วันศุกร์, มีนาคม 31, 2566

เพิ่งรู้ -ช่างสิบหมู่ต้องใช้เทคนิคโบราณฉาบผิวกำแพงวัดพระแก้วฯ ด้วย ‘ปูนน้ำอ้อย’ รู้แล้ว -สีทาภายนอกบ้านมีโพลีเมอร์ ทำให้ยืดหยุ่นทนแดดฝนได้ดีเช่นกัน

เอิ่ม มีคนบอกว่า การไปพ่นสีใส่กำแพงวังหลวง อย่างกรณีข้อความขีดฆ่า ๑๑๒ หรือภาพสัญญลักษณ์ Anarchy ตรงวัดพระแก้วฯ เมื่อไม่กี่วันมานี้นั่น การลบออกไม่ใช่ทาสีทับแล้วจบ กระบวนการซ่อมยุ่งยากกว่านั้นเยอะ

‘นพพร คลองหาด สระแก้วสอนว่าต้องใช้เทคนิคโบราณ คือฉาบด้วย ปูนน้ำอ้อย ซึ่งผสมด้วยเปลือกหอยขัดขาว “ทำให้มันเกิดสีขาวแบบไม่ต้องทา และยืดหยุ่นทนความร้อนหนาวได้” แต่ก็ต้องบูรณะกันยาวนานมาก

แต่ ท่านผู้หญิงศศิเฌอปราง วชิรมหิดล ณ อยุธยา ย้อนว่า “สีทาบ้านแบบที่ใช้ภายนอกบ้าน เขาคิดค้นโพลีเมอร์ที่มันยืดหยุ่น ทนแดดทนฝน ทำความสะอาดง่าย เค้าใช้กันมาไม่รู้กี่ทศวรรษละ อีนี่ยังจะมาปูนน้ำอ้อยอะไรเนี่ย”

ช่างสิบหมู่หาทำเนอะ แล้วยังพระบรมมหาราชวังนี้ ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเสียอีก Saiseema Phutikarn ไปคุ้ยมาแซวว่า กรมศิลปากรเสนอชื่อขึ้นไปตั้งนานแล้ว ไม่ได้รับอนุมัติ นัยว่าเพราะถ้าขึ้นทะเบียนแล้ว

จะทำอะไรข้างในบริเวณ ให้พิลึกพิลั่นอย่างสวนอัมพรละก็ ต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากรเสียก่อน

(https://facebook.com/photo.php?fbid=3389696054679231&set=p.3389696054679231&type=3 และ https://www.facebook.com/photo/?fbid=573214608238533&set=a.445471801012815) 

ลูกขุนหลวงนิวยอร์คมีมติสั่งฟ้องอดีตประธานาธิบดี ‘ทรั้มพ์’ ผิดกฎหมายการเงิน จ่ายปิดปากอดีตดาวหนังเอ็กซ์คู่นอน

ดอแนลด์ ทรั้มพ์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ถูกคณะลูกขุนหลวงนิวยอร์คสั่งฟ้องคดีอาญา ฐานจ่ายเงิน ๑ แสน ๓ หมื่นเหรียญ ให้ดาราหนังเอ็กซ์เพื่อปิดปากเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวที่เคยมีต่อกัน เจ้าตัวโต้ทันทีว่าเป็นการข่มเหงเขาการเมือง

คณะลูกขุนหลวงซึ่งพิจารณาคดีนี้มานานพอสมควร ลงมติเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มีนาคม ให้ยื่นฟ้องทรั้มพ์ แต่ขณะรายงานนี้ยังไม่มีการควบคุมตัวเพื่อเริ่มคดี เนื่องจากฝ่ายอดีตประธานาธิบดีไม่คาดมาก่อน แต่จะยอมมอบตัวในวันอังคารที่ ๒ พฤษภา

กรณีฉาวโฉ่ สตรอมมี่ แดเนียล คู่นอนของทรั้มพ์เปิดโปงความสัมพันธ์ ระหว่างการรณรงค์รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัยสามปีที่แล้ว เนื่องมาแต่ ไมเคิล โคเฮ็น อดีตทนายของทรั้มพ์ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนจัดการจ่ายค่าปิดปากดังกล่าว

ต่อมาเขาได้รับการชดใช้เงินที่จ่ายล่วงหน้าให้ดาราหนังเอ็กซ์ ๔๒๐,๐๐๐ เหรียญ จากบริษัททรั้มพ์ ทำให้อัยการรัฐบาลกลางเริ่มสืบสวนถึงการละเมิดกฏเรื่องความโปร่งใสในการแข่งรับเลือกตั้งของทรั้มพ์ อดีตหัวหน้าฝ่ายการเงิน อัลเล็น วีสเซลเบิร์ก กำลังติดคุก ๕ เดือน

ก่อนหน้านี้ ในเดือนธันวาคม ๖๕ บริษัททรั้มพ์ถูกตัดสินในคดีไม่เกี่ยวกันไปแล้ว ว่ามีความผิดโทษฐานคดโกงภาษี โพลิติโกสื่อสายการเมืองในสหรัฐบอกว่าทรั้มพ์ยังจะถูกฟ้องทางอาญาอื่นตามมาอีก ๓ คดี คือพยายามล้มเลือกตั้งในจอร์เจีย

อีกข้อหาเป็นเรื่องการยุยงให้ผู้สนับสนุนทางการเมืองของเขาบุกเข้าไปในสภาคองเกรส เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๔ เพื่อจะลบล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งตนเองพ่ายแพ้ และข้อหานำเอกสารลับของรัฐบาลจากทำเนียบขาวไปเก็บไว้บ้านตัวเอง

ทรั้มพ์เตรียมรับคำฟ้องมาแล้วตั้งแต่กลางเดือน โดยเขาเองเป็นคนปูดว่าตนจะถูกฟ้อง เขาใช้การฟ้องครั้งนี้เป็นเครื่องกระตุ้นการหาเสียงของเขา โดยบอกกับผู้สนับสนุนให้ออกมาประท้วงอีกครั้ง แบบเดียวกับกรณี ๖มกรา

เขากล่าวหาพรรคเดโมแครทคู่แข่งว่าอยู่เบื้องหลังการถูกฟ้องคดีละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการเงินนี้ ว่าเป็นการ ล่าแม่มดเขาพูดปั่นให้ผู้สนับสนุนโกรธขึ้งอย่างรุนแรงที่ตนโดนคดีอาญามากมาย แต่ว่ามีคู่แข่งในพรรครีพับลิกันออกมาต้านแล้วอย่างน้อยหนึ่ง

อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์แคนซอว์ แอสสา ฮัทชินสัน เรียกร้องให้ทรั้มพ์ยุติการรณรงค์รับเลือกเป็นประธานาธิบดีได้แล้ว “มันเป็นความมืดมนของอเมริกา ที่อดีตประธานาธิบดีถูกดำเนินคดีอาญา” ถึงอย่างนั้น “ประชาชนต้องตัดสินว่าเขาควรได้เป็นประธานาธิบดีอีกไหม”

(https://www.politico.com/news/2023/03/30/trump-indicted-in-porn-star-hush-money-payment-case-00089837) 

สิบข้อ 'ไอลอว์' ชี้ทำไมต้อง 'ไม่เชื่อ' น้ำมือ กกต.

 

ใครโดนบ้าง ? ข้อมูลส่วนตัวหลุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาพูดอะไรบ้างหรือยัง ??


ข่าวช่องวัน
7h

ใครได้รับข้อความแบบนี้บ้าง?
.
มีรายงานว่า มีผู้ประกาศข่าวหลายคน รวมถึง "อ๊อฟ ชัยนนท์" จากสำนักข่าววันนิวส์ ได้รับข้อความ SMS ที่ระบุข้อมูลส่วนตัวครบทั้งชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เบอร์โทร เลขบัตรประชาชน โดยผู้ส่งอ้างชื่อตัวเองว่า 9Near
.
ก่อนหน้านี้แฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า 9Near ได้โพสต์ประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย 55 ล้านรายอ้างว่าเจาะจากหน่วยงานรัฐ โดยรับจ่ายค่าข้อมูลเป็นบิตคอยน์ในสกุล XMR
.
ทั้งนี้มีรายงานว่าในลิงก์ที่แนบมา มีข้อความระบุทำนองว่า ให้หน่วยงานที่คิดว่าทำข้อมูลหลุดไปรีบติดต่อกลับ ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะในเวลา 16.00 น.ของวันที่ 5 เมษายนนี้



รั่วเห็นๆ จากฐานข้อมูลวัคซีนโควิด


ชมรมแพทย์ชนบท
17h
รั่วเห็นๆ ข้อมูลวัคซีน
มีความเคลื่อนไหวใหม่จากแฮกเกอร์ เพราะถูกท้าทายว่า มีข้อมูลที่รั่วจริงไหม หรือแค่อ้าง แฮกเกอร์จึงปล่อยตัวอย่างข้อมูลมาทาง www.9near.org ข้อมูลที่ปล่อยมารอบนี้เป็นคนในพื้นที่ กทม ใครอยากรู้ลองไปส่องดูได้ กดที่ download จะได้ไฟล์ txt มาตรวจสอบ
และถ้าดูให้ดี จะเห็นร่องรอยว่า ข้อมูลดังกล่าวคือฐานข้อมูลวัคซีนโควิด MOPHIC ของกระทรวงสาธารณสุข จริงๆคน IT ใน สธ. เขารู้แล้วว่านี่คือ ฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข แต่ปลัด สธ. เล่นบทเตมีย์ใบ้ ไม่พูดไม่ตอบ ไม่ทำอะไร ไม่แม้กระทั่งการตั้งกรามการตรวจสอบข้อเท็จจริง นิ่งหวังตำลึงทองอย่างเดียว จึงไม่กล้าออกมาแฉ เดี๋ยวจะถูกกลั่นแกล้งหรือย้าย
ใครที่มีชื่อก็สามารถแจ้งความได้ เพื่อให้ตำรวจไปตรวจสอบต่อไป เพราะปลัด สธ. เขาไม่ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ
แถมในเวปของแฮกเกอร์ ได้เรียกค่าไถ่ไว้ด้วย ตั้งเวลานับถอยหลัง เหลืออีก 6 วัน ฐานข้อมูล 55 ล้านคนนี้ จะถูกขายในตลาดมืด ซื้อขายเป็นบิตคอยน์
เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ปลัดโอภาส การย์กวินพงศ์ไปอยู่ไหน รายงานตัวมาแก้ปัญหาด่วน
.....

ชมรมแพทย์ชนบท
10h
เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
•••••••
ช็อก! ‘แฮกเกอร์’ ประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย อ้างได้มาจากรัฐ 55 ล้านชื่อ
ความคืบหน้าล่าสุด สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนดัง ได้ออกมาโพสต์ภาพข้อความที่ได้รับจากโทรศัพท์มือถือที่ไรับจาก “9N-Group” พร้อมระบุแคปชั่นด้วยว่า “เฮ่ย! ข้อมูลหลุดจริงๆ มีครบ ทั้ง เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, เบอร์มือถือ” ซึ่ง SMS ดังกล่าว เป็นข้อมูลส่วนตัวของสรยุทธ ที่มีทั้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์...
Cr ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2160603/
...

ชมรมแพทย์ชนบท
7h
อีกหกวัน เราจะได้รู้เบอร์โทร และเลขบัตรประชาชน
ของคนไทยเกือบทั้งประเทศ 55ล้านคน
คงเป็นประเทศแรกในโลกที่ข้อมูลจะเปิดเผย
พอเข้าไปในเว็บนั้น จะเจอประกาศของแฮคเกอร์
อ้างว่า มีข้อมูลหลุดของคนไทยจากหน่วยงานรัฐ 55 ล้านข้อมูล
มีชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน บลาๆ ครับ
แล้วขู่ให้หน่วยงานที่รู้ตัวว่าทำข้อมูลนั้นหลุด รีบติดต่อแฮคเกอร์เว็บนั้นในหกวัน
หน่วยงานรัฐ???
Cr Drama-addict

เมื่อทางการไม่ประกาศ ประชาชนขอประกาศเอง "...อาศัยอำนาจประชาชน ผู้มีสิทธิพื้นฐานในการหายใจ ขอประกาศให้พื้นที่เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง เป็นพื้นที่ประสพภัย"


ชมรมแพทย์ชนบท
15h
นพ.รังสฤษฏ์ กาญจนวณิชย์ หรือคุณหมอหม่อง แห่ง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกคำประกาศจากประชาชน เมื่อภาวะฝุ่นควันภาคเหนือในปีนี้ หายนะอย่างที่สุด กระทบสุขภาพ คุณภาพชีวิตของคนทุกคนที่ยังหายใจอยู่
เมื่อภาครัฐดูเหมือนจะไม่มีความพยายามเพียงพอในการแก้ปัญหา การเมืองเองก็ไม่มีเจตจำนงที่มุ่งมั่นในการแก้ปัญหา ประชาชนก็ต้องออกประกาศเอง
ในทางวิชาการ นี่คือ ปฏิบัติการสันติวิธี นี่คือปฏิบัติการอารยะขัดขืนรูปแบบหนึ่ง
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอหม่อง นอกจากสู้ฝุ่นแล้ว ยังขอให้มีกำลังใจในการเผชิญกับแรงกดดันจากรัฐที่จะถาโถมเข้ามา เมื่อเราต่อว่ารัฐ รัฐก็ย่อมมีปฏิกริยาตอบ.....

Greenpeace Thailand
12h
แถลงการณ์กรีนพีซ ประเทศไทย : รัฐบาลรักษาการณ์ต้องประกาศให้พื้นที่ประสบฝุ่นพิษเป็นเขตภัยพิบัติทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน
.
กรีนพีซ ประเทศไทย ซึ่งทำงานรณรงค์เพื่อสิทธิในอากาศสะอาด #RightToCleanAir มีข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรักษาการณ์ ดังต่อไปนี้
.
เพื่อให้สอดคล้องกับการเตือนภัยของศูนย์อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางแห่งอาเซียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ ต้องประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่ที่มีผลกระทบจากฝุ่นพิษในระดับที่เข้มข้นต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 วันขึ้นไป
.
ใช้เกณฑ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ที่มากกว่า 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมงภายใต้มาตรฐานคุณภาพอากาศ PM2.5 ในบรรยากาศทั่วไปที่จะมีการบังคับใช้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 ตามที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา
.
ใช้กลไกทางกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ให้ภาคอุตสาหกรรมเกษตรโดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่มีความโปร่งใสและภาระรับผิด (accountability) ตลอดห่วงโซ่อุปทานของการทำลายป่าเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจ(commodity-driven deforestation) โดยมีระบบตรวจสอบย้อนกลับการรับซื้อสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมถึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
.
บริษัทอุตสาหกรรมเกษตรจะต้องรับภาระความเสียหายรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการบำบัด เยียวยา และฟื้นฟูคุณภาพอากาศ สุขอนามัยและความเสียทางเศรษฐกิจ หากสินค้าเกษตรที่จะนำเข้าหรือส่งออกเกี่ยวข้องกับการเผา และการทำลายสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่อุปทาน แทนที่จะผลักภาระทั้งหมดไปยังเกษตรกรที่อยู่ทั้งในระบบและนอกระบบเกษตรพันธะสัญญา
.
ยุติโครงการเหมืองถ่านหินและโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศทุกโครงการ และยุติการสนับสนุนการลงทุนหรือความเกี่ยวข้องใดๆ ของโครงการเหมืองถ่านหินและโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศเพื่อนบ้าน เหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่นพิษ PM2.5 และปรอทซึ่งเป็นหนึ่งในมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดนด้วย
.
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม >> https://act.gp/statement-transboundary-haze
.
ผลักดันแก้ไขปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ >> https://act.gp/Transboundary-haze
.
#ฝุ่นควันภาคเหนือ #มลพิษข้ามพรมแดน #ปฏิวัติระบบอาหาร

ประชาไท คุยกับ อานนท์ นําภา ว่าด้วยราษฏร 'โหวตเพื่อเปลี่ยน' อย่างไรใน #เลือกตั้ง66


[Live] คุยกับ อานนท์ นําภา ว่าด้วยราษฏร 'โหวตเพื่อเปลี่ยน' อย่างไรใน #เลือกตั้ง66

prachatai

Streamed live 8 hours ago

วันนี้ (30 มี.ค.66) เวลา 20.00-20.30 น. ประชาไทชวนรับชมถ่ายทอดสดการสนทนากับ อานนท์ นําภา ทนายความสิทธิฯ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่าด้วยแคมเปญ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ข้อเสนอที่ว่า "ฝ่ายประชาธิปไตยชนะไปด้วยกัน" นั้น ไปด้วยกันกับ 'แนวร่วมแลนด์สไลด์' ได้หรือไม่ อะไรเป็นสิ่งที่เป็นข้อกังวลหรือน่าจับตาทั้งระหว่างและหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

พร้อมทั้งประเมินความเป็นไปได้ในข้อที่ 3 ของแคมเปญ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” ที่ว่า "หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตยจำเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพ" นั้นเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดและอะไรคืออุปสรรคสำคัญ
.....
ประชาไท Prachatai.com was live.
8h
วันนี้ (30 มี.ค.66) เวลา 20.00-20.30 น. ประชาไทชวนรับชมถ่ายทอดสดการสนทนากับ อานนท์ นําภา ทนายความสิทธิฯ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่าด้วยแคมเปญ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ข้อเสนอที่ว่า "ฝ่ายประชาธิปไตยชนะไปด้วยกัน" นั้น ไปด้วยกันกับ 'แนวร่วมแลนด์สไลด์' ได้หรือไม่ อะไรเป็นสิ่งที่เป็นข้อกังวลหรือน่าจับตาทั้งระหว่างและหลังการเลือกตั้งครั้งนี้
พร้อมทั้งประเมินความเป็นไปได้ในข้อที่ 3 ของแคมเปญ “โหวตเพื่อเปลี่ยน” ที่ว่า "หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตยจำเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพ" นั้นเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดและอะไรคืออุปสรรคสำคัญ

มีมนี้ #แก้ไข112 #ยกเลิก112 !!! ใครเปงคลทัม !! 😂😂😂


nomoreandmore 
@nomoreandmore_
ใครเปงคลทัมมมมมมม !!!!!!! #แก้ไข112 #ยกเลิก112 !!!!!! 


 

#ยืนหยุดขังประเทศไทย 24-30 มีนาคม 2566

 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=186028334196888&id=100083691662206
ยืนหยุดขังประเทศไทย
12h

#ยืนหยุดขังประเทศไทย
24-30 มีนาคม 2566
.
สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นในประเทศนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เมื่อชายหนุ่มชื่อ
"บังเอิญ" ศิลปินอิสระวัย 25 ปี พ่นสีใส่กำแพงพระบรมมหาราชวัง เป็นสัญลักษณ์อักษร A ในวงกลม ซึ่งหมายถึงแนวคิดแบบ Anarchism สัญลักษณ์ตัวเลข 112 มีเส้นคาดทับ หมายถึง ยกเลิกมาตรา 112 และตัวอักษร P ก่อนจะถูกตำรวจวิ่งเข้ามาล็อคกดเขาลงกับพื้น จึงไม่ทราบว่าเขาจะเขียนอะไรต่อ
.
“บังเอิญ” ถูกตั้งข้อหา พ.ร.บ.โบราณสถาน-พ.ร.บ.ความสะอาดฯ ก่อนศาลให้ประกัน ตั้งเงื่อนไขห้ามทำผิดลักษณะเดียวกัน
.
ปัญหาคือ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบสถานะของ 'กำแพงพระบรมมหาราชวัง' หรือแม้แต่ 'พระบรมมหาราชวัง' ในระบบภูมิสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม GIS กรมศิลปากร (www.gis.finearts.go.th) ไม่พบชื่ออยู่ในสถานะโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนหรือรอพิจารณาขึ้นทะเบียน ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งหมด 607 รายการ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ “ประชาไท”)
.
หากพระบรมมหาราชวังมิใช่โบราณสถาน เท่ากับ “บังเอิญ” ไม่ได้ทำความผิดละเมิด พ.ร.บ. โบราณสถาน?
.
ในวันเดียวกัน มีเยาวชนอีกคนถูกจับกุม ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือหยก วัย 14 ปี ซึ่งเดินทางมาที่ สน.พระราชวัง เพื่อติดตามข่าวคราวเรื่องการจับกุม “บัวเอิญ” ได้ถูกตำรวจจับล็อกตัวเข้าห้องสืบสวนโดยไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ โดยที่มีประชาชนที่ติดตามมาพยายามดันตำรวจออกไป ทำให้เกิดการปะทะกันสองฝ่าย มีประชาชนหญิงได้รับบาดเจ็บบริเวณเหนือริมฝีปากบน 1 ราย และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการล็อกคอและมีรอยถลอกที่ข้อมือขวา 1 ราย
.
การจับกุมหยกครั้งนี้เป็นการจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะละเมิดต่อมาตรา 66 ใน พ.ร.บ. ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาความคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 แต่ผู้พิพากษาไม่แม่นกฎหมายเยาวชนและครอบครัวหรืออย่างไรไม่ทราบ จึงไม่ปล่อยตัวหยก
.
หยกไม่ยอมรับอำนาจศาลและนั่งหันหลังให้ผู้พิพากษาในห้องพิจารณาคดี เธอจึงถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจทันที
.
กิจกรรมยืนหยุดขัง ทั้งในกรุงเทพ เชียงใหม่ และนครปฐม ไม่เพียงเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้นักโทษการเมือง เราเรียกร้องกระบวนการจับกุม การฟ้องร้อง และการพิจารณาคดีที่เคร่งครัดตามตัวบทกฎหมายด้วย
.
#ยืนหยุดขังประเทศไทย
#คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา
#คืนความยุติธรรมให้ประชาชน

ถัดมาจากทนายประเวศ ก็มีหยกนี่แหละ ที่ปฏิเสธอำนาจตำรวจและปฏิเสธอำนาจศาล ได้สมบูรณ์ที่สุด - 2 ข้อคิดกรณีหยก จะสู้คดี 112 หรือ สู้ศาล


Uninspired by Current Events
1d
Tit Tat
.....
เวรัมภา หักฉัตร
11h
ถัดมาจากทนายประเวศ ก็มีหยกนี่แหละ
ที่ปฏิเสธอำนาจตำรวจและปฏิเสธอำนาจศาล
ได้สมบูรณ์ที่สุด
.....
May Poonsukcharoen
1d
น่าเป็นห่วงเยาวชนอายุ 15 ปีที่เข้าสถานพินิจวันนี้ แม้จะยืนยันสู้แบบแนวทางทนายประเวศ แต่ทนายประเวศเองไม่ได้ปฏิเสธการเยี่ยม ทนายความและญาติสามารถเยี่ยม และรับทราบความต้องการของทนายประเวศได้เสมอ แต่กรณีนี้ทนายเข้าถึงไม่ได้ หากน้องมีปฏิบัติการใดๆ หรือเปลี่ยนใจภายหลังเราก็ไม่สามารถรู้ได้
.
เพื่อนที่ให้คำแนะนำน้องอย่างใกล้ชิดก่อนเขาเรือนจำก็ไม่สามารถสื่อสารได้
.
อายุ 15 ปี เจอคดี 112 สื่อสารกับคนที่ไว้วางใจไม่ได้ เคว้งคว้างน่าดู
....
May Poonsukcharoen
1d
สิทธิประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่กฎหมายอาญารองรับไว้
.
คดีมาตรา 112 ในยุคที่ทนายประเวศต่อสู้ ส่วนใหญ่ไม่ได้ประกันตัว และถึงปัจจุบันคดีก็ยังมีความเป็นการเมืองสูง โอกาสได้รับความเป็นธรรมจริงน้อยอยู่เช่นเดิม
.
เรานับถือทนายประเวศที่ต่อสู้ด้วยแนวทางที่ตัวเองเชื่อแบบนั้น และทำจริง คนจริง ถ้าจะมีใครสักคนแนะนำให้คนรุ่นหลังทำตามได้ ทนายประเวศก็เป็นคนเดียวที่พูดได้เต็มปากว่าให้ใช้วิธีการนี้
.
แต่ทนายประเวศตัดสินใจตอนนั้น เป็นการตัดสินใจในขณะที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ในขณะเดียวกัน คดีเยาวชน 15 ปี โอกาสได้รับการประกันตัวมีสูง เราเห็นว่าปัจจัยมันต่างกัน
.
อีกอย่าง คดีทนายประเวศยกฟ้องมาตรา 112 เพราะ คนที่รู้ว่าใครเปลี่ยนนโยบายช่วงนั้นพอดี ซึ่งตรงข้ามกับปัจจุบัน
.
ปัจจัยมันต่างกัน

May Poonsukcharoen
10h
Day 2 ที่เยาวชนอายุ 15 ปี ถูกขังเพราะมาตรา 112 ไร้เสียงของเขาที่ส่งถึงภายนอก ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
.....

ประวิตร โรจนพฤกษ์ ขอโต้เห็นต่าง โบว์ ณัฏฐา ประเด็น พ่นกำแพงวัง เรื่อง 112


Pravit Rojanaphruk
19h
เมื่อวานคุณโบว์ Bow Nuttaa Mahattana ให้เกียรติโต้กลับผมประเด็นพ่นข้อความลงบนกำแพงวังว่า ประเด็น 112 (กับการปฎิรูปสถาบันฯ) นั้น แท้จริงแล้วสังคม "ปฎิเสธจะคุย หรือคุยจนพรุนแล้วยังเปลี่ยนอะไรไม่ได้เพราะมัวแต้ไปให้ท้ายพฤติกรรมบ้าๆบอๆกันแน่"
ผมขอตอบที่คุณโบว์ทวีตถึงผมดังนี้นะครับ:
1) สังคมไทยยังไม่สามารถคุยเรื่องนี้อย่างเสรีและเชิงคุณภาพเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันได้ รัฐสภาปฎิเสธที่จะเอาข้อเสนอแก้ไข ม112 เข้าไปถกแม้ประชาชนล่าชื่อลงนามเกินกฎหมายกำหนด ดังเห็นได้ชัดจากกรณีสมัย อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีธรรมศาสตร์นำรายชื่อที่รวบรวมไปยื่นสภาเมื่อปี 2555 แต่ถูกปฎิเสธ ไม่เกิดการถกเถียงในสภา
ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลเป็นพรรค (ที่เคยมีสส.) พรรคเดียวที่มีนโยบายผลักดันแก้กฎหมาย เพราะเพื่อไทยไม่ขอผูกมัดตนเองเรื่องนี้ โอกาสที่จะถกหรือแก้ไขจรืงในสภาจึงยังดูห่างไกลความจริง
2) สื่อไทยเซนเซอร์ข่าวเชิงลบและเท่าทันเท่าเจ้าเป็นอาจิณ ยกตัวอย่างผมเพิ่งโพสค์เมื่อวานว่า นสพ บางกอกโพสต์ ฉบับวันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 มิได้รายงานข่าวเรื่องการพ่นข้อความบนกำแพงวัง/วัดพระแก้ว ถ้าคุณอ่านแต่ นสพ.ฉบับนี้ฉบับเดียวเพื่อติดตามข่าวสารบ้านเมือง คุณก็อาจไม่รู้เรื่องกรณีกำแพงวังเลยด้วยซ้ำ และนี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเพราะการเซนเซอร์ตนเองของสื่อกระแสหลักส่วนใหญ่นั้นทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายทศวรรษ ส่วนบรรดาสมาคมสื่อสมาคมนักข่าวก็ไร้ซึ่งความกล้าหาญทางจริยธรรมหรือไม่ก็อนุรักษ์นิยมเกืนไป เพราะไม่เคยออกมายอมรับต่อสาธารณะว่า ม112 เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรายงานข่าวเชิงเท่าทัน การวิเคราะห์และบททรรศนะเชิงวิพากษ์ (critical news, analysis and commentaries) ต่อสถาบันฯ
การพยายามพูดถึงอนาคตของ 112 และสถาบันฯ ฯลฯ ก็ถูกจำกัดโดยกฎหมาย ม112 เอง คนพูดคนจัดเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ผมเคยเรียกร้องให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์จัดเสวนาเรื่องผลกระทบของ ม112 ต่อการปฎิบัติหน้าที่สื่อไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทุกวันนี้พวกเขายังเงียบอยู่ ดูรายละเอียดตรงนี้>> https://yarmfaojor.net/content/4278
ในขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งในโลกโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลที่เท่าทันเจ้า แต่ก็มีกรวมถึงข้อมูลแบบข่าวโคมลอยด้านลบที่หลายอย่างยังยืนมิได้ หรือแม้กระทั่งข้อความลดหรือด้อยค่าความเป็นมนุษย์ของสมาชิกราชวงศ์ ทำให้ฝ่ายรอยัลลิสต์เกลียดโกรธจนไม่สามารถเกิดเวทีพูดคุยอย่างมีสติและอยู่บนพื้นฐานการใช้เหตุผลและไม่เกลียดชังในที่สาธารณะได้
ดังนั้นผมจึงขอเห็นต่างจากคุณโบว์ และยืนยันว่าสังคมไทยยังไม่ได้มีโอกาสพูดเรื่อง 112 และปฎิรูปสถาบันฯ แบบ "คุยจนพรุนแล้วยังเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เพราะมัวแต่ไปให้ท้ายพฤคิกรรมบ้าๆบอๆ..."
ประเด็นสุดท้าย เรื่อง "มัวแต่ไปให้ท้ายพฤติกรรมบ้าๆบอๆ" นั้น ผมกับคุณโบว์อาจมีเส้นแบ่งและคำจำกัดความที่แตกต่างกันว่าอะไรคือพฤติกรรมบ้าๆบอๆ ผมเห็นว่าคนที่พ่นสีเป็นข้อความนั้นมิได้ "มีพฤติกรรมบ้าๆบอๆ" แต่เอาอึดอัดทนไม่ได้กับสังคมที่ปฎิเสธความจริงของความเห็นต่างของคนบางกลุ่ม ปฎิเสธการพูดคุยเชิงคุณภาพในเรื่องที่เขาประท้วงตะหาก แต่ก็แน่นอน การกระทำเช่นนี้ก็อาจทำให้รอยัลลิสต์จำนวนหนึ่งยิ่งโกรธและไม่อยากพูดคุย
จึงเรียนมาให้คุณโบว์ทราบตามนี้ครับ
ประวิตร โรจนพฤกษ์
30 มีนาคม 2566

พลังของโลกโซเชียล ..."การพ่นสีกำแพง"...อาจไม่ใช่แค่การพ่นสีกำแพง - จดหมายถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถามอย่างตรงไปตรงมา วันนี้ “วัดพระแก้ว” (พระบรมหาราชวัง) ยังเป็นทรัพย์อันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอยู่หรือไม่ ?



Suwagee Klampaiboon
17h
....พลังของโลกโซเชียลอีก 1 อย่างคือ การขุดคุ้ยที่คุณจะปฏิเสธไม่ได้ และคาดไม่ถึง...
..."การพ่นสีกำแพง"...อาจไม่ใช่แค่การพ่นสีกำแพง แต่มีนัยยะแอบแฝงที่แยบยล
....นี่คือการต่อสู้ด้วยข้อมูลและข่าวสาร เพื่อเปิดหูเปิดตาผู้คน ซึ่งเผด็จการกำลังพยายามจัดการเราทุกวิธีทาง....
Cr. Royalist market place











.....
อานนท์ นำภา
1d
จดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha
ถามอย่างตรงไปตรงมา ถึงวันนี้ “วัดพระแก้ว” (พระบรมหาราชวัง) ยังเป็นทรัพย์อันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินอยู่หรือไม่ ?
ลงชื่อ อานนท์ นำภา
(ราษฎร )


ทำไม “อนุทิน” จึงกลายเป็น “สุมาอี้” ใน 3 ก๊ก แห่งยุค 3 ป. - “สุมาหนู” บนทางแพร่ของ 2 ป.


Wassana Nanuam
4h

ทำไม “อนุทิน”
จึงกลายเป็น “สุมาอี้”
ใน 3 ก๊ก แห่งยุค 3 ป.
The Modernist เทียบ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น สุมาอี้ ในสามก๊ก เรียก “สุมาหนู”
กับ การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร
คนเล่นงานมักซ่อนอยู่ในเงามืด
ขณะที่ สุมาหนู โดดเด่น อยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์
.
อ่านบนเว็บไซต์ : https://themodernist.in.th/three-kingdoms-episode-sumanoo/
FB. https://www.facebook.com/100063760653661/posts/665377732264243/?mibextid=cr9u03
.
#การเมือง #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมิใจไทย
#สุมาหนู #เลือกตั้ง66
.....

The Modernist
Yesterday
สามก๊ก ตอน “สุมาหนู” บนทางแพร่ของ 2 ป.
.
อ่านบนเว็บไซต์ : https://themodernist.in.th/three-kingdoms-episode-sumanoo/
.
ปี่กลองเลือกตั้งได้ดังขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว หลังจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “ลุงตู่” ของเราประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปฏิเสธไม่ได้ว่า สปอร์ตไลท์ ต่างจับจ้องไปที่พรรคพลังดูดที่มาแรงอย่าง “พรรคภูมิใจไทย” และหัวหน้าพรรคอย่าง “อนุทิน ชาญวีรกูล”
.
ปฏิเสธไม่ได้ว่า แสงไฟที่ส่องนี้ ส่องอย่างร้อนแรง จนไปสะกิดต่อม หรือส่งแสงแยงตาไปทิ่มแทงผู้มีอำนาจ ทำให้เกิดความระแคะระคาย ความสงสัย จนต้องหาวิธีการสกัดดาวรุ่งต่างๆ นาๆ
.
เป็นธรรมดาของการเมือง เมื่อเด่นมากจึงเป็นภัย ถึงต้องออกมาสกัดขา ซัดให้ล่วง ไม่งั้นอาจแซงหน้า เข้าโค้งขณะเลือกตั้ง แล้วจะคุมยากก็เป็นได้
.
แหม่เหตุการณ์แบบนี้แฟนๆ สามก๊ก คุ้นไหมครับ ว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้ เคยขึ้นในวรรณกรรมสามก๊ก ที่นักการเมืองต่างอ้างตำรับตำรานี้ มาพูด มาใช้ ยกวาทกรรมเด็ด เปรียบเทียบการเมืองจนมีเล่าป้อมอย่างที่ ผ่านๆ มา
.
หากมีเล่าป้อมนั้น การเมืองไทย ณ ขณะนี้ก็ต้องมีสุมาอี้ และคนที่เหมาะกับเป็นสุมาอี้ที่สุด ณ ตอนนี้คงไม่พ้น “เสี่ยหนู อนุทิน” ที่เราจะนิยามเขาว่า “สุมาหนู”
.
เพราะอะไรถึงเป็น สุมาหนู ก็เพราะว่า เอาเข้าจริงแล้ว วุยก๊ก ภายหลังสถาปนา และเปลี่ยนมือจาก โจโฉ ถึง โจผี ผู้เป็นบุตรชาย มีอำนาจล้นเหลือถึงขนาด ปลดฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ฮั่นอย่าง “พระเจ้าเหี้ยนเต้” ลงและสถาปนาราชวงศ์ของตนเอง ปกครองแผ่นดินและเป็นก๊กที่ใหญ่ที่สุด ในบรรดาสามก๊ก
.
ตัวละครหนึ่งในวุยก๊กที่สำคัญ ก็คือสุมาอี้ บุตรชายของสุมาฮอง ขุนนางแห่งราชวงศ์ฮั่น ตระกูลสุมา เป็นตระกูลที่สำคัญของราชวงศ์ฮั่น ซึ่งบังเอิญ สุมาหนูของเรา ก็เป็นลูก ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจจะเทียบได้ว่าเป็นคนตระกูลการเมือง ที่มีบิดาเป็นผู้ปูทางให้เช่นเดียวกัน (และบังเอิญยิ่งกว่า ชวรัตน์ บิดาของ อนุทิน มีชื่อเล่นว่า “จิ้น” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับราชวงศ์ จิ้น ที่ลูกหลานของสุมาอี้สถาปนาปกครองประเทศจีนอีกด้วย)
.
แต่กระนั้นด้วยความระแวงของคน สกุลโจ มักระแวงผู้ที่มีความคิดความอ่าน รวมถึงคนที่มีอิทธิพลทางการเมือง โดยเฉพาะ สุมาอี้ ถูกระแวง ถึงขนาดที่โจโฉหรือโจผีจะจากไป ก็มักบอกให้ทายาทของตนคอยระวังสุมาอี้อยู่เสมอๆ
.
แหม่ ไม่ให้ถูกระแวงได้ยังไง เป็นผู้ที่ยันทัพของขงเบ้ง สู้กับ “มังกรหลับ” อย่างสูสี มีลูกน้องมือซ้ายมือขวา ละเป็นที่เคารพและชื่นชมในวุยก๊กไม่น้อย
.
คราวนี้สุมาอี้ก็ซวยนะสิครับ มีแต่คนระแวง แถมมีคนคอยกระซิบข้างหูผู้มีอำนาจให้ระแวงตัวเองอยู่เสมอๆ ด้วย ถึงขณะโดนปลดจากตำแหน่งตัดอิทธิพลทางการเมือง รวมถึงโดนโยกจากตำแหน่งในการควบคุมกองทัพ ให้ไปเป็นตำแหน่ง ราชครู ที่ดูเหมือนจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ไม่มีทั้งอิทธิพลทั้งการเมืองและการทหาร
.
แต่ด้วยความเยือกเย็น รอจังหวะรอเวลา แกล้งป่วยบ้าง เก็บคม ซ่อนหาง จนในที่สุดสามารถรุกรบ ทำการคุมฮ่องเต้สกุลโจ ปูทางให้ลูกหลาน จนสามารถสถาปนาราชวงศ์จิ้นภายใต้สกุล สุมา ได้ในที่สุด
.
และเราหันกลับมามองที่ “สุมาหนู” เส้นทางการเมือง ณ ขณะนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก “สุมาอี้” สักเท่าไหร่ เพราะ ขณะนี้เรียกได้ว่าในขั้วรัฐบาล สุมาหนู กลายเป็นขั้วที่น่ากลัวและน่าจับตามากที่สุด สามารถดูด ส.ส.ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน มาไว้ในพรรคจำนวนมาก ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ระหว่างการะป็นรัฐบาลก็ดูด ส.ส.เป็นจำนวนมากจากหลายๆ พรรค และก่อนการเลือกตั้งก็มี ส.ส.จากหลายพรรค เตรียมย้ายสังกัดลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย
.
การหาเสียงมักชูนโยบายทำได้จริง (ตามคำอ้าง ที่ว่า “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ”) เขย่าท้องถิ่น ในเรื่องกระจายอำนาจ เพิ่มเงินให้ อสม. อสส. ทุ่มเงินและสลทรัพยากรให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เต็มที่ในกาสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง
.
ถึงขนาดที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ก๊ก สุมาหนู จะได้ ส.ส.70-100 คน แน่นอนว่าถ้าได้ตัวเลขนี้จริงย่อมต้องเป็นพรรคที่เนื้อหอม เมื่อใกล้จัดตั้งรัฐบาลหลายพรรคหลายพวกต้องตามจีบอย่างแน่นอน
.
และหากมีตัวเลขนี้จริงก็ย่อมต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ได้ไม่ยาก
.
เรียกได้ว่ากลายเป็นขุมพลังที่น่ากลัว น่าจับตา ทำให้เมื่อใกล้หน้าศึกเลือกตั้งใกล้เข้ามา ย่อมถูกเตะสะกัดขา ไม่ว่าเรื่องกัญชา ที่ ชูวิทย์ ออกมาต่อสู้ ในทำนองไม่ให้เลือกพรรคกัญชา และประกาศลั่นว่าจัทำใหภูมิใจไทยได ส.ส.น้อยที่สุด เรื่องโครงการรถไฟฟ้าโดนเตะห่วงไม่ให้ดำเนินโครงการได้ เพื่อไม่ให้พรรคภูมิใจไทยเคลมผลงานได้เยอะก่อนศึกเลือกตั้ง หรือเรื่องครอบครองที่ดินของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ตลอดจน ศักดิ์สยามถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่ถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่ผุดออกมาเป็นดอกเห็ดแบบไม่ทันตั้งตัว
.
การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร คนเล่นงานมักซ่อนอยู่ในเงามืด ขณะที่ สุมาหนู โดดเด่นอยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์
.
แต่สังเกตพฤติกรรมของ สุมาหนู ให้ดี ดูไม่กังวล และเดินหน้าปราศรัยหาเสียงอย่างคึกคัก ปล่อยการเมืองในทำเนียบให้เดินไปโดยไม่สนใจ อยู่ลักษณะ “นิ่งสงบ สยบเคลื่อนไหว” เหมือนกับสุมาอี้ที่เมื่อรู้ว่าภัยมาถึงตัว หรือในบางครั้ง สามารถทำตัวอยู่ในลักษณะ เหยียบเรือสองลุง โผล่กินข้าวกับคนนู้น คนนี้ทีได้อย่างลงตัว เป็นท่าทีที่สงบไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่าทางการเมือง รอจังหวะลงมือทีเดียว
.
ภาวการณ์ครั้งนี้ จึงขึ้นอยู่กับความนิ่ง ไม่ไหวติงของ สุมาหนู หากนิ่งได้ดีมีแต้มต่อ หากหมดความอดทนเมื่อไหร่ก็จะต่างกับสุมาอี้ เพราะการเมืองไทยหากผลีผลามเกินไป ณ ขณะนี้ อาจจะพลาดท่าถึงขนาดถูกตัดสิทธิและยุบพรรคได้ทุกเมื่อ
.
เห็นไหมละครับเพื่อนๆ การเมือง ณ ขณะนี้ห้ามกะพริบตา เพราะอยู่ดีๆ ใครบางคนอาจพลาดท่าได้ อยู่ดีๆ อาจมีคดีๆ ผลุบๆ โผล่ๆ ออกมา ใครจะไปรู้ตัว เพื่อนๆ ละครับคิดเห็นอย่างไร ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อย เพราะ The Modernist เชื่อว่า ทุกความคิดเห็นล้วนมีผลต่อสังคม
.
#การเมือง #ประยุทธ์จันทร์โอชา #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมใจไทย
#ลุงตู่ #สุมาหนู #เลือกตั้ง66 #เลือกตั้ง2566

คุณเป็นเสื้อแดงตั้งแต่เมื่อไหร่



 

ข่าวดี ใครอยากฟังยกมือขึ้น


 

วันพฤหัสบดี, มีนาคม 30, 2566

รมว.ดิจิทัล “มั่วชิบหาย ศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยมีคำวินิจฉัยว่าการแก้ ๑๑๒ ขัดรัฐธรรมนูญ”

เมื่อสองวันก่อน มีใครไม่ได้ดูรายการ ตัวตึง บ้าง เขาว่ามันมาก สรยุทธ์ สุทัศน์จินดา เอาตัวแทนพรรคการเมือง ๖ คน ๖ พรรคมาถกกันในประเด็นต่างๆ ทำให้ได้รู้ว่า ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นั้น ไม่มีกึ๋น จากการที่อวดรู้เรื่อง ม.๑๑๒

@WeAre99Percentt จึงงัดทันใด “มั่วชิบหาย ศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยมีคำวินิจฉัยว่าการแก้ ๑๑๒ ขัดรัฐธรรมนูญ มีแค่เล่นเรื่องทางเทคนิค เรื่องคำในเว็บว่าสถาบันกษัตริย์ไม่ใช่สถาบันการเมือง ซึงก็ non sense” เหลวไหล

“แต่ไม่เคยบอกว่าการแก้หรือยกเลิกขัดรัฐธรรมนูญ หรือไอ้คำวินิจฉัยเรื่องล้มล้างการปกครอง ก็ไม่ได้บอกว่าทำเรื่อง ๑๑๒ ไม่ได้” เหมือนกัน มีเพียงศาลอาญาเท่านั้น ที่มีคำสั่งระงับการเข้าถึงเว็บ ‘no112.org’ เพราะระบุว่าสถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันทางการเมือง

ไม่เท่านั้น รัฐมนตรีดิจิทัลไม่มีสามัญสำนึกของอิสรชนแม้แต่นิด ยกหาง รัฐประหาร เฉยเลย อ้าง “ไม่มีใครตายเพราะรัฐประหาร รัฐประหารเสร็จบ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจดี” ประเด็นหลังนี่มุสาหน้าตายแน่นอน ส่วนประเด็นไม่มีใครตาย มีคนตอบแล้ว

“ประชาชนเหมือนตายทั้งเป็นมา ๗-๘ ปีแล้วนะ ไอ้พวกอยู่ในกลุ่มรวยกระจุกก็พูดได้สิ ได้ผลประโยชน์” th-nnt@thairnee ชี้ ด้าน @Citizen2600 ว่าแบบนี้เข้าข่าย #นักการเมืองไม่พึงประสงค์ ต้อง “กำจัดออกจากการเมืองไทยไปเสียให้ถาวร”

ผู้ร่วมวงสนทนาอื่นๆ เหมือนจับคู่สองฟากซัดกัน วิโรจน์ ลักขณาอดิสร กับ ธนกร วังบุญคงชนะ เด็กซื้อโอเลี้ยงให้ตู่ที่มาแทนแรมโบ้ หรือ เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับ สหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ ที่ @loveluvpaim เก็บมาเล่า

“ศุภชัยบอกว่าที่แคนดิเดต พท.ไม่ได้เป็น ส.ส.จะซ้ำรอยตอนปี ๖๒ รึป่าว ที่สุดท้ายก็ไปยกมือให้ธนาธร อนคม. พี่เต้นเลยสวนกลับไปว่านี่เป็นการทำงานร่วมกันแบบรัฐบาลผสม ก็เหมือนกับภูมิใจไทยที่เสนอคุณอนุทิน แต่สุดท้ายไปยกมือให้ประยุทธ์”

อีกคน เสธ.ปุ่นศิธา ทิวารี ซึ่ง @moui ชมว่า “ตอบได้ดีมากๆ” จากคำถามเรื่อง “มีคนไปเขียนที่กำแพงวัดพระแก้ว” จนไปลงที่เลือกตั้งยุทธศาสตร์ ศิธาบอก “ทำไมฝ่ายประชาธิปไตยไม่ผนึกกันให้แน่น เพราะตอนนี้สองลุงก็แตกกันแล้ว

เราควรจะจับมือกัน แล้วเอาประชาธิปไตยคืนมาให้กับพี่น้องประชาชน ควรจะทำตรงนี้” 

ขอให้เหมือนเดิม แต่จะไม่เหมือนเดิม ครั้งนี้ แม้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผลงานก็จะสู้ไทยรักไทย1 ไม่ได้ จะง่อยเปลี้ยและถูกกำจัด

ภาพจากเดลินิวส์
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
Yesterday
ผลงานของทักษิณสมัยไทยรักไทย1 (ปี44-48) ถูกพรรคเพื่อไทยใช้เป็น "จุดขาย" มาโดยตลอด ผู้คนก็เชื่อโดยมองข้ามปริบทช่วงปีนั้นที่ต่างกับปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
นักการเมืองไม่ได้บริหารอยู่ในสูญญากาศแต่ภายในระบอบการเมือง ทักษิณทำนโยบายหลายอย่างเป็นจริงได้ด้วยรธน.40 ซึ่งเอื้อพรรคขนาดใหญ่และให้รัฐบาลมีอำนาจมาก แต่รธน.60 ที่มัดตราสังบรรดาสส. รมต. ครม.อย่างแน่นหนาโดยสว.ปปช. ศาลรธน. ฯลฯ รบ.ที่ "ไม่ใช่พวก" จะง่อยเปลี้ยและถูกกำจัด ตัวอย่างคือรบ.ยิ่งลักษณ์ที่ย้ายข้าราชการแค่คนเดียวยังทำไม่ได้! การหวังให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้งมาแก้ศก.ภายใต้รธน.60 ด้วยยี่ห้อเดิมจึงเข้าสู่อีหรอบเดิม
...
รธน.60 คือกับดักความเจริญ
.
ต้องผสมปัอมถึงจะพอไปได้
.
เคยมีคนตั้งคำถามนี้ไว้ด้วยครับ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2272023/1 
.
ทำไมรัฐบาลพลังประชาชน เพื่อไทย ผลงานสู่ไทยรักไทยไม่ได้
.
ทำไมรัฐบาลของคุณสมัคร คุณยิ่งลักษณ์ ถึงสู่ยุคไทยรักไทย ที่มีคุณทักษิณเป็นนายกไม่ได้ครับ
ไม่ค่อยมีนโนบายที่ถูกพูดถึงในบวกอย่าง 30 บาท กองทุนหมู่บ้าน ปราบปรามยาเสพติดเท่าไร
มีแต่นโยบายที่ถูกพูดถึงในแง่ค่อนข้างลบ อย่างจำนำข้าว รถคันแรก
ทั้งทีก็บอกเองว่า ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ
หรือขาดกุนซือคนสำคัญไป
...
เพราะไทยรักไทย ทักษิณคิด ทักษิณทำไงครับ
...
เน้นแก้ปัญหาให้แม้วมั้ง
...
การเมืองยุคทักกี้มันคือการเมืองยุคใหม่ในสมัยนั้นนั่นแหละเพราะการเมืองก่อนยุคทักกี้มันเป็นการเมืองแบบรวมศูนย์อำนาจโดยสมบูรณ์แบบไม่มีประชาชนในสมการ
พอทักกี้เข้ามามันเริ่มมีประชาชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองมากขึ้นที่เรียกกันภาษาปากว่าประชาธิปไตยกินได้ หลังจากนั้นพรรคการเมืองต่างๆก็ใช้วิธีนี้กันหมดอย่างพวกปชป.มันก็เอาไปใช้สร้างฐานเสียงในภาคใต้แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าภาคใต้คนน้อยโหวตแข่งกันยังไงก็แพ้อีสาน
ทีนี้กลับไปที่คำถามว่าทำไมเพื่อไทยที่เป็นองคาพยพของทักกี้ผลงานถึงด่อยกว่า ผมมองว่าการเมืองในยุคเพื่อไทยมันไม่ได้ราบรื่นมันมีมุ้งการเมืองเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยมากมายแล้วพอทักกี้ที่เป็นคนจัดสรรผลประโยชน์ให้มุ้งการเมืองต่างๆไม่อยู่มันทำให้เกิดปัญหาเป็นรัฐขึ้นซ้อนๆกันอยู่ในพรรคซึ่งทำให้นโยบายของพรรคเอาไปทำได้ยากเพราะต้องคอยดูก่อนว่าไปทับไลน์ผลประโยชน์ของกลุ่มมุ้งการเมืองในพรรครึเปล่า
ปัจจัยภายนอกอย่างพวกทหารกับ...ก็มีผลเยอะ ไหนจะพวกชนชั้นกลางในกรุงเทพจำนวนมากที่มองว่าทักกี้เอาทรัพยากรไปปรนเปรอชาวนามากเกินไป จะเห็นเลยว่าปัญหาต่างๆมันรุมเร้าพรรคการเมืองที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้มันทำอะไรไม่ค่อยได้มากหรอก55+
...
ปูอยู่ไม่ครบมาถึงปีแรกก็โดนน้ำท่วมหนัก แล้วหลังจากนั้นก็มีโครงการตามนี้แต่โดนศาลเบรคบ้าง
-รถไฟความเร็วสูง ไม่เกิด
-โครงการ Floodway ไม่เกิด
-รถคันแรก เกิดขึ้นใครบอกไม่ดีแต่ดีกับครอบครัวผม ไม่ต้องนั่งรถทัวร์กลับต่างจังหวัด
ลุงสมัคร(ไม่ถึงปีโดนข้อหาทำกับข้าว)+สมชาย(เป็นนายกที่ครองตำแหน่งน้อยสุด 2 เดือนกว่าๆ แถมไม่ได้เข้าทำเนียบ)+เหตุการณ์มันจบแล้วครับนาย(เปลี่ยนขั่ว)
-รถเมล์ฟรี ดีตอนผมไปเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายไปอยู่
-นโยบาทเหรียญบาทที่เวลาของขึ้นก็จะให้ขึ้นแค่ 1,2,3,4 บาท ไม่ใช่หมูขึ้นจากโลละ 100 ไป 115 บาท แต่ค่าข้าวดันขึ้นจานละ 5 บาท ทั้งๆที่มันควรขึ้นแค่ 1,2 ต่อจาน
ถามหน่อยระยะเวลาแค่นี้ พลังประชาชนจะทำไรได้
พอมาปู ปีแรกก็น้ำท่วมกับกำลังออกโครงการ 2 ล้านๆ ก็โดนขัด
โครงการจำนำข้าวไม่ดีหรือเป็นข้อกล่าวหาที่จะเอาไว้โจมตีเฉยๆให้กับรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่รู้
...
ยุคหลังจากทักษิณโกย สส 375 ที่นั่ง ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้ผุดได้เกิดแน่จึงพยายามดิสเครดิตและหาทางล้มให้ได้ทุกเรื่อง นโยบายหลังจากนั้นจึงถูกสร้างภาพให้เป็นตัวร้ายมาตลอด บางนโยบายทำได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ ยิ่งเละเทะไปกันใหญ่ อย่างนโยบายจำนำข้าวถ้าไม่ไปล้มและใส่ร้ายเขาแบบนั้น ผมว่านี่คือนโยบายที่ดีมากเลย
...
อันนี้จำได้ฝ่ายตรงข้ามบอกแข่งไปก็แพ้
ประมาณไม่แบ่งกันเป็นรัฐบาลบ้างเลย
(พิมพ์แบบให้ดูดีแล้วนะ)55555
...
เพราะไทยรักไทยยุคแรกยังมีทีมนักวิชาการ ที เศรษฐกิจ คิดนโยบาย พอตอนหลังกระแสพรรคดีดันไปเอากลุ่มก๊วนพวกนักการเมืองพื้นที่เข้ามา กลุ่มนักวิชาการทยอยออก เหลือเป็นการเมืองแบบต่อรองผลประโยชน์ นโยบานก็ตามสภาพ
...
พวกข้าราชการ เพื่อนพ่อแม่ผม หรือเพื่อนๆยายผม เท่าที่เห็น พวกนี้เกลียดทักษิณยิ่งกว่าอะไรครับ
และตลกร้ายคือรักลุงตู่ชิบหาย รอเลือกรวมไทยสร้างชาติ
หลักๆคือ สมัยตู่ตัวเองสบาย ไม่ต้องจุกจิกข้อบังคับเยอะ เหมือนยุคทักษิณ
สุดท้ายใช้คำพูดสวยหรูแค่ไหน มันก็เห็นแก่ประโยชน์ตัวก่อนก่อนทั้งนั้น
....
อยู่ไม่ครบเทอมโดนเตะตัดขาขนาดนั้น
....
ตัดปัจจัยปัญหาอื่นๆที่ทุกรัฐบาลต้องเจอเหมือนกันทิ้งไป ปัญหาหลักคือโดนศาลสั่งยุบจ้องเล่นงานนายกโดยตรง โดนจ้องปฏิวัติและก็โดนจริงๆ ทำให้การบริหารไม่ต่อเนื่อง อีกอย่างการสั่งตรงกับสั่งผ่านนอมินีความเด็ดขาดรวดเร็วในการตัดสินใจต่างกันเยอะ
....
สายข้าราชการต้องดูครับว่าเป็นข้าราชการระดับไหน
ถ้าเป็นข้าราชการระดับปฏิบัติการหรือระดับ ซีน้อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอายุไม่มาก กลุ่มนี้ OK กับทักษิณแต่ว่าไม่เอาลุงตู่
เพราะว่าการทำงานยุคของทักษิณจะใช้ KPI ชี้วัดคล้ายๆการทำงานของระดับพนักงานมหาลัย ข้าราชการระดับสูง ไม่ค่อยมีอำนาจ
ส่วนยุคลุงตู่นี่ KPI ที่ใช้ในการชี้วัดคือ ข้าราชการระดับสูงเป็นคนสั่งโดยตรงและมีอำนาจเต็มมันจะกลับไปสู่ Step
1. นายถูกเสมอ
2. ข้องใจอ่านข้อ 1 ใหม่
ซึ่งข้าราชการระดับสูงมันสามารถแสวงหาผลประโยชน์ใช้แรงงานเยี่ยงทาสจากข้าราชการระดับน้อยได้แบบนี้ เลยชอบกันครับ
...
ง่ายๆครับ อยู่ในช่วงเศรษฐกิจโลกไม่ได้แย่
ลองมาตอนนี้สิ ผมว่ากี่ทักษิณก็ไม่ได้ทำคนทั้งประเทศเจริญขึ้นหรอก
...
ตอนแรกนั้นอุดมการณ์ยังมี แต่พอได้สมัย 2 สมัย 3 อุดมการณ์เริ่มเสื่อมสลายกลายเน้นผลประโยชน์มากกว่าอุดมการณ์

เสียดาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฮีโร่ผู้เคยปราศรัยแบบฟังธงและ poetic หายไปไหน


Pipob Udomittipong
17h
ณัฐวุฒิ: .....มันต้องมีวิธีการบังคับใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายมาตรา (112) กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร
สรยุทธ: โดยส่วนตัวคุณหรือในนามพรรค (เพื่อไทย)?
ณัฐวุฒิ: ในนามพรรคเพื่อไทย
สรยุทธ: ว่าจะแก้ 112?
ณัฐวุฒิ: ไม่ได้แก้ (เสียงดังเชียว) แต่ว่าจะดูแลเรื่องการบังคับใช้
“การแก้ไขเนื้อหามาตรา 112 ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้มีปัญหาเรื่องนิติธรรมอย่างที่ผมบอก (เพราะผมเป็นเหยื่อผังล้มเจ้ามาแล้ว) แต่....บลา บลา บลา .....ทำให้สังคมแยกสุดโต่งเป็นสองข้าง....บลา บลา บลา .....เพราะฉะนั้นเราจะดูเรื่องการบังคับใช้ อย่าให้ถูกเอาไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง......บลา บลา บลา....สภาสมัยหน้าอาจมีพื้นที่ปลอดภัยให้คนพูดกัน.....บลา บลา บลา .....แต่ไม่ใช่ว่าจะมาพูดกันเรื่องแก้หรือไม่แก้....”
สรุปว่าไม่แก้นะครับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฮีโร่ผู้เคยปราศรัยแบบฟังธงและ poetic หายไปไหน ฟังจากตรงนี้ชัดเจนว่า เขาตัดสินใจเองไม่ได้เลย แก้ตัวเป็นลิงพันแห เพื่อจะบอกว่า #พรรคเพื่อไทย ไม่แก้ #มาตรา112 แน่นอน ผิดหวังครับ
https://youtu.be/gpGQ6NyCxXE?t=4954

ความพังพินาศจากผังเมืองเน่า ซอยตันเพียบ ขนส่งมวลชนห่วย ฟุตบาทแคบ ทำให้ทุกคนใช้รถ จนรถติดวิกฤติทุกเส้นทุกวัน ดูรถฉุกเฉิน ต้องมาติดแหง่กบนถนน เป็นภาพที่หดหู่และน่ากลัวชิบหาย

https://www.facebook.com/FootpathThaiStyle/videos/1293907498202928
ฟุตบาทไทยสไตล์
March 24
ความพังพินาศจากผังเมืองเน่า ซอยตันเพียบ ขนส่งมวลชนห่วย ฟุตบาทแคบ ทำให้ทุกคนใช้รถ จนรถติดวิกฤติทุกเส้นทุกวัน
สำหรับหลายคน…หมายถึงเวลาที่เสียไปบนท้องถนน
สำหรับหลายคน…หมายถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เสียไป
สำหรับหลายคน…หมายถึงความเบื่อเซ็งที่ไปไหนไม่ได้
แต่สำหรับบางคน…หมายถึง “ชีวิต” ของคนรักที่สูญเสียไป
เวลาแอดเห็นรถฉุกเฉิน(ทุกประเภท) ต้องมาติดแหง่กบนถนน หางแถวยาวเหยียด เป็นภาพที่หดหู่และน่ากลัวชิบหาย
นึกภาพว่าถ้าเป็นตัวเราหรือคนรักเราอยู่ในรถ…ชิบหายจริงๆ ครับ
#ฟุตบาทไทยสไตล์

น้องหยก เด็กผู้หญิงที่โดนหมายจับม.112เมื่ออายุ14ปี น้องปฏิเสธอำนาจศาล และไม่เข้าร่วมกระบวนการใดๆทั้งสิ้น รวมถึงไม่ยื่นประกันตัวเช่นกัน วันนี้น้องจะถูกส่งตัวไปที่สถานพินิจ


Nithiwat Wannasiri
5h
"เธอจึงหันหลังให้ลูกน้องของคู่กรณี"
น้องหยก Thanalop Phalanchai แสดงอารยขัดขืนต่อศาลที่เป็นลูกน้องของคู่กรณีในคดีมาตรา112 ของเธอ
ศาลอ้างว่าตนเป็นกลาง มาสั่งขังเด็กม.3 ด้วยมาตรา112
แต่ความเป็นจริงแล้วศาลไม่ได้เป็นกลาง
รูปคู่กรณีผู้เสียหายแห่งคดีแขวนอยู่เหนือบัลลังก์และการตัดสินในพระปรมาภิไธยของศาล คือหลักฐานประจักษ์ที่บ่งชี้ชัดเจนว่าศาลเป็นองค์กรใต้อำนาจ,เป็นลูกน้อง,เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ของคู่กรณีผู้เสียหายแห่งคดีมาตรา112นี้โดยตรง
ศาลจึงไม่มีศักดิ์และสิทธิ์ใดๆในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมในคดีมาตรา112
"สหายนอนน้อย" เธอศึกษาข้อกฎหมายเหล่านี้มาอย่างละเอียดยาวนานจนเธอมั่นใจในหลักการที่ถูกต้องกว่าลูกน้องของคู่กรณีของเธอ และเธอจึงลงมือทำให้ดู

Tawan Tantawan
13h
น้องหยก เด็กผู้หญิงที่โดนหมายจับม.112เมื่ออายุ14ปี
น้องปฏิเสธอำนาจศาล
และไม่เข้าร่วมกระบวนการใดๆทั้งสิ้น
รวมถึงไม่ยื่นประกันตัวเช่นกัน
วันนี้น้องจะถูกส่งตัวไปที่สถานพินิจ
หนึ่งในใจความจดหมายที่น้องหยกเขียนไว้เมื่อวาน กล่าวว่า “หากเห็นน้ำตาข้าพเจ้า ขอให้ทราบว่ามันเป็นปกติของมนุษย์ที่เสียใจเมื่อถูกจองจำอิสรภาพ
แต่น้ำตานั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่จุดจบกษัตริย์”


ไข่แมวชีส
10h
29 มี.ค.66 เวลา 17.05 น.
#หยก (สหายนอนน้อย) เยาวชนอายุ 15 ปี ได้ถูกส่งตัวไปถึงศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิง “บ้านปราณี” ที่ จ.นครปฐม แล้ว
ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนที่ตามมาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป
ทั้งนี้ การที่ #หยก ถูกควบคุมตัวไปที่สถานพินิจในครั้งนี้ เป็นเหตุมาจากการถูกออกหมายจับในคดี #มาตรา112 จาก สน.สำราญราษฎร์ โดยมี อานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา
ผู้ติดตามน้องหยก

‘อิลอน มัสก์’ นำทีมกูรูไอที วอนยุติพัฒนาปัญญาประดิษฐ์-อ้างสร้างความเสี่ยงต่อมนุษยชาติ



ที่มา VOA Thai
มีนาคม 29, 2023

อิลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา และผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รวมทั้งบรรดาผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ออกหนังสือเปิดผนึก เรียกร้องให้ระงับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังกว่า GPT-4 โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์รุ่นล่าสุดของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) เป็นเวลา 6 เดือน โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นความเสี่ยงต่อสังคมและมนุษยชาติ ตามรายงานของรอยเตอร์

หนังสือเปิดผนึกจากองค์กรไม่แสวงผลกำไร Future of Life Institute ลงนามโดยผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รวมทั้งบรรดาผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมากกว่า 1,000 คน อาทิ นักวิจัยจากบริษัทดีพไมน์ (DeepMind) โยชัว เบนจิโอ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน “เจ้าพ่อแห่งปัญญาประดิษฐ์” รวมทั้งมัสก์ ซึ่งรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของบริษัทเขาใช้ AI ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เรียกร้องให้ระงับการพัฒนา AI จนกว่าจะมีการจัดทำกฎระเบียบเกี่ยวกับการออกแบบปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนา การนำไปปฏิบัติ และได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอิสระ

บางส่วนของหนังสือเปิดผนึกนี้ ระบุว่า “ระบบปัญญาประดิษฐ์อันทรงพลังควรได้รับการพัฒนาเมื่อเรามั่นใจได้ว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบเชิงบวกและความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้”

รายละเอียดของหนังสือเปิดผนึกนี้ ยังอธิบายถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อสังคมในแง่ที่ว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ที่มีการทำงานแข่งขันกับมนุษย์จะทำให้เกิดการหยุดชะงักในด้านเศรษฐกิจและการเมือง และเรียกร้องให้ผู้พัฒนา AI ทำงานร่วมกับผู้กำหนดนโยบายในเรื่องการออกมาตรการควบคุมเพิ่มเติม

อ้างอิงจากข้อมูลของหน่วยงานด้านความโปร่งใสของสหภาพยุโรป องค์กรไม่แสวงผลกำไร Future of Life Institute ได้รับเงินสนับสนุนหลักจาก Musk Foundation, Founders Pledge และ Silicon Valley Community Foundation

เมื่อต้นเดือนมีนาคม บริษัทโอเพนเอไอที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัวโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ GPT (Generative Pre-trained Transformer) รุ่นที่ 4 ในชื่อ GPT-4 ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ใช้งานด้วยศักยภาพอันหลากหลาย ตั้งแต่การตอบโต้ด้วยสนทนาคล้ายมนุษย์ไปจนถึงการประพันธ์เพลงและสรุปความเอกสารยาวเหยียดได้ดั่งใจ



ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์นี้มีขึ้นหลังจากยูโรโพล แสดงความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าว และเตือนถึงโอกาสการนำไปใช้ในทางที่ผิด อย่างเช่น การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในรูปแบบฟิชชิง การนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน และอาชญากรรมไซเบอร์ และรัฐบาลอังกฤษเพิ่งเสนอกรอบการกำกับดูแล AI ขึ้นมาด้วยเช่นกัน

ทางโอเพนเอไอ ไม่ได้ให้ความเห็นต่อรอยเตอร์ในช่วงเวลาที่นำเสนอข่าวนี้

ที่มา: รอยเตอร์