น้ำอย่ามา มันทำไม่ได้เราต้องวางแผนและชี้แจงให้เข้าใจ ตนถึงบอกว่าวันหน้าต้องขยายเมืองอย่าปล่อยให้แน่นแบบนี้สร้างทางด่วนก็ไม่พอ วันนี้เรารื้อท่อระบายน้ำได้ไหม รูแค่แมววิ่ง เมืองนอกเขามีอุโมงค์ใหญ่ๆอุโมงค์มไหสวรรค์ที่เพิ่งเปิด สร้างมากี่ปีแล้วสังคมก็ประชดประชันเรามาตลอด หลายอย่างเกิดมานานแล้ว แล้วมาเกิดที่สมัยเรา แล้วจนจะรู้ไหมเพราะไม่ได้เป็นคนคิด

“ผมก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในเมื่อเราเป็นรัฐบาลผิดถูกอย่างไรเราก็รับแทน หลายอย่างที่ผมเซ็นไปเพราะว่ากฎหมายเขียนแบบนั้นถ้าผมไม่ทำก็เหมือนที่ผ่านมาที่เขาไม่ทำ เพราะฉะนั้นเราจะต้องระมัดระวังเรื่องการทำผิดกฎหมายในมาตรา 157ละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อท่านอย่าไปให้ความสำคัญแค่คดีแพ่งและคดีอาญาเท่านั้น จะตกม้าตายเพราะกฎหมายเหล่านี้ต้องศึกษาดูด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯกล่าวว่า เหนื่อยมาก ตั้งแต่กลับมาจากสหรัฐ ตนเวียนหัวไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก สมองตื้อ พูดไม่เพราะและไม่ต่อเนื่อง แต่ตนยังไม่บ้าแน่นอน ไม่ต้องกลัวยังไม่ป่วย

.....



พบแล้วในไทย ทารกศีรษะเล็ก 2 รายที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา



ทารกสองรายในไทยที่มีภาวะศีรษะเล็กจากการติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นกรณีแรกที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วันนี้ (30 ก.ย.) กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวว่าทารก 2 รายจากจำนวน 4 ราย ซึ่งพบว่ามีอาการศีรษะเล็กนั้นยืนยันได้ว่าเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกาจริง ส่วนทารกอีก 1 รายต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติม และทารกอีก 1 รายยังอยู่ในครรภ์มารดา

นายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกรมควบคุมโรค ระบุว่าทารกศีรษะเล็กที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกาทั้งสองรายเป็นกรณีแรกที่พบในประเทศไทย และองค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นกรณีแรกที่พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน พร้อมเตือนว่าทารกศีรษะเล็กอาจมีปัญหาด้านระบบการหายใจ รวมถึงพัฒนาการทางสมอง

รายงานข่าวระบุว่าผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาบางรายไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้การตรวจสอบและป้องกันทำได้ยาก ส่วนผู้ติดเชื้อที่ล้มป่วยจะมีอาการไข้สูงพร้อมผื่นแดง รวมถึงปวดตามข้อต่อ แต่หากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อในช่วงไตรมาสแรกและไม่แสดงอาการ อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงทำให้เกิดอาการศีรษะเล็ก และขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดที่จะป้องกันเชื้อไวรัสซิกาได้

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ยังได้ออกแถลงการณ์เตือนหญิงอเมริกันที่ตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศแถบเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม 11 ประเทศ ได้แก่ บรูไน เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ติมอร์เลสเต และไทยด้วย


บีบีซีไทย - BBC Thai

.....




จับโกงครอบครัว"จันทร์โอชา" "วีระ สมความคิด"ไล่"ประยุทธ์"จวก"วิษณุ"ไร้หลักการ




https://www.youtube.com/watch?v=uZieY_lzirQ

จับโกงครอบครัว"จันทร์โอชา" "วีระ สมความคิด"ไล่"ประยุทธ์"จวก"วิษณุ"ไร้หลักการ

jom voice

Published on Sep 29, 2016

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอรัปชั่น ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณีมีการยื่น ปปช.ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เรือ่งที่ลูกชายตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างในค่ายทหาร และได้ประมูลโครงการก่อสร้างของกองทัพภาค 3 หลายโครงการ รวมทั้งการสร้างฝายแม่ผ่องพรรณ ภริยาของพล.อ.ปรีชาว่า เป็นไปไม่ได้ที่ พล.อ.ปรีชาจะไม่รู้เรื่อง และพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อเรือ่งนี้สอเจตนาที่จะปกป้องน้องชายตัวเอง ชัดเจนว่าไม่จริงใจที่จะปราบปรามการทุจริต ตนไม่เชื่อมั่น ปปช.ว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าถ้าไม่เชื่อมั่นก็ให้ไปอยู่ที่อื่น พล.อ.ประยุทธ์ ต่างหากที่ควรไปอยู่ที่อื่น รัฐประหารเข้ามาแล้วยังปล่อยให้มีพฤติกรรมส่อทุจริตเสียเองอีก ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม ก็พูดล้มล้างหลักการของกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่ร่างมากับมือที่จะปราบคนโกง 3 ชั่วโคตร อย่างไรก็ตามประชาชนทุกคนจะต้องร่วมมือกันต่อต่านการทุจริตคอรัปชั่นทุกชนิดไม่ว่าจะอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการขนาดไหนก็ตาม


อย่าลืม อีก ๖ วัน ๖ ตุลา ครั้งนี้ครบรอบ ๔๐ ปี





ปะไว้ล่วงหน้า อย่าลืม อย่าลืม อีก ๖ วัน ๖ ตุลา ครั้งนี้ครบรอบ ๔๐ ปี

ใครรู้จัก 'ตุลา' ในความหมายที่ลืมไม่ลง ก็ต้องไม่พลาด ใครเพิ่งสัมผัสในความรู้สึกที่อยากรู้ ย่อมต้องไปแสวงหาความหมาย

ที่เกษตรฯ มีวิทยากรและนักกิจกรรมที่ขอเอ่ยถึงเพื่อเรียกน้ำย่อยสองท่านคือ อ.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ พ่อพิมพ์ของจอห์น วิญญู และพริษฐ์ ชีวารักษ์ ผลพิมพ์ของประชาธิปไตยใฝ่รู้

ที่ท่าพระจันทร์รายการแน่นเหยียด ทั้งสุนทรกถา ปาฐกถา เสวนา และสัมมนาวิชาการ เรียงลำดับวิทยากรตั้งแต่สุรชาติ บำรุงสุข ธงชัย วินิจจะกุล เกษียร เตชะพีระ ประจักษ์ ก้องกีรติ ไทเรล ฮาร์เบอร์คอร์น รุ่งระวี เฉลิมศรีภิญโญรัตน์ และพวงทอง ภวัครพันธุ์

หัวข้อ อาทิ “๔๐ ปีเปลี่ยนผ่านประเทศไทย : ๔๐ ปีเปลี่ยน-๔๐ ปี ไม่ผ่าน?” “เสียงจากความเงียบ” “คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย” “ความฝันเดือนตุลาสู่กาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง” “อะไรหนอคือสังคมในอุดมคติของคนรุ่นใหม่?” และ “ความขัดแย้งและวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดในสังคมไทย”

ด้านบันเทิงก็เพียบ ฉายหนังใหม่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกสองเรื่อง “ด้วยความนับถือ” (Respectfully yours) กับ “Democracy After Death :

A Tragedy of Uncle Nuamthong Praiwan”





ดนตรีมีเสียงสดๆ ให้ฟังไม่ขาด จากวงภราดร กำปั้น เอ้ นิติกุล กรรมาชน คีตาญชลี โฮ้ป และคาราวาน

โดยเฉพาะรายหลัง น้าหงามาเอง ขึ้นเวทีเดียวกับวงผ้าขาวม้า

รายละเอียดทั้งหมดดังนี้

เริ่มแต่วันที่ ๕ เวลาบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น ที่ห้อง ๕๐๑ ชั้น ๕ ตึก ๓ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน

เสวนา "๖ ตุลา เธอเขียน เขาลบ แต่เราจดจำ: บอกเล่า ๖ ตุลา ผ่านความทรงจำของชาวเกษตรศาสตร์"

หัวข้อย่อย:

- "สังคมวิทยา/มานุษยวิทยาความทรงจำกับเหตุการณ์ ๖ ตุลา"
- "ความทรงจำและประสบการณ์ตรงของคนเกษตรศาสตร์ในเหตุการณ์ ๖ ตุลา
- "องค์กรนิสิตและการจำกัดเสรีภาพนิสิต ม.เกษตร ในช่วง ๖ ตุลา
- "๖ ตุลา กับผลต่อขบวนการนักศึกษาในปัจจุบัน
- "บทเรียนทางประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์ ๖ ตุลา
- "การปราบปรามผู้ชุมนุมกรณี ๖ ตุลา เปรียบเทียบกับการปราบปรามกรณี ๘๘๘๘ ของพม่า"
- "เหตุการณ์ ๖ ตุลาในหนังสือแบบเรียน"
- "๖ ตุลากับวาทกรรมและการสร้างความเกลียดชังโดยสื่อ"
- "มอง ๖ ตุลา จากงานศึกษาเรื่อง 'ก่อนระบบกษัตริย์:ลัทธิผู้ก่อตั้ง เบลาะโข่กะเหรี่ยง' "

วิทยากรโดย คณาจารย์คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
รศ. ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
อ. ดร.ปุรินทร์ นาคสิงห์
อ.อังกูร หงษ์คณานุเคราะห์
อ.ศรัญญู เทพสงเคราะห์
อ. ดร.ลลิตา หาญวงษ์

ร่วมด้วย
ผศ. ดร.ศรันย์ สมันตรัฐ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
ตัวแทนกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์
ตัวแทนกลุ่มเสรีนนทรี SeriNonsi
ตัวแทนกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท
ตัวแทนนิสิตภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
ตัวแทนนิสิตหลักสูตรวนศาสตร์ชุมชนคู่ขนานสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ดำเนินรายการโดย อ. ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

จากนั้นตั้งแต่วันที่ ๖ ถึง ๘ ตุลา ๕๙ เชิญร่วมรายการ 'เราไม่ลืม' ๖ ตุลา ๒๕๑๙ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

กำหนดการเริ่มแต่ตีห้า เช้าตรู่วันที่ ๖ ตุลาคม นั่นเลย

5:00 - นาฏกรรม ลีลาศิลป์ 40 ปี 6 ตุลาคม 2519 จารึกไว้ในใจชน - เริ่มแสดงที่ลานโพธิ์และไปสิ้นสุดที่ลานประติมากรรม

----------- ลานประติมากรรม -----------

6:30 - พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์
8:00 - กล่าวเปิดงานโดย ศ.ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์
8:30 - สุนทรกถา หัวข้อ “๔๐ ปีเปลี่ยนผ่านประเทศไทย : ๔๐ ปีเปลี่ยน-๔๐ ปี ไม่ผ่าน?”

โดย ศ.ดร. สุรชาติ บํารุงสุข

----------- หอประชุมศรีบูรพา -----------

16:00 - ฉาย “ด้วยความนับถือ” (Respectfully yours)
ภาพยนตร์สารคดีที่จัดทำขึ้นในวาระ 40 ปี 6 ตุลา เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานนี้โดยเฉพาะ
16:40 - เสวนา “เสียงจากความเงียบ”
18:15 - ปาฐกถาหัวข้อ “คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย”
โดย ศ. ดร. ธงชัย วินิจจะกูล
19:00 - การแสดงโดย หงา คาราวาน
และ วงผ้าขาวม้า

--------------------------------------

7 ตุลาคม 2559

--------------------------------------

----------- หอประชุมศรีบูรพา -----------

14:00 - เสวนา “สื่อมวลชนกับความรุนแรงทางการเมือง”
16:00 - ฉาย “Democracy After Death :
A Tragedy of Uncle Nuamthong Praiwan”
เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานนี้โดยเฉพาะ
17:30 - สรุปบทเรียนอุดมการณ์ “อะไรหนอคือ
สังคมในอุดมคติของคนรุ่นใหม่?”
19:00 - การแสดงจากสหายเขตงาน

--------------------------------------

8 ตุลาคม 2559

--------------------------------------

----------- หอประชุมศรีบูรพา -----------

16:00 - ฉาย “ด้วยความนับถือ”
(Respectfully yours) *ฉายซ้ำ
12:00 - ดนตรีโดย เอ้ นิติกุล, วงกำปั้น
13:00 - เสวนา “ความฝันเดือนตุลาสู่กาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง”
14:00 - ดนตรีโดย วงภราดร
14:30 - วงเสวนา “บทเรียนประชาชน 3 ประสาน
จากยุคเดือนตุลากับอนาคต”
16:00 - ดนตรีโดย Bird Eat A Dog ,วงสามัญชน และศิลปินคนรุ่นใหม่
18:00 - ศิลปะการดนตรีเพื่อชีวิต โดย
หว่อง คาราวาน, Hope, คีตาญชลี, นิด กรรมาชน

------ ห้องประชุมริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ ------

สัมมนาวิชาการ “ความขัดแย้งและวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดในสังคมไทย” จัดโดย คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

9:30 - ภาคเช้า | โดย ศ.ดร. เกษียร เตชะพีระ, ผศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ และ ดร. ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น
13:30 - ภาคบ่าย | โดย รุ่งระวี เฉลิมศรีภิญโญรัช, รศ.ดร. พวงทอง ภวัครพันธุ์ และ ศ.ดร. ธงชัย วินิจจะกูล

--------------------------------------

มหกรรมหนังสือการเมือง

--------------------------------------

6-8 ตุลาคม 2559 เวลา 9:00-20:00 น.

ร่วมด้วย

โกมลคีมทอง | เคล็ดไทย | โครงการตำราสังคม | โค-โลคัล (สนพ.ฟ้าเดียวกัน) | ฅอหนังสือ | โฆษิต | ชนนิยม | นกฮูก พับลิชชิ่ง | นานมีบุ๊คส์ | บุ๊ค ไทม์ | ปัญญาชน ดิสทริบิวเตอร์ | คบไฟ | มติชน | ยิปซี กรุ๊ป | สมมติ | สันสกฤต | แสงดาว | อัลเทอร์เนทีฟไรเตอร์ | แฮพเพนนิ่ง | ศูนย์ส่งเสริมรักการอ่าน | สถาพรบุ๊ค

รายการภาพยนตร์ในเทศกาลหนังการเมือง | http://bit.ly/2d9brDD

Download กำหนดการเต็ม | http://bit.ly/2do9pNJ

กดติดตามกิจกรรม | http://bit.ly/2cSPY3O

คุณวิษณุครับ หากเอาผิดยิ่งลักษณ์ กรณีจำนำข้าว เพราะปล่อยปละละเลย เลินเล่อ ทำให้รัฐเสียหายละก็ ต้องไม่ลืมคนเหล่านี้ด้วย!





ที่มา เวปพันทิป

นายกรัฐมนตรี คือผู้กำกับและควบคุมนโยบายการบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายลงมือปฏิบัติ หรือเป็นคนไปทำการนั้นๆเสียเอง อย่างจำนำข้าวเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยประกาศไว้ แต่คุณยิ่งลักษณ์ มิได้เป็นคนไปรับจำนำข้าวเอง, ขนข้าวเอาไปใส่โกดังเอง, ลงมือฉีดยาฆ่ามอดด้วยตัวเอง ทุกอย่างมีข้าราชการสนองนโยบาย คุณมีประสบการณ์เป็นรองนายกฯในสมัยคุณทักษิณและอื่นๆ..คุณคงก็ทราบ !

หากนายกรัฐมนตรี ผู้คุมนโยบายเกิด "มีความผิด"ขึ้นมาด้วยข้อกล่าวหา “ทำให้รัฐเสียหาย”แล้ว ไฉนเล่า ?? คุณวิษณุที่รักของผม จึงหยิบยื่นความผิดเยี่ยงนี้ ให้กับฝั่งของพรรคเพื่อไทยแต่ข้างเดียวเท่านั้น พรรคอื่นๆ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นที่รักของคุณวิษณุ ไยถึงปล่อยลอยนวลไปเสียเล่า..ผมไม่เข้วเจ็ย??

2537 นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ได้นำที่ดิน สปก.4-01ไปแจกบรรดาเศรษฐีตระกูลใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 11 ตระกูล ที่สำคัญมีตระกูลเทพบุตร ซึ่งเป็นสามีของคนในพรรคประชาธิปัตย์เกือบร้อยไร่ ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ต่อมาศาลฏีกาได้พิพากษา ขับไล่นายทศพรและ บริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 ..รัฐเสียหายมั๊ยครับ

นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้กำกับนโยบายในขณะนั้น ควรต้องเข้าข่ายความผิดด้วย แม้ยังไม่มี พรบ.ว่าด้วยความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 แต่ก็ต้องมีความผิดเพราะปล่อยปละละเลย หรือประมาทเลินเล่อทำให้รัฐเสียหาย ก็เข้าข่ายมาตรา 157 อยู่ดี..ทำไมไม่เอาผิดนายชวนครับ ??

2541 นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขายทรัพย์สินที่ยึดมาได้จาก 56 สถาบันการเงิน มูลค่า 851,000 ล้านบาท ให้บริษัทต่างชาติที่เขาลือว่าใกล้ชิดกับคนในประชาธิปัตย์ ในราคาเพียงแค่ 190,000 ล้านบาทเท่านั้น..รัฐเสียหายมั๊ยครับ ??

นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้กำกับนโยบายในขณะนั้น เข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2539 ฐานประมาทเลินเล่อ ทำให้รัฐเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาล มากกว่าจำนำข้าวของยิ่งหลายเท่าตัว และศาลก็ตัดสินจำคุกนายอมเรศ ศิลาอ่อนไปแล้ว เมื่อเร็วๆนี้..ทำไมไม่เอาผิดนายชวนครับ ??

2541 นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณเป็นรัฐมนตรีคมนาคม ได้บอกยกเลิกสัญญารถไฟฟ้าโฮปเวลล์ฯ ต่อมา ได้ถูกโฮปเวลล์ฟ้องเรียกค่าเสียหายข้อหายกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดให้รัฐจ่ายเงินให้โฮปเวลล์ จำนวน 11,888.75 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย 7.5%..รัฐเสียหายมั๊ยครับ ??

นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้กำกับนโยบายในขณะนั้น เข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2539 ฐานประมาทเลินเล่อ ยกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรมทำให้รัฐเสียหายมหาศาล พร้อมทั้งเสียโอกาสและเวลา.. ..ทำไมไม่เอาผิดนายชวนครับ ??

2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ใช้ พ.ร.บ. เงินกู้ 800,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนประชานิยมในนาม “โครงการไทยเข้มแข็ง” ปรากฏว่า มีการทุจริตโกงกินกันอย่างมากมาย จนต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการทุจริต มี น.พ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน และมี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นรองประธาน ผลสอบชี้ออกมาว่า มีข้อมูลในการทุจริตกันอย่างกว้างขวาง ทำกันเป็นขบวนการ ไล่ดะลงมาตั้งแต่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, เลขานุการ รมต. , ปลัดกระทรวง และข้าราชการประจำ ทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่และเกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปดำเนินการ..ทราบใช่มั๊ยครับ ??

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้กำกับนโยบายในขณะนั้น เข้าข่ายพ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2539 ฐานปล่อยปละละเลย ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้รัฐเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาล เสียหายมากเสียยิ่งกว่าจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์..ทำไมไม่เอาผิดนายอภิสิทธิ์ครับ ??

4 กรณี ที่ยกตัวอย่างมานี้ ถ้าถือว่านายกรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลนโยบาย ต้องมีความผิดไปด้วยแล้ว นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ต้องมีความผิดไปด้วย ฉะนั้น ต้องทำการยึดทรัพย์คืนให้รัฐ เหมือนที่กำลังกระทำอยู่ทำกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้น จะถือว่าคุณวิษณุมีความผิดเข้าข่ายมาตรา 157..ใช่มั๊ยครับ ??

ถ้าจะทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย เหมือนที่ใครบางคนในวันนี้พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง คุณต้องทำให้เสมอภาค เท่าเทียมกันทุกฝ่ายครับ ถึงจะยอมรับได้ ไม่ใช่อีกคนทำเพราะไม่ชอบ แต่อีกคนเว้นเพราะพวกเดียวกัน แบบนี้เขาไม่เรียก “กฎหมาย”หรอกครับ แต่จะเรียกอะไร..คุณคงรู้ดี !!!

ooo


Charnvit Kasetsiri


Burma and Thailand:
same same but different ...
Suu Kyi and Yingluck:
same same but different...
One woman in Burma, another woman in Thailand...

สิ่งที่บิ๊กๆทหารพม่า/ลิ่วล้อ ไม่คาดคิด
คือ การกระทำรุนแรงต่อสตรีหนึ่งนาง
คือ ซูจี ที่เดิมเป็น nobody (แต่เป็นบุตรีของ Aung San)
เธอเลยกลับกลายเป็น some body
และมีทั้งบารมีและอำนาจ

น่าเชื่อว่า เช่นกันว่า
บิ๊กๆทหารไทย/ลิ่วล้อ ก็หาได้สำเหนียกไม่
คือ การกระทำรุนแรงต่อสตรีหนึ่งนาง
คือ ยิ่งลักษณ์ ที่เดิมก็เป็น nobody (แต่เป็นน้องสาว ทักษิณ)
เธอกำลังกลับกลายเป็น somebody
และน่าจะมีทั้งบารมีและอำนาจ

ไม่ว่า จะพิจารณาเรื่องยัดคดีน้ำท่วม
หรือ ยัดคดีเรื่องจำนำข้าว
ที่จะกลายเป็น blessing in disguise

ดราม่าไทยๆ เรื่องนี้ ยาว ยืด ยื้อ เยื้อ
เช่นเดียวกับกับดราม่าพม่า
แต่ก็ไม่น่าจะยาวเท่าของพม่า
ถ้านับจาก 8888 (1988) ก็กินเวลากว่า 2 ทศวรรษ
ถ้านับจากสมัยเนวิน 1960s ก็กินเวลากว่า 5 ทศวรรษ

ส่วนดราม่าไทย ถ้านับจากปรากฏการณ์ เสื้อเหลือง/พธม.
การขอใช้มาตรา 7 นรม.พระราชทาน
จนถึงรัฐประหาร 2549/2006 และรัฐประหาร 2557/2014
ก็น่าจะยาวข้ามเพียงหนึ่งทศวรรษ และข้ามหนึ่งรัชสมัย เท่านั้นเอง

การณ์ปรากฎว่า
เวลาของการเปลี่ยนผ่าน ครั้งใหญ่ ได้มาถึงพม่าแล้ว
และกำลังจะบังเกิด
ให้เห็นในสยามประเทศไทย .oไม่ช้า ไม่นานนี้
cK@29Sept2016

Thailand’s New Online Fad : Social Surveillance (“Social surveillance is defined as government relying on your friends, family and loved ones to spy on you,” )




Police display alleged social media connections they said linked Chayapha Chokepornboonsri, 49, to rumors about a counter-coup in Thailand on June 24, 2015.


THAILAND’S NEW ONLINE FAD: SOCIAL SURVEILLANCE


By Todd Ruiz, Editor - September 27, 2016
Khaosod English


BANGKOK — She worked at a hotel and said she’d never heard of the lese majeste law before police arrested her. When they told her the quickest way back to her young daughters was confessing to being Facebook user Rungnapha Khamwichai, she did so, without ever speaking to a lawyer.

That was two years ago. For her confession, the military judges who convicted the single mom, identified only as Sasivimol, halved her sentence to 28 years for Facebook messages she says she didn’t write. Her older daughter will be nearly 40 by the time she is released in 2042.

Yet it wasn’t sophisticated government snooping or intrusive software that led to Sasivimol’s arrest, but rather a group of private citizens who saw the messages online and reported them for insulting the monarchy.

It’s part of a trend in which people are under watch by their own peers – possibly even friends and family – on social media. A recent report one year in the making by a London-based nonprofit found that Thailand’s constitutional guarantees of privacy are threatened by so-called social surveillance, a practice encouraged through direct and indirect measures by the military regime.

“Social surveillance is a government relying on your friends, family and loved ones to spy on you,” report author Eva Blum-Dumontet of Privacy International said.

Blum-Dumontet said it’s serious enough that regular citizens need to rethink their online habits.

“They have to be aware they can be arrested any day,” she said in a recent interview. “People have to realize the situation in Thailand has changed in terms of the amount of arrests and the violence of the government against its own people.”

Government spokesman Sansern Kaewkamnerd said although he hadn’t seen the report, the government needed updated tools to combat new threats such as drugs, human trafficking and the spread of false information.

“Government officers need to surveil and spread correct information in order to protect people from being victims of false information,” he said. “We want it to be the duty of every Thai to help do the same.”

He objected to the notion it was encouraging people to spy on each other.

“I don’t want to use the word ‘spy,’ I don’t want you to look at it in a pessimistic way,” the major general said. “If somebody spreads distorted information which can harm society in the future, then we have to help notify the relevant government agencies.”

He also disputed the government crossed any legal lines or infringed on privacy.

“There is a law, and the authorities can only inspect [communications] with a court warrant. If somebody posts pornograhic photos or photos that defame the nation, religion or the monarchy and we help prevent the damage, this is not called infringement.”

When she began researching the topic, Blum-Dumontet said she first looked into whether the state had deployed direct measures, such as Italian-made intrusion software acquired by police and the military as disclosed last year by Wikileaks.

“My first instinct was to see what they were using,” she said

As she interviewed people for her research, some told her the more one looks for sophisticated measures employed by the state, “the more wrong you will be.”

The report, published one week ago, relies on interviews, media accounts and information from the Internet Law Reform Dialogue, or iLaw, to recount several cases in which social surveillance was used to prosecute civilians. Most cases involved charges of royal defamation, a criminal offense under Article 112 of the criminal code known as lese majeste.

One recounts the case of Pongsak Sriboonpeng, a Redshirt supporter who struck up an online friendship with a man who shared similar views and even sent him a phone to use. When he went to meet the man, Pongsak was arrested and learned his “friend” was a cop. In September 2015, Pongsak was sentenced to 30 years in prison.

The report also details regime efforts to encourage social surveillance by offering cash bounties for reporting online dissidents and organizing cadres of student “Cyber Scouts” to police the internet.

It also faults the military government for “stoking existing tensions” and grievances to cultivate a climate of fear.

“By condemning as lese-majeste a wide range of dissenting opinion, the Thai government has been instigating a climate of fear that has affected the right to privacy of citizens,” the report said. “Individuals have been arrested for expressing their opinions on social media, a personal space many expect to be safe from government interference.”

Sansern said the matter of royal defamation was a special case.

“If you see somebody post a photo that steps right on every Thai heart, what are you going to do?” he said.

In its report, Privacy called on Thai authorities to dismantle the Cyber Scouts program, discourage online informants and condemn the release of personal information to attack someone online.

While social surveillance may be unsophisticated, Blum-Dumontet said trampling of internet freedoms and privacy are within reach of the government through its control of the national telecommunications infrastructure – and its telecoms. She said she is working on another report looking at “surveillance on the cheap” through control of ISPs and telecoms which aren’t independent.

Though fear of social surveillance may have a chilling effect on expression, Blum-Dumontet said people need to be pragmatic and take it seriously.

“There has to be a point where you realize you are confronting a government that is not allowing you to express yourself, and people need to be extremely careful now in how they do things and use secure platforms,” she said.

Privacy International is based in London. It’s work in Thailand was supported by the Swedish International Development Cooperation Agency and began prior to the coup with the intention of making policy recommendations to the civilian government.

“At the time, it felt like a country where we could potentially have an impact on policy,” Eva-Dumontet said of the project’s inception.

Additional reporting Sasiwan Mokkhasen


วันพฤหัสบดี, กันยายน 29, 2559

มีนะในแดน Kimchi... วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว (29 กันยายน 2006) : หญิงสูงวัยประกาศครองราชย์เป็น “จักรพรรดินีแห่งเกาหลี” โดยไม่ปรึกษาชาวบ้าน




อี แฮ-วอน ผู้ประกาศตัวเป็นจักรพรรดินีแห่งเกาหลี AFP PHOTO / JUNG YEON-JE


29 กันยายน 2006: หญิงสูงวัยประกาศครองราชย์เป็น “จักรพรรดินีแห่งเกาหลี” โดยไม่ปรึกษาชาวบ้าน


ที่มา เวปศิลปวัฒนธรรม
29 กันยายน พ.ศ.2559


เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2006 อี แฮ-วอน (Lee [หรือ Yi] Hae-Won) วัย 88 ปี เจ้าหญิงจากราชวงศ์แห่งโชซอนซึ่งล่มสลายไปตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 หลังถูกญี่ปุ่นยึดครอง ได้ประกาศขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีองค์ใหม่แห่งจักรวรรดิเกาหลี

“เราคือทายาทที่ถูกต้อง, ไม่ว่าใครจะพูดเช่นใดก็ตาม” อี แฮ-วอนกล่าวโดยอ้างถึงผู้ที่ไม่เห็นชอบกับการครองราชย์ของเธอ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อี ซก (Lee [หรือ Yi] Seok) น้องชายร่วมบิดาซึ่งมีบทบาทโดดเด่นในการเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นฟูสถานะของราชวงศ์

ทั้งคู่เป็นบุตรของเจ้าชายอี คัง (Lee Kang) โอรสองค์ที่ 5 ของจักรพรรดิโกจง (Gojong) และอนุชาของจักรพรรดิซุนจง (Sunjong) จักรพรรดิองค์สุดท้ายของโชซอน โดยเจ้าชายอี คังมีชายาและสนมจำนวนมาก จึงมีทายาทมากกว่ายี่สิบคน ซึ่งอี แฮ-วอน อ้างว่า เธอคือบุตรคนโตของเจ้าชายองค์นี้ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่

“เราเกิดจากชายาที่ได้รับการรับรองตามธรรมเนียม…เราจะฟื้นฟูจารีตของราชวงศ์ขึ้นมาอีกครั้ง” อี แฮ-วอน กล่าว




อี คู ทายาทสายตรงของมกุฏราชกุมารองค์สุดท้ายของโชซอน AFP PHOTO / KIM JAE-HWAN


การประกาศครองราชย์เป็นจักรพรรดินีของเธอมีขึ้นหลัง อี คู (Lee Ku) บุตรชายของเจ้าชายอี อุน (Lee Un มกุฏราชกุมารองค์สุดท้ายของราชวงศ์โชซอน) ถูกพบเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2005 ในประเทศญี่ปุ่น โดยไม่มีทายาทสืบสายเลือด




อี ซก หนึ่งในสมาชิกราชวงศ์เกาหลีที่ยังมีชีวิตอยู่ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในปี 2004 AFP PHOTO / JUNG YEON-JE


หลังการประกาศของ อี แฮ-วอน, อี ซก ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เขาไม่ได้สนใจว่าพี่สาวของเขาจะเป็นจักรพรรดินีหรือไม่ แต่ว่าสมาคมราชสกุลไม่ได้ให้การรับรองการประกาศในครั้งนี้ [ทางสมาคมฯ ประกาศให้ อี วอน (Lee Won) ลูกชายคนโตของลูกชายคนที่ 9 ของเจ้าชายอี คัง เป็นผู้สืบทอด] ส่วนตัวเขาแม้จะได้รับการเชิญให้ร่วมพิธีแต่ก็ได้ปฏิเสธไป เพราะไม่รู้ถึงเบื้องหลังการจัดการดังกล่าว และเขาคิดว่า ก่อนการประกาศเช่นนั้นควรมีการปรึกษาหารือกับสาธารณะถึงสถานะของจักรวรรดิและราชวงศ์เสียก่อน ซึ่งภายหลัง ลี ซก ก็กลายมาเป็นผู้นำในการรณรงค์ล่ารายชื่อ 1 ล้านรายชื่อในการสนับสนุนข้อเรียกร้องให้ฟื้นฟูราชวงศ์ขึ้นมาใหม่ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อประโยชน์ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ในสมัยกษัตริย์โกจง พระองค์ทรงประกาศยกฐานะของอาณาจักรโชซอนขึ้นเป็นจักรวรรดิ ทำให้พระองค์มีสถานะเป็นจักรพรรดิไปด้วยเพื่อแสดงความเป็นอิสระจากจีน แต่เมื่อสิ้นแผ่นดินพระองค์ได้ไม่นานอาณาจักรโชซอนก็ตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นในปี 1910 ทำให้อาณาจักรที่มีอายุยาวนานกว่า 5 ร้อยปีถึงกาลสิ้นสุด

และแม้เกาหลีจะได้รับอิสรภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทั้ง 2 เกาหลีต่างก็ปกครองในระบอบสาธารณรัฐมาโดยตลอดมิได้ย้อนกลับไปฟื้นฟูอำนาจของระบอบกษัตริย์ในราชวงศ์เดิมขึ้นมาอีกครั้ง (แต่ในเกาหลีเหนือตระกูลคิม ก็ถูกเปรียบเปรยว่ามีฐานะไม่ต่างไปจากราชวงศ์)

อ้างอิง:

1. “Coronation of Korea’s new empress leads to royal family controversy”. Korea Joongang Daily. <http://koreajoongangdaily.joins.com/news/article/article.aspx?aid=2831239>

2. “Prince hopes to bring monarchy back to S.Korea”. Reuters. <http://uk.reuters.com/article/lifestyle-life-korea-prince-dc-idUKSEO16222220061106>


'มติชน' เปิดภาพตึกแถวนายทหารบริษัทลูกบิ๊กติ๊ก ระหว่างก่อสร้าง ชี้ทำมานาน-หลายโครงการแล้ว





เปิดภาพตึกแถวนายทหารบริษัทลูกบิ๊กติ๊ก ระหว่างก่อสร้าง ชี้ทำมานาน-หลายโครงการแล้ว


ที่มา มติชนออนไลน์29 ก.ย. 59

ก่อสร้างตึกแถวนายทหารประทวน 10 ครอบครัว โรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ จ.ตาก ยังดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานจากจังหวัดตาก ถึงการก่อสร้างตึกแถวนายทหารประทวน 10 ครอบครัว ของโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ต.น้ำริม อ.เมืองตาก จ.ตาก เลขที่สัญญา 70/2559 ลงวันที่ 25 เมษายน 2559 2 โครงการ วงเงิน 26,960,000 บาท นั้น หจก.คอนเพม โพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพงศ์ จันทร์โอชา หรือ กบ บุตรชาย พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ยังอยู่ขั้นตอนการก่อสร้างขึ้นโครงสร้างและฐานราก ผลงานประมาณร้อยละ 30 และยังไม่ขึ้นโครงสร้างหลังคา และรายละเอียดอื่นอีกมาก ผู้รับเหมาอื่นในพื้นที่ ระบุว่า “กบ” บุตรชาย พลเอก ปรีชา เข้ารับเหมางานในพื้นที่กองพันทหารราบที่ 1-3 กรมทหารราบที่ 14 โรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ และค่ายทหารอื่นๆ ในพื้นที่ตาก ไม่น้อยกว่า 4-5 ปี มีหลายโครงการที่ร่วมงานกับผู้รับเหมาในพื้นที่

รายงานแจ้งว่า บ้านพักนายทหารชั้นประทวน 10 ครอบครัว หลังโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ตำบลน้ำรึม อำเภอเมือง จังหวัดตาก และก่อสร้างอาคารของกรมทหารราบที่ 14 ตามโครงการจัดตั้งกองพลทหาราบที่ 7 ประจำปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 8,145,100 บาท นั้น สัญญาเกิดขึ้นช่วงปี 2558-2559 และก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาร่วมระบุว่า มีการก่อสร้างอาคารบ้านพักฯ ข้างบริเวณสระน้ำ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 14 คาดว่าโครงการก่อสร้างฯ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จะไม่มีปัญหาอุปสรรค คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

บรรยากาศในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ประชาชนชาวตาก ให้ความสนใจมาก เนื่องจากพื้นที่ค่ายทหารตาก หลังปรับเป็นกองพัน 7 และกรมทหาราบที่ 14 มีการเปลี่ยนแปลงสร้างบ้านพัก สำนักงานใหม่ สิ่งปลูกสร้าง กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ในมณฑลทหารบก ที่ 310 , กองกำลังนเรศวร และกองพันทหารราบที่ 1-3 กรมทหารราบ ที่ 14 มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมาย มีการขนส่งวัสดุก่อสร้าง และรถยนต์ปูนสำเร็จรูปเข้า-ออก มากในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา

ทภ.3เผยตั้งบ.ในค่ายไม่ผิด

แหล่งข่าวนายทหารจากกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยใช้ที่อยู่ในค่ายทหารว่า จากการตรวจสอบทราบว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของบุตรชาย พล.อ.ปรีชานั้น ได้ใช้ที่อยู่บ้านพักในค่ายทหารจริง เป็นบ้านพักของ พล.อ.ปรีชา สมัยดำรงตำแหน่งอยู่ที่กองทัพภาคที่ 3 โดยบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา มีการจัดตั้งบริษัทก่อนที่บ้านใหม่จะใช้เป็นสำนักงานของบริษัทจะสร้างแล้วเสร็จ ขณะนี้ทราบว่าอยู่ระหว่างการย้ายที่อยู่ของบริษัทไปที่บ้านใหม่ แต่มีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน หากถามว่าการกระทำแบบนั้นผิดระเบียบทางราชการหรือไม่ เท่าที่ตรวจสอบทราบว่าในระเบียบทางราชการไม่ได้ระบุหรือห้ามไว้ว่าผิดกฎหมาย เพราะบางครั้งคนปกติทั่วไปก็ยังมีใช้ที่อยู่บ้านพักค่ายทหารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท แต่ถ้าถามถึงเรื่องความเหมาะสม ก็มองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นพื้นที่ทางราชการ และจะถูกตั้งข้อสงสัย ควรไปหาสถานที่หรือเช่าอาคารพาณิชย์ด้านนอกก่อน แต่ทำแบบนั้นเพราะคงคาดไม่ถึงว่าจะถูกหยิบยกมาเป็นประเด็น

@ ได้โครงการทภ.3ไม่แปลก

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมบริษัทของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา ได้โครงการใหญ่ของกองทัพภาคที่ 3 มาดำเนินการ ทั้งที่เป็นบริษัทใหม่และทุนจดทะเบียนมูลค่าไม่สูงมาก แหล่งข่าวกล่าวว่า โครงการก่อสร้างต่างๆ ของกองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ผ่านมามีประมาณ 80 กว่าโครงการ บริษัทของบุตรชาย พล.อ.ปรีชาได้งาน 4 โครงการ คิดเป็น 5% ถือว่าไม่มากกว่าคนอื่น และชนะมาด้วยการประกวดราคาและเคาะราคาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ดังนั้น เรื่องนี้ตนมองว่ามีความพยายามนำไปเป็นประเด็นการเมือง เพื่อให้กระทบกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ยุคนี้เป็นยุคเทคโนโลยีแม้จะเป็นบริษัทจดทะเบียนทุนไม่มาก แต่ก็มีเครือข่ายและทีมงาน อุปกรณ์บางอย่างสามารถเช่าจากภายนอกได้ ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมายังไม่เห็นมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดต่อขอข้อมูลเข้ามาแต่อย่างใด









ooo



ย้อนดู! อาณาจักรโรงแรม ปาร์คนายเลิศ ก่อนประกาศปิดตำนาน! + เปิดห้องพักสุดหรูของโรงแรมปาร์คนายเลิศ คืนละแสน




https://www.youtube.com/watch?v=Gm0qjG7k4uQ

ย้อนดู! อาณาจักรโรงแรม ปาร์คนายเลิศ ก่อนประกาศปิดตำนาน! ฉ.เต็ม รายการ The Guest ตีสนิทคนดัง ช่อง8

ThaiCh8

Published on Sep 22, 2016

รายการ THE GUEST ตีสนิทคนดัง วาไรตี้สนุก บุกขุดคุ้ยถึงถิ่นดาราชื่อดัง

ที่มีชื่อเสียงแบบถึงตัวที่สุด ไม่ว่าบ้าน ร้านค้า บ้านพักตากอากาศ หรือสถานที่ใดๆ ที่ดาราเหล่านั้นมีความผูกพัน หรือเป็นเจ้าของ 1 ชั่วโมงเต็มที่ 3 พิธีกรตัวจี๊ด บ๊วย เชษฐวุฒิ / เอมี่ กลิ่นประทุม และ บอล เชิญยิ้ม พร้อมพาคุณไป

ตีสนิทกับเหล่าคนดัง พร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครเคยรู้มาก่อน

ooo

เปิดห้องพักสุดหรูของโรงแรมปาร์คนายเลิศ คืนละแสน จะหรูขนาดไหน! THE GUEST ตีสนิทคนดัง ช่อง8



https://www.youtube.com/watch?v=7-RgzX_VMcg&spfreload=5

ThaiCh8

Published on Sep 16, 2016

รายการ THE GUEST ตีสนิทคนดัง วาไรตี้สนุก บุกขุดคุ้ยถึงถิ่นดาราชื่อดัง

ที่มีชื่อเสียงแบบถึงตัวที่สุด ไม่ว่าบ้าน ร้านค้า บ้านพักตากอากาศ หรือสถานที่ใดๆ ที่ดาราเหล่านั้นมีความผูกพัน หรือเป็นเจ้าของ 1 ชั่วโมงเต็มที่ 3 พิธีกรตัวจี๊ด บ๊วย เชษฐวุฒิ / เอมี่ กลิ่นประทุม และ บอล เชิญยิ้ม พร้อมพาคุณไป

ooo


3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโรงแรมในไทยมีรายได้สะพัดนับแสนล้านบาท สวนทางกับคำยืนยันของผู้บริหารโรงแรมปาร์คนายเลิศ ที่ให้เหตุผลต้องขายโรงแรมเพราะเศรษฐกิจไม่ดี นักวิเคราะห์ข่าวตั้งข้อสังเกต กรณีนี้อาจเข้าข่ายผู้บริหารปรับตัวที่ไม่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน


'เพื่อไทย' เรียกร้อง 'วิษณุ' นำคดีคลองด่านเข้าสอบศอตช. ก่อนหมดอายุความปี 60 + ดูคลิปเต็มรายการ ข่าวดังข้ามเวลา - คลองด่านโครงการซ่อนโกง





'เพื่อไทย' เรียกร้อง 'วิษณุ' นำคดีคลองด่านเข้าสอบศอตช. ก่อนหมดอายุความปี 60

by Wiroon Pleejun
29 กันยายน 2559
Voice TV

'เพื่อไทย' เรียกร้อง 'วิษณุ' นำเรื่องฯ หาผู้กระทำความผิด กลั่นกรองฯ เพิ่มเงินก่อสร้างฯ คลองด่าน 10,000.-ลบ. เข้า ศอตช. โดยด่วน!เพื่อมาดำเนินคดี เพราะคดีฯกำลังจะหมดอายุความในปี 2560

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุขอให้ฯรองนายกฯ วิษณุ นำเรื่องฯ หาผู้กระทำความผิด กลั่นกรองฯ เพิ่มเงินก่อสร้างฯ คลองด่าน 10,000.-ลบ. เข้า ศอตช. โดยด่วน!เพื่อมาดำเนินคดี เพราะคดีฯกำลังจะหมดอายุความในปี 2560

จากรณีที่วันที่ 28 ก.ย. 2559, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จะไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ในส่วนที่เหลือ 80% ของความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนเจ้าหน้าที่ระดับนโยบายที่นอกเหนือจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องชดใช้ 20% หรือ 35,700.-ลบ.

“ส่วนฝ่ายนโยบายวันนี้ได้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว 1.-คน อาจมีคนอื่นเพิ่มเข้ามา มีการเพ่งเล็งกันอยู่ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ”

ดังนั้นผมจึงขอให้ ท่านรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม นำเรื่องฯ หาตัวผู้กระทำความผิด กลั่นกรองฯเพิ่มวงเงินก่อสร้างฯ คลองด่าน จำนวน 10,089.-ลบ. เข้า ศอตช. โดยเร่งด่วนฯ เพื่อมาดำเนินคดีฯ เพราะคดีฯ กำลังจะหมดอายุความฯ ภายในเดือน มีนาคม 2560

คือ เมื่อปี 2538 กรมควบคุมมลพิษ ได้นำโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และผ่านความเห็นชอบ ในวงเงินงบประมาณ = 13,612.-ลบ. และคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นเห็นชอบไปแล้ว

ต่อมา เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2540 ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง จำนวน = 10,089.-ลบ. จากเดิม = 13,612.-ลบ. เพิ่มไปเป็น 23,701.-ลบ. ทั้งที่ๆคลองด่าน ไม่ได้เป็นพื้นที่ทางเลือกมาแต่ต้น และชาวบ้านที่คลองด่านไม่ได้รับรู้ข้อมูล จึงส่งผลให้มีการร้องเรียนจากชาวบ้านฯ เมื่อมีการ

ดำเนินการก่อสร้างฯในปี 2542 และท้ายที่สุดได้ชุมชนฯ ได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง , เป็นการทุจริตโด่งดังเป็นตำนานของประเทศไทย

จนถึงขณะนี้ “ยังไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดฯที่เป็นคนกลั่นกรองฯ เรื่อง เพิ่มวงเงินก่อสร้างฯ คลองด่านฯอีก ประมาณ 10,000.-ลบ. เข้า ครม.เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2540 มาดำเนินคดีฯ” ผมจึงขอให้ท่านรองนายกฯ วิษณุ ว่า ให้รีบนำเรื่องฯ ดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาฯ ของ ศอตช. อย่างด่วนที่สุด เพราะคดีฯ ดังกล่าว กำลังจะหมดอายุความฯ ภายในเดือนมีนาคม ปี 2560 (ครบ 20.-ปี)

ooo


ข่าวดังข้ามเวลา : คลองด่านโครงการซ่อนโกง [คลิปเต็มรายการ]

https://www.youtube.com/watch?v=66xw0Jv9Qxw

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

Published on Apr 4, 2016

คลิก ► http://www.tnamcot.com/content/news_r...
ชมภาพเหตุการณ์จริงเมื่อ 20 ปีก่อน กับตำนานการคอร์รัปชั่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คนทั้งชาติต้องร่วมกันชดใช้ คดีประวัติศาสตร์การทุจริตก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีนักการเมืองชื่อดังเกี่ยวข้องหลายราย และประเทศสูญเสียเงินไปร่วม 30,000 ล้านบาท กับกลโกงอันแยบยลในครั้งนี้

Major slump due soon, hang on to cash, investors warned


.....

Major slump due soon, hang on to cash, investors warned

PICHAYA CHANGSORN
THE NATION 
September 28, 2016 7:00 pm

A FORMER FINANCE minister and a leading investment banker yesterday warned there was a high chance of a major economic recession, advising investors to hold on to their cash.
Thanong Bidaya, who was finance minister for several months in 1997, told a seminar held by Talis Asset Management that the global economy was entering a crossroads and that a "cycle of economic recession" could return.

"I still believe it won't yet happen next year but [the economy] will slow down. But how much it will slow and what will happen after that …" he said.

"What could pull things down further is the violence in the Middle East, which is very scary and has already spread all over the world."

ฟังยัง... 'ประยุทธ์' ไม่เข้าใจ ทำไมถึงอยากเป็นนายกฯกัน?




https://www.youtube.com/watch?v=PP4OvKBsHPA&feature=youtu.be&a=

'ประยุทธ์' บอกไม่เข้าใจ ทำไมถึงอยากเป็นนายกฯกัน?

by Wiroon Pleejun
29 กันยายน 2559

Voice TV

'ประยุทธ์' ไม่เข้าใจทำไมถึงอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ยันอำนาจมีทุกอย่างแต่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ชี้ว่าใครผิดใครถูก ให้เอาเข้ากระบวนการสอบสวน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน บางกอกโพสต์ ฟอรั่ม 2016 หัวข้อเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ว่าไม่เห็นด้วยกับคำว่าปฏิรูปใดๆก็ตามต้องมีการลงทุน สูญเสีย บอกไม่ต้องการสิ่งนั้น ยันอำนาจมีทุกอย่างแต่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ชี้ว่าใครผิดใครถูก ให้เอาเข้ากระบวนการสอบสวน เพราะฉะนั้นหาวันนี้กฎหมายมีแล้วไม่ทำ วันหน้าเป็นเรื่องที่ประชาชนก็จะตัดสินเอง ส่วนตนเองจะอยู่หรือไม่อยู่นั้นค่อยว่ากันต่อ ถามคุณเป็นผมคุณอยากอยู่หรือไม่ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากเป็นนายกฯ หรือรัฐมนตรี

"ม.ล.ปนัดดา"ปูด!! คนเอี่ยว "การเมือง" จ้างทำข้อมูลบิดเบือน "สถาบันเบื้องสูง"





ปูด!! คนการเมืองจ้างบิดเบือน 'สถาบันเบื้องสูง'


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 29 กันยายน 2559

"ม.ล.ปนัดดา"ปูด!! คนเอี่ยว "การเมือง" จ้างทำข้อมูลบิดเบือน "สถาบันเบื้องสูง" ชี้เงินทองไม่เข้าใครออกใคร เตือนอย่านำสีเสื้อมาประหัดประหารกัน


ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีการจัดอภิปรายในหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคงของชาติ”โดยพล.อ.จรัญ กุลละวณิชย์ นายกสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการและเห็นว่าจำเป็นต้องมี เพราะเมื่อคนไทยเข้ามาในดินแดนนี้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ประชาชนเห็นพ้องและเลือกขึ้น จึงเป็นความต้องการของประชานตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในทุกด้าน แต่ในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการแบ่งงานให้ฝ่ายตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ จึงหวังว่าต่างชาติจะเข้าใจบริบทตรงนี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาสมัยที่ตนยังรับราชการเมื่อเกิดเหตุอะไร พอไปอธิบายต่างชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เขาก็มีความเชื่อมั่นเพราะประเทศเรามีประมุขคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเหตุการณ์อะไรในประเทศท่านก็ห้ามศึกเอง ทั้งที่ไม่ทำก็ได้ แต่ที่ทำเพราะเป็นห่วงประชาชน

ด้านนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ สื่อมวลชนอาวุโส ด้านความมั่นคง กล่าวว่า จากการติดตามการรายงานข่าวของสื่อต่างชาติในช่วงความขัดแย้งทางการเมือง มักมีเจตนาเชื่อมโยงว่ามีสถาบันเป็นคู่ขัดแย้งกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่อธิบายข้อมูลพื้นฐานของสถานการ์ความเป็นมา และนำเสนอไปโดยไม่มีการอ้างอิงบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น และที่น่าตกใจมีการพูดถึงสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง ทำนองว่าอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากต้องการโยงว่าเป็นเรื่องสถาบันฯ การที่สื่อต่างชาตินำเสนอย่อมต้องการให้เชื่ออะไรบางอย่าง เช่นเดียวกับที่พยายามดึง มาตรา112 เข้ามาโดยระบุว่า รัฐบาลใช้กฎหมายนี้เพื่อคุมฝ่ายเห็นต่าง สะท้อนว่าที่ผ่านมามีความพยายามดิสเครดิตให้เสียชื่อเสียง

ขณะที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลละเมิด ลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันฯ ล้วนดำเนินการจากต่างประเทศมีคนที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองจ้างวานให้ทำข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เพราะเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ส่วนที่บางคนพยายามหยิบยก มาตรา 112 มาโจมตีทางการเมืองนั้น อย่าอ้างกันพร่ำเพรื่อ พูดกันบ่อยครั้งไม่น่าจะเหมาะสม ตนไม่อยากให้พูดกันผ่านสื่อมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันเรื่อยเปื่อย หลายอย่างต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผลและมองว่าสีเสื้อมีไว้สำหรับแข่งกีฬา ไม่มีประเทศใด นำสีเสื้อมาแบ่งแยกผู้คนในชาติให้มาประหัดประหารกัน


ooo


29ก.ย.59 19.00น. สถาบันพระมหากษัตริย์กับความมั่นคงของชาติ



https://www.youtube.com/watch?v=Q11-V0HhmuY

Yanee TPBS

Published on Sep 29, 2016
Thai PBS

กิจกรรม 'กางร่ม ห่มป้อม' ป้อมมหากาฬ + รามเกียรติ์ ตอน ทศกัณฐ์รื้อป้อมมหากาฬ โดย คณะนักเรียนเพื่อนชุมชนป้อมมหากาฬ





ทีมร่มเตรียมพร้อม กางร่มห่มป้อม ไม่ยอมแพ้ รอเพื่อนอยู่หน้ากําแพงป้อมมหากาฬ สามเวลา แปดโมงเช้า เที่ยง หกโมงเย็น แวะมาได้เลย อย่าเฉยชา ไม่รู้ว่ากทม.จะมาเตรียมเข้ารื้ออีกไหมวันนี้


Vorapoj Osathapiratana

.....










รามเกียรติ์ ตอน ทศกัณฐ์รื้อป้อมมหากาฬ

โดย คณะนักเรียนเพื่อนชุมชนป้อมมหากาฬ

บทละคร

เมื่อนั้น ทศพักตร์ยักษาทำหน้านิ่ว
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขมวดคิ้ว โกรธกริ้วแล้วว่ามหากาฬ
คราวก่อนมาว่าจะรื้อหมด มันช่างทรหดหนอชาวบ้าน
หากปล่อยเรื่องคาไว้ช้านาน งบประมาณจะเบิกจ่ายได้อย่างไร
เคยรื้อไม่ได้ขายขี้หน้า วันนี้จะมาแก้มือใหม่
ยกทัพเทศกิจมาชิงชัย หญิงชายขับไล่ไปให้พ้น

ฯ ๖ คำ ฯ โบกมือเรียกเทศกิจ
แล้วท้าวทศกัณฐ์แกร่งกล้า เรียกเทศกิจมาทุกแห่งหน
กรายกล้ำกำแพงแกล้งกล จะประจญตีป้อมมหากาฬ

ฯ ๒ คำ ฯ เดินลงมา
เมื่อนั้นสีดานงเยาว์ หนุมานลิงขาวกับชาวบ้าน
เห็นทัพเทศกิจจอมมาร นงคราญนำหน้าขึ้นมาไว

ฯ ๒ คำ ฯ สีดาเดินหน้านำ
ทศเอยทศพักตร์ จะใจโหดใจยักษ์ไปถึงไหน
พวกเราทุกคนล้วนคนไทย เจ้าไม่เห็นใจกระไรดี
ที่แห่งนี้หรือคือประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมชาติเจริญศรี
พระนั่งเกล้าโปรดให้อยู่ที่นี้ เป็นร้อยปีปู่ย่าทั้งตายาย
หมู่บ้านนี้คือที่ที่ฉันเกิด จะตะเพิดขับไล่ให้ไปไหน
เป็นคนมีรากไม่อยากไป ขอตายในที่เกิดกำเนิดมา
ที่นี่มีศิลปหัตถกรรม ประดิษฐ์ทำหัวโขนเลอค่า
กรงนกสลักไม้ประดับประดา ต้นตำหรับข้าวปลาสารพัน
ทั้งบ้านเก่าเหย้าเรือนล้วนเรือนไม้ ฉลุลายโบราณสร้างสรรค์
มรดกตกทอดแต่ปางบรรพ์ จะห้ำหั่นสมบัติชาติเพื่อเหตุใด

ฯ ๑๐ คำ ฯ
หนอยแน่แม่นี่เล่นฝีปาก น่าลากอุ้มไปแท้แม่งามไส้
กูนี้จะสั่งสอนอรทัย แล้วเอื้อมหัตถ์ไปดึงสีดา

ฯ ๒ คำ ฯ
บัดนั้น หนุมานดาลเดือดเลือดขึ้นหน้า
กระทืบเท้าชี้หัตถ์อัธยา แล้วบอกว่าอ้าวเฮ้ย (ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ที่เธอบอกว่าจะไม่รื้อแล้วไม่มีวันกลับมา อ้าวเฮ้ย อย่ากลืนน้ำลายตัวเองดีกว่า อย่าเสียเวลามายุ่งชุมชนที่เธอไม่มีวันได้รื้อ)

แล้วบอกว่าอ้าวเฮ้ยมหาจำเริญ
ถึงจะยักษ์ใหญ่พ้นล้นฟ้า ทำวางท่า - ระวังคนจะสรรเสริญ
อย่าเหลิงใจใช้อำนาจเพลิดเพลิน จนมากเกินเบ็ดเสร็จเผด็จการ

ของที่ควรอนุรักษ์ไม่รักษา ภูมิปัญญาเลิศนักกลับหักหาญ
แต่เรือนไม้ไล่รื้อจนแหลกราญ ไอ้หน้าด้านเหตุใดมาใส่ร้าย
หาว่าชุมชนเรารุกที่ ก็คงผีปู่ย่ามาทำได้
อยู่กันตั้งแต่ชวดทวดยาย กรมที่ดินเพิ่งตั้งได้แต่เมื่อใด
ทศกัณฐ์ขยันรื้อบ้านคนจน ด้วยวิธีฉ้อฉลงามไส้
ปู่ย่าสร้างบ้านแทบตาย มีเงินรื้อได้เพียงพริบตา
อนุรักษ์อนุรักษ์กันแต่ลิ้น บ้านเรือนรื้อสิ้นกันถ้วนหน้า
หน่วยงานอะไรไร้สัจจา โอ๊ยยยย อี่ฮ่า บ่ะอยากคบ

ฯ ๑๒ คำ ฯ
เมื่อนั้น ทศกัณฐ์โกรธามันน่าตบ
แล้วสั่งเทศกิจหนึ่งคำรบ ไล่รื้อให้มันจบจบเสียที

ฯ ๒ คำ ฯ
สั่งให้เทศกิจใช้กำลังฉุดลากพลลิง

.....

แถลงการณ์คณะนักเรียนเพื่อนชุมชนป้อมมหากาฬ

29.09.2559








.....




ละครนักเรียนจิตอาสา (ข้างถนน) ที่กระติ๊บร่วมแสดงเรื่อง "ทศกัณฐ์ทุบป้อมมหากาฬ" รับบทเป็นนางสีดาครับ

การแสดงมีทั้งบนป้อม และมาแสดงซ้ำอีกรอบที่ชุมชนป้อมมหากาฬครับ
ความพยายามเล็กๆ ในการมีส่วนร่วมรู้ร้อนรู้หนาวกับสังคมไทย
ปล. ขอขอบคุณภาพจากป้าอ้อยและอาเอ๋ครับ











ภาพจาก Decharut Sukkumnoed


ที่มา FB

ooo

เรื่องเกี่ยวข้อง...


รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ วันที่ 28 กันยายน 2559 ครบข่าวเที่ยง#NBT2HD



https://www.youtube.com/watch?v=IWNylE9j5eM&feature=youtu.be

Newsnbt Thailand

Published on Sep 27, 2016

.....









นักสิทธิฯ ไทย-เทศ ชี้ยุคทหารเข้าบริหารประเทศ ทำให้เกิดการซ้อมทรทานรูปแบบใหม่ + How Thailand's military junta has cracked down on dissent




https://www.youtube.com/watch?v=AsBZHZ3buSY&feature=youtu.be&a

News เปิดปมซ้อมทรมาน

NOW26

Published on Sep 28, 2016

พิกัดข่าวเช้า : นักสิทธิฯ ไทย-เทศ ชี้ยุคทหารเข้าบริหารประเทศ ทำให้เกิดการซ้อมทรทานรูปแบบใหม่ "NOW26" 29-9-59
.....

เรื่องเกี่ยวข้อง...



ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงความเป็นห่วงกรณีแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต้องงดแถลงข่าวสถานการณ์ซ้อมทรมานในประเทศไทย เพราะเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ขู่จะเข้าจับกุมผู้บรรยายเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตทำงานตามกฏหมาย

นายโลร็องต์ เมย็อง ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในวิทยากรที่จะขึ้นพูดบนเวทีเปิดรายงานของแอมเนสตี้ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนการคุมคามนักสิทธิมนุษยชนของไทย

พร้อมตั้งคำถามว่าหลังจากนี้องค์กรระหว่างประเทศจะสามารถจัดงานในประเทศได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามรายงานซ้อมทรมานฉบับนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในรายงานของคณะกรรมการด้านการต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติ

ด้านพันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยืนยันไม่ได้สั่งห้ามการจัดงาน เพราะแอม เนสตี้ ยังสามารถเผยแพร่ข่าวผ่านวิธีการอื่นๆ ได้ และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขออนุญาตทำงานในไทยไปแล้ว แต่เมื่อถึงวันจัดงานจริงยังพบว่าไม่มีการปฎิบัติตาม

(http://news.voicetv.co.th/thailand/416823.html)



ooo


How Thailand's military junta has cracked down on dissent





A news conference by Amnesty International, set to unveil details on torture by the military and police, was cancelled after Thai authorities threatened to arrest two of the speakers.



By David Iaconangelo, Staff 
SEPTEMBER 28, 2016
The Christian Science Monitor


Police and soldiers in Thailand have committed at least 74 cases of torture and other ill treatment since the military seized power in a 2014 coup, according to an Amnesty International report released on Wednesday.

Martial law and post-coup decrees, wrote the human-rights group, have created "legal incentives" for Thai authorities to target suspected insurgents and political opponents, in addition to migrants, ethnic minorities, suspected drug users, and other members of vulnerable sectors of society.

The report details several torture methods used by authorities, including beatings, waterboarding, suffocation by plastic bags, and electric shocks of the genitals. It represents perhaps the most comprehensive account of military and police abuses to emerge since the ruling junta muscled out a populist government weakened by months of street protests.

Police and soldiers in Thailand have committed at least 74 cases of torture and other ill treatment since the military seized power in a 2014 coup, according to an Amnesty International report released on Wednesday.

Martial law and post-coup decrees, wrote the human-rights group, have created "legal incentives" for Thai authorities to target suspected insurgents and political opponents, in addition to migrants, ethnic minorities, suspected drug users, and other members of vulnerable sectors of society.

The report details several torture methods used by authorities, including beatings, waterboarding, suffocation by plastic bags, and electric shocks of the genitals. It represents perhaps the most comprehensive account of military and police abuses to emerge since the ruling junta muscled out a populist government weakened by months of street protests

"Empowered by laws of their own making, Thailand's military rulers have allowed a culture of torture to flourish, where there is no accountability for the perpetrators and no justice for the victims," said Rafendi Djamin, Amnesty International's Director for South East Asia and the Pacific, in a statement accompanying the report's release.

"An officer gets punished if he doesn't get results," a former junior commander told Amnesty International. "In the army, people use force to control, not thought. An order is final.... If you don't get results, you will be punished."

But the report also seems to have raised hackles with the junta, which rejects accusations of human rights abuses. A news conference on the report announced by Amnesty on Wednesday in Bangkok was abruptly cancelled after authorities threatened to arrest two speakers from the group whom they said did not have work permits.

At a separate forum, Prime Minister Prayuth Chan-ocha defended the military’s conduct toward "so-called political prisoners."

"I hope you understand, I've been very forgiving," he said, according to the Associated Press. "Only a few people suffer because they want to violate things all the time. And they blame the government for human rights violations. If I violate that much would I be able to stand here? But they try to get themselves prosecuted so they can tell it to the world."

After the 2014 coup, The Christian Science Monitor’s Simon Montlake and Flora Bagenal took note of its strong ideological flavor when compared to the long history of coups in Thailand:

Since 1932, the end of absolute monarchy in Thailand, formerly Siam, the country has seen 12 successful military coups, most recently in 2006. Each time, a group of officers seize power, tear up the Constitution, and start over. Most coups are bloodless and telegraphed in advance, allowing ousted leaders to flee into exile or sue for peace....

Plus ça change. But for all its familiarity, this coup represents a much sharper turn for Thailand than previous putsches that replaced one military clique with another, barely rippling the surface of daily life. “The explanations for many coups in Thailand have centered on factionalism within the military. This coup has a real ideological component,” says Michael Montesano, a visiting fellow at the Institute for Southeast Asian Studies in Singapore.

By seizing power now, the military has stepped into a bitter, winner-takes-all political conflict that for nearly a decade has polarized society along class and regional lines. While the generals present themselves as neutral arbiters, the coup represents a smackdown of an elected government and a victory for protesters whose campaign had fizzled.

Among the cases of torture detailed in the Amnesty report is that of a man arrested by the Army and held in an undisclosed location for seven days, where he was tortured repeatedly.

"Please shoot me," he begged his captors on the seventh day, according to the report, "and send my corpse to my family."

After the cancelation of the news conference on Wednesday, Amnesty legal adviser Yuval Ginbar told reporters, "We know that the current government does not accept criticism very well," according to the AP.

"But what is happening in the unofficial places of detention – people being beaten up, people being suffocated, people being water boarded – and what happens in police roadblocks where suspected drug users are forced to urinate in public or are coerced into paying bribes to get released, this is more important than what we're facing here," Mr. Ginbar said.

This report contains material from the Associated Press and Reuters.


ปปช.สูญเสียความเชื่อมั่น ยึดทรัพย์"ยิ่งลักษณ์"จึงไม่ง่าย




https://www.youtube.com/watch?v=26l33v4qYfY

ปปช.สูญเสียความเชื่อมั่น.ยึดทรัพย์"ยิ่งลักษณ์"จึงไม่ง่าย

jom voice

Published on Sep 28, 2016

นายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ออกคำสั่งเอาผิดทางปกครองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อนำไปสู่การเรียกสินไหมทดแทนจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาทว่า ไม่เห็นด้วยกับการใช้ ม.44 ในเรื่องนี้เพราะขาดการถ่วงดุลเพื่อความเป็นธรรม และโดยหลักการปกครอง ฝ่ายบริหารมีหน้าที่กำหนดนโยบาย กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าหาก ปปช.หรือ สตง.เตือนแล้วยังไม่หยุด ก็จะต้องเอาผิดทางปกครอง หรือทางละเมิด ยกเว้นมีการทุจริต หากเป็นเช่นนี้เท่ากับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ ปปช.เพียง 9 คน จะไปสั่งรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาได้อย่างไร และการพิจารณาเพื่อชดเชยค่าเสียหาย 20 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายการรับผิดทางละเมิด ซึ่งฝ่ายคุณยิ่งลักษณ์สามารถฟ้องโต้แย้ง หรือแม้แต่ฟ้องแย้งกฎกระทรวงก็ทำได้ ขณะเดียวกันความเสียหายอีก 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 850 คดีกลับไม่มีรายละเอียดว่าจะให้ชดเชยอย่างไร ดังนั้นสุดท้ายแล้วเชื่อว่า ไม่สามารถยึดทรัพย์หรือเรียกค่าสินไหมทดแทนจากคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ อีกทั้งขณะนี้ ปปช.เองก็ถูกประเมินจากองค์กรระหว่างประเทศว่าขาดความน่าเชือ่ถืออย่างมากด้วย หากฝ่ายของคุณยิ่งลักษณ์ ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เหมือนกรณีของ นายโภคิน พลกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง กทม.โอกาสที่จะชนะคดีมีสูง


Reality check + Reality felt คำพูดประยุทธ์





Reality checked: “ยืนยันว่าตนจะอยู่จนถึงมีรัฐบาลใหม่ มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อถึงวันนั้นตนจะไปทันที

แต่อย่าลืมว่าแม้ตนจะไปแล้วก็ยังมีคำสั่งตามมาตรา ๔๔ ร้อยกว่าฉบับที่ยังคงอยู่ อีกทั้งยังมีแนวทางปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้รัฐบาลต่อไปทำตามโรดแมปและหากไม่ทำตามแล้วจะทำอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เพราะมีกฎหมายลูกที่บัญญัติไว้ รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีด้วย”

ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ตอบนักข่าวที่โรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์เมื่อวานนี้ (๒๘ ก.ย.)

(http://www.matichon.co.th/news/302003)

Reality double-checked: “ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง กรธ.แก้ร่างรัฐธรรมนูญให้เลือกนายกฯ คนนอกไม่จำกัดครั้ง ให้ ส.ว.ร่วมตัดสินใจเพื่อเปิดทางนายกฯ คนนอก”

เป็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งประกาศหมาดๆ เมื่อวานเช่นกัน กรณีกรรมการร่าง รธน. ได้แก้ไขร่างฯ ให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงตามที่ประชามติรับรองหรือไม่

“จากเดิมร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นหน้าที่ของส.ส.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งสภามีอำนาจริเริ่มเสนอให้มีนายกฯ ที่่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขไม่สอดคล้องกับผลประชามติ โดยให้การเริ่มตัดสินใจว่าจะมีนายกฯ คนนอก หรือไม่ เป็นหน้าที่ของส.ว.รวมกับส.ส.ไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกทั้งหมด

จากเดิมร่างรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๗๒ กำหนดให้การเลือกนายกฯ คนนอกสามารถเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในวาระเริ่มแรกหลังการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกเท่านั้น แต่ศาลรัฐธรรมนูญให้เปลี่ยนเป็น จะเลือกนายกฯ คนนอกกี่คนก็ได้ ภายในระยะเวลา ๕ ปีแรก”

“ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการออกเสียงประชามติ ดังที่ประชาชนได้ให้ความเห็นชอบไว้

เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีเข้ามาทำหน้าที่บริหารราชการในช่วงเวลาเดียวกัน และเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านต่างๆ สำเร็จ และบรรลุผลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและเจตนารมณ์ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ”

(https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551.646424.299528675550/10157456578195551/?type=3&theater)

นั่นทำให้สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์ ที่ ‘คมชัดลึก’ ฟันธงว่า “ฉะนั้นที่เคยคิดกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกฯ อีกสมัยหลังการเลือกตั้ง ตอนนี้ต้องคิดใหม่

เพราะ ‘บิ๊กตู่’ สามารถเป็น ‘นายกฯ คนนอก’ ได้อีก ๒ สมัยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ”

(http://www.komchadluek.net/news/scoop/244131)

ทั้งหมดนี้คือความเป็นจริงล้วนๆ จากผลพวงของการที่ประชามติเมื่อ ๗ สิงหาคมให้ความเห็นชอบอย่างขาดลอยต่อร่าง รธน. ฉบับที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นผู้ควบคุมการร่าง แถมด้วยการให้ความเห็นชอบต่อคำถามพ่วงที่ คสช. ยัดไส้ไว้ด้วย

โดยที่ ‘iLaw’ ประเมินว่า “จะทำให้โรดแมปเดิมของ คสช.จะเลื่อนออกไป ร่างรัฐธรรมนูญจะประกาศใช้เป็นทางการอย่างช้าน่าจะช่วงเดือนพฤศจิกายน และการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็จะเริ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปก็น่าจะเกิดอย่างช้าก็เดือนมีนาคม ๒๕๖๑”

อันนี้สำหรับผู้ที่โหวตเยส all the way ให้กาอะไรเอาทั้งนั้น หวังว่าจะได้เลือกตั้งเสียที แม้ว่า กกต. จะพยายามทำตัวให้มีคุณค่า เปรยไว้ว่าการเลือกตั้งน่าจะมีได้ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐

เมินเสียเถอะ ‘ลุงตูบ’ ของแม่ยก ดีดปาก กกต.เสียจนเลือดกบไปแล้ว “เป็นเรื่องของ กกต.คิดไป ผมมีโร้ดแม็พของผม ส่วนวันเลือกตั้งไม่รู้

ไม่ใช่หน้าที่ กกต. พูดมาก คนละเรื่อง หน้าที่เขาจัดเมื่อไหร่ก็จัดไป ไม่ใช่หน้าที่มากำหนดรัฐบาลทำนี่ ทำโน่น มันไม่ใช่หน้าที่ ทำงานในหน้าที่เสียหน่อย ดีแต่พูดกันทั้งนั้นแหล่ะ”

(http://www.matichon.co.th/news/300721)





Reality felt: ขณะเดียวกันปฏิบัติการกำจัดขวากหนามที่อาจหาญออกมาทัดทานอำนาจเผด็จการ ในหมู่ผู้รณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนก็ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น

เมื่อวานเจ้าหน้าที่ของแอมเนสตี้อินเตอร์แน้ทชั่นแนล ถูกพนักงานกระทรวงแรงงานข่มขู่จะดำเนินคดี ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศ จากการที่พวกเขาเดินทางจากอังกฤษไปร่วมแถลงข่าวและบรรยายเรื่องการทรมานผู้ต้องขังในประเทศไทย

วันก่อนทนายความสิทธิมนุษยชนไทย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นฟ้องข้อหาบ่อนทำลาย (ม.๑๑๖) เพิ่มอีกเป็นคดีที่สาม อันเนื่องมาจากการที่เธอให้ความช่วยเหลือปกป้องสิทธิตามกฎหมายแก่กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ และแจ้งความเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการที่ตำรวจยึดรถของเธอไว้ข้ามคืน






น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ถูกกล่าวหาโดย พ.ท.พงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ ว่าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ ข้อ ๑๒ ว่า “ร่วมกันยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ และร่วมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ ๕ คน ขึ้นไป” พร้อมกับนายรังสิมันต์ โรม ที่เธอให้ความช่วยเหลือ

(http://www.prachatai.com/journal/2016/09/68112)

นี่คือความเป็นจริงที่ไม่เพียงสัมผัสได้ แต่มันถาโถมกระแทกใส่กับผู้ที่รณรงค์เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไม่หยุดยั้ง

คำพูดอย่างถากถางของประยุทธ์ที่ว่า ยังมีคำสั่งของตนอีกเป็นร้อยๆ ฉบับ สำหรับใครๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการครองเมืองของทหาร เป็นความจริงเฉพาะหน้าที่จะต้องปะทะกันอีกเป็นเวลาเนิ่นนาน

มันจริงยิ่งกว่าความหวังในชัยชนะเลือกตั้งอย่างกระท่อนกระแท่นในต้นปี ๒๕๖๑ หรือเมื่อไหร่ไม่รู้แน่ เป็นไหนๆ