วันเสาร์, กันยายน 08, 2561

"คนไม่มีสมองเป็นเพราะไม่รู้จักเรียนรู้” พูดได้ไง ประชาธิปไตยทำให้ตีกัน


ไม่ด้านจริงไม่ใช่ ไอทู้บ สิน่า ไหนจะปากเปรอะเที่ยวเรียกคนนั้นคนนี้ ไอ้คนไม่มีผม บ้างละ เจ้าตัวเขาไม่ได้ย้อน แค่แย้งว่าสิ่งที่พูดตรงตามหลักการสากล แต่ก็มีคนมาถอดเกร็ดให้

“คนไม่มีผมเป็นเพราะธรรมชาติ คนไม่มีสมองเป็นเพราะไม่รู้จักเรียนรู้” (บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ ๗ กันยา ๖๑)

จะไม่มีสมองเพราะไม่รู้จักเรียนรู้ หรือว่ารู้ทั้งรู้แต่เสแสร้งบิดเบือนความจริง เพื่อแก้ตัว แก้ต่าง ในภาวะที่กำลังขาลง ‘going south’ เหมือนอย่าง ไอทรั้มพ์ก็เป็นได้

ไปลพบุรีเมืองลิงเที่ยวนี้ “ตื่นเต้นกลับมาบ้านเก่า” ประยุทธ์ จันทร์โอชา สาวความยืดว่า “ตนเองเป็นคนลพบุรี เกิดที่โคราชแต่มาโตที่ลพบุรี เพราะพ่อมาเป็นทหาร” แต่เจตนาจริงๆ “ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาพูดเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นอะไร”

ตัดภาพไปที่ Thorn Sasivimolkul รายงาน “บรรยากาศต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก” พอดูภาพแล้วเห็นจริง 
ในเมื่อ “14/8/61 ตู่โมโหผู้ไม่หวังดี ทำคลิปใช้เด็กพูดโจมตีรัฐบาล วอนอย่าดึงอนาคตของชาติ มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เอาละผ่านไปพิธีการ พอมาถึงพิธีกร เค้าบอกว่า “ลพบุรีถือเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม ดินแดนที่สงบสุข เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากภัยสงครามตั้งแต่อดีต เป็นที่ตั้งของกองกำลังทหาร” จากนั้นจึงเข้าโหมด ไหม้ หาเสียง

“ทหารไม่ใช่ศัตรูของประชาชน...วันหน้า (แต่วันนี้ยัง) ประเทศไทยต้องเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย...หากมีใครรังแก ทุจริต ก็แจงมายังตน แต่พวกตนเป็นเองอย่าเพิ่ง ใครขืนแจงโดนเรียกคุยแบบ ไอ้คนไม่มีผม ถ้าเป็นพวกนักศึกษา วิชาการ ก็เอาคดีปักหลังไว้ ขัดคำสั่งบ้าง อั้งยี่บ้าง แค่ขอประกันก็สุดจะบักโกรกแล้ว

“ขอให้คนไทยเลิกทะเลาะกันเอง...จะตีกันเองทำไม ประชาธิปไตย ตีกันมากกว่า ๑๐ ปีทำให้เส้นเลือดของประเทศตีบตัน” ตรงนี้แหละที่ปากพร่อยมุสา ในเมื่อไอ้พวกที่ตีน่ะเป็น การ์ดสมีอิสระ’ กับพวกชุดพรางที่ยิงสไน้เปอร์ มากกว่าพวกที่ถูกหาว่าเผา (หลอก-ดอกไม้จันทร์) บ้านเมือง

พูดได้ไง ประชาธิปไตยทำให้ตีกัน เท่านั้นไม่พอ มีเสียงขอให้พยุงราคาข้าว ดันตอบว่า “จะพยุงได้อย่างไร เพราะตอนนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ ๕ แสนล้านบาท ให้กับโครงการรับจำนำข้าว...ที่ผ่านมารัฐบาลต้องแบกให้เท่าไร ใช้หนี้มา ๔ ปีแล้ว จากที่ผลาญมาจากรอบที่แล้ว”

อ้าว ก็ไหนกว่าสี่ปีที่ผ่านมา “ตู่มันยกเลิกจำนำข้าว แล้วทำจำนำยุ้งฉาง ใช้งบเกิน ๔ แสนล้าน มีชาวนาได้ประโยชน์กี่ครัวเรือน ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาได้ไหม ขาดทุนเป็นตัวเลขเท่าไหร่ กระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนขยายตัวได้กี่ % ยังไม่เห็นมันสรุปผลโครงการ”

หมอ ชัยวุฒิ สุวรรณโณ นักรบไซเบอร์ฝ่ายประชาธิปไตยคนหนึ่งซัดกลับ “เบ็ดเสร็จแล้ว เมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ ๕ ในการออกนโยบายดูแลชาวนาของ 'รัฐบาล คสช.'

หากนับเฉพาะโครงการ 'จำนำยุ้งฉาง' พบว่า มีการตั้งงบประมาณทั้งสิ้นรวม ๑๑๔,๙๔๖ ล้านบาท แต่หากรวมโครงการช่วยเหลืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีการตั้งงบประมาณรวม ๆ แล้วเกือบ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท...

https://voicetv.co.th/read/rkxer6B4X” ใครกันแน่ที่ล้างผลาญ
 
แล้วยังกัดกร่อนบ่อนทำลายอีกต่างหาก ดังตอนนี้มีกระแสวิตกกันหนาหูว่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้บัตรทอง ประกันสุขภาพถ้วนหน้า เลยไปถึง “จากที่เคยได้ยินข่าวมาว่าอาจจะมีการปรับเพดานเบี้ยประกันสังคมแบบใหม่จาก ๗๕๐ บาท เป็น ๑,๐๐๐ บาท

ล่าสุด รมว. แรงงานเคาะแล้วว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน มนุษย์เงินเดือนเตรียมซับน้ำตากันได้เลย” รมว.กระทรวงแรงงานของ คสช.เสนอไอเดียจู๊ดสำหรับสำนักงานประกันสังคมในวันข้างหน้า ใครที่รายได้น้อยกว่า ๑ หมื่น ๖ พันบาทจึงจะถูกหัก ๗๕๐ บาทเท่าเดิม เกินนั้นไปจ่ายคืนเพิ่มตั้งแต่ ๘๐๐ ถึง ๑,๐๐๐

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แจ้งว่าแม้จะยังไม่ได้เสนอถึงรัฐบาล แต่ก็ยัดให้ตัวแทนฝั่งนายจ้างและลูกจ้างช่วยไปสื่อสารแล้ว ถึงที่สุดยังไงก็เอาแน่


กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับบริการประชาชน ไม่เพียงลงทุนทำโน่นทำนี่แล้วไม่ได้ผลอะไร เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำให้พวกคู่ค้ากับรัฐบาล คสช.อูฟู

ดังเช่นโครงการติดตั้งเครื่องหยอดเหรียญ และเครื่องอ่านบัตรอีเล็คโทรนิคสวัสดิการคนจนบนรถเมล์ ๒,๖๐๐ คัน ตั้งแต่มิถุนา ๖๐ ซึ่งต้องใช้งบประมาณผูกพันจ่ายค่าเช่าเครื่องทั้งสอง ๖ แสน ๔ หมื่นบาทต่อคัน นาน ๕ ปี เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๑,๖๖๕ ล้านบาท

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่า กทม. และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบ่นทางหน้าเฟชบุ๊คว่า วัตถุประสงค์ของดครงการติดตั้งเครื่องเพื่อประหยัดค่าจ้างแรงงานพนักงาน ซึ่งกินรายได้เข้าไป ๖๐ เปอร์เซ็นต์

แต่แล้วพอเริ่มทดสอบเครื่องมือปรากฏว่า “การใช้อีทิกเก็ตและกล่องหยอดเหรียญมีปัญหา ใช้งานได้ไม่ราบรื่น ทำให้ ขสมก.ประกาศเลื่อนการใช้มาเป็นวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑” นี่ต้นเดือนกันยา “ทั้งอีทิกเก็ตและกล่องหยอดเหรียญยังใช้งานไม่ได้ผล

ทำให้คณะกรรมตรวจรับพัสดุของ ขสมก.มีมติไม่รับงาน ซึ่งจะนำไปสู่การบอกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับเอกชนต่อไป”


นายสามารถจี้ว่า น่าเสียดาย หลายอย่างล้มเหลว และโยนไปให้อยู่ในความรับผิดชอบของ รมว.คมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่ไม่บังเอิญเป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ไว้สนับสนุนประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังเลือกตั้ง