วันเสาร์, ตุลาคม 31, 2563

ลุ้น 'บิ๊กเซอร์ไพร้ส์' งานแจกปริญญาพรุ่งนี้ หลังเพ็นกวินโดนตลุมบอนในรถตู้ตำรวจ


ชุมนุมรายวันวานนี้ไปไฮไล้ท์อยู่ที่โน่น หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นอกจากชูสามนิ้ว ร้องเพลง และปราศรัยแล้ว มีชุลมุนขนาดเบาะๆ เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์พยายามจะอุ้ม แกนนำเยาวชนที่ได้รับการปล่อยตัว

อ้างว่าจะพาไปลงบันทึกประจำวันเพื่อควบคุมตัวต่อ มีสาม สน.รอคิวจับยัดคุก หลังจากที่ศาลอาญา ยกคำร้อง ฝากขังสี่เยาวชนปลดแอก ไม้ค์ รุ้ง เพ็นกวิน และแบ๊งค์ มวลชนไปรอรับการปล่อยตัวแน่นหน้าเรือนจำ หมอลำแบ๊งค์ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ออกมาเป็นคนแรก

ขณะที่ทนาย นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ได้รับแจ้งจากตำรวจว่า “สภ.พระนครศรีอยุธยา สภ.เมืองอุบลราชธานี และ สภ.เมืองนนทบุรี ให้อายัดตัวรุ้ง ไม้ค์ และเพ็นกวิน ไปดำเนินคดีต่อ” ทนายแจงว่า “คดีนี้ตำรวจหมดอำนาจการจับกุมตัวไปดำเนินคดีอีก” เพราะเป็นคดีเก่า

แต่ตำรวจ สน.ประชาชื่นยังยืนยันว่าต้องทำตามระเบียบกฎหมาย แล้วปรากฏกลุ่มชายฉกรรจ์ (เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ) ล็อคตัว ภาณุพงศ์ จาดนอก และพริษฐ์ ชิวารักษ์ ขึ้นรถตู้นำไป สน.ประชาชื่นจนได้ พอถึงสถานีก็เกิดการชุลมุนสิ

ระหว่างเดินทางเพ็นกวินดิ้นขัดขืนจึงถูกบีบคอ มวลชนบางคนโวยว่าทั้งเพ็นกวินและไม้ค์ถุกกลุ้มรุมทำร้าย จึงเฮกันไปทำลายประตูรถดึงเอาแกนนำทั้งสองออกมา เพ็นกวินประกาศว่าเป็นการจับกุมไม่ถูกต้อง “ผมได้รับการปล่อยตัว” แล้ว

“แต่เขาพยายามอายัดตัวเราด้วยหมายจับที่จับไปแล้ว...เขาไล่ทนายออกไป เราขอทนายใหม่ เขาไม่ยอม ให้เรา เขาลากคอเราขึ้นมาบนรถ ตอนนี้ไมค์เป็นลมไปแล้ว” พยาบาลอาสาให้รายละเอียดว่า ภาณุพงศ์มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติและความดันต่ำ

หากอยู่ในที่แคบหรือขาดอากาศหายใจจะมีอาการวูบและน็อคได้ ส่วนพริษฐ์มีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด ทำให้การถูกคุมตัวในรถตำรวจวันนี้ส่งผลต่อทั้งคู่มากกว่าคนทั่วไป...นอกจากนี้ พริษฐ์มีอาการปวดบวมทั้งศรีษะ ไหล่ และแขนด้านขวา

ฝ่าเท้ามีสะเก็ดเศษแก้วฝังอยู่เกือบ ๒๐ ชิ้น ในศรีษะเกือบ ๑๐๐ ชิ้น ในหูราว ๗ ชิ้น พยาบาลนำเศษแก้วออกบ้างแล้วแต่ยังไม่หมด ควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล” ส่วนไม้ค์นั้นสลบไปแล้ว ต้องหามเอาตัวไปส่งโรงพยาบาล

มวลชนนำเพ็นกวินไปนั่งพักหน้า สน.นั้นเอง ช่วยกันประคบประหงม และเก็บเศษแก้วตามที่ต่างๆ ในร่างออกได้บ้างยังไม่หมด ขณะที่กลุ่มนักดนตรีบรรเลงอยู่ข้างๆ เพ็นกวินคว้าไมค์มาปราศรัย “ย้ำที่ตนเข้าคุกไปนั้น ไม่ใช่ในฐานะนักโทษแต่เป็นนักสู้

เสียใจที่ไม่ได้ร่วมชุมนุมกับม็อบราษฎร และเท่าที่ติดตามข่าวการเคลื่อนไหว เป็นเครื่องยืนยันว่า ซี่กรงขังดวงดาวได้ แต่ไม่สามารถขังแสงดาวได้” จากนั้นชักชวนปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งเฝ้าดูจากระเบียงชั้นสอง สน.มาร่วมปราศรัยด้วย

รุ้ง “มานั่งกับเพ็นกวินหน้า สน.ประชาชื่น ยืนยันจะรอจนกว่า สภ.เมืองอยุธยาจะเพิกถอนคำสั่ง ไม่เข้าใจว่า อภินิหารอะไรถึงจะมาควบคุมตัวเธออยู่แบบนี้ เพราะได้เคลียร์หมายไปหมดแล้ว ยืนยันเดินหน้าสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด”


รุ่งขึ้นแต่เช้าตรู่มีตำรวจนอกเครื่องแบบจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าไปยังเตียงนอนรักษาตัวของไม้ค์ในโรงพยาบาล เพื่อทำการจับกุม “#ไมค์ภาณุพงศ์ (จาดนอก) ปฏิเสธการจับกุม เนื่องจากการจับกุมเริ่มตั้งแต่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว”

ในที่สุดตำรวจยอมทำเอกสารการจับกุมที่โรงพยาบาลนั้นเอง ทนายเปิดเผยว่าเมื่อตำรวจแจ้งการจับกุมและสอบปากคำแล้ว “ภาณุพงศ์จะสามารถรักษาตัวอยู่ใน ร.พ.ต่อได้ โดยเป็นสิทธิของผู้ต้องหาเมื่อได้รับการบาดเจ็บต้องได้รับการรักษา”

แต่ว่าวันเดียวกันนี้ เป็นวันแรกของพิธีรับพระราชทานปริญญาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชทานด้วยพระองค์เอง เนื่องจากเป็นการพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์แด่พระราชินีด้วย ท่ามกลางกระแสบอยคอต


มีบัณฑิตเกือบครึ่งราว ๔๙% ร่วมรณรงค์ไม่เข้าพิธี ปรากฏว่ามีการนำกำลังตำรวจจำนวนมากเข้าไปรักษาความสงบภายในบริเวณมหาวิทยาลัย มีการตั้งด่านตรวจคนที่จะเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย นอกจากการตรวจโควิดแล้วยังตรวจบัตรประจำตัวอย่างละเอียด

ที่เหลวไหลที่สุดเป็นการตั้งด่านรักษาความปลอดภัย “ตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าไปภายใน มธ. เพื่อตรวจประวัติว่าเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือมีความเกี่ยวข้องกับการรณรงค์ไม่รับปริญญาหรือไม่” น่าจะเป็นเพราะมีข่าวปล่อยเรื่อง บิ๊กเซอร์ไพร้ส์

เพจชื่อ บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎรนำเสนอ คำใบ้ Big Surprise’ ว่ารอบนี้ ในวันที่ ๓๑ ตุลา วันที่สองของการพระราชทานปริญญาบัตร “รับรองว่าเสนาธิการและทีมที่ปรึกษษความมั่นคง ต้องหงายหลังแบบเบิ้มๆ แน่นอน”

กลายเป็นประเด็นร้อนให้ลุ้นกันทุกภาคส่วนยิ่งว่าเรื่องม็อบ ขนาดมีการใบ้ซ้อนใบ้ว่า จะถึงขั้นอธิการบดีต้องลาออก หรือนายกรัฐมนตรีได้รับพระราชทานเผือกร้อนกลับมา ไปจน ‘option’ ที่ประยุทธ์เบ้ไว้เหมือนกัน คือการยึดอำนาจรอบใหม่

(https://prachatai.com/journal/2020/10/90216, https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/2789438357943853, https://www.prachachat.net/breaking-news/news-547619 และ https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/2789669837920705?__tn__=-R)

"I Hear Too" บอกว่า เราไม่ได้รังแกใครนี่!! ฟังคลิปน้องๆในรถ "มันทำร้ายพวกผม"

เผื่อยังไม่เคยฟัง.... คำประกาศราษฎรที่เป็นมนุษย์ มิใช่ฝุ่นละอองธุลีพระบาท - รุ้ง ปนัสยา ทวงอํานาจคืนราษฎร 19 กันยายน 2563


คืนวันที่ 19 กันยายน 2563 ระหว่างที่ กองบก.ฟ้าเดียวกัน กำลังปิดต้นฉบับวารสารฟ้าเดียวกัน พร้อม ๆ กับการฟังการอภิปรายที่สนามหลวงของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

แนนอนว่าทุกคนเมื่อได้ฟังคำปราศรัยของ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ทุกคนเห็นร่วมกันว่านี่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของการเมืองไทย และมีกองบก.ท่านหนึ่งเสนอว่า ในฐานะคนทำหนังสือควรขอเอาคำปราศรับดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารฟ้าเดียวกันด้วย

ผมได้รับมอหมายให้ติดต่อขออนุญาตจากรุ้ง และได้การตอบรับอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับร่างคำปราศรัย

หลังจากนั้นทางกองบก.ก็ได้เอามาอีดิต จนกลายมาเป็น

คำประกาศราษฎรที่เป็นมนุษย์ มิใช่ฝุ่นละอองธุลีพระบาท :
จดหมายถึง ร. 10
โดย ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล
https://sameskybooks.net/index.php/product/9786167667904/

วารสารฟ้าเดียวกันวางจำหน่ายวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ทั้งที่เมืองทองและธรรมศาสตร์ ระหว่างนั้นผมก็ได้ติดต่อรุ้งเพื่อจะมอบวารสารเล่มนี้ให้ในฐานะนักเขียน แต่ก็คลาดกันหลายครั้ง

จนวันที่รุ่้ง ถูกจับวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ระหว่างที่เสียอิสรภาพนั้น

ใครก็รู้ว่าหนังสือที่จะอ่านในคุกได้ต้องไม่ใช่หนังสือ "การเมือง"

และเป็นไปไม่ได้ที่วารสารฟ้าเดียวกันจะเล็ดลอดเข้าไปได้

จนวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ช่วงเช้า ผมได้ลองเสี่ยงเอาวารสารไปฝากกับทนายเผื่อจะมีช่องทางไหน ส่งไปให้ได้บ้าง แต่ก็ไม่คาดหวังมาก

จนวันนี้ ช่วงบ่ายก็มีข่าวปล่อยตัวรุ้ง เพนกวิน ไมค์ แต่ก็มีข่าวร้ายตามมาด้วยการอายัดตัว จนกระทั่งไปอยู่ที่ สน.ประชาชื่น ผมได้ออกจากออฟฟิศประมาณ 4 ทุ่มเพื่อไปที่สน. ประชาชื่น และมีโอกาสได้เอาวารสารฟ้าเดียวกันไปให้คนเขียน 3 เล่ม (และมอบให้เพนกวินอีก 1 เล่มด้วย) หลังจากนี้ก็คงเป็นการโอนค่าเรื่องให้รุ้ง

เป็นอันว่า ในฐานะคนทำหนังสือ การที่ได้เอาบทความของผู้เขียนมาตีพิมพ์ กระบวนการบรรณาธิการ ตีพิพม์ ตลอดจนส่งมอบหนังสือให้ผู้เขียน ได้ถือว่าสิ้กนสุดแล้ว

แต่จนถึงเวลานี้ 02.41 ของวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ก็ยังไม่ีทีท่าวุ่ารุ้่งจะได้กลับบ้านแต่อย่างใด

ปล. วันนี้มีคนถามว่าเส้นของฟ้าเดียวกันอยู่ตรงไหน ผมตอบไปว่าอยู่ที่บริบทการเมืองด้วย และถามตัวเองด้วยว่าถ้าเมื่อ 18 ปีที่แล้วตอนเริ่มทำวารสารถ้ามีต้นฉบับของรุ้งส่งมา เราจะกล้าตีพิมพ์ไหม

แน่นอนว่าเราต้องลังเลใจไม่น้อย

https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/3693816870685125
...
คำปราศัยฉบับเต็ม


https://www.youtube.com/watch?v=Xf6TeljlYqM&feature=emb_logo


บันทึกการคุกคาม “บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร” หลังจากรณรงค์ให้คนไม่เข้ารับปริญญา และการกระทำอันน่าขยะแขยงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


iLaw
9h ·

บันทึกการคุกคาม “บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร” หลังจากรณรงค์ให้คนไม่เข้ารับปริญญา
.

หลังจากเริ่มก่อตั้งกลุ่ม #บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร กับเพื่อนๆ เพื่อรณรงค์ให้บัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เข้ารับปริญญา และจัดกิจกรรมตั้งสแตนดี้คนมีชื่อเสียงในฝ่ายประชาธิปไตย เช่น สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ให้บัณฑิตถ่ายภาพและจัดกิจกรรมปราศรัยเรื่องการไม่เข้ารับปริญญาในวันซ้อมรับปริญญา เมื่อวันที่ 23-24 ตุลาคม 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์

‘เนย’บัณฑิตจากวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกตำรวจโทรคุกคามและพยายามส่งเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านของเขาที่ต่างจังหวัด และต่อมาเมื่อถึงวันรับปริญญาจริงเนยก็พบว่าเมื่อเขาถูกตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีข้อมูลว่า "มีการรณรงค์ไม่รับพระราชทานปริญญาบัตร" ขึ้นในระบบของเจ้าหน้าที่คล้ายกับว่าเจ้าหน้าที่ทำได้การสืบค้นประวัติส่วนตัวเขามาแล้ว โดยเนยได้เล่าเรื่องราวการถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่ให้ไอลอว์ฟังทั้งหมดดังนี้
.
เนยเล่าว่าเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 13.00 น. พ่อของเขาโทรมาบอกว่ามีตำรวจท้องที่พยายามเข้าไปที่บ้านของเขาซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี แต่เมื่อตำรวจเข้าไปในหมู่บ้านไม่ได้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านไม่ให้เข้า จึงได้พยายามติดต่อกับหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อขอข้อมูลของเนย และแจ้งกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าเนย ทำการปราศรัยหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ อาจจะถูกออกหมายได้ จึงอยากจะฝากให้หัวหน้าหมู่บ้านแจ้งกับเนยว่าให้ติดต่อกลับกับทางตำรวจที่มาหาด้วย
.
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านคุยกับทางตำรวจเสร็จจึงโทรไปหาพ่อของเขา เพื่อให้เขาติดต่อกลับไปหาตำรวจ แต่เขาปฏิเสธที่จะโทรกลับไป แล้วฝากพ่อบอกหัวหน้าหมู่บ้านว่าให้เอาเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปให้หัวหน้าหมู่บ้านส่งต่อให้ตำรวจ แล้วให้ตำรวจโทรมาหาเขาเอง แล้วให้ตำรวจติดต่อเขาโดยตรงไม่ต้องติดต่อผ่านทางพ่อของเขา
.
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. มีตำรวจคนหนึ่งโทรมาหาเขา อ้างว่ายศพันตำรวจโท จาก สภ.สัตหีบ แจ้งกับเขาว่าทราบมาว่าเขาได้ทำกิจกรรม และปราศรัยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงอยากจะขอรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติเพิ่มเติม เช่น ชื่อ ที่อยู่ ทำงานอะไร สถานที่ทำงานอยู่ที่ไหน แต่เขาไม่ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจ โดยตอบไปว่า “ผมไม่มีนโยบายแจ้งประวัติส่วนตัวกับทางเจ้าหน้าที่รัฐ หากอยากได้ต้องหาตัวเขาให้เจอเอง” ซึ่งตำรวจแจ้งว่า เขามีที่อยู่ที่สัตหีบหมดแล้ว แล้วถามว่าอยู่ที่สัตหีบเป็นหลักหรือไม่ เมื่อเขาบอกตำรวจว่าไม่ได้อยู่ที่สัตหีบเป็นหลัก ตำรวจจึงขอที่อยู่ที่กรุงเทพ และถามถึงสถานที่ทำงาน แต่เขาไม่ไตอบ ตำรวจ คนดังกล่าวจึงได้แต่บอกว่าหากกลับมาที่สัตหีบขอให้ติดต่อมาด้วยแล้ววางสายไป
.
เนื้อหาการพูดคุยเท่าที่จำได้ ‘เนย’ เล่าว่า ตำรวจโทรหาเขาโดยไม่มีการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ตำรวจเน้นไปที่การขอข้อมูลส่วนตัว และแจ้งกับเขาว่าหากจะทำกิจกรรมไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำไป แต่อย่าพูดถึงหรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้ว่าตอนที่ตำรวจคุยกับเขาโดยตรงจะไม่มีการข่มขู่ แต่ตอนพูดกับประธานหมู่บ้านตำรวจได้พูดทำนองว่าเขามีโอกาสถูกออกหมายจับจากการปราศรัย
.
หัวหน้าหมู่บ้านบอกเขาด้วยว่า ก่อนหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สัตหีบ จะมาขอข้อมูลส่วนตัวของเขา ยังมีหน่วยงานความมั่นคง ไม่แจ้งสังกัดติดต่อมาที่หมู่บ้านเพื่อขอข้อมูลของเขา แต่หน่วยงานนั้นไม่ได้แจ้งชื่อ ชั้น ยศ หรือแสดงตัวว่าเป็นหน่วยงานใด แจ้งเพียงว่าเป็นฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าหมู่บ้านจึงไม่ได้ให้ข้อมูล และไม่ได้ดำเนินการติดต่อใดใดให้

หลังจากนั้นยังไม่มีการโทรหาหรือคุกคามใดๆเพิ่มเติมจนถึงขณะนี้
.
ต่อมาในวันนี้ (30 ตุลาคม 2563) ‘เนย’ แจ้งว่าในช่วงเช้าเขาไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อนำของไปให้เพื่อนในคณะของเขาที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร โดยเข้ามหาวิทยาลัยทางประตูท่าพระอาทิตย์ เมื่อถึงจุดตรวจตำรวจนั่งประจำอยู่ขอบัตรประชาชนของเขาไปเสียบกับเครื่องตรวจ ปรากฎว่าบนจอมีข้อความสีแดงๆขึ้น ตำรวจนายนั้นจึงแจ้งให้เขาไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามก่อนเพราะบัตรประชาชนมีปัญหา เนยจึงบอกตำรวจว่าจะไม่เข้าไปในมหาวิทยาลัยแล้วและขอบัตรประชาชนคืน แต่ตำรวจไม่คืนบัตรประชาชนให้เขาและนำไปส่งให้กับตำรวจที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้ามแทน
.
เมื่อตำรวจที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้รับบัตรประชาชนก็นำไปเสียบกับเครื่องอ่านบัตร และคุยกับคนที่น่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา แต่เนยไม่ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกัน เมื่อเกิดความสงสัยเนยจึงถามตำรวจว่า บัตรของเขามีปัญหาอะไร ตำรวจแจ้งว่า บัตรใบนี้มีชื่อซ้ำ เขาจึงขอดูจอคอมพิวเตอร์ตำรวจ เห็นว่า บนจอตรงชื่อของเขามีตารางขึ้นเป็นช่องๆประมาณ 3-4 ช่อง ช่องหนึ่งปรากฎข้อความ "มีการรณรงค์ไม่รับพระราชทานปริญญาบัตร" อีกช่องเห็นไม่ชัดแต่ข้อความยาวประมาณสองถึงสามบรรทัด ว่า "มีทัศนคติทางการเมือง..."
ทั้งนี้ตรงจุดตรวจไม่มีกระดาษติดรายชื่อลักษณะ "บุคคลต้องห้าม" แต่อย่างใด ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
.
หลังจากนั้นตำรวจยึดบัตรประชาชนของเขาไป เนยจึงสอบถามตำรวจว่าใช้อำนาจอะไรในการยึดบัตรประชาชนของเขา ตำรวจไม่ตอบแต่บอกว่าจะนำบัตรประชาชนไปตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมแล้วจะคืนให้ จากนั้นก็เดินจากไปโทรคุยกับผู้บังคับบัญชาประมาณ 5 นาที เมื่อตำรวจกลับมาเนยจึงถามว่า จะคืนบัตรประชาชนให้หรือยัง ตำรวจแจ้งว่ายังคืนให้ไม่ได้แล้วแต่นายจะให้คืนตอนไหน และขอให้เนยไปคุยด้านหลังจุดตรวจได้หรือไม่ แต่เนยปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะถูกจับเพราะเขามาคนเดียว เนยยืนยันว่าเขาจะนั่งคุยตรงจุดตรวจเท่านั้น เพราะเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน
.
ในเวลาต่อมาเพื่อนของเนยเดินมาหาเขาที่จุดตรวจและได้ถ่ายวีดีโอว่าเนยจะมางานรับปริญญาของเพื่อนแล้วถูกกักตัวอยู่ที่จุดตรวจหน้าประตูพระอาทิตย์ เนยพูดในคลิปวิดีโอด้วยว่าตำรวจพยายามกักขังหน่วงเหนี่ยวเขา พอตำรวจได้ยินเช่นนั้นก็นำบัตรประชาชนมาคืนให้เขา และออกสติ๊กเกอร์เข้างานให้ ขณะที่ถูกกักตัวอยู่เนยพยายามโทรหาอาจารย์ในคณะเพื่อขอให้คุยกับตำรวจ แต่ตำรวจไม่ยอมคุยโทรศัพท์กับอาจารย์ของเขา รวมเวลาที่เนยถูกกักตัวไว้ที่ด่านทั้งหมดประมาณ 10-15 นาที ก่อนที่เขาจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามปกติ จากการสอบถามเพิ่มเติมไม่ทราบว่าตำรวจที่มาตั้งจุดตรวจนั้นมาจากพื้นที่ใดบ้าง 

https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10164580161530551/
...


สุขุม สมหวัง ยังวัน
9h ·

ผมเคยภาคภูมิใจมาก ที่จบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มี อ.ปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้ประศาสน์การ
แต่วันนี้ เมื่อทางมหาวิทยาลัย ส่งข้อมูลส่วนตัวของบัณฑิต ทั้งข้อมูลว่าจะเข้ารับปริญญาหรือไม่ รวมถึงข้อมูลการเจ็บป่วยทางจิต ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้คัดกรอง ทั้งที่เป็นข้อมูลลับส่วนตัว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบัณฑิต
ความภูมิใจในเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยนี้ ก็มีอันต้องสูญสลายลง
ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยชุดนี้ โดยเฉพาะอธิการบดี พิจารณาตัวเอง เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำอันน่าขยะแขยงนี้โดยทันที!

https://www.facebook.com/photo?fbid=10217469625001260&set=a.1904046089588

'เพนกวิน' แฉ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' กล่อมให้แก้ รธน.ก่อน แต่ถูกสวนกลับให้บอกนายกฯลาออกก่อนค่อยคุยกัน



Voice TV
3h ·

23.10 น. แฉ 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' กล่อมให้แก้ รธน.ก่อน 'เพนกวิน' สวนให้บอกนายกฯลาออกก่อนค่อยคุยกัน เผย สภ.เมืองอุบลฯ ถอนหมายจับแล้ว บี้ สภ.อยุธยาถอนหมายทันที
.
เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร 2563 ได้แจ้งต่อมวลชนที่หน้า สน.ประชาชื่นว่า สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้ถอนหมายจับแล้ว เป็นชัยชนะก้าวแรกแล้ว ขณะที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา กำลังเดินทางมาเจรจาเพื่อขอถอนหมายจับ ตนจะเรียนไปถึงตำรวจที่มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ต้องเดินทางมาให้ถอนหมายจับไปเลย
.
เพนกวินระบุว่า ขณะตัวเองยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำนั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้มาเยี่ยม พร้อมบอกว่าจะให้นายกฯลาออกทำไม ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนได้หรือไม่ ตนจึงบอกว่าจะไม่คุยกับขี้ข้าเผด็จการ และข้างนอกไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้านายกรัฐมนตรียังชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนจึงย้อนไปว่า สมศักดิ์ เคยบอกว่ารัฐธรรมนูญออกแบบมาเพื่อพวกเขา จึงไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนได้ฝากข้อความไปยัง สมศักดิ์ เป็นข้อความสั้นๆ คือ "ฝาก สมศักดิ์ ไปบอกนายด้วย ลาออกเดี๋ยวนี้ ที่เหลือค่อยคุยกัน"
.
#Voiceonline
#คณะราษฎร2563
#ปล่อยเพื่อนเรา 

https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/photos/a.131804224847/10161078269294848/

รุ้งกับเพนกวินพ้นคุกได้มาอยู่ด้วยกันที่หน้า สน. แล้ว ไมค์โดนหนักขั้นเป็นลม รถฉุกเฉินหามส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว

sirote klampaiboon
@sirotek

เพนกวินพ้นคุก ประท้วงเดือดหน้าโรงพัก แฉโดนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบลากเข้าคุกหลังศาลสั่งปล่อย เผยดื้อแพ่งไม่ให้ลากจนบาดเจ็บ ไมค์โดนหนักขั้นเป็นลม รถฉุกเฉินหามส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว


ชวนอ่านข้อเขียนถึง รุ้ง และเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน จากเพนกวิน ในคืนอันวังเวง ในกรงขัง เรือนจำพิเศษกรุงเทพ



เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak
Yesterday at 7:00 AM ·

ข้อความจากเพนกวิน

แด่รุ้ง และเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน

ฟ้าชื่น ค่ำคืนหนาว ยะเยือกร้าวกระดูกไข
ลมพัด โหมตัดไอ ละอองฝน กระเซ็นสาย
มองเดือนก็เดือนดับ มองดาวอับ ลับแสงพราย
คืนนี้ นอนเดียวดาย ในกรงขัง อันวังเวง

เงี่ยหู ฟังซุ่มเสียง หาใช่เสียง ดนตรีเพลง
คือก้อย ร้อยบรรเลง แห่งคืนมืด ประโคมขาน

ที่ฟากคือฟ้าร้อง ใช่เสียงกลอง ย่ำโมงกาล
ที่ดัง แว่วกังวาล ใช่กระดิ่ง คือโซ่ตรวน
ที่พัดมาหวิวหวิว ใช่ขลุ่ยผิว หากลมหวน
ที่ขับ ดับทันควัน คือเสียงเพรียก ของผู้คน

เสียงคนผู้จนยากได้ยินจากทุกแห่งหน
เพลงเข็ญ ยังเล่นวน ดังลือเลื่อง มิเลือนหาย
คืนนี้ แน่คืนยาก ดังใจพราก พลัดจากกาย
ความเป็นคนมลาย พายุห่ำ กระพือโหม

เธออาจจะหวาดหวั่น เมื่อฟ้าลั่น ประจัญโจม
เสียงฟ้าที่ถาโถม ย่อมวัดมาตร ขนาดใจ
เหล็กกล้าที่แกร่งดี ต้องถูกตี และผลาญไป
คนกล้ายิ่งกว่าใคร ต้องผ่านภัย ใจจึงทน

มีสู้ย่อมมีเจ็บ และหนาวเหน็บ ในบางหน
แต่เพื่อประชาชน ยอมทนทุกข์ อย่างทนทาน
เพื่อเกียรติภูมิมั่น จงยิ้มหยัน อย่างอาจหาญ
แสนปืน ทั้งหมู่มาร หรือจะสู้เพียงหนึ่งใจ

ที่ยืนหยัดในศรัทธา ทนงกล้าบนทางไกล
อำนาจทมิฬใด มิอาจข่มให้ก้มหัว
แม้ฝนกระหน่ำฟ้า เผชิญหน้าอย่าเกรงกลัว
ประกาศให้รู้ทั่ว ว่าฟ้าใหม่ คืบใกล้มา

ถึงวันที่แสงส่อง อำไพผ่อง ทั่วท้องนภา
ผองคนบนผืนหล้า จะลั่นกลอง อย่างเกรียงไกร
วันนั้นคือวันพรุ่ง ย่ำเห็นรุ้ง อร่ามไกล
มวลชนจะมีชัย และเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์
ผู้ต้องขังทางการเมือง ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
29 ต.ค. 2563

https://www.facebook.com/paritchiwarakofficial/photos/a.216473859094561/878544409554166/


Sa-nguan Khumrungroj
4h ·

22:35 ภาพประทับใจหน้่า สน.ประชาชื่น
เมื่อ"รุ้ง"ร่ำไห้โผกอด "แอมมี"
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ"เพนกวิน"อีกครั้ง

รุ้งหน้าเปลี่ยน เพราะผมสั้นลง สีดำด้วย

(สำนักข่าวหงวน จัดให้)

#หยุดคุกคามเยาวชน

14 ปีที่แล้วของวันนี้(31 ตุลาคม 2006) วันแห่งการจากไปของคนขับแท็กซี่ที่ชื่อ "นวมทอง ไพรวัลย์"ผู้หาญกล้าชนกับรถถัง

 

Democracy After Death ลุงนวมทอง : เมื่อท่านห้ามฉาย เราจะเผยแพร่

https://www.youtube.com/watch?v=-pLK8BPqxwQ
...


"ชาติหน้าเกิดมา คงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก" : นวมทอง ไพรวัลย์

https://www.youtube.com/watch?v=W_z1a8kXifE

"นกตัวแรกที่ออกโผบินย่อมตกเป็นเป้าธนู"



Wilaipan Luangya
20h ·

The first bird to fly gets all the arrows - นกตัวแรกที่ออกบินย่อมตกเป็นเป้าธนู.

แน่นอนว่าไอเดียคือสิ่งสำคัญกว่าการยกย่องตัวบุคคล แต่ในท่ามกลางการต่อสู้เพื่อให้ไอเดียเหล่านั้นปรากฏ ต้องอาศัยคนและความกล้าหาญของปัจเจกบุคคล

โดยเฉพาะในการทลายเพดานข้อห้ามอันหนักหนาสาหัสรุนแรงที่สุดในสังคมไทย ย่อมต้องการความกล้าหาญและบุคคลที่กล้ารับความเสี่ยงแบบที่เราคิดไม่ออกเลย ว่าจะมี

แต่เราก็ได้เห็นคนหนุ่มสาวลุกขึ้นมาทำงานที่ยากหนักหนานี้ ยกระดับเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ใจกลางปัญหาของประเทศ แบบที่ไม่เคยคิดฝันถึงว่าจะได้เห็น

แต่เหมือนคำกล่าว The first bird to fly gets all the arrows - นกตัวแรกที่ออกบินย่อมเป็นเป้าธนู หนุ่มสาวเหล่านี้คือนกตัวแรกที่ออกบิน และยอมรับเอาลูกธนูทุกดอกที่พุ่งเข้าใส่แทนทุกคน รวมถึงการถูกกักขังในคุกในเวลานี้ โดยเฉพาะน้องรุ้ง ที่ถูกกักขังในทัณฑสถานหญิง ต้องอยู่เพียงลำพังไม่มีมิตรสหายนักเคลื่อนไหวคนอื่นติดอยู่ด้วย ยิ่งแอดอ่านคำบอกเล่าชีวิตในเรือนจำของรุ้งแล้ว ยิ่งเกิดคำถามในใจว่า ทำไมวะๆๆ จึงอยากขอให้กำลังใจ ไม่ว่าเสียงนี้จะไปถึงรุ้งหรือไม่ แต่อยากให้รู้ว่าความกล้าหาญของพวกคุณ คือรุ้งงามของยุคสมัย

ในวันที่พวกเขาไม่ลังเลที่จะกดหัวเราด้วยทุกอำนาจที่มี พวกเขาคงไม่รู้ว่าทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย อำนาจทางวัฒนธรรมที่เคยมีที่คนเคยยกย่องสรรเสริญทำปฏิทินให้ จะถูกสูบจนหมดสิ้นทุกๆนาทีจากนี้ไป แอดจะขอยกย่องแค่เพียงสามัญชนเหล่านี้แทน เพื่อให้รู้ว่าประชาชนย่อมอยู่สูงเหนือทุกสถาบัน! 

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10221457863648964&set=a.10203484777453042
...

Pipob Udomittipong
9h ·

“ถามว่ากลัวมั้ย กลัวแต่เราทำอะไรไม่ได้
สิ่งที่เราต้องทำคือ เชื่อมั่น
เชื่อมั่นว่าเพื่อนเราจะทำต่อได้
เชื่อมั่นว่ามวลชนจะขึ้นมานำแทนเราได้”
ไม่ยาวครับ ดูให้จบ นี่คือ "ผู้นำ" อย่างแท้จริง
อ.ทักษ์ เฉลิมเตียรณบอกในการประชุมผ่านซูมเมื่อวันก่อนว่า ผมอายที่คนรุ่นผมไม่กล้าจะพูดเหมือนน้องรุ้ง
ยินดีกับเสรีภาพชั่วคราวของทั้งสี่ท่าน
จาก https://youtu.be/gR9L-1yEvis

สารคดีสั้นจากสื่อออสเตรเลีย "ประเทศไทยบนปากเหว" (Thailand on the Brink) หาดูยากในไทย


The Australian Alliance for Thai Democracy ออสซี่ ขยี้เผด็จการ
October 28 at 8:54 PM ·

สารคดี SBS Dateline ตอนประเทศไทยบนปากเหว

ตอนนี้มีคลิปสารคดีสั้น ความยาว 25 นาที เรื่องนึงที่คนไทยหาดูได้ยากเย็นเหลือเกิน เพราะโดน geoblock จากคนทำสารคดีเอง
สารคดีนั้นชื่อว่า "ประเทศไทยบนปากเหว" (Thailand on the Brink) ทำโดย SBS ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อหลักของออสเตรเลีย เป็นสารคดีสั้นที่ดำเนินเรื่องอยู่รอบๆชีวิตของรุ้ง สาวแกร่งที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ก่อตั้ง และ แกนนำคณะราษฎร 2563
SBS ได้ส่งคนเข้าไป "ประกบ" รุ้ง ในช่วงตั้งแต่ก่อนเริ่มการชุมนุมใหญ่ 14 ตุลา 2563 เพื่อติดตามชีวิตของรุ้งแหละเหล่าแกนนำคณะราษฎร 2563 พร้อมสัมภาษณ์ความรู้สึก ก่อนตัดสินใจทำอะไรต่างๆ
และก็เป็น SBS นี้เองที่อยู่กับรุ้งในช่วงที่รุ้งโดนจับในโรงแรมรอบล่าสุด และถ่ายแทบทุกช็อตเก็บไว้ตลอด
และ ทุกช็อตนั้นอยู่ในสารคดีนี้
แม้ว่าในสารคดีรุ้งจะพูดภาษาไทยตลอด แต่การดำเนินรายการเป็นภาษาอังกฤษ เราจึงได้เอาคลิปสารคดีสั้นนี้มาใส่ sub ไทยแล้วเผยแพร่ให้ทุกคนได้ดูกันครับ

https://www.facebook.com/AusAllianceforTHdemocracy/videos/994803924329277

จีนอันตรายกว่าสหรัฐฯ สิ่งที่ #สลิ่ม ไม่เคยรับรู้

เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่เคยดูโฆษณานี้เพราะโฆษณาตัวนี้ผลิตเมื่อปี 2559 แต่โดนสั่งแบนห้ามฉาย!!

 ฉบับเต็ม


Banyong Pongpanich

จุดตายของรัฐวิสาหกิจไทย รัฐวิสาหกิจไทยมีปัญหามากมาย ที่มีกำไร ก็ล้วนมาจากการผูกขาด (Monopoly) หรือมีส่วนจากการผูกขาด ไม่ก็มีคู่แข่งน้อยราย (Oligopoly) แต่รายไหนที่ต้องแข่งกับเอกชน มีแต่ขาดทุนยับเยิน เช่น องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารที่เคยผูกขาด เคยทำกำไรได้สบายๆ แต่ประชาชนต้องใช้บริการที่ราคาแพง คุณภาพต่ำเตี้ยเมื่อเทียบกับนานาประเทศ แถมอัตคัตขาดแคลน ประชาชนคิดจะมีโทรศัพท์สักเครื่องต้องรอเป็นหลายปี จ่ายใต้โต๊ะวุ่นวาย แม้ต่อมาถึงยุคแบ่งสัมปทานไปให้เอกชนเข้ามาให้บริการด้วย (ซึ่งแท้ที่จริงก็คือการเอา ‘อำนาจผูกขาด’ ไปทะยอยแบ่งให้เช่าแก่เอกชน) ตัวเองที่ลงแข่งกับเอกชนผู้รับสัมปทานด้วยก็ขาดทุนมากมาย ในขณะที่เอกชนกำไรมหาศาลรวยเอารวยเอา 

หรือจะยกตัวอย่างกิจการด้านการขนส่ง ไม่ว่ารถไฟ รถเมล์ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หรือบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่ผิวเผินดูเหมือนเป็นธุรกิจผูกขาด แต่แท้จริงต้องแข่งกับทางเลือกอื่นๆ เช่น รถไฟต้องแข่งกับสายการบินต้นทุนต่ำ (low-cost carriers) รถทัวร์ และรถบรรทุก รถเมล์ต้องแข่งกับรถร่วม รถแท็กซี่ ไปจนถึงวินมอเตอร์ไซด์ ผลปรากฏก็เลยล้วนขาดทุนบักโกรกเป็นหลักหมื่นล้านแสนล้านกันทั้งนั้น 

อย่าง ‘การบินไทย’ รักคุณเท่าฟ้าก็เหมือนกัน เคยเป็นสายการบินชั้นนำของโลก มีกำไรต่อเนื่องมาช้านาน แต่พอถูกเปิดน่านฟ้าเสรี เปิดให้มีการแข่งขัน ซึ่งประชาชนอิ่มเอม ค่าเดินทางลดต่ำลง จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มพรวดจาก 10 ล้านคนเป็น 40 ล้านคน ชาวบ้านตาสีตาสามีทางเลือกเดินทางมากขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง ไฉน ‘ป้าม่วง’ ที่เคยยิ่งยงกลับกลายเป็นร่อแร่ ขาดทุนแทบทุกปีจนใกล้จะล้มละลาย 

หลายคนชี้นิ้วไปที่นักการเมือง โดยเฉพาะการส่งกรรมการที่ ‘ไม่เก่ง’ (ไม่มีทักษะ) ‘ไม่ดี’ (โกง) ‘ไม่เกี่ยว’(ไม่มีประสบการณ์) มาบริหาร ทำให้รัฐวิสาหกิจร่อแร่ 

แต่มันเป็นแค่นั้นจริงหรือ... 

อ่านที่มาของวีดีโอได้ที่: https://www.facebook.com/banyong.pong...


https://www.youtube.com/watch?v=jLNKPJRNtv4
ooo

 

SIRIVANNAVARI แบรนด์ที่นำเงินภาษีประชาชนไปใช้ในการโปรโมทสินค้า! กินเงินภาษีไปทั้งสิ้น 13 ล้านบาท

จดหมายจากทนายนักสู้ประชาธิปไตยถึงประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกประเทศนี้



Sa-nguan Khumrungroj
19h ·

#จดหมายจากทนายนักสู้ประชาธิปไตยถึงประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกประเทศนี้

29 ตุลาคม 2563

ถึง พี่เมทินี ชโลธร

พี่กับผมไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ผมขอแนะนำตัวก่อนว่าผมเป็นรุ่นน้องพี่ที่ธรรมศาสตร์

บังเอิญวันนี้พี่มีโอกาสไปทำงานในหน้าที่ที่มีความสำคัญต่อการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในตำแหน่งประธานศาลฎีกา

ส่วนผมตั้งแต่จบจากธรรมศาสตร์เมื่อ 41 ปีที่แล้วก็มาเป็นทนายความจนถึงทุกวันนี้

ผมคิดว่าในวันนี้เราทั้งสองมีหน้าที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมในส่วนที่พี่กับผมมีหน้าที่อยู่สามารถสร้างความเป็นธรรมและปกป้องผู้คนจากความยุติธรรม

ผมอยากบอกพี่ว่า ในสิบกว่าปีมานี้ ศาลยุติธรรมของพี่ ของผม และของคนไทยทั้งหมดถูกหาว่า ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นกลาง และมักจะโน้มเอียงไปทางผู้มีอำนาจทางการเมือง

ผมบอกน้อง ๆ นักศึกษาประชาชนที่ผมเป็นทนายความให้เสมอ ๆ ว่า มันไม่เป็นเช่นนั้นหรอก แต่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครเชื่อผมเลย

ยิ่งวันนี้มีคดีที่เสี่ยโป้ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณีบาดเจ็บ เป็นเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้นกลางเมือง และกล่าวหาว่าเสี่ยโป้เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง

ตำรวจมาฝากขังเสี่ยโป้ และคัดค้านการประกันตัว(อย่างพอเป็นพิธี) ข้อหาเสี่ยโป้คือพยายามฆ่าและอาวุธปืนซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกหลายสิบปี

ศาลให้ประกันตัวเสี่ยโป้ เงินประกัน 350,000 บาทโดยไม่มีเงื่อนไข(เช่นห้ามไปยิงใครอีกเหมือนกับที่ห้ามไปชุมนุมทางการเมืองอีก)

เรื่องของเสี่ยโป้จบ

แต่เรื่องของรุ้งกับเพนกวิ้นไม่จบ

วันก่อนผมยื่นขอประกันตัวรุ้งกับเพนกวิ้นสองนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ตำรวจฝากขังตามมาตรา 116 ซึ่งมีโทษสูงสุด 7 ปี แล้วตำรวจก็คัดค้านการประกันตัว(อย่าจริงจังมาก ๆ)

ศาลไม่ให้ประกันตัวเด็กทั้งสองคนโดยเหตุผลว่า โทษในคดีที่ถูกกล่าวหา(ทั้งที่ยังไม่ถูกตัดสินหรือพิจารณาคดีด้วยซ้ำ) มีอัตราโทษสูง(7 ปี) เกรงว่าให้ประกันตัวแล้วจะไปก่อให้เกิดความวุ่นวายตามที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก

ศาลขังเด็กทั้งสองคนไว้ในเรือนจำจนบัดนี้

อย่าเข้าใจผิดว่าที่ผมเขียนถึงพี่เพราะไม่ต้องการให้ศาลให้ประกันตัวเสี่ยโป้แต่อย่างใด เพราะผมเองยืนยันว่า ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเสี่ยโป้กระทำความผิดเขาก็ยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ตามหลักกฎหมายที่เราเรียนมา อิสรภาพของเสี่ยโป้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ศาลให้ประกันตัวผมเห็นด้วย

แต่ผมสงสัยว่า ศาลไม่ให้ประกันตัวรุ้งกับเพนกวิ้นด้วยเหตุผลที่รับฟังได้หรือไม่

พวกเราได้กระทำอะไรลงไปต่อกระบวนการยุติธรรมของประชาชน

พี่คิดยังไงครับ

ด้วยความนับถือ
กฤษฎางค์ นุตจรัส 

https://www.facebook.com/photo/?fbid=3430393500379408&set=a.139796502772474
...
Thanapol Eawsakul
6h ·
ตอนนี้เหมือนกับชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ กำลังยั่วให้ประชาชนหมดความอดทน ด้วยการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด
เมื่อมีคนฟิวส์ขาด ก็จะสร้างสถานการณ์ มาตลบหลังอีกรอบ


วันศุกร์, ตุลาคม 30, 2563

'เฮ้อ' โล่งอกไปทีเยอรมนีแจ้งแล้ว ไม่ใช่กรณี Pavin เอามาเม้าท์


เฮ้อ โล่งอกไปที เยอรมนีแจ้งแล้ว ให้พระเจ้าอยู่หัวไทยทรงงานได้เป็นครั้งคราวขณะประทับอยู่ที่นั่น จะได้มิต้องประทับอยู่ในไทยถาวร ดินน้ำลมไฟที่นี่ไม่ค่อยจะต้องพระวรกาย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนทำให้สุขภาพไม่เป็นใจ

ถ้าเกิดว่า ทรงพระเป๋ บ่อยๆ ดังคลิปที่ Snea P. Thinsan แชร์ ละแย่เลย และจะแย่ไปใหญ่หากประเด็นที่ Pavin Chachavalpongpun เอามาเม้าท์ เฮ้อ เหมือนกันเรื่อง “อาการทางสมอง...อีหรอบเดิม เมายา”

รัฐบาลเยอรมนีชี้แจงต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ ว่า ร.๑๐ของไทยสามารถประทับอยู่ในประเทศนั้นได้นานหลายๆ ปี และมีเอกสิทธิทางการทูตในฐานะประมุขแห่งรัฐ แต่ถ้าจะทรงปฏิบัติราชกรณียกิจทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเป็นนิจสินนั้น “ไม่ได้”

หากทรงงานบ้างเป็นครั้งคราวละก็ โอเค เท่าที่ผ่านมายังไม่พบว่าพระองค์ได้ทรงงานอย่างต่อเนื่องขณะประทับอยู่ที่นั่น แม้ “เป็นที่ชัดเจนว่าหลายคนมองว่าสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้นเป็นปัญหา” ดังคำถามในจดหมายเปิดผนึกของคณะราษฎร ๖๓ ผ่านทูตเยอรมันประจำไทย

จึงเป็นอันว่ารัฐบาลเยอรมันแก้ข้อกังขาไปได้เปลาะเล็กๆ เปลาะหนึ่ง ยังอีกสองสามเปลาะ เช่น ภาษีมรดกจากการโอนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งหมด และ “ข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยข้าราชบริพารของพระองค์”

นั้นสำนักข่าวบีบีซีไทยพยายามสอบถามเพิ่มเติมจากทูตเกยอร์ก ชมิดท์ “ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่สถานทูตว่านายชมิดท์ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ได้” ก็คงกลายเป็น คาราคาซังและจะยิ่ง พอกหางหมูเข้าไปอีกหลังจากม็อบสีลมวานนี้

ประเด็นไม่ใหม่ แต่ม็อบเยาวชนเอามาเปิดไฟใส่แสงสีให้เจิดจรัส จากการที่ แบรนด์ SIRIVANNAVARI ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนผ่านกระทรวงพาณิชย์ ๑๓ ล้านบาท จัดแฟชั่นโชว์เสนอผลงานออกแบบเครื่องแต่งกายสตรีชุดใหม่ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล

เยาวชนปลดแอกจัดชุมนุมเรียกร้องการตรวจสอบงบประมาณสถาบันกษัตริย์ “ปูพรมแดงบนถนนสีลม” แสดงแฟชั่นโชว์ ศิลปะราษฎรโดยมีนายแบบ นางแบบ “แต่งตัวเลียนแบบบุคคลสำคัญเดินออกมา ผู้ชุมนุมต่างปรบมือและโห่ร้องด้วยความชอบใจ”

นอกนั้นมีการแสดงภาพวาดศิลปกรรมมากมายกว่าร้อยชิ้น เรียงให้ชมยาวไปบนพื้นถนน พร้อมด้วยกลุ่มผู้แต่งกายแฟนซีแบบต่างๆ มินเนี่ยน หน้ากากผี และสตรีสูงศักดิ์ มีคนกางร่มเดินตาม อีกทั้งการแสดงดนตรีวงย่อยๆ หลายจุด บ้างเป็นการเต้นหมู่ ที่เรียกว่า คณะราษฎร์แด๊นซ์


“หน้าวัดแขกมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่น่าสนใจอันนึงก็คือมีคนนอนนิ่งๆ อยู่แล้วก็มีคนคอยทาสีน้ำเงินบนตัวไปเรื่อยๆ ความหมายโคตรลึกซึ้ง ถ้าอยู่เฉยๆ อยู่นิ่งๆ ไม่สู้อะไรสีน้ำเงินก็จะกลืนกินตัวตนไปจนหมด” Phattita Cheraiem เขียนเล่า

ไฮไล้ท์ของงานเป็นการปราศรัยของ อั๋วจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์อีกหนึ่งดาวเด่นเยาวชนปลดแอก กล่าวถึงการใช้งบประมาณของรัฐไปอุดหนุนกิจการส่วนตนว่า “ทั้งหมดนี้ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเงินนั้นไม่ใช่เงินจากภาษีประชาชน”

ดูเหมือนอั๋วจะเป็นดาวเด่นของเยาวชนปลดแอกที่ยังเหลืออยู่นอกคุกไม่กี่คน นอกนั้นถูกตำรวจและศาลขานรับกันอายัตตัว ควบคุมตัว พอได้รับการประกันคดีนี้ ก็มีคดีใหม่มารออาตัวไปคุมขังต่อ โดยเฉพาะแกนนำ ๓ คนที่ไปยื่นจดหมายต่อสถานทูตเยอรมันจวนเต็มที

วันนี้ (๓๐ ตุลา) “ตร.ขออนุมัติหมายจับ มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล พร้อมพวกรวม 5 คน ในคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้” แต่ศาลยังไม่อนุมัติ ให้เหตุผลว่าเป็นนักศึกษา “ให้ตร.ออกหมายเรียกตามขั้นตอนปกติ”

@KhaosodOnline เผยว่า “สำหรับ #ไผ่ดาวดิน ที่เข้าไปยื่นหนังสือในสถานทูตเยอรมัน ตร.ยังไม่มีหลักฐานเอาผิด เพราะไม่แน่ชัดว่ายื่นเอกสารอะไรในสถานทูต และไม่ได้ปราศรัยใดๆ” แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับตำรวจยุค คอแดง นี้

ที่สามารถกล่าวหาเยาวชนให้เป็นความผิดร้ายแรงยิ่งกว่า สั่งฆ่าคนได้ เช่นการไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสถานทูตเยอรมัน นั่นตำรวจแจ้งความผิดว่า “สร้างความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร” ตาม ม.๑๑๖

ถึงกระนั้น มีหรือเยาวชนผู้กล้าจะยอมยั่น วันนี้ คณะราษฎร ๖๓ ประกาศชุมนุมรายวันอีกอย่างน้อยๆ ๓ จุด ที่หน้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หน้าเดอะมอลล์ บางกะปิ และที่เซ็นทรัลเวสต์เกต นนทบุรี ดูสิจะมีมุขใหม่อะไรออกมากระทุ้ง ‘old regime’ ให้หน้าหงาย

(https://www.bbc.com/thai/thailand-54728799lNzHs, https://www.facebook.com/waymagazine/posts/10157361902676456 และ https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/2788574758030213) 

แค่เห็นป้ายไม่เยี่ยวแตกก็คลั่ง #ม็อบ29ตุลา "เยาวชนปลดแอก" ปูพรมแดงบน ถ.สีลม จัดแฟชั่นโชว์และงานแสดง "ศิลปะราษฎร" เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์



บีบีซีไทย - BBC Thai
5h ·

เรียกร้องตรวจสอบการใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ผ่าน "ศิลปะราษฎร"
.
ผู้ชุมนุมนำโดยกลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" ปูพรมแดงบน ถ.สีลม จัดแฟชั่นโชว์และงานแสดง "ศิลปะราษฎร" เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
.
แฟชั่นโชว์บน ถ.สีลมในวันนี้ (29 ต.ค.) มีขึ้นในเวลาใกล้เคียงและในวันเดียวกับการจัดแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลกชันล่าสุดของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
.
เวลาประมาณ 18.00 น. ตำรวจ สน.ยานนาวา นำประกาศมาแจ้งว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และสั่งให้ผู้จัดการชุมนุมยุติการชุมนุมภายในเวลา 19.00 น. แต่ผู้ชุมนุมยังคงเดินทางมาเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ
.
การแสดงแฟชั่นโชว์บน "People’s runway" เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. เมื่อ "นายแบบ-นางแบบ" แต่งตัวเลียนแบบบุคคลสำคัญเดินออกมา ผู้ชุมนุมต่างปรบมือและโห่ร้องด้วยความชอบใจ
.
นอกจากแฟชั่นโชว์ ยังมีการนำภาพศิลปะกว่าร้อยภาพวางเรียงบนพื้นถนน และการจับกลุ่มแสดงดนตรีและเต้นโคฟเวอร์
.
น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หนึ่งในผู้จัดการชุมนุม ปรากฏตัวบนพรมแดงพร้อมโบว์สีขาวขนาดใหญ่บนศีรษะ เธอกล่าวย้ำข้อเรียกร้อง 3 ประการของผู้ชุมนุม เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ พร้อมกับแสดงความผิดหวังต่อการประชุมสภาสมัยวิสามัญเมื่อวันที่ 26-27 ต.ค. ที่ไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้



https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/2788574758030213

Atukkit Sawangsuk
2h ·

รู้สึกทึ่งกับคนรุ่นใหม่ได้ไม่หยุด
หลังม็อบ "ข้ามแม่น้ำ" ไปสถานทูตเยอรมัน
หลัง ส.ว. ส.ส. สอพลอ ถ่มน้ำลาย
หลังเสื้อเหลืองปลุกพลังออกมาคลั่ง
ผมคิดแทนหัวแทบแตกว่า แล้วม็อบจะทำไงอีกวะ
เพราะพีคไปแล้ว พีคแล้วพีึีคอีก ผู้มีอำนาจก็ยังทำมองไม่เห็น ดันทุรัง
ใช้กฎหมายอำมหิตไล่จับกุมคุมขัง
จะระดมกัันออกมาแฟลชม็อบ ก็เท่านั้น
:
ที่ไหนได้ ม็อบพลิกออกมาเป็นงานแสดงศิลปะ
ถนนคนเดิน แฟชั่นโชว์ แดนซ์กระจาย แต่งกายล้อมินเนี่ยน ฯลฯ
กลายเป็นการแสดงออกที่สนุกสนาน หลากหลาย ตื่นตาตื่นใจ สร้างสรรค์ และแสบสันต์
(ฝ่ายนั้นเห็นภาพเดินแฟชั่นแล้วคงคลั่ง)
นี่เป็นการรักษาระดับ ระหว่างสถานการณ์ยังตรึงกัน
ทั้งประกาศพลัง ไม่ถอย ไม่กลัว แถมยังกวน teen ได้อีก
ทำให้ฝ่ายนั้นคลั่ง แต่ทำอะไรไม่ได้
คนรุ่นเก่าคิดอย่างนี้ไม่ได้นะ
จะคิดได้แค่บุกสภาบุกทำเนียบยกระดับแสดงความโกรธ
อันนี้กลับปิดถนนจัดเฟสติวัลสนุกสนานพร้อมหยามอำนาจ

(ร้านค้าร้านอาหารแถวนั้นแทนที่จะเดือดร้อนก็คึกคักไปด้วย)


iLaw
6h ·

29 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนัดจัดกิจกรรม #ภาษีกู สืบเนื่องจากประชาไทรายงานเนื้อหาเรื่องงบประมาณสถาบันพระมหากษัตริย์ปี 2563 มีส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายโดยตรงของกระทรวงต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 13 ล้านบาท ภายใต้การดำเนินงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำหรับโครงการจัดแสดงสินค้าแนวใหม่ในต่างประเทศสำหรับแบรนด์ Sirivannavari นำไปสู่การจัดกิจกรรมเดินแบบและจัดแสดงศิลปะของประชาชนเพื่อแสดงออกถึงความต้องการในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ลำดับเหตุการณ์
16.12 น. พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มีการประสานความร่วมมือกับกลุ่มแกนนำอยู่แล้ว จะพยายามแจ้งให้ทราบว่า การชุมนุมยังไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่อยากจะให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนก่อน เพราะการชุมนุมในกรุงเทพวันนี้ทั้ง 3 จุดมีรายงานการแจ้งการชุมนุมเพียงจุดเดียวคือที่สกายวอล์ค ปทุมวัน การอำนวยสะดวกในวันนี้จะให้ตำรวจจราจรมาช่วยระบายรถ เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องการเตรียมกำลังตำรวจ พ.ต.อ.กฤษณะตอบว่า กำลังของตำรวจไม่ใช่ประเด็น เราอยากให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ผู้ดูแลพื้นที่หลักๆเป็นตำรวจพื้นที่ พื้นที่นี้มีสามสน. คือยานนาวา บางรักและทุ่งมหาเมฆ
16.56 น. ประชาชนมารวมตัวกัน 2 ที่คือ ที่หน้าวัดแขกและที่บีทีเอสศาสลาแดง บริเวณวัดแขกเริ่มปิดถนนฝั่งตรงข้าม โดยมีการขึ้นป้าย “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” และ “หมุดราษฎร 2020”
17.00 น. ฝั่งตรงข้ามวัดแขกมีการขึ้นรูปกราฟฟิกของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลและปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
17.03 น. บริเวณบีทีเอสศาลาแดงหน้าห้างเซ็นทรัลสีลมมีผู้ชุมนุมอย่างน้อย100 คน มีบางส่วนยืนอยู่บนบีทีเอสและจะไม่มีการเดินเคลื่อนย้ายไปวัดแขก มีการเปิดเพลงผ่านลำโพง แล้วใช้โทรโข่งปราศรัยกันอยู่เรื่อยๆ โดยผู้คนนั่งและยืนฟังกันหน้าบันไดหน้าห้างเซ็นทรัลสีลม
17.06 น. ถนนสีลมปิดการจราจรเป็นที่เรียบร้อยและมวลชนเริ่มลงถนน ปูพื้นด้วยป้ายไวนิลภาพกราฟฟิคที่สื่อความหมายทางการเมือง
17.07 น. มีชาย 2 คนแต่งตัวแฟนซีชูป้ายว่า ภาษีกู
17.20 น. บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลสีลม มีชาย 2 คนนำแตรที่ประดิษฐ์ด้วยขวดพลาสติกกับแก้วพลาสติกมาต่อกัน โดยตำรวจในและนอกเครื่องแบบวางกำลังโดยรอบและมีการถ่ายภาพเพื่อเก็บบันทึกข้อมูลตามที่ตำรวจมักจะแจ้งไว้
17.30 น. ตำรวจนำเอกสารประกาศเจ้าพนักงานการชุมนุมสาธารณะมาแจ้งต่อผู้จัดกิจกรรมระบุว่า การชุมนุมนี้ยังไม่ได้แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.สาธารณะต่อตำรวจ จีงเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เลิกการชุมนุมภายในเวลา 19.00 น.
17.48 น. มีผู้ชุมนุมยืนอยู่บนบีทีเอสศาลาแดงและบันไดด้านเดียว ตามที่เจ้าหน้าที่บีทีเอสแจ้งว่า ให้ยืนชิดด้านเดียวเพื่อให้เหลือพื้นที่ไว้ให้ผู้สัญจรผ่านไปมาเดินได้
18.00 หลังจากยืนตรงร้องเพลงชาติพร้อมชู 3 นิ้วจบ ผู้ชุมนุมก็ทยอยกันเดินลงถนนบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลสีลม เพราะผู้คนหน้าห้างหนาเซ็นทรัลสีลมแน่นมากแล้ว เวลาดังกล่าวมีการปิดถนนไป 2 เลนเหลือ 1 เลนไว้ให้รถวิ่งได้
18.08 น. ด้านหน้าบีทีเอสศาลาแดง มีการปิดถนนหน้าห้างเซ็นทรัลสีลมทั้ง 3 เลน แต่ถนนอีกฝั่งรถยนต์ยังสัญจรได้ และกำลังเดินมุ่งหน้าไปทางวัดแขก ขณะที่ถนนสีลม ด้านหน้าวัดแขก ผู้ชุมนุมมีการปิดถนนทั้งสอง นำพรมแดงไปปูที่ถนนและเริ่มเดินแฟนชั่นโชว์
18.37 น. มีผู้สวมชุดแฟนซีใช้โทรโข่งปราศรัยตั้งคำถามถึงการใช้ภาษีภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์และกล่าวต่อว่า เหตุผลที่เราออกมาบนถนนสีลมวันนี้ เราออกมายืนยันว่า ราษฎรทุกคนมีสิทธิในการเดินบนพรมแดงทัดเทียมกัน พรมแดงผืนนี้เป็นของราษฎรใครอยากเดินสามารถเดินได้เลย แล้วใครที่บอกว่า เราปิดถนนเราสร้างความเดือดร้อน ถนนทุกเส้นสร้างมาเพื่อให้ทุกคนใช้ บนฟุตบาทไม่พอใช้ก็ต้องลงมาบนถนน เราทำถนนคนเดินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าซีไอเอมีเงิน
20.30 น. กิจกรรมเสร็จสิ้น
Kan Sangtong & Chana La
#ม็อบ29ตุลา #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

เจ้านายรู้ยัง ลูกสมุน ‘มินเนียน’ เข้าแก๊งไหน หัวหน้าตายเรียบ!


...

The MATTER
Yesterday at 8:30 AM ·

Naidu! Tank Yu! รู้จัก ‘มินเนียน’ ลูกสมุนตัวร้าย เข้าแก๊งไหน หัวหน้าตายเรียบ
.
Bello! (ตะหวัดดี) ถ้าพูดถึงตัวการ์ตูนสีเหลืองจอมทะเล้น สุดน่ารัก คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘มินเนียน’ ลูกสมุนผู้จงรักภักดี ที่คอยรับใช้เจ้านายจอมวายร้ายไม่ยอมห่าง จนต้องเอ่ยปากชมว่า Naidu! Tank Yu! (เก่งมาก! ขอบใจ!) แต่การเป็นมินเนียนนั้นไม่ง่ายหรอกนะ ถ้ารู้ประวัติความเป็นมาของพวกเขา จะรู้ว่าไอ้ต้าวตัวเหลืองพวกนี้น่าเห็นใจมากทีเดียว
.
‘มินเนียน (minions)’ เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่อยู่มานาน หลายยุค หลายสมัย แต่ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลามานานเท่าไหร่ เป้าหมายของพวกเขาก็มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ แสวงหาจอมวายร้ายมาเป็นเจ้านาย แล้วรับใช้อย่างสุดความสามารถที่มี เพราะมินเนียนแปลว่า บุคคลทีไม่ค่อยมีความสำคัญ หรือผู้ติดตาม ลูกสมุนของผู้มีอำนาจ (an unimportant individual, a follower of a powerful person)
.
หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Minions ก็จะเห็นประวัติศาสตร์การรับใช้จอมวายร้ายที่ยาวนานของพวกเขา ตั้งแต่สัตว์โลกยุคดึกดำบรรพ์ วิวัฒนาการมาเป็นยุคหิน ยุคอียิปต์โบราณ ยุคมืด ยุคปฏิวัติฝรั่งเศส มาจนถึงยุคปัจจุบัน ที่พวกเขากำลังรับใช้ ‘มิสเตอร์กรู’ สุดยอดอาชญากรและหัวขโมย
.
แม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ แต่หลายครั้งจะเห็นได้ว่า พวกมินเนียนมักจะทำเจ้านายของตัวเอง ‘ฉิบหาย’ เช่น ทำไดโนเสาร์ตกลงไปในลาวา ทำพีระมิดหล่นทับผู้ปกครองอียิปต์ เปิดผ้าม่านเซอร์ไพรส์วันเกิดแวมไพร์ หรือทำปืนลั่นใส่นโปเลียน ด้วยความใสซื่อ เด๋อด๋า และซุ่มซ่ามของพวกเขาเอง จนเรียกได้ว่า ไปเข้าแก๊งไหน หัวหน้าตายเรียบ!
.
อ่านเพิ่มเติมที่ https://thematter.co/social/naidu-tankyu-minions/127197



(https://www.facebook.com/thematterco/photos/a.1735876059961122/2730285683853483/)

Germany does not believe Thai king has breached state business ban, but it is very obvious that many find what the Thai king is doing very problematic (อย่าเพิ่งเสียใจ Great things always begin from the inside)

Germany does not believe Thai king has breached state business ban: source

By Caroline Copley
Reuters

BERLIN (Reuters) - Germany does not believe that Thailand’s king has so far breached its ban on conducting politics while staying there, a parliamentary source said on Wednesday, after lawmakers were briefed by the government.

Thai protesters asked Germany on Monday to look into whether King Maha Vajiralongkorn, 68, had conducted state business, such as the signing of royal commands and the annual expenditure act while he was on German soil.

Germany has said it would be unacceptable for the king to conduct politics there and Foreign Minister Heiko Maas said the European power continued to look into his behaviour during sojourns in Bavaria.

Following a meeting of the Bundestag’s foreign affairs committee, the source said the government had briefed lawmakers that it believes the king is permitted to make occasional decisions, as long as he does not continuously conduct business from German soil.

“The German government has taken the view that it is not yet of the opinion that the Thai king has continuously conducted business,” the source said.

When asked about the status of the king, the government told the committee he has a visa that allows him to stay in Germany for several years as a private person and also enjoys diplomatic immunity as a head of state.

Thailand’s political crisis has made the king’s presence a challenge for Germany, but revoking the visa of a visiting head of state could cause a major diplomatic incident.

“It is very obvious that many find what the Thai king is doing very problematic, but the government says it is not yet the problem of continuous government business,” the source said.
...
ภาพจาก
Takerng Pattanopas

2 เวทีแคทวอร์ควันนี้ เวที1. นำเงินภาษีประชาชน 13 ล้านไปใช้ในการโปรโมทสินค้า! SIRIVANNAVARI โรงแรมโอเรียเต็ล 2. PEOPLE’s RUNWAY ถนนสีลม ประชาชนระดมเงินกันเอง

Thanapol Eawsakul
2 hours ago

2 เวทีแคทวอร์ควันนี้
ภาพแรก SIRIVANNAVARI BANGKOK โรงแรมโอเรียเต็ล
จะมีการเดินแบบ Autumn/Winter Collection ที่สีลม ซึ่งเป็นแบรนด์ที่นำเงินภาษีประชาชนไปใช้ในการโปรโมทสินค้า! ในชื่อโครงการจัดแสดงสินค้าแนวใหม่ในต่างประเทศสำหรับแบรนด์ Sirivannavari (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ )กินเงินภาษีไปทั้งสิ้น 13 ล้านบาท

ภาพต่อมา PEOPLE’s RUNWAY ถนนสีลม
ประชาชนระดมเงินกันเอง
https://www.facebook.com/FreeYOUTHth/posts/377798493669214

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/3690623321004480)
...

 
..
เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH
13h ·

วันนี้ SIRIVANNAVARI BANGKOK จะมีการเดินแบบ Autumn/Winter Collection ที่สีลม ซึ่งเป็นแบรนด์ที่นำเงินภาษีประชาชนไปใช้ในการโปรโมทสินค้า! ในชื่อโครงการจัดแสดงสินค้าแนวใหม่ในต่างประเทศสำหรับแบรนด์ Sirivannavari (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ )กินเงินภาษีไปทั้งสิ้น 13 ล้านบาท
.
แต่ SIRI หรือจะสู้ PEOPLE's RUNWAY!
17.00 วันนี้! พร้อมกันจากวัดแขกยาวไปตลอดสีลม!
เพราะทุกที่คือ RUNWAY!
.
อ้างอิง
งบประมาณสถาบันกษัตริย์: https://prachatai.com/journal/2020/03/86761

#ม็อบ29ตุลา

#unmutepeople - "The greatest privilege that comes with freedom of speech is using your voice for those who don't have one"


Unmute People โปรเจกต์ที่ศิลปินไทยกว่า 60 ชีวิตโพสต์คลิปดนตรี ‘ไร้เสียง’ เรียกร้องให้เคารพสิทธิเสรีภาพ

โดย อรัณย์ หนองพล
29.10.2020
The Standard

ศิลปินไทยกว่า 60 ชีวิตโพสต์คลิปการแสดงดนตรีของพวกเขาแบบ ‘ไร้เสียง’ ในโปรเจกต์ Unmute People เพื่อเรียกร้องให้รัฐเข้าใจและให้สิทธิเสรีภาพกับเสียงของประชาชน ซึ่งนับว่าเป็นการรวมตัวกันของศิลปินไทยจำนวนมาก และต่างสร้างสรรค์ดนตรีไร้เสียงของตัวเองกันออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด

Unmute People คือโปรเจกต์ Online Music Festival ที่เหล่าศิลปินไทยกว่า 60 ชีวิตร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยในทีแรกนั้นถูกนำเสนอว่าเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์จากศิลปินที่จะนำเพลงสุดพิเศษของตัวเองมาโชว์กันแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ก่อนที่เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เหล่าศิลปินในโปรเจกต์นี้จะโพสต์คลิปดนตรีของตัวเองแต่กลับ ‘ไร้เสียง’ ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า เสียงของพวกเขาถูกปิด ก็เหมือนกับเสียงของประชาชนที่กำลังจะถูกปิดเช่นกัน

ศิลปินในโปรเจกต์นี้ก็มีตั้งแต่ Polycat, Tilly Birds, Max Jenmana, Loserpop, Safeplanet, Bowkylion, ว่าน วันวาน, อัด อวัช, Gym and Swim, Rap Against Dictatorship, Fluffypak, TELEx TELEXs, t_047 เป็นต้น ซึ่งพวกเขาต่างสร้างสรรค์คลิปไร้เสียงของตัวเองออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด แม้ว่าผู้ชมหลายคนจะพยายามกดเร่งเสียงจากเครื่องของตัวเองแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ Unmute People ยังมาพร้อมกับ 3 ข้อเรียกร้องที่ตั้งใจส่งไปถึงแฟนเพลงของพวกเขา และส่งต่อไปยังสังคมภาคใหญ่นั่นคือ

ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออกทางความคิดอย่างเท่าเทียม โดยไม่ถูกแทรกแซงคุกคามจากอํานาจรัฐ ตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

ประชาชนทุกคนที่ถูกควบคุมตัวจากการแสดงออกทางความคิดด้วยเจตจํานงเสรี จะต้องได้รับการปลดปล่อยจากการจับกุม

รัฐต้องคืนอิสรภาพในการแสดงออกให้แก่สื่อมวลชนทุกแขนง ไม่ใช้อํานาจในการตั้งข้อจํากัด หรือปิดกั้นการนําเสนอข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

สามารถติดตามเรื่องราวของ Unmute People เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/unmutepeople และพวกเขาอาจจะมีอะไรออกมาให้เราได้ชมกันอีกเร็วๆ นี้
...


จุดเริ่มต้นของ ประชาธิปตาย พาร์ท 1 'สภาพสังคมที่โตมา' ของ Gens แห่งการเปลี่ยนแปลง



DIEMOCRACY ประชาธิปตาย
14h ·

จุดเริ่มต้นของ ประชาธิปตาย
พาร์ท 1 'สภาพสังคมที่โตมา'
ปัจจุบันเราอายุ 24 เราเป็นเด็กไทยทั่วไปที่โตพร้อมกับสภาพแวดล้อม
และสังคมที่หลายๆเรื่องถูกตีกรอบว่า
“ นี้ นั้นโน้น เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆอย่างเราไม่ควรยุ่ง”
ที่เราไม่สามารถออกความเห็นต่อสิ่งที่เราไม่เห็นชอบ หรือหนักไปกว่านั้น
คือไม่สามารถแม้จะตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เราสงสัย เพราะเราจะถูกตำหนิได้ดื้อๆว่า “เป็นเด็กจะไปรู้อะไร” “อย่าเถียงผู้ใหญ่” หรือ “หาเงินได้ก่อนค่อยพูด” ทำให้เราโตมากับการที่ไม่ค่อยมี critical thinking (คิดเชิงวิพากษ์)
และไม่มีความความกล้าในการตั้งคำถามเท่าไหร่
แน่นอนเรื่องการเมืองคือหนึ่งในนั้น
ความขัดแย้งทางการเมืองมีมาตั้งแต่เราเกิด
เราโตมาพร้อมกับการชุมนุมทางการเมืองมากมายไม่ว่าจะเป็น
เหลือง แดง กปปส.
รวมถึงวาทะกรรมหลายๆอย่างเช่น
นักการเมืองมันเลว มันคอรัปชั่น โกงกินประเทศชาติ
เผาบ้านเผาเมือง ล้มเจ้า และอื่นๆอีกเยอะมากๆ
และที่สำคัญคือการผ่านการรัฐประหารถึงสองครั้ง
ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 20 กว่าปีที่โตมา
เราโตมากับสภาพสังคมที่ถูก shape มาให้เรามองว่า
“การเมืองมันก็เป็นแบบนี้แหละ แก้ไม่ได้หรอก”
“มันเป็นเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึงนะ มันอันตราย”
“จะเลือกใครมามันก็เลวเหมือนกันหมด อย่าไปสนใจเลย”
มันเลยทำให้เรามองและคิดแบบนั้นไปโดยอัตโนมัติ
หลักๆแล้วเราก็เคยเป็นเด็กคนนึงที่โตมากับการที่ไม่ได้สนใจการเมือง
ไม่เข้าใจระบบ ไม่รู้ศัพท์ทางการเมือง ไม่ใส่ใจในความผิดปกติ
หนักที่สุดคือไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร
และไม่รู้ว่าสิทธิพื้นฐานของมนุยษ์คืออะไรและมีอะไรบ้าง
เรียกง่ายๆบ้านๆว่าไม่สนใจและไม่รู้อะไรเลย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการที่โตมาในสภาพสังคมแบบนี้
ไม่ใช่ว่าเราอยู่ท่ามกลางนักการเมืองไทยที่โกงกินอย่างที่เขาว่า
ไม่ใช่ว่าการรัฐประหารนั้นใครเข้ามายึดอำนาจ
ไม่ใช่ว่าเขาเข้ามาแล้วจะทำดีไม่ดีหรือจะกุมอำนาจไว้นานแค่ไหน
แต่มันคือการที่เราเคยไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับมันเลยต่างหาก
แล้วมองว่ามันคือเรื่องปกติของบ้านเรา
โดยที่ไม่รู้และเข้าใจว่าจริงๆแล้ว
การรัฐประหารนั้นมันเลวร้ายแค่ไหน
หรือวาทะกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นมา
แท้จริงแล้วอะไรคือข้อเท็จจริง
สังคมและสภาพแวดล้อมได้ทำให้เรามองว่า
การเมืองเป็นเรื่องของกลุ่มคนบางกลุ่ม
ทำให้มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ซับซ้อน และเครียด
ทำให้เราไม่พยายามที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ระบบโครงสร้าง, ปัญหา และความอยุติธรรมต่างๆ
เพียงเพราะมองว่าเราไม่มีทางแก้มันได้
เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ผู้ใหญ่บอกให้เชื่อ
โดยที่ไม่ได้ศึกษา, วิเคราะห์หรือแยกแยะด้วยตัวเอง
แล้วปล่อยผ่านความผิดปกติเหล่านี้ให้ลอยไปในสังคมอย่างง่ายดาย
ทั้งๆที่การเมืองมันเป็นเรื่องของทุกคน
มันเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรจะให้ความสนใจ
การเมืองควรเป็นเรื่องที่เราทุกคน
สามารถพูดคุยและถกเถียงถึงมันได้อย่างเปิดเผย
อย่างที่มันควรจะเป็นในสังคมประชาธิปไตย
*ทั้งหมดที่พิมพ์มานี้เป็นความรู้สึก,มุมมองและความเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เติบโตมาในสภาพสังคมแบบนี้แล้ว พาร์ทที่ 2 จะเขียนเกี่ยวกับ ‘จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราสนใจการเมือง’
ขอบคุณมากจริงๆนะ ที่อ่านจนจบ
DIEMOCRACY
ประชาธิปตาย

https://www.facebook.com/DIEMOCRACY.TH/posts/133443055179902
...

ศิลปะแห่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หน้าวัดแขกเวลานี้ !


























ภาพจาก
เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH