วันเสาร์, มิถุนายน 21, 2568

ขณะที่เราให้ความสนใจเรื่องอุ๊งอิ๊ง เกิดอะไรขึ้นที่กาซา


Current situation in Gaza is 'somehow the most perilous time for families'

Sky News

Jun 19, 2025

A UNICEF spokesperson has highlighted humanitarian issues developing in Gaza, focusing on a newly discovered water crisis. 

James Elder, who appeared in Sky News' special programme Gaza: Doctors on the frontline has spoken to The World's Yalda Hakim about the current state of care in the region. 

He said: "'This is, somehow, the most perilous time for families in Gaza'."

https://www.youtube.com/watch?v=3S92eIKVdKs
.....


Kasian Tejapira
51m ago
·
กำลังเกิดอะไรที่กาซา?
%%%%%
ปิดกั้นอาหารไว้ให้อดอยาก
ครั้นเขาหิวโหยมากก็แจกจ่าย
พอยื้อแย่งชุลมุนกันวุ่นวาย
ก็กราดยิงเขาตายทุกวี่วัน
มองเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา
นึกจะฆ่าก็ฆ่าสยองขวัญ
นึกจะยิงก็ยิงอย่างเมามัน
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันเลือดเย็น
ไม่มีศาสนาไหนให้คุณทำ
จิตใจช่างตกต่ำไม่เคยเห็น
ความเป็นคนใดใดไม่เหลือเป็น
โลกแล้งทุกข์ขุกเข็ญพระเจ้าครวญ
https://news.un.org/en/story/2025/06/1164551


https://www.facebook.com/kasian.tejapira/posts/10237499135440674
https://www.youtube.com/watch?v=3S92eIKVdKs



#24มิถุนาวันประชาชน มาร่วมกันจุดประกายความฝันและปลดปล่อยพลังไปด้วยกัน กับ 10 พื้นที่ #SocialMovementSpace จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ


ศิลปะปลดแอก - FreeArts
Yesterday
·
#24มิถุนาวันประชาชน

วันแห่งการเฉลิมฉลอง ที่จะพาคุณปักหมุดวันของ "ประชาชน" มาร่วมกันจุดประกายความฝันและปลดปล่อยพลังไปด้วยกัน กับ 10 พื้นที่ #SocialMovementSpace จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ

จุดความหวังขึ้นฟ้า
ร่วมส่งต่อพลังสร้างสรรค์
และฝันถึงความเปลี่ยนแปลง

#ภาคตะวันออก

1. ชลบุรี : ติสตะวันออก x MossTea
การรวมตัวของกลุ่มศิลปินและนักเคลื่อนไหวทางสังคมในภาคตะวันออก เพื่อผลักดันพื้นที่สร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น โดยการร่วมมือกับผู้ประกอบการในพื้นที่ไปจนถึงปฏิบัติการทางสังคมเพื่อสื่อสารประเด็นและปัญหาความขาดแคลนศิลปะในตะวันออก
สถานที่ : MossTea Bangsaen, บางแสน

2. ระยอง : Converstation
พื้นที่เซฟโซน เซฟใจ ให้ทุกคนที่อยากเรียนรู้และค้นหาตัวตนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ภายใต้คอนเซปต์ Co-learning Space เป็นการเรียนรู้ที่ทุกคนเลือกประสบการณ์ที่พวกเขาชอบได้
สถานที่ : CONVERSTATION, ยมจินดา, เมืองระยอง

#ภาคใต้

3. สงขลา : a.e.y.space
พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะย่านเมืองเก่าสงขลา ที่สนใจการทำงานร่วมกับชุมชน ในครั้งนี้ร่วมมือกับ ร้านหนังสือ dot.b / Simogce.tudio / Hatyai Book Club / Documentary Club จัดกิจกรรม June 24 - People's Day in Songkhla เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประเด็นความหลากหลายในสังคม
สถานที่ : a.e.y. space, ย่านเมืองเก่า, สงขลา

4. ภูเก็ต : The Remedy Phuket x หนัง(สือ)
Space ที่เชื่อว่าศิลปะสามารถยึดโยงผู้คนเข้าด้วยกันได้ ร่วมกับร้านหนัง(สือ) พื้นที่กึ่งสาธารณะที่ชักชวนผู้คนมาแชร์คุณค่าร่วมกัน ในบรรยากาศที่รองรับผู้คนที่มีความชื่นชอบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะชอบในหนังสือ ภาพยนตร์ งานศิลปะ การทำกิจกรรม การดื่มด่ำกับวงสนทนา หรือการท่องเที่ยว ก็ต่างมาแชร์ความคิดความรู้สึก สร้างความกลมกล่อมให้กับเมืองภูเก็ตไปพร้อมกัน
สถานที่ : The Remedy ภูเก็ต

#ภาคเหนือ

5. เชียงใหม่ : Hangpui and friends
ทีม Art Space จากเชียงราย ที่มีเป้าหมายในการขยายขอบเขตของงานศิลปะร่วมสมัย ร่วมกับกลุ่มศิลปินและนักสร้างสรรค์ในเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะ Human ร้าย, Human wrong / Rhizomia art network / artn't / The Afterlife Poshtel & Art Space. / Museum of Broken Relationships Thailand / Cozomia Performing Arts Archive / MAIIAM Contemporary Art Museum จัดกิจกรรมศิลปะพร้อมกัน 4 สถานที่ทั่วทั้งเมืองเชียงใหม่!
สถานที่ : 1. Museum of Broken Relationships, 2. Media Art and Design - CMU, 3. ร้านเล่า, 4. ศูนย์ศิลปะบ้านตึก

6. เชียงราย : ฮอมจ๊อยซ์ : Home Joint Art Space
กลุ่มศิลปินท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย ที่มีความสนใจและมีทักษะการทำงานศิลปะที่หลากหลาย โดดเด่นในการนำเรื่องราวในจังหวัดเชียงรายมาสร้างสรรค์ผลงาน วิพากษ์ถึงประเด็นปัญหาทางการเมือง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และประเด็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน ร้อยเรียงและขยายผลออกมาเป็นงานศิลปะที่เล่าถึงชีวิตของผู้คน
สถานที่ : โตกตอง ร้านอาหารเหนือ ขันโตก เชียงราย Toke-Tong

#ภาคอีสาน

7. ขอนแก่น : Somjing Book (ห้องหนังสือสมจริง)
หนึ่งในสมาชิกของชุมชนเล็ก ๆ ที่ชื่นชอบการทำงานศิลปะ งานดนตรี รวมถึง Workshop & Creative Space ในชื่อชุมชน ‘Columbo Craft Village’ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นพื้นที่ห้องหนังสืออันอบอุ่น รวบรวมความสนใจที่หลากหลาย ชักชวนเพื่อนๆ มาตั้งวงพูดคุยแลกเปลี่ยน ทำกิจกรรมศิลปะ ไปจนถึงการพูดคุยถึงประเด็นในสังคมกันอย่างสม่ำเสมอ
สถานที่ : Somjing Book, Columbo Craft Village, ข้าง ม. ขอนแก่น

8. โคราช : โฮป
บริษัท ฝันไม่เคย จำกัด หรือ "โฮป" เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะบ่มเพาะความสัมพันธ์และมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความโดดเดี่ยว ความแปลกแยก และความเหงา โดยเฉพาะในหมู่เยาวชนโคราช โดยจัดตั้งพื้นที่ที่มีภารกิจสนับสนุนการสร้างเสริมศักยภาพของเยาวชน ผ่านการขายสินค้า บริการ และนำกำไรทั้งหมดไปสนับสนุนสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น
สถานที่ : โฮป, เมืองโคราช

#ภาคกลาง

9. ลพบุรี : Fair boy ร่วมกับ ลพรามา
ร้านกาแฟที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกความคิด แลกเปลี่ยนในเรื่องที่บางครั้งก็หาพื้นที่พูดคุยกันได้ยาก เพื่อค้นหามุมมองใหม่ๆ ในการแสดงออกทางความคิด ร่วมกับ “ลพรามา” กลุ่มกิจกรรมและผู้จัดเทศกาลฉายหนังในจังหวัดลพบุรี จับมือกันมาชวนพูดคุย จินตนาการความฝัน ในประเทศที่เป็นของประชาชน
สถานที่ : Fair Boy, ถนนรามเดโช, เมืองลพบุรี

10. กรุงเทพ : KINJAI CONTEMPORARY
KINJAI CONTEMPORARY พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับงานศิลปะร่วมสมัย จัดนิทรรศการ เวิร์กช็อป และกิจกรรมอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มได้ตีความและมีปฏิสัมพันธ์กับงานศิลปะไปด้วยกัน
สถานที่ : KINJAI CONTEMPORARY, MRT สิรินธร

#24มิถุนาวันประชาชน #SocialMovementSpaceTH
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1187869423138275&set=a.108707001054528



ย้อนอ่าน รายงาน @HRW ตั้งแต่ยุครบ.ทหาร จนเข้าสู่รบ.พลเรือนของ #พรรคเพื่อไทย มีการทำ “สัญญา” แลกเปลี่ยนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ระหว่างรบ.ไทย กับรบ.ในภูมิภาค รวมทั้งลาว กัมพูชา และเวียดนาม


Pipob Udomittipong
14 hours ago
·
แปลกใจที่โซเชียลเพิ่งเริ่มให้ความสนใจกับการขุดเคสที่รัฐบาลไทยส่งคนกัมพูชากลับไปให้ฮุนเซนเชือด การดำเนินงานเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่ยุครบ.ทหาร จนเข้าสู่รบ.พลเรือนของ #พรรคเพื่อไทย มีการทำ “สัญญา” แลกเปลี่ยนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ระหว่างรบ.ไทย กับรบ.ในภูมิภาค รวมทั้งลาว กัมพูชา และเวียดนาม

ตามความตกลง “ตลาดแลกเปลี่ยน” หรือ ‘Swap Mart’ รบ.ไทยจะส่งคนที่ปท.เพื่อนบ้านกลับไปให้เชือด หรือไม่ก็อนุญาตให้ตร.จากปท.เหล่านั้น มาจับคนของเขาระหว่างลี้ภัยในไทยไปเลย อำนวยความสะดวกให้เต็มที่ และจะขอให้รบ.ปท.อื่นส่งคนไทยที่ลี้ภัยกลับมาด้วย ซึ่งตอนนี้ก็คงแทบจะไม่เหลือแล้ว เพราะเดินทางไปปท.อื่นกันหมด

กรณีการสังหารนายลิม กิมยา อดีต ส.ส. ฝ่ายค้าน ขณะนั่งรถทัวร์มาเที่ยวไทย ซึ่ง Aljazeera เอาคลิปเสียงของฮุนเซนมาปล่อยนี่ ชัดเจนสุด รบ.พรรคเพื่อไทยไม่เคยใส่ใจกับสิทธิมนุษยชน มีความเลวร้ายพอ ๆ กับรบ.ทั้งสามประเทศ ก็ไม่รู้ว่าจะรักษาเอาไว้ทำไม

@HRW ทำรายงานเป็นภาษาไทยไว้ด้วย เข้าไปอ่านกันครับ
https://www.hrw.org/.../repression-and-forced-return-of...

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10162653341361649&set=a.10150096728651649



ย้อนดูความร่วมมือของรบ.ไทยในการส่งตัวแอคติวิสต์กัมพูชากลับไปให้ฮุนเซนเชิอด มีมาตั้งแต่สมัยรบ.ทหารจนถึงรบ.พรรคเพื่อไทย


Pipob Udomittipong
13 hours ago
·
ความร่วมมือของรบ.ไทยในการส่งตัวแอคติวิสต์กัมพูชากลับไปให้ฮุนเซนเชิด มีมาตั้งแต่สมัยรบ.ทหารจนถึงรบ.พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนักเคลื่อนไหวกัมพูชาอย่างน้อย 9 คนถูกรบ.เศรษฐา+ออ.ส่งตัวกลับไปให้กัมพูชาเชือด ส่วนกรณีการยิงสังหารนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา บริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ตร.ไทยสรุปว่าเป็น “เรื่องส่วนตัว” โคตรตลกเลย
ก่อนที่พรรคเพื่อไทยและพรรคพวกจะด่าฮุนเซน ด่าตัวเองก่อนนะ

Matichon Weekly - มติชนสุดสัปดาห์
15 hours ago
·
- 8 กุมภาพันธ์ 2561 ทางการไทยส่งตัว Sam Sokha หญิงชาวกัมพูชาที่ปารองเท้าใส่รูปของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา (ขณะนั้น) ถูกทางการกัมพูชาแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและยุยงปลุกปั่น ก่อนหลบหนีมาไทย ทั้งที่ Sam Sokha ได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างมากนั้นขณะนั้น
.
-12 ธันวาคม 2561 ทางการไทยส่งตัว นายรวต รุท มุนี (Rath Rott Mony) อายุ 47 ปี นักกิจกรรมแรงงานชาวกัมพูชา ผู้ผลิตสารคดีค้าประเวณี ให้กับรัฐบาลกัมพูชา หลังเข้ามาไทยเพื่อเตรียมลี้ภัยไปประเทศที่ 3 ตามหมายจับของรัฐบาลกัมพูชา ในความผิดฐานยุยงส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกในกัมพูชา แม้นายมุนีจะได้ลงทะเบียนกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เป็น “บุคคลในความห่วงใย” ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในกระบวนการตัดสินของ UNHCR ว่าควรจะได้รับสถานะผู้ลี้ภัย (refugee) หรือไม่ ก็ตาม
.
-8 พฤศจิกายน 2564 เวือน เวียสนา เวือง สมนาง และ ฐาวรี ลันห์ นักกิจกรรมทางการเมืองและเป็นสมาชิกพรรค Cambodia National Rescue Party (CNRP) พรรคฝ่ายค้านที่กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนกัมพูชา ลี้ภัยมาที่ประเทศไทยหลังจากถูกรัฐบาลกัมพูชาออกหมายจับในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในสังคม ต่อมาถูกทางการไทยจับกุมและส่งกลับกัมพูชา แม้จะเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองจากยูเอ็นเอชซีอาร์
.
-23 พฤศจิกายน 2564 เรดิโอฟรีเอเชีย รายงานว่า เม็ก เฮียง สมาชิกพรรคกู้ชาติกัมพูชาที่ปิดไปแล้ว ถูกจับกุมในประเทศไทย พร้อมกับคนงานกัมพูชาอีกสองคน ถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักกันในกรุงเทพฯ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ออกแถลงการณ์แสดงการคัดค้านการส่งตัวดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลไทย ชี้แจงว่าเป็นการดำเนินการตามหลักการด้านการต่างประเทศและคำนึงถึงผลประโยชน์ของไทยเป็นสำคัญ
.
-11 กรกฏาคม 2566 โธล ซัมนัง (Thol Samnang) นักกิจกรรมและสมาชิกพรรคแสงเทียน (Candlelight Party) ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านในกัมพูชา ถูกจับกุมช่วงเช้ามืดที่กรุงเทพฯ ขณะเดินทางจากที่พักไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
.
-25 สิงหาคม 2566 พร พันนา นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยในไทย ถูกชายแปลกหน้า 3 คนที่พูดภาษาเขมรทุบตีที่ จ.ระยอง บาดเจ็บที่หน้าและหน้าอก สำหรับนายพร สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยกับเขาแล้ว
.
อ่านต่อทั้งหมด - https://www.matichon.co.th/weekly/special/article_847926



ย้อนดูประวัติศาสตร์ตระกูลชินฯ! 'ยุบสภาฯ' แล้วนำไปสู่การรัฐประหาร

https://www.youtube.com/watch?v=Vh5MnLVODzw

9MCOT

Jun 20, 2025
#ฟังหูไว้หู#ฟังหูไว้หู |
19 มิ.ย. 68
On Air . ย้อนประวัติศาสตร์! 'ยุบสภาฯ' แล้วเกิดการ 'รัฐประหาร' 
.

Thanapol Eawsakul
21 hours ago
·
ประวัติศาสตร์ตัดตอน ที่ว่าด้วยการ การยุบสภาแล้วนำไปสู่การรัฐประหาร
.....
สำหรับคนที่แม้จะบอกว่าการกระทำของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง
แต่ไม่ควรรับผิดชอบโดยการยุบสภา หรือลาออก
ด้วยเหตุผลว่า จะนำไปสู่การรัฐประหาร
โดยยกตัวอย่าง
การยุบสภาของ ทักษิณ. ชินวัตร 24 กุมภาพันธ์ 2549 แล้วนำไปสู่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
การยุบสภาของยิ่งลักษณ์. ชินวัตร 9 ธันวาคม 2556 แล้วนำไปสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
ข้อเท็จจริงที่ ประวัติศาสตร์ตัดตอนแบบนี้ ละเลยจะพูดถึงก็คือ ตัวละครที่สำคัญ คือพรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดยอภิสิทธิ์. เวชชาชีวะ ที่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับ 1 แต่มาบอยคอตการเลือกตั้ง เพื่อสร้างเงื่อนไขการรัฐประหาร
ภายหลังการขายหุ้นเทมาเซค ของตระกูลชินวัตร อันนำมาสู่วิกฤตความชอบธรรม ทักษิณ ชินวัตรจึงเลือก การยุบสภา24 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งในเวลานั้นทุกคนก็เชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคไทยรักไทยจะชนะเลือกตั้งอย่างไม่มีปัญหา
แล้วพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรค ฝ่ายค้าน อันดับ 1 ร่วมกับ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน รวมทั้ว "ภาคประชาชน" บอยคอตการเลือกตั้ง ซึ่งต่อมากระบวนการตุลาการภิวัฒน์ ได้ทำให้การเลือกตั้ง 2 เมษายน เป็นโมฆะ และสร้าง "วิกฤตเทียม" โดยร่วมมือกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล สร้างนิยาย ที่ว่าด้วยการปะทะกัน จนสร้างความชอบธรรมให้เกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
เช่นกัน
ภายหลังการ ยุบสภาของยิ่งลักษณ์. ชินวัตร ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 อันเป็นผลมาจากการผลักดันพรบ นิรโทษกรรมฉบับ เหมาเข่งสุดซอย และประกาศให้มีการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่กระบวนการล้มการเลือกตั้งนำโดย พรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยอภิสิทธิ์. เวชชาชีวะ (อีกแล้ว) บอยคอตการเลือกตั้ง จับมือกับ กปปส. ที่นำโดยสุเทพ. เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็นการปิดหน่วยเลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้ง และสร้างเหตุให้เกิด กระบวนการตุลาการภิวัฒน์อีกรอบ
และทั้งหมดทั้งปวง นำไปสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
กลับมาดูสถานการณ์ปัจจุบัน มิถุนายน 2568 กลับตรงกันข้ามกับสถานการณ์ปี 2549 หรือปี 2556
เสียงเรียกร้องให้มีการยุบสภา มาจากพรรคการเมืองอันดับ 1 คือพรรคประชาชน ที่ประกาศความพร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้ง. จึงเรียกร้องให้ รัฐบาลยุบสภา
ขณะเดียวกัน พรรครัฐบาล ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ต่างหากที่ไม่พร้อมที่จะลงเลือกตั้ง และพยายามตั้งรัฐบาล ด้วยวิธีการ ต่างๆมากมาย
ซึ่งรัฐบาลที่จะตั้งได้ก็จะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ
พรรคเพื่อไทยจะเป็น เบี้ยล่างและลูกไล่ให้ พรรคร่วมรัฐบาล อื่นๆ รวมทั้งกองทัพ
แต่ทั้งนั้นพวกเขาก็ยินยอมเพราะวัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุด
คือรักษาอำนาจทางการเมืองไว้กับตระกูลชินวัตรไว้ให้นานที่สุด
หรือพูดให้ชัดเจนกว่านั้นคือรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร
ดังนั้นพวกเขาจึงสร้าง ประวัติศาสตร์ตัดตอน ขึ้นมาเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง และพวกพ้อง ให้อยู่ได้นานที่สุด


https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/24110749861898526
https://www.youtube.com/watch?v=Vh5MnLVODzw




เกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักร "คิง เพาเวอร์" หลังแจ้ง ทอท. ขอยกเลิกสัมปทานดิวตี้ฟรีทั้งหมด 5 สนามบิน

20 มิถุนายน 2025
บีบีซีไทย

เกิดคำถามขึ้นในสังคมทันทีหลังจาก บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ผู้รับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีรายใหญ่ของไทย ขอยื่นหนังสือ ต่อ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ในวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรี ในสนามบิน 5 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่

ธุรกิจดิวตี้ฟรี ถือได้ว่าคือ "เส้นเลือดใหญ่" ของธุรกิจครอบครัวศรีวัฒนประภามาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี

ก่อนหน้านี้คิง เพาเวอร์ เคยผ่านการเจรจากับ ทอท. หลายครั้งเพื่อขอแก้ไขสัญญาและพักหนี้

แม้ผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างจ่ายต่อ ทอท. ไม่ปรากฏตัวเลขทางการที่แน่ชัด แต่จากการเปิดเผยของนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เมื่อเดือน ก.พ. 2568 กับฐานเศรษฐกิจ ระบุว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ค้างชำระจ่ายค่าตอบแทนให้กับ ทอท. จำนวน 4,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในการยื่นหนังสือครั้งล่าสุด บริษัทระบุว่า "ต้องการหารือเพื่อพิจารณายกเลิกสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี ทั้ง 3 สัญญา ในท่าอากาศยาน 5 แห่ง"

ประเด็นดังกล่าวทำให้สังคมตั้งคำถามถึงสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจในอาณาจักรคิง เพาเวอร์ ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่นใหม่ของตระกูล หลังได้รับสัญญาประกอบกิจการดิวตี้ฟรีเป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่ 28 ก.ย. 2563 และจะหมดสัญญาสัมปทานในวันที่ 31 มี.ค. 2576

เกิดอะไรขึ้นบ้างกับอาณาจักรดิวตี้ฟรีแห่งนี้ บีบีซีไทย สำรวจสภาพคล่องทางการเงินของอาณาจักรคิง เพาเวอร์ จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?

ส่องผลประกอบการ "คิง เพาเวอร์" หลังสิ้นสุดยุค 'เจ้าสัววิชัย'

การจากไปอย่างกะทันหันของเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่อังกฤษเมื่อปี 2561 ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า การบริหารอาณาจักรธุรกิจสินค้าปลอดภาษีรายใหญ่ของไทยจะเป็นไปในทิศทางใด

หากพิจารณาตามขีดความสามารถในการทำรายได้ในธุรกิจดิวตี้ฟรีทั่วโลกแล้ว ย้อนกลับไปในช่วงปี 2561 คิง เพาเวอร์ ถือว่าเป็นผู้เล่นในตลาดที่ถูกจับตาอย่างมาก และยังถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 7 ในการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดิวตี้ฟรีที่ทำรายได้มากที่สุดในโลก โดย เดอะ มูดี้ เดวิตต์ (The Moodie Davitt) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลทางธุรกิจของสหราชอาณาจักร

อาณาจักรธุรกิจมูลค่าแสนล้านของตระกูลศรีวัฒนประภาถูกส่งมอบไปให้ทายาทรุ่นใหม่ โดยมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจดิวตี้ฟรี ซึ่งเขาเคยเปิดเผยกับ เว็บไซต์นิตยสารแพรวด้วยว่า เขามีเป้าหมายดันคิง เพาเวอร์ "เป็นท็อปดิวตี้ฟรีในเอเชีย"


นายวิชัย ศรีวัฒนประภา (ซ้าย) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และลูกชาย นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้รับช่วงต่อสืบทอดกิจการในอาณาจักรคิง เพาเวอร์

ทว่าเมื่อพิจารณาข้อมูลงบการเงินของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ก็พบว่ามีความผันผวนอยู่พอสมควรจากการขาดทุนเป็นช่วง ๆ
  • ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมของบริษัทคือ 38,544 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 756 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า 60.47%
  • ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 8,119 ล้านบาท ลดลง 78.94% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิกว่า 1,833 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราลดลงกว่าปีก่อนหน้าถึง 342.23% อันเป็นผลมาจากวิกฤตโควิด-19
  • ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,608 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนถึง 80.19% และยังประสบกับการขาดทุนสุทธิ 2,814 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการขาดทุนสุทธิปีก่อนหน้ายังติดลบ 51.59%
  • ปี 2565 บริษัทเริ่มมีผลประกอบการดีขึ้นโดยมีรายได้รวมสูงถึง 17,748 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 1,003% ส่งผลให้มีกําไรสุทธิอยู่ที่ 3,751 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 189.89% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะเป็นช่วงเดียวกันกับเหตุการณ์ปะทุขึ้นของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
  • ปี 2566 บริษัทกลับมาอยู่ในจุดที่ขาดทุนอีกครั้ง แม้มีรายได้รวมสูงถึง 33,592 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 89.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่กลับขาดทุน 651 ล้านบาท หรือติดลบ 117.36%
จากผลประกอบการข้างต้น โดยเฉพาะในปีล่าสุด ส่งผลให้ คิง เพาเวอร์ ถูกลดอันดับลงมาอยู่อันดับที่ 10 ในการจัดอันดับ 20 ธุรกิจดิวตี้ฟรีที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกในปี 2566 โดยเดอะ มูดี้ เดวิตต์

สำหรับ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2539 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,900 ล้านบาท โดยมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้ก่อตั้ง

ในระหว่างปี 2540-2555 บริษัทได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษีและอากรทั้งในศูนย์การค้าและท่าอากาศยานหลายแห่ง ทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง รวมถึงท่าอากาศยานภูมิภาคในต่างจังหวัด เช่นที่สนามบินหาดใหญ่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ อีกทั้งยังได้ก่อตั้งคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ดาสน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นร้านค้าปลอดภาษีและอากรในกรุงเทพฯ แห่งแรก และคิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ สาขาพัทยา


ในปัจจุบัน นอกจากธุรกิจดิวตี้ฟรีแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังมีอีกขาหนึ่งของธุรกิจคือ การบริหารพื้นที่ค้าปลีกและกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ภายใต้การบริหารของบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด โดยมีสัญญา 10 ปี 6 เดือน (28 ก.ย. 2563 -31 มี.ค. 2574)

คิง เพาเวอร์ เผชิญวิกฤตใดมาบ้าง ?

ท่ามกลางความท้าท้ายของคิง เพาเวอร์ ภายใต้การบริหารของผู้บริหารรุ่นลูก บริษัทก็เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ นั้นคือ การแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในช่วงปลายปี 2562 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นลูกค้าหลักของคิง เพาเวอร์

ผลจากการล็อกดาวน์อันเนื่องมาจากการควบคุมโรคระบาดในปี 2563 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีอยู่ที่ 6.7 ล้านคน ลดลง 83.21% จากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 39.9 ล้านคน

อีกทั้ง นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของคิง เพาเวอร์ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านคนในปี 2563 จาก 10.9 ล้านคนในปี 2562

นอกจากนี้ ยอดผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานจากทั้ง 6 ท่าอากาศยาน คือ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, หาดใหญ่, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และเชียงรายในปี 2563 เหลือเพียง 72.6 ล้านคน ลดลง 48.40 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 141 ล้านคน

นั่นจึงเป็นที่มาที่ ทอท. ปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ดิวตี้ฟรี มาเป็นผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing Per Head) เป็นรายหัว จำนวน 233.40 บาท/หัว สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ 127.30 บาท/หัว ในท่าอากาศยานภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้โดยสารขาเข้าและขาเข้า แทนการจ่ายที่อัตราส่วน 20% ของรายได้ หรือการจ่ายขั้นต่ำ เมื่อ 29 ก.ค. 2563

ยกตัวอย่างการคำนวณที่ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่คิง เพาเวอร์ ต้องจ่าย จากที่ต้องชำระผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 15,419 ล้านบาท สำหรับสัมปทานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่หากคำนวณด้วยวิธีการใหม่ ในปี 2563 มีผู้ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ที่ 30.7 ล้านคน คูณด้วย 233.40 บริษัทก็ต้องชำระราว 7,100 ล้านบาท แทนการจ่ายขั้นต่ำปีแรก 15,419 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแนวทางการเยียวจากเหตุสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ก็ยังมีรายได้รวมลดลงและขาดทุน


นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของคิง เพาเวอร์ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านคนในปี 2563 จาก 10.9 ล้านคนในปี 2562

นอกจากวิกฤตโควิด-19 ดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคิง เพาเวอร์แล้ว ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากภาครัฐ รวมทั้งสภาวะความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลกก็ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ คิง เพาเวอร์ ใช้ขอยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรี ในสนามบิน 5 แห่ง

เหตุผลที่คิง เพาเวอร์ อ้างประกอบด้วย
  • การหยุดดำเนินการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าจากนโยบายภาครัฐ เมื่อเดือน ก.ค. ปี 2567
  • การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของ ทอท. เมื่อ พ.ย. 2567
  • การลดภาษีสินค้าประเภทไวน์ เมื่อ มี.ค. 2568
  • การขาดมาตรการเชิงรุกของภาครัฐในการบริหารจัดการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่งผลต่อการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน
  • สถานการณ์สงครามและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
เปิดรายละเอียดสัญญา คิง เพาเวอร์ - ทอท.



ในช่วงต้นปี 2562 คิง เพาเวอร์ ชนะการประมูลจัดหาผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ทั้ง 3 สัญญา ซึ่งมีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน (28 ก.ย. 2563 – 31 มี.ค. 2574) ได้แก่
  • การให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีเงื่อนไข ผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 15,419 ล้านบาท
  • การให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูมิภาค (ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่) ด้วยเงื่อนไขผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีแรกที่ 2,331 ล้านบาท
  • การให้สิทธิประกอบกิจการการบริหารการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเงื่อนไขผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 5,798 ล้านบาท
ต่อมาในช่วงปลายปี 2562 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ก็ได้รับสัมปทานคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน (1 ต.ค. 2565 – 31 มี.ค. 2576) ด้วยการเป็นผู้เข้าร่วมประมูลเพียงรายเดียว และมีเงื่อนไขผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำในปีแรกที่ 1,500 ล้านบาท

เงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนของสัมปทานดิวตี้ฟรี ณ ท่าอาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูมิภาค แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ผลตอบแทนขั้นต่ำ และส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) 20% ตลอดสัญญา 10 ปี

โดยกำหนดว่า ให้เอกชนจ่ายผลตอบแทนเป็นสัดส่วนจากเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง แล้วแต่ตัวเลขใดจะมากกว่ากันในปีนั้น ๆ

อีกเรื่องสำคัญที่ควรทำความเข้าใจคือ การเทียบสัดส่วนรายได้ที่ ทอท. ได้รับจากกิจการดิวตี้ฟรี โดยรายงานของ ทอท. 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567- มี.ค. 2568) ระบุว่า รายรับจากกิจการดิวตี้ฟรี ถือเป็นส่วนหนึ่งของ 35.84% ของรายได้ทั้งหมด ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 41.07% ของรายได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวยังมีรายได้จากกิจการอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย คือ รายได้จากการจำหน่ายของที่ระลึก อาหารและเครื่องดื่ม บริการอาหารของสายการบิน บริการเติมน้ำมัน ที่จอดรถ โฆษณา และพื้นที่สำหรับธนาคาร เป็นต้น

นอกจากนี้ ทอท. ยังเคยเปิดเผยด้วยว่า ในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,053.27 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.64% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 5,784.59 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์จำนวน 1,200.35 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจร้านค้าปลอดอากรเป็นหลัก

ไล่เรียงไทม์ไลน์ความพยายามเจรจาระหว่าง ทอท. และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี



หากย้อนไปก่อนที่จะเกิดการยื่นจดหมายขอเจรจาต่อรองยกเลิกสัมปทานทั้ง 5 สนามบินของ คิง เพาเวอร์ ในครั้งนี้ บริษัทก็เคยมีความพยายามในการติดต่อกับทาง ทอท. เพื่อแก้ไขสถานการณ์การเงินของบริษัท

นี่คือ ความเคลื่อนไหวที่สำคัญระหว่าง ทอท. และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ในช่วงที่ผ่านมา ดังนี้
  • พ.ย. 2563 มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของสัญญา โดยยืดระยะเวลาสัญญาเพื่ออนุญาตให้คิง เพาเวอร์ ประกอบกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรี ณ ท่าอากาศยานภูมิภาค (ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่) ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. ปี 2576 จากเดิมที่ต้องสิ้นสุดปี 2574
  • ส.ค. 2567 คิง เพาเวอร์ ยื่นหนังสือถึง ทอท. ขอเลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และดอนเมือง ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2567 ถึง ก.ค. 2568 รวม 12 งวด ออกไปงวดละ 18 เดือน พร้อมเงื่อนไขว่า คิง เพาเวอร์ ต้องจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี
  • 13 มิ.ย. 2568 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ยื่นขอเจรจายกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ในสนามบิน 5 แห่ง
  • 16 มิ.ย. 2568 ทอท. ประชุมคณะกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. พร้อมตั้งคณะกรรมการศึกษา โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปใน 60 วัน
  • 17 มิ.ย. 2568 คิง เพาเวอร์ ยื่นข้อเสนอต่อ ทอท. โดยขอลดผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ และขอยกเว้นชำระค่าเช่าพื้นที่ดิวตี้ฟรี ในช่วงที่มีการเจรจาสัญญา
ทั้งนี้ น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ทอท. ระบุว่า สัญญาเชิงพาณิชย์ยืดหยุ่น และปรับแก้เงื่อนไขได้ตามสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาทุกทางเลือกจะต้องอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ของ ทอท. ผู้ถือหุ้น และผลประโยชน์ของประเทศชาติ

https://www.bbc.com/thai/articles/crk6d8l5py5o


ม็อบใหญ่แค่ไหน ถ้าไม่มีเส้นใหญ่แบ็คอัพ ก็ต้องจอด


Thanapol Eawsakul
10 hours ago
·
ความสำเร็จของการชุมนุม วัดกันที่ไหน กรณี กลุ่มเสื้อเหลือง vs กลุ่มเสื้อแดง
.......
เวลาเราเห็น พวกกลุ่มเสื้อเหลือง ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตร กปปส หรือ กลุ่มกู้ชาติในพ.ศนี้ เราอาจจะดูตลกขบขัน ม็อบหมื่นปีบ้าง ม็อบกินเยี่ยวบ้าง
แต่ในเชิงประสิทธิภาพ พวกเขาเหล่านี้ ทำสำเร็จ มานักต่อนักแล้วโดยเฉพาะกระบวนการนิติสงคราม เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แม้จะดูตลกขบขัน หรือบางครั้งก็ดู สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่ เป็นเงื่อนไขที่ ปฏิเสธไม่ได้ ที่จะนำไปสู่ การตัดสินที่เป็นจริงในทางการเมือง ของกระบวนการนิติสงคราม
ลองไล่มาดูนะครับ
การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร 2549 นำมาสู่ การทำให้การเลือกตั้ง 2 เมษายนโมฆะได้ และนำมาสู่การสร้างเงื่อนไขให้มีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ในปี 2551 สร้างเหตุการณ์ จลาจล นำมาสู่การยึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญ กดดันให้มีการ ยุบพรรคพลังประชาชน ในวันที่ 2 ธันวาคม 2551 และนำมาสู่การสลายตัว ในเวลาต่อมา
การชุมนุมของกปปส. ปี 2556
หยุดยั้งพรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย
สร้างเงื่อนไขให้มีการถอดถอนนายกยิ่งลักษณ์ชินวัตร
สร้างสถานการณ์ล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557
การชุมนุม ของกลุ่มกู้ชาติ ในปี 2568 ก็เช่นกัน แม้จะดูตลกขบขัน สำหรับใครหลายคน แต่ผมคิดว่านี่ เป็นเงื่อนไขหนึ่งในการ ถอดถอน นายกรัฐมนตรีคดีจริยธรรมได้ เพราะจะไปประสานสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวสว.สีน้ำเงินด้วย
กลับกัน การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงต่างหาก ที่แทบไม่เคยได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป แถมมีคนเสียชีวิตและคดีติดตามมาอีกเยอะ


https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/24114112498228929



ฟังเหตุผลผู้เข้าร่วมชุมนุมขับไล่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร หลังเหตุการณ์คลิปเสียงหลุดระหว่างนายกฯ ไทยและสมเด็จฮุน เซน


https://www.facebook.com/watch/?v=24036128069357498


บีบีซีไทย - BBC Thai
9 hours ago
·
บีบีซีไทยลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมการชุมนุมของ คปท. ณ สะพานชมัยมรุเชฐ และถามพวกเขาว่าจุดประสงค์ของการร่วมชุมนุมครั้งนี้คืออะไร
.
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ https://bbc.in/45xw7zx


https://www.bbc.com/thai/articles/ce8zy4313nyo
https://www.facebook.com/watch/?v=24036128069357498



ขณะที่หลายคนกำลังสนุกกับการ"ล้อ" ห้องนอนทักษิณ ที่ฮุนเซนจัดให้ เราอย่าลืม ต้าถูกอุ้มหายในประเทศนั้น


Prakaidao Phurksakasemsuk
12 hours ago

poSentdsro30il6110023i705hc6icg073h9t21iu9c532c1a539m72908m3 ·


พี่ผมลืมไว้บนเตียงที่กัมพูชา ฝากพี่อุ๊งอิ๊งไปเอากลับมา
.
“เพราะความจริงต้องอยู่กับเราทุกที่” มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดรับพรีออร์เดอร์หนังสือ “ราคาของความจริง: บันทึกการตามหาน้องชายและเส้นทางรณรงค์ยุติการบังคับสูญหายของสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ราคา 200 บาท (ค่าส่ง EMS ในประเทศ 50 บาท) โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งจองได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

กรอกข้อมูลการสั่งจองที่ Google Form https://docs.google.com/.../1CRqvHrvY5uC7sWHGU0pPvSN.../edit

เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว โอนเงินจำนวน 250 บาท มาที่

บัญชีมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
ธนาคารกรุงไทย
เลขที่บัญชี 091-0-13990-3

ส่งสลิปการโอนเงินใน inbox Facebook Page: Cross Cultural Foundation (CrCF)
.
ทางมูลนิธิจะจัดส่งหนังสือภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568
.
นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมเผยแพร่ความจริง ด้วยการถ่ายภาพหนังสือ “ราคาของความจริง” โพสต์ลงในช่องทางโซเชียลมีเดีย พร้อมติดแฮชแท็ก #ให้ความจริงอยู่กับเราทุกที่ เพื่อยืนยันว่า ไม่ว่าเรื่องราวของวันเฉลิมจะถูกปกปิด ลดทอนคุณค่า แต่ความจริงย่อมคงอยู่
 
https://www.facebook.com/photo?fbid=3301695189970269&set=a.120024574804029



“อังเคิลฮุนเซน” มาอีก! เปิดภาพตอนพา “นายกฯ แพทองธาร” ทัวร์ชมห้องพ่อทักษิณ-อายิ่งลักษณ์ 2 อดีตนายกฯ ของไทย ลั่นให้ที่พักพิงตอนลี้ภัยทางการเมือง






https://x.com/PPTVHD36/status/1935967844724097355
https://x.com/MorningNewsTV3/status/1935967832036049338




รายงานของอัลจาซีร่าที่เจาะประเด็นการลอบสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทย รายงานนี้ออกมาสามสัปดาห์แล้ว จุดสำคัญพูดถึงลิม คิมยา ฝ่ายค้านกัมพูชาที่ถูกฆ่าในเมืองไทยเมื่อต้นปี โดนยิงสามนัดเวลากลางวันแสกๆในกรุงเทพฯนี่เอง คนที่ตร.บอกเป็นคนยิงนั้นเป็นคนไทย


Cambodia: Was the killing of ex-MP Lim Kimya a political assassination? | 101 East Documentary

Al Jazeera English

May 24, 2025 

Critics say the Cambodian government's attacks on opposition members and activists have gone global.

On January 7, 2025, former Cambodian opposition politician, Lim Kimya, was gunned down outside a busy bus station in central Bangkok. 

A former Thai marine confessed to carrying out the hit as a gun for hire, but two Cambodians with ties to their country's governing party are on the run, suspected of organising the murder. 

While Lim Kimya's family and friends are seeking justice, Cambodia's prime minister, Hun Manet, denies his government had any involvement. 

101 East investigates the brazen killing and Cambodia's increasingly repressive government.
.....

Noi Thamsathien
18 hours ago
·
ท่องเอกซ์ดันไปเจอคนแปะลิงค์รายงานของอัลจาซีร่าที่เจาะประเด็นการลอบสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลงเข้าไปดูว่าจะแว่บเดียวแต่ดันดูจนจบ ที่จริงก็ไม่ยาว แนะนำเพื่อนๆไปดูด้วยค่ะ นี่จะเป็นดอกต่อไปที่รัฐบาลนี้จะเจอแน่ๆ เราจะสรุปไว้ให้สั้นๆเอาเท่าที่จำได้นะ

รายงานนี้ออกมาสามสัปดาห์แล้ว จุดสำคัญมันพูดถึงลิม คิมยา ฝ่ายค้านกัมพูชาที่ถูกฆ่าในเมืองไทยเมื่อต้นปี โดนยิงสามนัดเวลากลางวันแสกๆในกรุงเทพฯนี่เอง ลงจากรถแล้วโดนดักยิง คนที่ตร.บอกเป็นคนยิงนั้นเป็นคนไทย ส่วนคนชี้เป้ารายงานบอกว่าหนีเข้ากัมพูชาไปแล้วเรียบร้อยหายเข้ากลีบเมฆไปเช่นเดียวกันกับคนที่คนลั่นไกชาวไทยบอกว่าเป็นคนจ้างวาน มีชื่อเสียงเรียงนามเรียบร้อยชื่อฮวด

รายงานสัมภาษณ์ตร.ไทยบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ครอบครัวยืนยันคนตายไม่รู้จักคนจ้างวาน คือลิม คิมยาเป็นคนเขมรที่ไปอยู่ฝรั่งเศส มีครอบครัวที่นั่น แต่วันหนึ่งกลับประเทศไปเป็นฝ่ายค้านที่วิพากษ์วิจารณ์ฮุนเซ็นและภรรยาอย่างดุเดือด แล้วชีวิตเขาก็เจอแรงกระแทกกระทั้นคาบลูกคาบดอกเรื่อยมา

รายงานนี้บอกอีกว่า หลังกรณีการลอบสังหารนี้แล้ว ไทยยังส่งตัวฝ่ายค้านเขมรกลับประเทศอีกหกคน หกคนนั้นตอนนี้ก็เข้าคุกไปเรียบร้อย ไม่ใช่แค่ไทย มาเลเซียก็ทำ ส่งฝ่ายค้านเขมรกลับประเทศไปหนึ่งคน ในรายงานมีคลิปสัมภาษณ์นายกอันวาร์ของมาเลเซียด้วย
แล้วยังมีสัมภาษณ์ฝ่ายค้านเขมรอีกคนที่หนีมาอยู่เมืองไทย ข้อมูลของคนหลังนี้บอกว่ารู้สึกว่าชีวิตง่อนแง่นมาก รอดพ้นการลอบสังหารได้หวุดหวิดและท้ายสุดมีกลุ่มสิทธิช่วยให้ขอสถานะผู้ลี้ภัยไปอเมริกาได้

พูดง่ายๆ รายงานมันพูดถึงการเป็นฝ่ายค้านกัมพูชาว่าโดนปราบหนักขนาดไหน คือเอาถึงตาย และชี้เป้าเป็นพิเศษว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยไม่ปลอดภัยสำหรับคนที่หนีเข้ามาอยู่ ในเนื้อหารายงานกล่าวอ้างหลายครั้งเรื่องการสั่งการของฮุนเซ็นโดยมีการเอาคลิปเสียงมาเปิด ซึ่งอัลจาซีร่าบอกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์เสียงของตัวเองยืนยันว่าเสียงฮุนเซ็นจริงๆ คลิปเสียงสั่งการให้เอาตัวคนนั้นคนนี้ให้ได้ไม่ว่าตายหรือเป็น รายงานบอกชัดหลายตอนว่ามีการร่วมมือของคนของฮุนเซ็นกับคนในวงการสีกากีไทย คนที่ถูกกล่าวหาว่าจ้างวานนั้น อัลจาซีร่าก็เอารูปมาลง เป็นรูปที่ถ่ายกับอดีตนายกและฮุนเซ็น

ขณะนี้ในเมืองไทยคดีเงียบ ในกัมพูชาก็เงียบ แต่อัลจาซีร่าบอกว่า ครอบครัวลิม คิมยาในฝรั่งเศสเดินเรื่องและทางการฝรั่งเศสรับเรื่องแล้ว

สรุปของสรุปคือรายงานนี้เนื้อหาค่อนข้างสาหัสทีเดียว มีข้อกล่าวหารุนแรงกระจายตัวทั่วไป หนึ่ง เรื่องคนในวงการตร.ร่วมมือกับคนของฮุนเซ็นไล่ล่าศัตรูให้ฮุนเซ็น สอง ความใกล้ชิดของขั้วอำนาจที่ทำให้มีการสั่งการข้ามเขตแดนได้ ไหนจะเรื่องการส่งตัวฝ่ายค้านกัมพูชากลับอีก แล้วที่สำคัญ มันจะยังไม่จบเพราะทางการฝรั่งเศสตามเรื่องแล้ว ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายมานอนรอแล้ว




https://www.facebook.com/photo/?fbid=3015787158587785&set=a.314073345425860
https://www.youtube.com/watch?v=FR39vs42N9I




สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด "ฮุน เซน" สั่งมือขวา "เคลียง ฮวด" ไล่ล่าชาวเขมรเห็นต่างในประเทศไทย พร้อมย้ำ! เอาตัวมันกลับมาเขมรให้ได้ไม่ว่าจะ "เป็นหรือตาย"



https://x.com/thaich8news/status/1935881809314849123
https://x.com/thaich8news/status/1935976906689847622



วันศุกร์, มิถุนายน 20, 2568

เหมือนว่าจะ ‘เกมเปลี่ยน’ เมื่ออุ๊งอิ๊งไม่ยอมลาออกและยังไม่คิดยุบสภา แต่ว่ารัฐบาลแพทองธาร ๒ ใช่จะไปรื่น มีคดีใหม่ปักไว้อีก ๔ คำร้องเรียน

เหมือนว่าจะ เกมเปลี่ยนเมื่ออุ๊งอิ๊งไม่ยอมลาออกและยังไม่คิดยุบสภา พยายามยืดเวลาไปอีกอย่างน้อย ๑ ปีจนถึงมิถุนา ๖๙ ตอนนี้นัยว่ากำลังฟอร์มรัฐบาลแพทองธาร ๒ โดยไม่มีพรรคภูมิใจไทย ก็ออกจะเสียงปริ่มน้ำเล็กน้อย

ความเสียหายจากคลิป ฮุน เซน ปล่อย ผ่อนคลายเป็นก้ำกึ่งระหว่างความอ่อนหัดทางการเมืองของนายกฯ หญิง กับความเจ้าเล่ห์ของเสือเฒ่าแดนขแมร์ แม้นว่าจะมีข้อมูลใหม่จากการที่หลานอิ๊งโทรศัพท์อ้อนลุงฮุน เซน ส่วนที่ ล่ามฮวดละไว้ไม่แปล

ตอนที่ลุงฮุนตอบหลังจากอุ๊งอิ๊งขอให้ต่างฝ่ายต่างเปิดด่านพร้อมกันว่า “ผมเข้าใจ เห็นใจ แต่ไม่สามารถเอาผลประโยชน์ประเทศชาติมาแลกเปลี่ยนกับการนับถือกัน เพราะคือหน้าตาของกัมพูชา” ตามด้วยคำขาดให้ไทยเปิดด่านทันที “พรุ่งนี้”

ตกลงพรรคร่วมที่ยังอ้อยอิ่งดูเชิง ไม่ได้ผละหนีทันทีเหมือนภูมิใจไทย ค่อนข้างแน่นอนว่าจะกลับเข้าร่วมกับอุ๊งอิ๊งต่อไป ก็มีพรรคชาติไทยพัฒนา กับรวมไทยสร้างชาติ เพียงแต่ขอคุยกับแพทองธารก่อนสักหน่อยเท่านั้น พรรคอื่นๆ เช่นกล้าธรรม ประชาชาติ

และประชาธิปัตย์ นั้นแน่นอน ไม่รู้จะไปไหน ทั้ง เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้า และ เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคต่างมีข้ออ้างว่าไม่เคยมีปัญหา และตระกูลชินวัตรกับฮุน ต่างไล่บี้กันแล้ว ดังนั้นต้องอยู่ช่วยกันปกป้องประเทศไทย

ด้านรวมไทยสร้างชาติที่เพิ่งแยกเป็น ๒ กลุ่ม ๑๘ ทั้งฝ่ายหัวหน้าพรรค พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และสุชาติ ชมกลิ่น เห็นตรงกันว่าไม่เอายุบสภา เพราะถ้ามีการเลือกตั้ง พรรคประชาชนจะได้กลับเข้ามามากกว่าเดิม ดังนั้นเมื่ออิ๊งยังอยู่ พวกตนก็ไม่ไปไหน

ดังนั้นรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ๒ จึงดูน่าจะ “Hang in there.” กันไปอีกพักหนึ่ง ถ้าไม่ถึงสองปีก็คงได้แน่ๆ อีก ๑ ปี แม้ว่าจะมีเสียงในสภารวมกันแล้วยังปริ่มๆ น้ำ กับมีคดีปักหลังทั้งต่อองค์กรอิสระและที่ศาลอาญาคดีการเมือง ทั้งสิ้น ๔ คดี เหตุจากคลิปฮุน เซน ทั้งนั้น

ไหนจะ ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นร้องไว้กับ ปปช.ข้อหาความมั่นคงฯ และผิดจริธรรม ส่วน เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นไว้กับ กกต. ว่าผิด ม.๑๖๐(๔) และ ๑๗๐(๔) เป็นเหตุให้ความเป็นนายกฯ สิ้นสุด ด้านกลุ่ม อดีต สว.สมชาย แสวงการ นั้นแจ้งความอาญาคดีความมั่นคง

แล้วยังมีกรรมาธิการทหารวุฒิสภา ยื่นถอดถอนนายกฯ แพทองธารไว้กับศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต.อีกคดี รวมแล้วถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นในไม่ช้า ระยะเวลาหนึ่งปีข้างหน้าของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ก็คงจะไม่รื่นเริงเท่าไรนักหรอก

(https://prachatai.com/journal/2025/06/113358, https://x.com/SpacebarMediaTH/status/1935910866748424710 และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/XENnQgY)