วันพุธ, กันยายน 19, 2561

พรรคอนาคตใหม่ ธนาธรและพรรณิการ์ พบคนไทยในลอส แองเจลีส


Thanathorn in California
ติดดิน เป็นกันเองแต่เฉียบคม

เส้นทางประชาธิปไตยในประเทศไทย เป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ไม่อาจหวังผลได้ในระยะสั้นคือคำพูดจากหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

พรรคอนาคตใหม่พร้อมเป็นฝ่ายค้านถ้าไม่มีพรรคการเมืองใดยอมรับหลักการสำคัญ 3 ประการของพรรคคือ ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอารัฐธรรมนูญปี 60 ลบล้างผลพวงทั้งหมดของ คสช.

ทหารต้องออกไปจากการเมือง พรบ.ทหารต้องถูกยกเลิก รัฐบาลพลเรือนต้องมีอำนาจเหนือทหาร ปัจจุบันทหารไทยเป็นที่รังเกลียดของประชาชนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

ประเทศไทยต้องเป็นสมาชิก ICC (International Criminal Court)
Rayib Paomano shared a video. 
มื้อกลางวันในลอส แองเจลีส สหรัฐ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรณิการ์ วานิช แห่งพรรคอนาคตใหม่ ร่วมรับประทาอาหารกลางวันกับคนไทยในท้องที่ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด 'ชิค-ฟิล-เล' ย่านถนนเจฟเฟอร์สัน
จากนั้นธนาธรได้กล่าวถึงความมุ่งหวังของพรรคอนาคตใหม่ที่จะเป็นทางเลือกที่สามจากสองขั้วสองฝ่ายในการเมืองไทย เขาบอกว่าตั้งแต่เริ่มมาใช้เวลาได้ ๖ เดือนแล้วเดินทางไปในที่ต่างๆ พบปะประชาชน
"
เสียงตอบรับจากประชาชนดีอย่างเหลือเชื่อ เราไม่คิดเลยว่าเราจะมาได้ไกลถึงตอนนี้ ทุกวันนี้กระแสตอบรับจากประชาชนแสดงให้เห็นว่า คนในประเทศไทยอยากเปลี่ยนแปลงจริงๆ เราต้องการการปลี่ยนแปลงที่ให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยที่ไม่อยู่ใต้ระบอบทหารอย่างจริงๆ"
ด้านพรรณิการ์ ว่าที่โฆษกของพรรคกล่าวเสริมว่า "วัตถุประสงค์ที่มาอเมริกาครั้งนี้และอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะไปยุโรป เป้าหมายเดียวกันก็คือ แน่นอน หนึ่งมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังข้อเสนอจากคนไทยที่อยู่ในต่างแดน
ตอนเราไปญี่ปุ่นเราก็เจอคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยมาอยู่ต่างประเทศ ยี่สิบสามสิบสี่สิบปีห้าสิบปีแล้ว แต่ยังเป็นห่วงอนาคตของประเทศ แม้ตัวเองจะพ้นออกมาอยู่ในประเทศที่เจริญแล้ว ยังอยากได้เห็นลูกหลานของตัวเองที่ยังอยู่ในประเทศไทยได้คุณภาพชีวิต ได้ประชาธิปไตยอย่างที่ตัวเองได้ นี้เราชื่นชมนะคะ 
นอกจากมาพูดคุยกับคนไทยที่นี่แล้ว คุณเอกได้รับเชิญให้ไปพูดในหลายๆ เวทีระดับโลก ที่โกลบอลซัมมิตที่แคนาดา คองคอร์เดียซัมมิตที่นิวยอร์ค และมหาวิทยาลัยแม้คกิลล์ที่แคนาดา

การที่ไปในหลายๆ เวทีระดับโลกอยากให้เข้าใจว่า เราต้องการจะกู้ศักดิ์ศรีของประเทศขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยของอาเซียน เป็นประเทศผู้นำเพราะว่าเรามีรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นประชธิปไตย มีความเจริญมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน 

แต่สิ่งเหล่านั้นมันกลายเป็นอย่างอื่นไปหมดแล้ว อนาคตใหม่นอกจากต้องการให้เกิดสังคมประชาธิปไตย เท่าเทียมกันในประเทศแล้ว เรายังถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะนำพาประเทศให้ไปเท่าทันโลก ยืนอยู่ในเวทีโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรีอีกครั้งหนึ่งนะคะ 

หลังจากสี่ห้าปีถึงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการรัฐประหารซ้ำซาก มีการขัดแย้งทางการเมือง เราไม่อาจสู้หน้าประชากรในโลกนี้ได้"