วันพุธ, มกราคม 15, 2568

“มานี”: ความเปราะบางของชีวิตในเรือนจำ กับ ‘ความหวัง’ ที่ยังคงมีอยู่ "ถ้าขอพรสักข้อ จะขอให้ผู้ต้องขังทุกคนได้รับการประกันตัว เพราะสิทธิการประกันตัวเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกคนควรได้รับ ทั้งขอให้ทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัว มีโอกาสไปต่อสู้คดีข้างนอก"


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
11 hours ago
·
“มานี”: ความเปราะบางของชีวิตในเรือนจำ กับ ‘ความหวัง’ ที่ยังคงมีอยู่
.
.
ต้นปี 2568 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “มานี” เงินตา คำแสน ชาวยโสธร ที่ถูกตคุมขังในคดีตามมาตรา 112 และดูหมิ่นศาล จากกิจกรรม "ยืนบอกเจ้าว่าเราโดนรังแก" และการร้องเพลง "โชคดีที่มีคนไทย" หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน และไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ การพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากห่างหายไปสองสัปดาห์เนื่องด้วยอาการป่วย
.
2 วันที่ทัณฑสถานหญิงกลาง บทสนทนานอกจากทบทวนถึงเรื่องราวในปีที่ผ่านมา และความคาดหวังสิ่งที่อยากเห็นในปี 2568 มานียังเล่าถึงชีวิตปัจจุบันในเรือนจำที่ต้องเผชิญทั้งความเจ็บป่วยและกฎระเบียบที่เข้มงวด แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยอย่างการจำกัดการใช้เครื่องสำอาง ก็กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้ต้องขังหญิงหลายคน
.
วันที่ 3 ม.ค. 2568
ทนายความได้พบมานีในช่วงเกือบเที่ยง หลังจากที่ต้องรอนานเนื่องจากเรือนจำมีกิจกรรมกีฬาสีปีใหม่และกิจกรรมเดินแบบผู้ต้องขัง อีกทั้งยังติดรอบเยี่ยมญาติ
.
มานีเล่าถึงอาการป่วยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการหน้ามืด ความดันต่ำ ก่อนหน้านั้นมีอาการไข้ ไอ ประมาณ 2 วัน โดยในช่วงนี้มีผู้ต้องขังป่วยเป็นโรคติดต่อกันมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและสภาพเรือนจำที่แออัด
.
เธอได้ย้ายมาอยู่ห้องใหม่ที่เรือนนอนทับทิม ซึ่งมีสภาพดีกว่าห้องเดิมที่ค่อนข้างแออัดและมีปัญหาจาก "เด็กรอบ" (อดีตนักโทษที่กลับเข้ามาในเรือนจำใหม่) ที่นี่เธอพบเพื่อนที่รู้จักตั้งแต่อยู่แดนแรกรับ แม้จะต้องทำงานบางอย่างเองมากขึ้น เช่น ซักผ้า แต่เธอมองเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
.
เรื่องที่น่ายินดี คือมานีได้รับจดหมายให้กำลังใจจากโครงการ Free Ratsadon ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประมาณกว่า 2,000 ฉบับ แม้เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้อ่านเพียง 5 ฉบับ และโปสการ์ดอีก 4 ฉบับ โดยไม่อนุญาตให้นำติดตัวกลับไป ด้วยอ้างเหตุผลความกังวลเรื่องอคติทางการเมือง จดหมายที่ประทับใจเธอมากที่สุดคือจากนักศึกษาปี 1 ที่เขียนข้อความให้กำลังใจ พร้อมวาดรูปหยดน้ำและคลื่นว่า “หนูรู้จักน้าเพราะน้าต่อสู้เพื่อพวกเรา เป็นกำลังใจให้ค่ะ”
.
เมื่อทบทวนปีที่ผ่านมา ผู้ต้องขังวัย 44 ปี บอกว่าเป็นปีแห่งความสูญเสีย เจ็บปวดที่สูญเสียคนรุ่นใหม่ที่สามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้อีกมาก อย่าง “บุ้ง” ไป และเป็นปีที่เหนื่อยกับการต่อสู้ แต่ไม่ได้ท้อ
.
ส่วนถ้าขอพรสักข้อ จะขอให้ผู้ต้องขังทุกคนได้รับการประกันตัว เพราะสิทธิการประกันตัวเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกคนควรได้รับ ทั้งขอให้ทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัว มีโอกาสไปต่อสู้คดีข้างนอก
.
วันที่ 10 ม.ค. 2568
มานีเล่าถึงอาการป่วยของเธอว่ายังคงเหมือนเดิม แต่กำลังประสบปัญหาความอึดอัดจากกฎระเบียบที่เข้มงวดของผู้ปกครองเรือนนอนคนใหม่ โดยเฉพาะการจำกัดการใช้ห้องน้ำระหว่างกิจกรรม ส่งผลให้ระบบการขับถ่ายของเธอผิดปกติไปจากเดิมที่เคยเป็นเวลา
.
ปัญหาสำคัญอีกประการคือการห้ามผู้ต้องขังพกเครื่องสำอางลงมาจากเรือนนอน อนุญาตเพียงลิปและกระจกส่องหน้าเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษให้บำเพ็ญประโยชน์ทั้งเรือนนอน ประมาณ 300-400 คน โทษที่กำหนด เช่น การล้างห้องน้ำ มานีรู้สึกไม่เข้าใจกฎระเบียบนี้ เพราะทางเรือนจำเองก็มีการขายเครื่องสำอาง แต่กลับห้ามนำมาใช้ ให้เก็บไว้ในล็อกเกอร์ ซึ่งมีเวลาเปิด-ปิดที่จำกัด
.
นอกจากนี้ตารางเวลาประจำวันที่เข้มงวดก็ทำให้ผู้ต้องขังลำบาก เริ่มจาก 06.00-06.30 น. เป็นเวลาอาบน้ำ และ 07.15 น. ต้องขึ้นแถวนับยอดและเคารพธงชาติ ล็อกเกอร์จะเปิดให้ใช้เฉพาะช่วงอาบน้ำจนถึงก่อนขึ้นแถว ซึ่งเวลาค่อนข้างกระชั้น ทำให้ไม่มีเวลาแต่งหน้า ผู้ต้องขังจึงต้องพกเครื่องสำอางลงมาใช้หลังพิธีเคารพธงชาติ แต่กลับถูกตำหนิและลงโทษ อีกทั้งไม่สามารถนำกลับไปเก็บได้เพราะล็อกเกอร์ปิดแล้ว
.
มานีสะท้อนความรู้สึกว่าไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวที่รู้สึกอึดอัด ผู้ต้องขังคนอื่นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ช่วยบรรเทาความหดหู่ในเรือนจำได้ “สิ่งเล็ก ๆ พวกนี้มันทำให้เรารู้สึกดีได้ ทำไมต้องห้ามกันด้วย”
.
อย่างไรก็ตาม มานีเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องการจ่ายยา โดยเฉพาะการเข้าถึงยาที่จำเป็น เช่น ยาเหน็บช่องคลอด ซึ่งเธอคิดว่าอาจเป็นผลจากการที่เธอได้พูดในวันปฐมนิเทศเมื่อปีที่แล้ว และเธอแจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขมาเยี่ยมเรือนจำในวันที่ 27 ม.ค. 2568 แต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกกันตัวไว้บนเรือนนอนเหมือนครั้งก่อนหรือไม่
.
.
อ่านบันทึกเยี่ยมเต็มที่ลิงค์ในคอมเมนต์

https://tlhr2014.com/archives/72215


มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับแอปฯ เงินกู้เถื่อนมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคประมาณ 1,800 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียหายจากแอปฯ สินเชื่อแห่งความสุขประมาณ 100 ราย และแอปฯ Fineasy ประมาณ 40 ราย


บีบีซีไทย - BBC Thai
18 hours ago
·
ล่าสุด มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับแอปฯ เงินกู้เถื่อนมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคประมาณ 1,800 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียหายจากแอปฯ สินเชื่อแห่งความสุขประมาณ 100 ราย และแอปฯ Fineasy ประมาณ 40 ราย
.
อ่านเรื่องนี้ต่อได้ที่ https://bbc.in/4fTO1OA
.....

ตัวแทนจำหน่าย OPPO กับ realme ยอมรับติดตั้งแอปฯ เงินกู้มาจากโรงงาน แล้วมันน่ากลัวอย่างไร ?


มีผู้ร้องเรียนว่าเป็นเหยื่อจากแอปพลิเคชัน "สินเชื่อแห่งความสุข" ราว 100 ราย จากข้อมูลสภาองค์กรของผู้บริโภค

13 มกราคม 2025
บีบีซีไทย

ราว 7 เดือนที่แล้วผู้ใช้งานรายหนึ่งในเว็บบอร์ดเรดดิท (Reddit) ให้ความเห็นว่า "ฉันเห็นแอปฯ นี้ในโทรศัพท์แม่ของฉัน ดังนั้น ฉันจึงต้องการกำจัดมันออกไป เพราะแม่อาจเผลอกดยืมเงินจากแอปฯ นี้ขึ้นมาก็ได้" ในโพสต์ที่สอบถามว่าจะลบแอปพลิเคชันฟินอีซี (Fineasy) ออกจากโทรศัพท์ยี่ห้อออปโป้ (OPPO) ได้อย่างไร

คำแนะนำหลังจากนั้นพบว่าพวกเขาไม่สามารถกำจัดแอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการของเครื่อง แต่สามารถตั้งค่าไม่ใช้งานแอปฯ ดังกล่าวได้เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้งานอีกรายหนึ่งโพสต์เตือนในเว็บไซต์ OPPO Community เมื่อต้นปีที่แล้วว่าแอปฯ Fineasy สามารถคัดลอกการ์ดแบบ NFC (Near Field Communication) ได้ ซึ่งเป็นระบบที่พบในระบบชำระเงิน บัตรผ่านประตูต่าง ๆ ฯลฯ

"ผมได้รายงานปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ไปยังผู้เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับที่ชัดเจน" ผู้ใช้งานดังกล่าวเขียนเตือนให้ผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ตั้งค่าไม่ใช้งานแอปฯ ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย

สำหรับประเทศไทย กระแสความกังวลเกี่ยวกับแอปฯ ให้กู้เงินดังกล่าวเพิ่งเริ่มต้นขึ้นได้เพียงไม่กี่วันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า "คุณลุงไอที" ออกมาตั้งคำถามในทำนองเดียวกัน แต่มากกว่านั้นคือ มีอีกแอปพลิเคชันหนึ่งพ่วงเข้ามาด้วย นั่นคือ "สินเชื่อแห่งความสุข" โดยพบการติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวในโทรศัพท์บางรุ่นของออปโป้ (OPPO) และเรียลมี (realme)

ทั้งสองแอปพลิเคชันมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของเครื่องในลักษณะติดตั้งไว้ล่วงหน้า (Pre-installed application) ซึ่งหมายถึงเป็นแอปฯ ที่ติดตั้งในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะขายให้กับลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องไปโหลดจากแอปสโตร์แยกต่างหาก ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้วมันคือซอฟต์แวร์ที่ถูกบรรจุมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ตั้งแต่แรกนั่นเอง

Fineasy และ สินเชื่อแห่งความสุข เข้าถึงข้อมูลใดในโทรศัพท์ได้บ้าง

จากการสืบค้นข้อมูลโดยบล็อกนัน (Blognone) พบว่าทั้งสองแอปพลิเคชันมีที่มาแตกต่างกัน โดยทาง Fineasy มีดีลข้ามชาติกับออปโป้ในหลายประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่พบข้อกังวลเกี่ยวกับแอปฯ นี้ในเว็บบอร์ดภาษาอื่น ๆ ในช่วงราว 2 ปีที่ผ่านมา

เจ้าของแอปฯ Fineasy คือ บริษัท Wealth Hope Pte. มีผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียว ชื่อว่า Shenzhen Yufei Technology Corp. ซึ่งจดทะเบียนในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน แต่บล็อกนันตั้งข้อสังเกตว่าแทบไม่มีข้อมูลบริษัทที่ปรากฏในการสืบค้นผ่านอินเทอร์เน็ตเลย และพบอีเมลฝ่ายสนับสนุนที่ลงท้ายด้วยอีเมลแอดเดรสของออปโป้ จึงเกิดข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วแอปฯ ดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับออปโป้อย่างไร

ส่วนแอปฯ ชื่อว่า "สินเชื่อแห่งความสุข" นั้น ทางบล็อกนันตั้งข้อสังเกตว่า เป็นแอปฯ สินเชื่อที่เจาะตลาดคนไทยโดยเฉพาะหากดูจากชื่อของแอปฯ นอกจากนี้ยังพบว่ามีที่อยู่ติดต่อในประเทศไทยด้วย แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นที่อยู่จริงหรือไม่

สินเชื่อแห่งความสุขให้บริการกู้เงินเช่นเดียวกันกับ Fineasy แต่แอปฯ ทั้ง 2 เจ้าไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะแอปพลิเคชันสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลหรือที่เรียกกันในชื่อว่า "แอปฯ เงินกู้"

แอปฯ สินเชื่อแห่งความสุขสามารถเข้าถึงตำแหน่งผู้ใช้งาน ปฏิทิน กล้องถ่ายรูป และรายชื่อผู้ติดต่อได้ ขณะที่ Fineasy เข้าถึงข้อมูลลักษณะเดียวกัน แต่มีหลายฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ควบคุม NFC เป็นต้น


แอปพลิเคชัน Fineasy ยังมีให้ดาวน์โหลดในเพลย์สโตร์ของกูเกิลอยู่

แล้วมันน่ากังวลอย่างไร ?


สถาบันธนาคารไทยระบุว่าในปี 2566 คนไทยราว 19.8% เป็นหนี้นอกระบบ และแอปฯ เงินกู้เถื่อนคือหนึ่งในสาเหตุที่ซ้ำเติมปัญหานี้ เนื่องจากมักล่อลวงให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปฯ นอกแอปสโตร์ของแอปเปิลหรือเพลย์สโตร์ของแอนดรอยด์ จากนั้นให้กู้เงินโดยใช้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์และบัตรประชาชน

ต่อมาพบว่าบางแอปฯ ให้เงินจริง แต่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด บ้างขยายเวลาเงินกู้เพื่อให้เหยื่อจ่ายหนี้นาน ๆ หรือแสร้งทำเป็นว่าระบบมีปัญหาเมื่อเหยื่อต้องการปิดยอดหนี้

สิ่งที่สร้างปัญหามากที่สุดคือ แอปฯ เงินกู้เถื่อนมักแอบเก็บข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ บัตรประชาชน และอาจเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อของเหยื่อ จากนั้นโทรหรือส่งข้อความไปหาผู้ติดต่อตามรายชื่อในโทรศัพท์ เพื่อประจานเหยื่อให้เสียหาย รวมถึงข่มขู่ คุกคาม หากทวงเงินจากเหยื่อไม่ได้

ประสบการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้รายหนึ่งในเว็บบอร์ดพันทิปของไทย บอกว่าได้ลองกู้เงินจากแอปฯ สินเชื่อแห่งความสุขจำนวน 2,000 บาท ต้องใช้คืน 2,014 บาท ภายใน 7 วัน แต่พอจะกดจ่ายคืนเงิน สรุปยอดปิดหนี้อยู่ที่ 2,614.75 บาท

"รู้สึกไม่ถูกต้องเลยไม่ได้จ่ายคืน ปล่อยให้เลยกำหนดไป หลังจากนั้นก็โทรขู่เรื่องกฏหมายนั่นนี่ และโทรไปยังบุคคลที่ 3 ที่มีรายชื่อในโทรศัพท์บางคน อยากสอบถามว่ากรณีแบบนี้ทางออกคือยังไงคะ" ผู้ใช้รายนี้ตั้งกระทู้ถามเมื่อปี 2565



นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค ยังชี้ให้เห็นว่าการเข้าถึงกล้องและไฟล์ภาพวิดีโอของแอปฯ ยังสุ่มเสี่ยงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขต เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าบางครั้งแอปฯ ปล่อยเงินกู้ได้คัดลอกภาพและวิดีโอส่วนบุคคลภายในเครื่องเพื่อใช้ข่มขู่หรือประจานเหยื่อให้จ่ายหนี้

ล่าสุดมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับแอปฯ เงินกู้เถื่อนมายังสภาองค์กรของผู้บริโภคประมาณ 1,800 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียหายจากแอปฯ สินเชื่อแห่งความสุขประมาณ 100 ราย และแอปฯ Fineasy ประมาณ 40 ราย ซึ่งนายภัทรกรคาดว่าเรื่องร้องเรียนจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้นจากความตื่นตัวของผู้บริโภค

เขายังบอกด้วยว่าการเข้าถึงกล้องซึ่งเก็บข้อมูลสแกนใบหน้าบุคคล รวมถึงบัตรประชาชนของผู้กู้เงิน อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำไปใช้เปิดบัญชีธนาคารในลักษณะบัญชีม้าได้ด้วย เนื่องจากจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าเจ้าของที่แท้จริงของแอปฯ ทั้งสองคือใคร

ทางออปโป้และเรียลมี ซึ่งเป็นบริษัทมือถือสัญชาติจีนออกแถลงการณ์ไล่เรี่ยกันเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ระบุว่า ทางบริษัทให้ความสำคัญอย่างสูงกับความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและประสบการณ์การใช้งาน และกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด

ทั้งนี้ ทางแอปฯ Fineasy ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออกแล้ว คงไว้เฉพาะบริการเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเท่านั้น หากผู้ใช้งานต้องการลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทันที ให้ติดต่อกับศูนย์บริการทั่วประเทศ

ทั้งสองบริษัทยังบอกด้วยว่าได้หยุดติดตั้งแอปพลิเคชันสินเชื่อทุกประเภทในสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไป และหยุดการแสดงผลแอปพลิเคชันสินเชื่อเป็นแอปฯ แนะนำใน APP Market ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดาวน์โหลดและจัดการแอปพลิเคชันเฉพาะมือถือทั้งสองยี่ห้อ

OPPO กับ realme อาจเข้าข่ายผิดเรื่องอะไรบ้าง

นายภัทรกรบอกว่าโดยปกติแล้วแอปฯ เงินกู้เถื่อนมักอยู่นอกแอปสโตร์หรือเพลย์สโตร์ หรือหากอยู่ในแพลตฟอร์มดังกล่าวก็ถือได้ว่า ผู้กู้เงินยินยอมดาวน์โหลดด้วยตนเอง แต่สำหรับ Fineasy และ สินเชื่อแห่งความสุข นั้น ถูกติดตั้งมาพร้อมกับโทรศัพท์

"มันจึงทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่าผู้ผลิตมีการคัดกรองแล้ว" เขาบอก "ถ้าบริษัทลงแอปฯ ไป 1 ล้านเครื่อง นั่นหมายความว่าเขา [หมายถึงแอปฯ ดังกล่าว] สามารถหาลูกค้าได้ 1 ล้านคน แต่คนที่อยากใช้บริการจริง ๆ อาจมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ และถึงมีเพียง 1-5% ก็ถือว่าเยอะมาก มีผู้เสียหายจำนวนมาก"

ทางสภาองค์กรของผู้บริโภคจึงมองว่าผู้ผลิตและจำหน่ายมือถือทั้ง 2 ยี่ห้อ ไม่มีความโปร่งใสกับผู้บริโภค พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าผู้ประกอบธุรกิจ "อาจมีผลประโยชน์ร่วมกับ third party [หมายถึงเจ้าของแอปฯ] หรือเปล่า"

รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคฯ ยังเห็นว่ากรณีนี้อาจเข้าข่ายปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงสัญญาเงินกู้ตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ควรเข้ามาตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกแอปฯ เก็บไปนั้น รั่วไหลออกไปยังกลุ่มมิจฉาชีพหรือไม่

"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสืบหาให้ได้ว่า กรณีที่ผู้มีแอปฯ อยู่ในเครื่องถูกส่งข้อความชวนเล่นพนันออนไลน์และกู้เงินผ่านแอปฯ นั้น ใครเป็นคนทำ" นายภัทรกร กล่าว


ตัวแทนจัดจำหน่าย OPPO กับ realme ยอมรับกับ กสทช. ว่าติดตั้งแอปฯ มากับตัวเครื่องจริง

สื่อต่าง ๆ รายงานว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เชิญบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเรียลมี มาสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการติดตั้งแอปพลิเคชันกู้เงินในเครื่องโทรศัพท์มือถือ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เข้าร่วมรับฟังด้วย

จากการรายงานของไทยพีบีเอส ระบุว่าในเบื้องต้นทั้งสองบริษัทฯ ยอมรับว่ามีการติดตั้งแอปฯ มากับตัวเครื่องตั้งแต่ออกจากโรงงาน โดยผู้บริหารของ บ.โพสเฟซี่ กรุ๊ป อ้างว่าเพื่ออำนวยความสะดวกด้านธุรกรรมทางการเงินให้กับผู้บริโภค แต่ไม่ได้ขออนุญาตกับ ธปท. โดยบอกว่าทางบริษัทจะตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง

ฐานเศรษฐกิจรายงานว่าภายในวันที่ 16 ม.ค. ทั้ง บ.โพสเซฟี่ กรุ๊ป และ บ.โปรทา ต้องสรุปข้อมูลมาให้ สคส. ว่าใครเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันดังกล่าวและมีการแต่งตั้งตัวแทนสำหรับการรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายระบุหรือไม่ หากพบการกระทำผิดจะต้องได้รับโทษทางแพ่งและอาญาในอัตราปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทบอกว่าจะไปสอบถามเจ้าของผู้ผลิตมือถืออีกที เนื่องจากตนเองเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น

ทั้งสองบริษัทขอเวลา 1 เดือนในการส่งลิงก์ให้ประชาชนลบแอปฯ ที่มีอยู่แล้ว แต่ทาง สคส. เห็นว่าช้าเกินไป และให้ทั้งสองบริษัทมาชี้แจงใหม่ในวันที่ 16 ม.ค. นี้

ทว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้มีมาตรการเร่งด่วนที่ระบุว่ามือถือของ OPPO และ realme ที่วางขายอยู่ในร้านค้าและกำลังจะวางขายในอนาคต ต้องไม่มีแอปพิเคชันเงินกู้ดังกล่าวอยู่ในเครื่องอีกต่อไป

OPPO-realme แถลงยุติแอปฯ Fineasy และเปิดให้ผู้ใช้งานอัปเดตระบบใหม่

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ม.ค. Fineasy ได้ประกาศยุติให้บริการแอปพลิเคชั่น จากนั้นราวช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 ม.ค. ทั้งทาง OPPO และ realme ได้ออกแถลงการณ์ว่าจะดำเนินงานตามมาตรการด่วนของ กสทช. ดังนี้

ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. เป็นต้นไป สมาร์ตโฟนใหม่ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการติดตั้งแอปฯ Fineasy ไว้ล่วงหน้าได้จะไม่ถูกจำหน่ายอีกต่อไป และมือถือทั้งสองยี่ห้อจะหยุดติดตั้งแอปฯ สินเชื่อส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม (third party) ไว้ล่วงหน้าทั้งหมด

ส่วนผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นปัจจุบันจะเริ่มได้รับการอัปเดตระบบเวอร์ชันใหม่ผ่าน OTA (Over-the-Air) ที่ไม่มีแอปฯ Fineasy ติดตั้งไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ไม่พบการเอ่ยถึงแอปฯ สินเชื่อแห่งความสุข ในแถลงการณ์ดังกล่าวของทั้งสองบริษัท

https://www.bbc.com/thai/articles/cn8yl7ej1vvo


ประสพการณ์ส่วนตัว บทเรียนจากบ่อนการพนัน


Bhanuwat Jittivuthikarn
16 hours ago
·
บทเรียนจากบ่อนการพนัน
ประสพการณ์ส่วนตัวของผมที่มีต่อ บ่อนคาสิโน
การพนัน เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นหนทางลัดสู่ความร่ำรวยหรือความสนุกที่มาพร้อมกับความตื่นเต้น แต่สำหรับผม เด็กคนหนึ่งที่โตมากับพ่อที่เป็นนักพนัน ผมมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้ทุกๆท่านฟัง
การเดินทางติดตามพ่อไปบ่อนการพนัน กลายเป็นเป็นบทเรียน ชีวิตบทสำคัญที่สุดที่พ่อได้สอนเอาไว้ให้ก่อนพ่อจะจากไป
บทเรียนที่เปลี่ยนมุมมองชีวิต และสอนให้เข้าใจความเสี่ยงของการไล่ตามความหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคนในโลกทุนนิยม
ชีวิตในวัยเด็กของผมนั้น ต้องเดินเข้าออก บ่อนการพนัน มามากกว่าที่หลายคนจะรู้
ผมเคยเดินทางไปบ่อนคาสิโน ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ผมจำไม่ได้ แต่แม่เล่าว่า พ่อพาเข้าบ่อนด้วยตั้งแต่ ยังเดินไม่ได้
แล้วทำไมต้องพาลูกไปบ่อนด้วย ?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจนะครับ ว่าพ่อผมไม่ได้มองการพนันเป็นอบายมุข หรือเป็นสิ่งชั่วร้าย
พ่อมองการพนันเป็นเกมส์ กีฬา มองเป็นการแข่งขันรูปแบบหนึ่ง
พ่อชอบอ้างว่า ผมเป็นตัวนำโชคของเขา การมีลูกอยู่ใกล้ๆ ทำให้เขาดวงดี
ผมก็เคยเชื่อแบบนั้นนะ ว่าตัวเองเป็นตัวนำโชคของพ่อ แล้วเด็กผู้ชายนะได้รู้สึกว่าตัวเองช่วยเหลือพ่อได้ เป็นตัวนำโชคมันคือความภูมิใจนะ แล้วเท่าที่จำได้ผมไปบ่อนกับพ่อ แล้วพ่อเล่นเสียนี้แทบจะนับครั้งได้
แต่พอโตขึ้นมา ผมถึงรู้ ว่าจริงๆแล้วพ่อเเอาผมไปเป็นตัวประกัน ไม่ให้โดนแม่ด่า
แม่บอกว่า เวลาพ่อไปบ่อน กลับมาพ่อกับแม่มักจะทะเลาะกัน พ่อรู้จุดอ่อนของแม่ว่ารักลูกเลย แกล้งทำเป็นพาลูกไปบ่อนด้วย ประมาณซามูไรพ่อลุกอ่อน ถ้าเล่นเสียกลับมา ก็จะได้รับความเห็นใจ จากแม่ มากกว่าจะโดนแม่ด่า
บางครั้งก็เหมือนไปเชียร์กีฬาคือ พ่อจะไปบ่อนก็ตามไปเชียร์กันทั้งบ้าน คือแม่ไปด้วย แม้จะไม่ชอบให้พ่อเล่น แต่ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ แม่หวังว่าการที่ครอบครัวไปด้วยจะสามรถ ช่วยเตือนสติพ่อไม่ให้หน้ามือเล่นเสียจนหมดตัวได้
พ่อเองก็เคยบอกว่า เอาลูกเอาเมียมาบ่อนด้วยมันช่วยให้เขามีสมาธิ และมีสติเมื่อเห็นหน้าลูกเมีย
ตลอดชีวิตวัยเด็กผม ทุกๆการเดินทางพักผ่อนวันหยุดกับครอบครัวจะต้องมีบ่อนการพนันมาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
มาเก๊า เก็นติ้ง เกาะสอง เรือ casino มารีน่าสิงค์โปรสามเหลี่ยมทองคำ เกาะกง แม้แต่ มาเยี่ยม ปู่กับย่าที่ กทม พ่อยังต้องแวะไปสนามม้า ทุกครั้ง
มาเก๊า ไปทุกปี ทุกครั้งที่ไปพ่อก็จะชี้ไปที่สะพาน ข้าม มาเก๊าแล้วก็เล่าให้ฟังว่า มีคนไทยที่เล่นเสียจนหมดตัว มากระโดดนำ้ตายตรงนี้หลายคนแล้ว
เกาะกง พ่อพาผมไปตั้งแต่วันแรกที่บ่อนเปิด ตอนนั้นบ่อนยังเป็นอาคารชั้นเดียว อยู่เลย ที่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปในพื้นที่เล่นการพนันจริงๆ จนได้เห็นทุกอย่างในบ่อน ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบห้าด้วย
เกาะสอง เคยไป พ่อเล่นได้แล้วทางบ่อน ไม่ยอมให้กลับ อ้างว่าติดพายุ พ่อต้องแลกเงินสดเอาไว้ แล้วบอกให้ผมเอาเงินไปซ่อนในห้องไม่ให้พ่อรู้ เพราะ พ่อกลัวว่า ระหว่างที่ยังกลับไทยไม่ได้จะเล่นเสียเอาเงินไปคืนบ่อนหมด
ต่อมามีบริการเรือ star cruise ออกจาก ท่าเรือแหลมฉบัง สบายเลย พ่อรับลูกจากโรงเรียนประจำที่ศรีราชา แล้วก็มาขึ้นเรือที่แหลมฉบังต่อเลย ขึ้นเรือมันทั้งชุดนักเรียนชุดลูกเสือนั้นแหละ
ไอ้เรือนี้นะ ผมกับน้องขึ้นไปกันเกิน สามสิบรอบ จนพาสปอร์ต เรามีแต่ สแตมป์ ประทับ ท่าเรือแหลมฉบัง
สามเหลี่ยมทองคำ ไปตอน ทหารปฎิวัติยึดอำนาจ แล้วโดนปิดด่านกลับเข้าไทยไม่ได้ ตกเครื่องที่จะต้องกลับไปเรียนที่ ออส ไม่ทัน ขาดเรียนไปหลายวัน
แต่การพนันที่สร้างปัญหานักสุดให้ที่บ้านคือตอนที่ การพนันบอลมันระบาดในประเทศ ตอนนั้นเรียกว่าพ่อเล่นเสียจนหมดตัวจริงๆ ตอนนั้น ครอบครัวก็เกือบพัง ถ้าไม่ได้ความเสียสละและอดทนของแม่ประคองเอาไว้ แต่สุดท้ายโชคชะตาก็กลับมา เมื่อพ่อไปบ่อน ที่ตุรกี แล้วเล่นได้เงินก้อนมาเป็นร้านอาหารคิงซีฟู้ด
ครั้งหนึ่ง ผมเริ่มโตแล้ว แต่ก็ยังตามพ่อไปบ่อนด้วย เพราะแม่สั่งให้ไปเฝ้า ด้วยความเบื่อผมเลยบอกให้พ่อสอนผมเล่นหน่อย เดียวจะลองไปเล่นเอง พ่อเอาชิปมาให้แล้วบอกให้ไปลองเล่นตรงนั้น สักพักเล่นจนหมดก็เดินมาขอพ่อใหม่ จนพ่อเริ่มรู้สึกว่าลูกเริ่มจะติดแล้ว รอบนี้ไม่ต้องเรียกกลับบ้านเลย พ่อบอกไป กลับได้แล้ว 555 พอออกจากบ่อน พ่อชี้ไปที่พวกผีข้างบ่อน คือพวกที่เล่นหมดตัว โดนยึดพาสปอรต กลับไทยไม่ได้ พ่อบอก ยูดูคนพวกนี้เอาไว้ ถ้าอยากเล่นการพนัน ห้ามเล่นจนหมดตัว แล้วต้องรู้จักทำงานหาเงินจาก อาชีพอื่นด้วย อย่าคิดว่า จะเล่นการพนันจนรวยได้ ป๋า เล่นมาตลอดชีวิตเห็นมาหมดแล้ว การพนันเล่นแค่เสียเงินนะไม่เป็นไรแต่ถ้าเล่นจนเสียชีวิตมันมากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ การพนันนี้แหละที่พรากเอาชีวิตพ่อผมไปก่อนวัยอันควร
การเล่นการพนัน มันจะเล่นกันยาวนานไม่รู้วันรู้คืน บางทีเล่นกัน สองวันสามคืนไม่หลับไม่นอน เมื่ออายุมากสุขภาพพ่อก็แย่ไปด้วย แถมการสูบบุหรี่ในบ่อนติดต่อกัน หลายปีสุดท้าย พ่อเป็นมะเร็งปอด ช่วงสุดท้ายของชีวิตพ่อ ก็ยังวนเวียนกับการเล่นการพนัน เมื่อไปบ่อนไม่ได้ก็หันมาเล่นออนไลน์ บ่อนสุดท้ายที่พ่อไป คือ บ่่อนที่ ศรีลังกา รอบนั้นพ่อขายของส่วนตัวของตัวเองไปเล่นหมด ทั้งนาฬิกา ทั้งแหวน ที่ผมเสียดายมากเพราะเป็นของคู่กายเขาที่เราเห็นมาแต่เด็กอยากเก็บไว้เป็นของดูต่างหน้าเมื่อพ่อจากไปยังไม่เหลือให้ลูกหลานเก็บเลย
และเมื่อถึงจุดที่พ่อป่วยพูดไม่ได้ พวกลูกหนี้ลูกน้องคนที่ค้างเงินหรือเคยยืมเงืนจากการพนันก็หนีหายหมด เงินเครดิตที่ฝากไว้ที่บ่อนก็ไม่เคยได้ กลายเป็น ก่อนตายพ่อไม่มีเงินสดเหลือติดตัวสักบาท ลำบากคนในบ้านต้องมารับภาระหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล
หลังจากเสียพ่อไปแล้วผมไม่เคยไปบ่อนที่ไหนในโลกอีกเลย
บทเรียนที่ผมได้จาก มุมคนไม่ติดการพนันแต่ต้องไปนั้งเผ้าดูคนติดการพนันในบ่อน
1 การพนันไม่ใช่แค่ดวง หรือโชคชะตา แต่มันคือเกมส์ที่ออกแบบมาให้คุณไม่มีวันชนะบ่อนได้
กฎกฎิกาของเกมส์การพนันทั้งหมดนั้น คือ เจ้า ได้เปรียบ เพลเยอร์ เสมอ ไม่ว่าจะ บาคาร่า หรือ รูเร็ต หรือ สลอต
2 มันคือกับดักทางจิตวิทยา บ่อนออกแบบทุกอย่างเพื่อทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าชนะได้ง่าย มี ค่า rolling ทีเป็นเหมือนแต้ม เอาไว้ใช้แลกค่าที่พัก อาหาร ซื้อของหรู เป็นตัวล่อ
3 ความโลภเป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุด คุณไม่สามารถชนะบ่อนได้ แต่คุณสามารถชนะใจตัวเองได้ ในบ่อนไม่มีใครบังคับให้คุรต้องเอาเงินไปเล่น ทุกคนเล่นด้วยความสมัครใจ เพราะหวังเป็นผู้ชนะ เพราะหวังรวยกันทุกคน เมื่อเสียก็อยากได้เงินคืน เมื่อเล่นได้ก็อยากได้อีก
4 ไม่เคยมีใครรวยได้ยั่งยืนจากการพนัน ครั้งหนึ่ง ระหว่างนั้งดูพ่อเล่นอยู่ในบ่อน มีวัยรุ่น ที่กำลังมือขึ้นเล่นได้หลักล้าน กำลังมั่นใจและโอ้อวดสุดๆ ในบ่อนจะมีรถหรูเอาไว้รอขายให้คนที่เล่นได้ จำได้ว่าวัยรุ่นคู่นั้นประกาสซื้อมินิคูปเปอร์จากบ่อนในราคาสามล้าน พ่อรีบสะกิดให้ดู บอกจำหน้าไอ้สองตัวนั้นเอาไว้นะ แล้วพรุ่งนี้มาดูกันว่า รถที่มันเล่นได้มาวันนี้ยังอยู่กับมันมั่ย
พออีกวันหนึ่งผมก็ทราบข่าวว่าสองวัยรุ่นนั้นเล่นเสียจนหมดตัว ขายรถคืนบ่อนในราคาขาดทุนโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ขับรถเลยสักครั้ง
ใน โอกาสที่ประเทศเรากำลังจะมีบ่อนถูก กฎหมาย ผมเฉยๆ ไม่สนับสนุน และ ไม่ต่อต้าน ผมเข้าใจนิสัยใจคอของคนเล่นการพนันดี ไม่มีอะไรในโลกขัดขวางพวกเขาได้ ต่อให้เราบอกว่ามันอันตรายเลวร้ายยังไงเขาก็ไม่ฟัง แต่ส่วนตัวผมนั้น ผมเห็นมาเยอะพอที่จะเข้าใจ และ เห็นว่ามันเป็นอบายมุข ทางแห่งความเสื่อม ไม่ต่างจาก ยาเสพติด ไม่ต่างจาก สิ่งล่อลวงอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้่วไป ที่ผมคิดว่าผมมีความเข้มแช็งพอที่จะไม่ไปหลงกับมัน
เพราะทุกวันนี้ผมไม่เคยยินดีกับอะไรที่ได้มาด้วยโชคหรือเสี่ยงดวงเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะหวย ไม่ว่าจะ แทงบอล ผมไม่เอาเลยสักอย่าง ผมมีความสุขกับการได้รับสิ่งตอบแทนที่มาจากความสามารถและแรงงานที่เราทุ่มเทไปมากกว่า การได้อะไรมาเพราะโชคช่วย

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10162296936078864&set=a.489100378863


‘แบงก์ชาติ’ ชี้ช่องเอาผิดอาญา ‘แอปฯ กู้เงินเถื่อน’ ฝังมาในโทรศัพท์ 2 ยี่ห้อดังได้ ฐานเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ปมเข้าถึงข้อมูล-ยิงแอดโฆษณา โดยไม่ได้รับความยินยอม มีผลต่อความไม่ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล


.....
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
11 hours ago
·
‘แบงก์ชาติ’ ชี้ช่องเอาผิดอาญา ‘แอปฯ กู้เงินเถื่อน’ ฝังมาในโทรศัพท์ 2 ยี่ห้อดังได้ ฐานเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ปมเข้าถึงข้อมูล-ยิงแอดโฆษณา โดยไม่ได้รับความยินยอม มีผลต่อความไม่ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
วันที่ 14 ม.ค.68 พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบและกำกับดูแลพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล pdpc หรือ สคส. เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ (14 ม.ค.) ได้หารือร่วมกับตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ , กสทช. , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สภาองค์กรผู้บริโภค , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท., กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. และตัวแทนจากกระทรวงดีอี ในประเด็นโทรศัพท์มือถือสองค่ายดัง OPPO และ Realme ฝังแอปพลิเคชั่นกู้เงินในตัวเครื่องมือถือ หลังจากออกมาตรการเร่งด่วนและเรียกดูข้อมูลทั้งหมดในวันที่ 16 มกราคมนี้ โดยได้มีคำสั่งตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น
วันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ให้ใบอนุญาตธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในการทำธุรกรรม ให้ข้อมูลว่า การกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากแบงก์ชาติ ซึ่งแม้แบงก์ชาติจะไม่มีบทลงโทษ แต่สามารถเอาผิดตามกฎหมายอาญา เนื่องจากการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้
รวมถึง ประเด็นที่แอปพลิเคชั่นดังกล่าว สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคและมีการยิงแอดโฆษณาเข้ามา โดยไม่ได้รับความยินยอม และมีผลต่อความไม่ปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค ซึ่งถือว่าผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ ซึ่งในส่วนนี้สภาองค์กรผู้บริโภคแจ้งว่า มีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามาเรื่อยๆ และจะได้นำผู้เสียหายไปแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)ต่อไป



https://www.facebook.com/photo/?fbid=1225908638896073&set=a.328293581990921


เปิดใจผู้เสียหายเงินกู้แอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ กู้เงินครั้งแรก 50,000 บาท ในระยะเวลา 2 เดือน ยอดกู้และดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 700,000 บาท พอหาเงินมาจ่ายไม่ได้ แก๊งปล่อยกู้จะข่มขู่ แอดไลน์ด่า โทรก่อกวนตนเองและคนใกล้ชิด จนเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย


เหยื่อแอป‘สินเชื่อความสุข’กู้ 1หมื่นได้จริงแค่5-6พัน ติดวังวนหนี้พุ่ง7 แสนโดนโทรขู่เครียดจนอยากลาโลก

เรื่องเล่าเช้านี้

Jan 13, 2025 

เปิดใจผู้เสียหายเงินกู้แอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ กู้เงินครั้งแรก 50,000 บาท ในระยะเวลา 2 เดือน ยอดกู้และดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 700,000 บาท พอหาเงินมาจ่ายไม่ได้ แก๊งปล่อยกู้จะข่มขู่ แอดไลน์ด่า โทรก่อกวนตนเองและคนใกล้ชิด จนเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ตั้งสติได้ระหว่างยืนอยู่บนยอดตึก นึกถึงครอบครัวและคิดว่าตนเองยังมีประโยชน์กับคนอื่น ออกมาเตือนสังคมอย่าหลงเข้าไปในวังวนเงินกู้ออนไลน์ พบคิดดอกเบี้ยสูงถึง 250-300% ต่อเดือน วอนภาครัฐจัดการจริงจัง 

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
------------------------- 

 
https://www.youtube.com/watch?v=x9G1SwIBz24
.....

สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
10 hours ago
·
เปิดใจ คนกู้เงิน แอปฯ ‘สินเชื่อความสุข’ จากกู้เงินครั้งแรก 50,000 บาท ในเวลา 2 เดือน ยอดกู้และดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 700,000 บาท เมื่อหาเงินมาจ่ายไม่ได้ ถูกข่มขู่-แอดไลน์ด่า โทรก่อกวนตนเอง-คนใกล้ชิด จนเกือบจะฆ่าตัวตาย
​วานนี้ (13 ม.ค.67) ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับ ‘คุณเอ๋’ หญิงสาวที่หลงเข้าไปกู้เงินผ่านแอปฯสินเชื่อความสุข โดยคุณเอ๋ เล่าว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 เธอมีความจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 50,000 บาท จากนั้นโทรศัพท์ของเธอ (ยี่ห้อ OPPO) มีข้อความส่งลิงก์มาในมือถือของเธอ ระบุว่าปล่อยสินเชื่อเงินกู้ออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่นสินเชื่อความสุข เธอจึงตัดสินใจทำการสมัครสมาชิก

​จากนั้นแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ได้ให้เธอกรอกข้อมูลส่วนตัว , กรอกหมายเลขบัตรประชาชน , หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ , พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่ใบหน้าตนเองขณะถือบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อลงทะเบียนในแอป พร้อมกรอกข้อมูลธนาคาร และกดอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ ร่วมถึงรายชื่อเพื่อนในโทรศัพท์มือถือ

​เมื่อเธอสมัครแอพพลิเคชั่นสินเชื่อความสุขเสร็จ พบว่าภายในแอปฯ มีบริษัทให้บริการเงินกู้ออนไลน์เป็นจำนวนมาก ช่วงแรกมีอยู่ประมาณ 10 กว่าบริษัท เมื่อเธอทำการกู้เงินในแอปฯไปแล้ว บริษัทเงินกู้ในแอปฯ ก็ยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีรายชื่อบริษัทปล่อยกู้ อยู่ประมาณ 50-60 บริษัท

​คุณเอ๋เล่าว่า ตนเองเริ่มกู้เงินกับบริษัทให้กู้ ที่อยู่ภายในแอปฯ สินเชื่อความสุข บริษัทละ 10,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 6,000 – 6,500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทที่ให้กู้ โดยบริษัทให้ข้อมูลว่า เงินที่หักไป เหตุที่ได้ไม่เต็ม 10,000 บาท เป็นเงินที่บริษัทเงินกู้คิดเป็นดอกเบี้ย แต่การคืนเงินนั้น ต้องคืนจำนวนเต็มคืน 10,000 บาท โดยแต่ละบริษัทจะให้ระยะเวลาคืนเงิน ภายในระยะเวลา 7 วัน
 
แต่ในความจริง ยังไม่ถึงกำหนดวันชำระเงินที่ระบุไว้ 7 วัน คือ ประมาณวันที่5-6 เท่านั้นที่กู้เงินไป บริษัทที่ปล่อยกู้จะโทรมาทวงหนี้ และระบุว่า เป็นระเบียบของบริษัทที่จะต้องทวงหนี้ก่อนถึงวันครบกำหนดจ่าย

​เมื่อเธอไม่มีเงินจ่ายตามกำหนด ก็ใช้วิธีการกู้เงินในบริษัทสินเชื่ออื่นๆ ที่อยู่ในแอปสินเชื่อความสุข ซึ่งอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันออกไป มีทั้งกู้ 10,000 ได้เงิน 7,000 หรือบางบริษัทกู้ 10,000 ได้เงิน 5,500 บาท เมื่อเธอกู้เจ้าหนึ่ง มาจ่ายอีกเจ้าหนึ่ง และกู้วนจ่ายไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ทำให้กลายเป็นดินพอกหางหมู
 
ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน ที่เข้ามาในวังวนเงินกู้ออนไลน์ในแอป เธอกู้เงินจากบริษัทที่อยู่ในแอปทั้งหมด 48 เจ้า วงเงินรวมทั้งหมด 700,000 บาท จากที่เริ่มกู้ครั้งแรกเพียง 50,000 บาท

​หลังจากนี่สะสมเป็นดินพอกหางหมู เธอไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ เจ้าหนี้ที่อยู่ในชื่อบริษัทต่างๆ ภายในแอพสินเชื่อความสุข ก็จะเริ่มใช้จิตวิทยากดดัน ด้วยการโทรมาทวงบ่อยๆ ในแต่ละวัน การแอด LINE และส่งข้อความมาทวง หรือบางครั้งการพิมพ์ข้อความมาด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
 
สิ่งที่ทำให้เธอเครียดมากที่สุด คือการที่บริษัทปล่อยกู้ โทรไปหาเพื่อน หาญาติ หาครอบครัว และหาทุกคนที่รู้จัก และมีรายชื่ออยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ โดยบอกว่าเธอกู้เงินมา และไปโกงเงินบริษัทเงินกู้มา
 
นอกจากนั้นยังมีการนำรูปที่เธอถ่ายพร้อมกับบัตรประชาชน ส่งมาทางไลน์และระบุว่า จะลงรูปเธอประจานในโลกโซเชียล ว่าโกงเงินคนอื่นมา

​ทั้งนี้ คุณเอ๋ กล่าวว่า ช่วงแรกที่บริษัทปล่อยกู้ โทรมาแนะนำเงินกู้จะพูดจาดี แต่เมื่อเริ่มการทวงหนี้จะเป็นผู้ชายโทรมาด้วยน้ำเสียงดุ และพูดจาไม่ดี โดยเธอต้องตกอยู่ในวนวนเช่นนี้ประมาณ 2 เดือน จนเธอหมดหนทาง และรู้สึกไม่ไหว ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนแล้ว จนเธอคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะทรมานใจมาก เนื่องจากบริษัทกู้เข้าไปในเฟซบุ๊ก และไป Copy รูปในเฟซบุ๊กมาข่มขู่ ว่าถ้าไม่มีจ่ายจะประจาน จนมีครั้งหนึ่งเธอตัดสินในฆ่าตัวตาย ด้วยการขึ้นไปอยู่บนตึกลานจอดรถ ระหว่างจะก้าวขากระโดดตึก เธอได้ยินเสียงพ่อแม่ (พ่อแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว) ได้ยินเสียงพี่สาว คนในครอบครัว เธอจึงตัดสินใจไม่กระโดดลงไป เพราะคิดถึงคนในครอบครัว

​จนสุดท้าย เธอยังโชคดี ที่คนใกล้ตัว ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ญาติๆ และอาจารย์ที่เข้าใจ เป็นกำลังใจให้ความช่วยเหลือ ยอมให้ยืมเงินก้อนมาปิดหนี้จากแอปฯ ทั้งหมด รวมเงินประมาณ 700,000 แสน และปิดจบจ่ายหนี้ในแอปฯทั้งหมดไป เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา

แต่ทุกวันนี้ยังมีข้อความส่งมา ทักไลน์มาแนะนำให้กู้เงินตลอดเวลาอีก แต่เธอตัดสินใจว่าจะไม่ไปยุ่งกับเงินกู้ออนไลน์อีกแล้ว เธอจึงต้องการเล่าเรื่องของเธอเป็นบทเรียนให้กับคนอื่น และถ้าคนอื่นไม่มีญาติพี่น้อง คนใกล้ตัวช่วยเหลือแบบเธอ อาจจะต้องจบชีวิตตัวเองก็เป็นได้
 
เธออยากฝากถึงภาครัฐให้แก้ปัญหาเงินกู้ออนไลน์ และอยากให้ภาครัฐหาช่องทางช่วยเหลือคนจนที่ไม่สามารถกู้ธนาคารได้ ทำให้คนจนเข้าถึงเงินกู้จากภาครัฐที่ดอกเบี้ยถูกๆ ได้

“ทำไมแอปฯ เงินกู้ราคาแพงถึงมีได้ แต่ทำไมแอปฯเงินกู้ของรัฐที่ให้คนจนเข้าถึงเงินกู้แบบถูกกฎหมายถึงมีไม่ได้”
ทีมข่าวตรวจสอบหน้าเว็บที่คุณเอ๋ส่งให้ หน้าแรกพอกดเข้าไป จะให้เลือกวงเงินที่ต้องการยืม โดยจะเห็นว่ามีหลายวงเงินกู้ให้เลือก ตั้งแต่ 10,000 บาท , ตั้งแต่ 10,200-10,400 บาท หรือยอดที่ต้องการ อย่างรายนี้ต้องการยืม ตั้งแต่ 50,000 บาท

นอกจากนี้ ในแอปฯ ยังมีเรทดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคืนด้วย เช่น ยืม ตั้งแต่ 10,000 บาท จำนวนได้จริงคือ ตั้งแต่ 6,300 บาท หักไป ตั้งแต่ 3,700 บาท แต่ต้องจ่ายคืน 10,200-10,400 บาท


รอบบ้านเราก็มีคาสิโนติดชายแดนไทยเป็นสิบแห่ง หากคาสิโนดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ทำไมเขมร พม่า ลาว ถึงมีนทท.ต่างชาติน้อยกว่าไทยอย่างเทียบไม่ติด หากบอกว่ามีคาสิโนจะทำให้GDPเพิ่มขึ้น ทำไม เขมร พม่า ลาว ถึงเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าไทย

เฮฮา พาเพลิน @political_drama
·Jan 13

ไม่ใช่แค่เขมร ลาว พม่า รอบบ้านเราก็มีคาสิโนติดชายแดนไทยเป็นสิบแห่ง หากคาสิโนดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ทำไมเขมร พม่า ลาว ถึงมีนทท.ต่างชาติน้อยกว่าไทยอย่างเทียบไม่ติด หากบอกว่ามีคาสิโนจะทำให้GDPเพิ่มขึ้น ทำไม เขมร พม่า ลาว ถึงเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าไทย



https://www.facebook.com/reel/883806413665100/?ref=embed_video


https://www.facebook.com/reel/2381934458805788/?ref=embed_video


ประเมินโอกาสและความเสี่ยงของการลงทุนประกอบธุรกิจ Entertainment Complex หรือ สถานบันเทิงครบวงจรของประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนหลังไทยเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายฯ




https://x.com/ThaiPBS/status/1879208740085203349
.....

กรุงเทพธุรกิจ
20 hours ago
·
กาสิโน คอมเพล็กซ์ ‘ความเสี่ยง’ที่รัฐต้องรับผิดชอบ | บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
.
รัฐบาลไทยกำลังผลักดันโครงการ เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แนวคิดการรวมสถานบันเทิงหลากหลายรูปแบบ รวมถึง “กาสิโน ถูกกฎหมาย" ไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มรายได้เข้ารัฐ โครงการนี้ได้รับความสนใจและก่อให้เกิดการถกเถียงในวงกว้าง เพราะมีทั้งข้อดี ข้อเสียในหลายมิติที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
.
ในแง่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ข้อมูลจากรัฐบาลบอกว่า เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ สามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศผ่านหลายช่องทาง ทั้งจากการท่องเที่ยว ภาษี และการจ้างงาน โดยเฉพาะการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น ทั้งในส่วนของกาสิโน โรงแรม ร้านค้า และธุรกิจบริการต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ เช่น ถนน ระบบขนส่ง และสาธารณูปโภคต่างๆ
.
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญที่สุดที่รัฐต้องคิดให้รอบคอบ คือ ผลกระทบทางสังคมในเรื่องของการพนัน โดยเฉพาะปัญหาการติดพนันที่อาจส่งผลกระทบต่อครอบครัว และชุมชน สูญเสียเงินออม เกิดปัญหาหนี้สิน เกิดความรุนแรงในครอบครัว ยังไม่นับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องนำไปสู่ปัญหาสังคมที่ซับซ้อนในระยะยาว จริงอยู่ว่าวันนี้การพนันในประเทศไทยมีมากมายเต็มไปหมด การดึงขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมายอย่างที่รัฐต้องการ อาจเป็นการช่วยแก้ปัญหาเรื่องมาเฟียหรืออะไรต่างๆ ได้
.
แต่อย่าลืมว่า ทุกวันนี้การพนันที่มีมากมายเต็มไปหมด รัฐก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว การปล่อยฟรีให้ถูกกฎหมายมันจะไม่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง หรือมีช่องโหว่ให้มาเฟียที่รัฐไม่เคยเอาผิดได้เลย มาทำให้ระบบการพนันที่ถูกกฎหมายกลายเป็นแหล่งซ่องสุมมัวเมาเพิ่มมากขึ้นไปอีกหรือ หรือจริงๆ หากรัฐมองว่า สามารถควบคุมได้ ก็ต้องตรึกตรองความเป็นไปได้ ความเสี่ยง และหาแนวทางรับมือเอาไว้ด้วย
.
ดังนั้น รัฐต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษกับการบริหารจัดการ การควบคุมดูแลเอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส มีระบบกำกับดูแลที่เข้มแข็ง มีกฎหมายและระเบียบที่ชัดเจน รวมถึงการป้องกันการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงิน นอกจากนี้ ยังต้องมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน
.
สุดท้าย โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ อาจมีทั้งศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้รัฐอย่างที่รัฐประเมินไว้ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงและข้อกังวลมากมาย ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจEconomic

https://www.facebook.com/bangkokbiznews/posts/1020465290119057



 

เวียดนามทำสิ่งที่รัฐบาลไทยไม่กล้าทำ: ปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ ยุบ, ควบรวมกระทรวง, ลดจำนวนข้าราชการ, เพิ่มประสิทธิภาพ, ลดความสิ้นเปลือง, ใช้งบประมาณตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลง!


suthichai @suthichai

เวียดนามทำสิ่งที่รัฐบาลไทยไม่กล้าทำ: ปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ ยุบ, ควบรวมกระทรวง, ลดจำนวนข้าราชการ, เพิ่มประสิทธิภาพ, ลดความสิ้นเปลือง, ใช้งบประมาณตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลง!
 
เศรษฐกิจเวียดนามปีที่ผ่านมาโตกว่า 7% เขาวางเป้าโตต่อเนื่องด้วยนโยบายปฏิรูปอย่างจริงจัง!

Suthichai Live 18.00 น.

ชมคลิป
https://www.youtube.com/watch?v=r3oY3BAZKhk


การเดินทาง 🍊 ยังไม่สิ้นสุด - เรื่องสอบจริยธรรม 44 สส. “คนส่วนใหญ่ยอมรับที่จะสู้ในกติกา … คนเราถูกกระทำซ้ำๆ แล้วไม่ได้หืออือจนเกิดความโกลาหลวุ่นวาย ไม่ได้หมายความว่าเขายอมจำนน มันสะสมอยู่” ชนชั้นนำพวกคุณอย่าย่ำยีดูถูกความรู้สึก ปชช. มากเกินไปอย่าเหิมเกริมมากเกินไปพอเหอะ




 

https://www.facebook.com/100026274522465/videos/998668375234860/

https://x.com/BereKriss/status/1879087778224570737

https://x.com/prachatai/status/1879007369155482065

https://x.com/AmaratJeab/status/1879197579466129864






การเมือง 68 ก้าว (ไม่) ข้ามทักษิณ | ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ | 101 One-on-One


[🔴LIVE] การเมือง 68 ก้าว (ไม่) ข้ามทักษิณ | ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ | 101 One-on-One EP.351

The101world

Streamed live 6 hours ago 
🔴LIVE] การเมือง 68 ก้าว (ไม่) ข้ามทักษิณ | ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ | 101 One-on-One EP.351 

วันโอวัน ชวน ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ลี้ภัยทางการเมือง มามองภาพใหญ่ปี 2568 ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กลับมาอยู่ใจกลางการเมืองไทย (อีกครั้ง?) 

🎙️ ดำเนินรายการโดย อินทร์แก้ว โอภานุเคราะห์กุล 


https://www.youtube.com/live/AUamfxrUo-g




ทักษิณโชว์วิชั่นฟื้นตลาดหุ้นว่า ขึ้นกับ 3 ปัจจัย Trust, Confidence, Sentiment แต่ ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้สำคัญแค่กับตลาดหุ้น กับการเมืองยิ่งสำคัญกว่า โดยเฉพาะ trust การตระบัดสัตย์ คือ การทำลาย trust และทำลายอีก 2 ปัจจัยที่เหลือ




https://x.com/tawanten/status/1879152965350748263

tawan @tawanten

ทักษิณโชว์วิชั่นฟื้นตลาดหุ้นว่า ขึ้นกับ 3 ปัจจัย trust , confidence , sentiment 

สำหรับผม ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้สำคัญแค่กับตลาดหุ้น กับการเมืองยิ่งสำคัญกว่า โดยเฉพาะ trust 

การตระบัดสัตย์ คือ การทำลาย trust และทำลายอีก 2 ปัจจัยที่เหลือ

บทความล่าสุดของผม เขียนก่อนทักษิณพูด แต่เชื่อมโยงกันโดยบังเอิญ ชวนอ่านครับ

https://www.the101.world/prateep-jan-25/


วันเด็กเพิ่งผ่าน มาดูสิว่าเราเหลือทรัพยากรอะไรเอาไว้ให้เด็กๆ บ้าง


Thon Thamrongnawasawat
January 11
·
วันเด็ก มาดูสิว่าเราเหลือทรัพยากรอะไรเอาไว้ให้เด็กๆ บ้าง
พื้นที่ป่า 31% (50 ปีก่อนมี 43.2%)
ป่าชายเลน จาก 2.3 ล้านไร่ เหลืออยู่ 1.7 ล้านไร่
ปะการัง เฉพาะปี 67 ในน้ำตื้นฟอกขาวไป 90%
หญ้าทะเล ตรัง/กระบี่/พังงา สามแหล่งหญ้าทะเลใหญ่สุดและดีสุดของไทย ไม่เหลือพื้นที่ระดับสมบูรณ์ดีมากอยู่เลย
พะยูน จาก 250+ ตัว เหลือไม่ถึง 90 ตัว
ปลาฉนาก สูญพันธุ์ ไม่มีรายงานมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว
ฯลฯ อีกมากมายที่จากไปไม่หวนคืน ปูเสฉวนบนหลายหาด สัตว์ตัวจิ๋วๆ ในแอ่งน้ำบนผืนทราย
เราทิ้งขยะมหาศาลไว้ให้แทน เปลี่ยนชายหาดให้บิดเบือนไม่เป็นไปตามธรรมชาติ จับปลาเล็กโกยปลาน้อยจนเกือบหมดทะเล
น้ำที่เปลี่ยนจากสีฟ้าใสเป็นสีเขียวขุ่นเหม็นแทบทุกสัปดาห์
เรายังปล่อยเอเลี่ยนชนิดใหม่ๆ เอาไว้กินสัตว์น้ำท้องถิ่นไทย
วันเด็ก เด็กทำอะไรไม่ได้หรอก เด็กๆ ได้แต่ยิ้มแย้มสนุกสนานโดยไม่รู้ว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปบ้าง
วันเด็ก ผู้ใหญ่ควรละอายใจและตั้งใจให้มากกว่านี้
ตั้งใจมอบสิ่งที่ดีๆ ให้เด็กๆ ของเรา
โลกที่ดีกว่านี้ให้เด็กๆ ของเรา


https://www.facebook.com/thon.thamrongnawasawat/posts/10002712753077171



วันอังคาร, มกราคม 14, 2568

‘ทักษิณ’ ไม่หยุดพูดขวานผ่าซากในการปราศรัย เลยเป็นเชื้อไฟให้พวกจองกฐินขยันขันแข็ง โดยเฉพาะปมมลทินเรื่อง ‘ทุจริต’ ที่ว่าตั้งแต่สมัยถูกรัฐประหารมาแล้ว

“ทัศนะคติของคนไทยเราบางครั้งบางที ก็เรียกว่าดัดจริตก็ได้ คือไม่ค่อยอยู่กับโลกของความเป็นจริง พยายามจะทำให้มันดูสวย แต่ไม่สวยหรอก ขี้เหร่จะตายบอกว่าสวย คือตรงไปตรงมาดีกว่า ง่ายดี” อีกครั้งกับการพูดขวานผ่าซากของ ทักษิณ

พ่อนายกฯ คนนี้ มีวิธีสร้างกระแสให้คนตามชมเวลาไปปราศรัยที่ไหน แม้นว่าเป็นเพียง น้ำจิ้ม ในหมู่เนื้อหานโยบายรัฐบาล และคำพล่ามประกาศศักดาของตน แต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้พวกอึ่งและแบกสะใจ ขณะฝ่ายตรงข้าม เดือด

ในแง่ของการสื่อสาร ไม่ว่าก่อให้เกิดทั้งเสียงด่าและชมอึงมี่พอๆ กัน แต่ก็ทำให้หน้าของทักษิณแขวนอยู่บนจอบ่อยๆ เป็นเซเล็บเด่นดังในสังคม ที่คนส่วนมากเงี่ยฟัง ฉะนั้นการไปพูดในงานของ นสพ.ข่าวหุ้นธุรกิจ จึงหนีไม่พ้น Controversy

“วันนี้เศร้าใจมาก เพราะเราเห็นมาเลเซีย จีดีพีโต 5.6% แต่ประเทศไทยโต 3% และมีคนบอกว่าคงได้เพียง 2% กว่าเท่านั้น โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะโตได้ 3%” เชื่อไม่เชื่อเนื้อหานี้ก็มีคนรับฟัง ส่วนราคาคุยว่าปีหน้าต้องทำให้ได้ ๔% ปีโน้น ๕% อย่างร้ายแค่ยักไหล่

ข้อสำคัญมันเป็นไฟให้พวกจองกฐินขยันขันแข็ง โดยเฉพาะปมมลทินเรื่อง ทุจริตที่ว่าตั้งแต่สมัยถูกรัฐประหารมาแล้ว เที่ยวนี้มีอีก ล่าสุดเล็งเป้าที่ลุกสาว ผู้เป็น เอไอ ทางชีวภาพทางการเมืองของเขา ที่อ้างว่ารับดีเอ็นเอมาล้วนๆ

นักร้อง เสียงดีหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ขยันร้องมาก เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่น ปปช. ตรวจสอบพฤติกรรมการเงินของนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ อุ๊งอิ๊ง“กรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ในการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด”

บริษัทดังกล่าวเป็นของเครือข่าย ยังบลัด ในพรรคเพื่อไทยและ (อดีต) ไทยรักษาชาติ ช่วงมิถุนา ๖๔ ถึงมกรา ๖๕ ไม่ได้มากมายอะไร ๘ รายการมูลค่าแค่ ๑๒.๗ ล้านกว่าๆ เท่านั้น แล้วแพทองธารแจ้งว่าสามีมีรายได้จากดอกเบี้ย ๓๘๓,๑๐๐ บาท

เรืองไกรฟ้องว่า “มีการนำดอกเบี้ยไปเสียภาษีรวมกับรายได้อื่นครบถ้วนหรือไม่ บริษัทฯ ผู้จ่ายดอกเบี้ยมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ และดอกเบี้ยดังกล่าวต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ การแจ้งรายการดังกล่าวถูกต้องครบถ้วนหรือไม่”

ถึงจะจิ๊บจ้อย หยุมหยิมก็ตามที แต่ถ้ามีเสียงร้องแรกแหกกระเชอ ทวงถามความคืบหน้าของคดีกันมากๆ ปปช.ก็จะไม่กล้ามุบมิบปัดตก หรือดองเรื่องจนกว่าจะลืมกันได้ ต้องส่งเผือกร้อนไปให้ศาลอาญาคดีการเมืองรับช่วงไป ถึงจุดนั้นมันอาจร้อนฉ่าแล้วละ

(https://www.facebook.com/nationweekend/posts/Rje7VnpX7XYj และ https://www.facebook.com/nationweekend/posts/2x2wWCvG3W)