ริชาร์ด สายโสมอน พอล โพรค็อป และเชาว์ ซื่อแท้ |
ขณะที่ในประเทศไทยฮือฮากันขนานใหญ่ว่า รัฐบาลทหารกำลังจะออกกฎหมายจำกัดเสรีภาพและควบคุมการทำงานของสื่อมวลชน
ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี มีการประชุมเรื่องสิทธิมนุษยชนของประชาชนในประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้สองแห่ง
คือลาวกับไทย
จัดขึ้นที่อาคารเรย์เบิร์นของสภาคองเกรสสหรัฐ โดยมีสมาชิกสภาผู้แทน
ม้าร์คเวย์น มุลลิน พรรครีพับลิกัน แห่งโอกลาโฮม่า เขต ๒ เป็นผู้อุปถัมภ์
และขบวนการประชาธิปไตยของคนลาวรุ่นใหม่ กับ เร็ดยูเอสเอ-ขบวนการเสียงไทยนานาชาติ
ร่วมกันเป็นผู้จัด (ดร.ริชาร์ด สายโสมอน และ เชาว์ ซื่อแท้)
สมาชิกสภาม้าร์คเวย์น มุลลิน ในการพบกับประชาชนที่เมืองทุลซ่า เมื่อ ๑๗ เมษายน นี้ |
การประชุมประสพความสำเร็จสมดังความมุ่งหมาย คือนอกจากได้อ่านแถลงการณ์
และแสดงปาฐกถาถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนในแต่ละประเทศของผู้จัด ต่อผู้ร่วมงานประมาณ ๕๐
คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลาวที่อาศัยอยู่ในสหรัฐแล้ว
(อ่านรายละเอียดแถลงการณ์ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/RedUSAThaiVoiceInternational/posts/1500549543296973)
ยังได้มอบเอกสารเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
(นายพอล โพรค็อป แห่งแผนกกิจการเอเซียตะวันออกและแปซิฟิค) ไว้ประกบกับเอกสารทางการจากรัฐบาลของแต่ละประเทศ
ที่ล้วนแต่ ‘ไม่เป็น’ ประชาธิปไตย ด้วยกันทั้งคู่
เอกสารแถลงการณ์ (ในที่นี้ขอกล่าวถึงเฉพาะกรณีไทย) ระบุถึงการไม่มีเสรีภาพในการพูดและแสดงออกในประเทศไทย
กระบวนการยุติธรรมไทยไร้มาตรฐาน รัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ (ม.๔๔) ก้าวก่ายศาสนจักร
และกฎหมายกำกับเรื่องคอมพิวเตอร์ริดรอนสิทธิส่วนบุคคลมีบทลงโทษรุนแรง เป็นต้น
การปาฐกถาของผู้ร่วมประชุมท่านหนึ่ง คุณแอนน์ นอร์แมน ในฐานะผู้อำนวยการบริหารของภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
(TAHR)
ได้กล่าวถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเป็นตัวอย่าง ๓ กรณี
แอนน์ นอร์แมน |
กรณีแรกคือการจับกุมและทรมาน น.ส.กริชสุดา คุณะแสน
เพราะเธอเป็นนักกิจกรรมโดดเด่นของฝ่ายเสื้อแดงก่อนการรัฐประหาร
แล้วมีการนำตัวเธอไปออกรายการโทรทัศน์บังคับให้พูดว่าได้รับการปฏิบัติอย่างดีระหว่างถูกควบคุมตัว
จนเมื่อเธอสามารถหนีออกนอกประเทศได้แล้วความจึงแตกว่าเธอ
จากนั้นคณะรัฐประหารก็ยัดข้อหาส้องสุมกำลังอาวุธเพื่อก่อการร้ายให้แก่เธอ
อีกกรณีคือ นายชัยภูมิ ป่าแส
หนุ่มชาวบ้านชายแดนเชื้อสายลาหุเกิดในประเทศไทย ถูกทหารยิงตายขณะวิ่งหนีการทำร้ายของทหารที่พยายามจะยัดข้อหาค้ายาเสพติดให้
นายชัยภูมิเป็นนักกิจกรรมเพื่อชาวเผ่า เขาเป็นนักดนตรี
เป็นศิลปินถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีสั้น ที่สื่อออนไลน์ว้อยซ์ทีวีรายงานจากคำให้การชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่าเขาถูกยิงจากข้างหลัง
ทำให้สื่อนั้นถูกสั่งระงับเสนอรายการเป็นเวลา ๗ วัน
ครั้งมีการเรียกร้องให้นำภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผยเพื่อพิสูจน์ความจริงดังข้ออ้างของทางการที่กล่าวหานายชัยภูมิว่าพยายามขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่
ทางการทหารกลับไม่ยอมปล่อยคลิปจนบัดนี้ อ้างว่าไว้ตรวจสอบเสียก่อน
กรณีที่สาม เรื่องของ ไผ่ ดาวดิน (ชื่อจริง จตุภัทร์
บุญภัทรรักษา) นักศึกษากฎหมายใกล้จบปีสุดท้าย ถูกคุมขังมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วในข้อหาเผยแพร่คลิปวิดีโอของบีบีซีไทยรายงานพระราชประวัติของกษัตริย์ไทยพระองค์ใหม่
(อย่างครอบคลุมหลายแง่มุม เฉกเช่นสื่อตะวันตกจำนวนมากทำกัน
ทั้งจากอังกฤษและเยอรมนี)
ไผ่ถูกปฏิเสธการขอประกันเพื่อปล่อยตัวชั่วคราวจำนวนไม่ต่ำกว่า
๗ ครั้ง ด้วยข้ออ้างจากศาลว่าเขาหยามหมิ่นอำนาจรัฐ
แอนน์ นอร์แมน เปรียบเทียบกรณีของไผ่กับ โรซ่า พ้าร์ค
นักต่อสู้เพื่อสิทธิชนผิวดำอเมริกันในอดีต “การปกครองที่ดีไม่ใช่การสรรหาคนดีมาเป็นผู้ปกครอง”
เธอกล่าวสรุปในตอนหนึ่ง
“คนดีกลายเป็นคนชั่วได้ การปกครองที่ดีนั้นเกี่ยวกับสถาบันทั้งหลายนั่นต่างหาก”