เสียงพูดหนาหูว่าเลือกตั้งครั้งนี้ว่าประชาธิปัตย์จะ
‘ต่ำสิบ’ ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นเพียงค่าของการบลั๊ฟเนื่องจากกระแส
‘อนาคตใหม่’ มาแรงมาก อย่างน้อยๆ
ในโลกไซเบอร์
ดูจากตัวเลขที่ Thanapol
Eawsakul แห่งสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน
เอามาคำนวณแล้วฟันธงว่า ปชป. จะได้แค่ ๑๕ ที่นั่ง หรือ ๕๐% ของจำนวน ส.ส. กรุงเทพฯ ที่ กกต.กำหนดให้ในคราวนี้ ๓๐ ที่นั่ง
สถิติการเลือกตั้ง ๕ ครั้งนับแต่ปี ๒๕๓๙ มาถึงครั้งสุดท้าย
๒๕๕๔ ประชาธิปัตย์ชนะสองครั้งสุดท้าย ตอนหลังรัฐประหารปี ๔๙ และหลังสลายชุมนุมเสื้อแดงปี
๕๓ นอกนั้นก็ปี ๓๙ หลังกระแสพลังธรรม (ไม่) แรง
ส่วนไทยรักไทยได้ครองแช้มป์ กทม. ในปี ๔๔ และ ๔๘
ก่อนที่จะโดนทหารเตะสกัดตัดทั้งแขนและขาด้วยการรัฐประหาร ๔๙ (และอีกครั้งในปี ๕๗) แต่ครั้งนี้เพื่อไทยมั่นใจ
(จากคำของ ทักษิณ ชินวัตร สองครั้งสองครา และคำประกาศคณะกรรมการบริหารชุดรักษาการ
ที่เตรียมเลือกหัวหน้ากันใหม่วันที่ ๒๘ ตุลา) ไม่ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเช่นไร
ทั่วประเทศมีสิทธิได้ถึง ๓๐๐ ที่นั่ง
โดยคาดว่าอนาคตใหม่จะได้ถึง ๔๐ ที่นั่ง
แต่รองหัวหน้าพรรค (ชำนาญ จันทร์เรือง) ไม่ฟัง หวังมากกว่านั้น
คงมั่นใจจากการลงพื้นที่ของว่าที่หัวหน้า (ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) และทีม แล้วกว่า
๔๐ จังหวัด ได้เนื้อหาเป็นกระบุง ขณะนี้อยู่ระหว่างเหิรต่างประเทศ อเมริกา แคนาดา และยุโรป
จะเป็นด้วยเหตุแห่งคำครหาว่า ปชป.คร่ำครึ
ตามไม่ทันแรงลมประชาธิปไตย ที่การครองอำนาจของทหารตลอดเกือบห้าปีที่ผ่านมาทำให้ผู้คนยิ่งตระหนักและโหยหา
(ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง ‘อกหัก’ แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับ)
ความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์สร้างคุณค่า ‘เสรีนิยม’ ใหม่ให้แก่ตน ซึ่งฝ่ายตรงข้ามมองว่าเป็นเพียงการสลับขาหลอก
ให้ฐานเสียงที่ยังละล้าละลังงงเหมือนเจอะนะจังงัง หันไปทางไหนไม่ถูก จะปูเสื่อ
กปปส.ต่อไป หรือจะหักดิบกับทหาร ต่างปีกต่างพูดไป ไม่มีข้อยุติเด็ดขาด
นับแต่การสร้าง ‘ไอคอน’
รุ่น ‘หล่อหลาน’ พริษฐ์
วัชรสิทธุ จนไปเป็น ‘พลทหารไอติม’ แล้วชักฝ่อ
ก็มาถึงการชูรุ่นลูกที่ว่า ‘เจาะกลุ่มวัยรุ่น’ เอามาใช้กระตุ้นการเมือง ที่ไทยโพสต์ช่วยประโคม
“'ปลื้ม' เผยเข้า ปชป.เป็นทีม
มีลูกนักการเมืองหลายค่ายร่วมทัพ” ความว่า
“นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย
ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก”
‘พี่ปลื้ม’ ของเหล่า ‘ยูทู้บเบอร์’
แห่งเพจ VRZO Channel ไม่พูดเล่นและมาแรงพร้อมแผน
“เมื่อเข้ามาจะมีทีมที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วย โดยทีมของตนเป็นลูกหลานของนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกัน
และรู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจโดยการสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย”
อันนี้ต้องตามตำราเดี๊ยะ
จำเพาะเมื่อ ‘ช่อ อนาคตใหม่’ Pannika Wanich @Pannika_FWP เพิ่งทวี้ตเรื่องไปร่วมประชุม
#globalprogress18
ว่า “ตัวแทนจากพรรครัฐบาลแคนาดายกประเด็นน่าสนใจ
คือการสื่อสารแคมเปญของฝ่ายก้าวหน้า
ต้องทำให้เข้าใจง่าย พรรคลิเบอรัลของทรูโด มีหลักการคือใช้ภาษาที่เด็ก ม.๔ เข้าใจ
ถ้าเป็นแคมเปญในสหรัฐฯ ใช้ภาษาที่เด็ก ป.๖ เข้าใจ
ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องที่มีคุณค่าแต่ไม่มีคนฟัง”
คำประกาศของสุรบถ “ไม่เหลียวมองเรื่องเก่าๆ
มองไปข้างหน้าด้วยกัน” “ต้องไม่แตกแยกทะเลาะกัน” “การเมืองในอนาคตควรจะร่วมมือกันได้ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน”
และ “ทำงานการเมืองหรือจุดยืนแบบพ่อหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ไม่
เพราะตนมีสไตล์ของตัวเอง”
การนี้ธนาพลอีกแหละชี้ประเด็นว่า
การออกตัวของ ‘ปลื้ม’ นี้ “น่าสนใจ”
ในเมื่อแฟนเพจเฟชบุ๊คหน้า VRZO ของเขามีถึง ๒ ล้าน ๙ แสนราย เฉือนแฟนเพจ Abhisit
Vejjajiva ที่มีน้อยกว่า แค่ ๒ ล้าน ๒ แสนราย
ขณะเพจ thanathorn
juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังมีคนติดตามเพียงแสนกว่าๆ
และเพจวัยรุ่น New Gen Network เพิ่งเปิดไม่นาน
ยังอยู่แค่ระดับหมื่น
แต่นายสุรบถจะสามารถเปลี่ยนความนิยมของยูทู้บเบอร์
ให้เป็นคะแนนนิยมทางการเมืองแก่พรรคประชาธิปัตย์ที่เขาไปร่วมได้หรือไม่
มากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์อีกเยอะ โดยเฉพาะด้วยแนวนโยบายที่จะสะท้อนตามมา
อนาคตใหม่นั้นไม่เพียงมีฐานอยู่ในหมู่คนรุ่นหนุ่มสาว
หากช่วงเวลาเพียงครึ่งปีที่ผ่านมา สร้างความสนใจแก่คนรุ่นไม่หนุ่มไม่สาวที่ต้องการ
ปลดแอก อำนาจครอบงำทางการเมืองของทหาร และสลัดพลังสูบทางเศรษฐกิจของ ‘เจ้าสัว’ มากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน