ห้ามนั่งกระบะท้าย-ในแค็บ ค่ายรถหวั่นกระทบยอดขายทั้งปี 5 แสนคัน

ฝุ่นตลบห้ามนั่งสเปซแค็บ ตลาดปิกอัพ5แสนคันป่วน


08 เม.ย 2560
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ฝุ่นตลบรัฐเข้ม พ.ร.บ.จราจรทางบกปิกอัพห้ามนั่งกระบะท้าย-ในแค็บ ค่ายรถหวั่นกระทบยอดขายทั้งปี 5 แสนคัน ระบุสัดส่วนสเปซแค็บทะลุเกินครึ่ง เตรียมหารือสมาคมขอแก้กฎหมายเพิ่มเซฟตี้เบลต์ ชาวบ้านมึนผ่อนผันจริง แต่ตำรวจลักไก่ งานมอเตอร์โชว์บูทปิกอัพคนยังทะลัก

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก หลังจาก คสช.มีคำสั่งให้เข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายจราจรขอรถยนต์ส่วนบุคคลและรถสาธารณะ และให้เริ่มบังคับใช้จริงจังทั้งการคาดเข็มขัดนิรภัย สำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ห้ามนั่งกระบะท้าย รวมถึงบริเวณแค็บถึงแม้ว่าจะมีหลังคาคลุมมิดชิด เนื่องจากดีไซน์ไว้สำหรับวางของ ไม่ได้ออกแบบมาไว้สำหรับนั่ง ตำรวจสามารถดำเนินการจับปรับได้ตามข้อหา "ใช้รถผิดประเภท" ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 21 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

โดยล่าสุด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1-9 ศชต. และหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่อนผันชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อน โดยอนุญาตให้นั่งกระบะท้ายได้แต่ไม่เกิน 6 คน และไม่อนุญาตให้นั่งฝาท้ายและขอบกระบะ เฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะกระทบการเดินทางกลับภูมิเนาของประชาชนโดยทั่วไป แต่ก็ยังมีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังดำเนินการตรวจจับอยู่หลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตต่างจังหวัด โดยอ้างว่ายังไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

เรื่องนี้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถโดยทั่วไปแล้ว ค่ายรถยนต์ก็โดนหางเลขไม่น้อย โดยแหล่งข่าวผู้ผลิตรถปิกอัพกล่าวว่า รัฐบาลยอมถอยนั้นไม่ใช่ว่ายอมทั้งหมด หลังสงกรานต์คงจะมีการหยิบเรื่องนี้มาบังคับใช้กันอย่างจริงจัง ซึ่งกรณีของการนั่งกระบะท้ายคงทำอะไรไม่ได้มาก แต่ในส่วนตัวแค็บ ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่กำลังปรึกษากันว่า น่าจะมีการพูดคุยกันในสมาคมอุตฯยานยนต์และประสานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หาทางออก ยกตัวอย่าง เช่น เป็นไปได้มั้ย หากผู้ผลิตสามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเข้าไปตามจุดต่าง ๆ พื้นที่ตรงนั้นน่าจะใช้โดยสารได้ ไม่ใช่แค่วางสิ่งของเท่านั้น

"ปกติคนซื้อรถปิกอัพ นอกจากใช้งานทั่วไปเพื่อการขนส่งแล้ว ยังเป็นรถครอบครัว จากตัวเลขจดทะเบียน 6 ล้านคันทั่วประเทศ ตามที่กรมการขนส่งฯระบุ สัดส่วนมากกว่า 50% เป็นปิกอัพแบบซิงเกิลแค็บ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการห้ามนั่งในแค็บ ตลาดรถปิกอัพที่ขายเฉียดปีละ 500,000 คัน หลังการบังคับใช้กฎหมายคงเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เรื่องนี้อาจจะต้องประสานกันหลายฝ่าย ซึ่งทั้งกรมสรรพสามิตและกรมการขนส่งฯต้องเข้ามามีบทบาท เพราะเกี่ยวข้องกับการเสียภาษีและประเภทของรถซึ่งยุ่งยากพอสมควร"

หากกฎหมายนี้มีผลเชื่อว่านอกจากสัดส่วนรถปิกอัพจะเปลี่ยนแล้ว กลุ่มอีโคคาร์อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้รถปิกอัพเป็นรถยนต์นั่ง

นางสาวอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ลูกค้า เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เชฟโรเลตติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในขณะนี้นับว่าเร็วเกินไปที่จะสรุป และให้คำตอบว่ากฎหมายจราจรนี้จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด

เช่นเดียวกับ นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า ตลาดปิกอัพแบบตอนครึ่ง หรือสเปซแค็บ ถือเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ แต่การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องมองที่เป็นประโยชน์สูงสุด ทั้งการใช้งานและความปลอดภัย รถปิกอัพประเภทนี้ออกแบบมาให้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ คือ เน้นใช้งานมากกว่า แต่บ้านเราควรพิจารณาพฤติกรรมผู้ใช้ด้วย เช่น ใช้งานใกล้ ๆ ในเขตหมู่บ้าน เพียงแต่กฎหมายที่ออกมามองเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

แหล่งข่าวจากผู้ค้ารถเก่ากล่าวว่า ผลกระทบไม่เฉพาะตลาดรถปิกอัพใหม่เท่านั้น ตลาดซื้อ-ขายมือสองก็กระทบด้วย นอกจากรถปิกอัพเก่าจะขายยากขึ้นแล้ว รถเก่าที่ขายเข้าตลาดจะถูกกดราคาลง เพราะอรรถประโยชน์ปิกอัพแบบสเปซแค็บน้อยลง

ขณะที่นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ ผู้จัดงานฟาสต์ ออโต้โชว์ ฝ่ายรถยนต์มือสอง กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อน่าจะชะงักชั่วคราว แต่ราคาขายไม่น่ากระทบ เนื่องจากรถยนต์มือสองมีต้นทุนที่ชัดเจนอยู่แล้ว และคนที่มีความต้องการใช้งานก็ซื้ออยู่ดี แค่รอความชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการขายรถปิกอัพ หลังจากรัฐบาลเข้มงวดการใช้งาน ปรากฏว่าตามโชว์รูมต่าง ๆ ดูเงียบเหงาลงพอสมควร แต่ทั้งนี้อาจะเป็นเพราะตรงกับช่วงงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 9 เมษายนนี้พอดี แต่ปรากฏว่าในงานผู้คนก็ยังให้ความสนใจ โดยทั้งบูทโตโยต้า อีซูซุ นิสสัน มิตซูบิชิ มาสด้า ทาทา ก็ยังมีลูกค้าทยอยเข้าไปดูรถปิกอัพรุ่นใหม่ ๆ กันอย่างต่อเนื่อง