วันอาทิตย์, กันยายน 16, 2561

เกษตร คสช. มีมุขใหม่ เปิดที่นาประชาชนแปลงใหญ่ๆ ให้เจ้าสัวเช่า


กระทรวงเกษตร คสช. มีมุขใหม่ เปิดที่นาประชาชนแปลงใหญ่ๆ ให้เจ้าสัวเช่าทำการเพาะปลูกพืชผลหลังหน้านา ๗ ยักษ์ใหญ่รับซื้อตรง แต่เป็นผู้กำหนดชนิดและขนาดการผลิต อีกทั้งเป็นผู้คัดเลือกคนปลูก เฉพาะ สม้าร์ทฟาร์เมอร์ เท่านั้น

กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ของ คสช. คุยโวเรื่องแผนการเพิ่มราคาสินค้าเกษตรด้วยการจัดสรรที่ดินให้บริษัทขนาดยักษ์ ๗ แห่ง โดยเฉพาะ ไทยเบพ ซีพี บิ๊กซี เซ็นทรัล เช่าดำเนินการ อ้างเวลานี้มีเจ้าของที่ดินสนใจเข้าโครงการแล้ว ๒.๘ ล้านไร่

โครงการใหญ่นี้จะมีการปลูกพืชทดแทนในฤดูทำนาครั้งที่สองแทนข้าว ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ถั่ว และผัก นอกจากบริษัทเจ้าสัวจะเข้าไปดำเนินการ วางแผนการเพาะปลูกและผลิต จัดส่งเมล็ดพันธุ์พืช และรับซื้อตรงแล้ว ยังมีบริการหาเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้ และประกันภัยพืชผลด้วย

ชาวไร่ชาวนาสามารถเลือกเมนูแผนการปลูกได้ตามใจชอบ โดยบริษัทเจ้าสัวแต่ละแห่งจะกำหนดแผนงานของตนไม่เหมือนกัน เช่น ซีพี “ขอเช่าที่ดินและจ้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ให้ทำงานกับเขา แล้วรับซื้อผลผลิตทั้งหมด

พร้อมทั้งนำโรงงานแปรรูปมาไว้ใกล้ ๆ โดยเกษตรกรจะได้ค่าเช่าพื้นที่ ได้แบ่งปันผลประโยชน์” นายกฤษฎาคุยสรรพคุณเจ้าสัวด้วยว่าชอบที่นาแปลงใหญ่ “คุณธนินท์บอกผมว่า...ชาวนาเคยทำกำไรจากการทำผลผลิตในแปลงใหญ่ได้เท่าไหร่ ซี.พี.จะบวกเพิ่มอีก ๑๐%

“ส่วนมอนซานโต้ให้เมล็ดพันธุ์ฟรี แต่เวลาขายให้ขายกับเขาเท่านั้น ในราคาตามท้องตลาด” เป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ “จะลงไปชี้แจงกับเกษตรกรว่า เอกชนมีข้อเสนอแบบใดบ้าง พอใจหรือไม่ ให้ตกลงจับคู่กันเอง”

ต่อกรณีที่บอกว่าจะมีการแบ่งผลกำไร หรือทำ ‘profit sharing’ นั้น รมว.เกษตรฯ อธิบายว่าจะเริ่มใช้วิธีการนี้ในเดือนพฤศจิกายน “เนื่องจากสำรวจแล้วมีชาวนาสูงอายุหลายแห่ง นำที่นาไปปล่อยให้ชาวนาเพื่อนบ้านเช่า จึงให้กรมส่งเสริมการเกษตร เสนอให้สมาร์ทฟาร์มเมอร์ซึ่งมีอยู่ประมาณ ๑ ล้านราย มาเป็นผู้เช่าช่วง”

สำหรับเรื่องข้าวนายกฤษฎาคุยว่า ถึงฤดูปลุกข้าวรอบใหม่จะได้ราคาเกวียนละ ๑ หมื่นบาทแหงๆ เพราะจับมือกับกระทรวงพาณิชย์ผลิตข้าวคุณภาพสูง (โห) และเรื่องราคายางนั่นตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ไม่เคยมีราคายางที่ ๓ กิโลร้อย มีแต่กิโลละ ๔๐ บาทกว่า (ฮ้า)

อ้อ แล้วก็ยังมีมาตรการเยียวยาชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมด้วย เรื่องนี้ทั่น รมว.เกษตรฯ ของ คสช.ทันสมัยมาก เพราะได้เอา โมเดลถ้ำหลวงฯ มาใช้ขณะยังอุ่นๆ อยู่เลย

ทั่นว่าชาวนาใกล้ถ้ำหลวงที่ถูกน้ำจากการสูบออกจากถ้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก รัฐบาล คสช.ให้ค่าเยียวยาไร่ละ ๑,๑๑๓ บาท บวกกับปุ๋ยและพันธุ์พืช เวลานี้กำลังให้ข้าราชการไปคิดคำนวณว่า ถ้าเป็นชาวนาที่น้ำท่วมตามฤดูกาลปีนี้จะให้เพิ่มได้เท่าไร ไม่พ้นสิ้นเดือนนี้รู้แน่


นี่แหละสิ่งดีๆ ที่ได้จากรัฐบาล คสช.ในช่วงเปลี่ยนผัน ไม่ใช่ประชานิยมอย่างทักษิณ ไม่ใช่ประกันราคา-แจกอั่งเปาชนชั้นกลางอย่างอภิสิทธิ์ นี่เป็นพลังประชารัฐของแท้ แม้จะอิงเจ้าสัวบ้าง ต้อง ชั่งหัวมันนึกถึงแต่สิ่งดีๆ ในอดีตก็แล้วกัน


ทั้งที่สื่อสายสลิ่มรายหนึ่งกำลังเล่นหนัก เรื่อง “ซีพีกว้านซื้ที่นาสองอำเภอ ขึ้นเมืองใหม่แปดริ้ว” และพาดหัวไม้ตัวยักษ์ “ซีพียึดที่รัฐ ๔ พันไร่” นัยว่าเป็นที่ราชพัสดุบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งข่าวแย้มว่าไม่ใช่แค่สองอำเภอ ๔ พันไร่เท่านั้น

เวลานี้กำลังกว้านซื้อที่ดินนอกเหนือจากบริเวณสร้างเมืองใหม่แปดริ้ว ในพื้นที่ราชพัสดุซึ่งกองทัพเรือใช้ประโยชน์และกรมธนารักษ์หุบปากนิ่งโบ้ยบ้ายไปให้สำนักงานโครงการอีอีซี-ระเบียงตะวันออก-ตอบ ข่าวว่าขยายออกไปมากกว่า ๓ อำเภอ นับเป็นหมื่นไร่

(อยากได้รายละเอียดยุบยิบต้องไปที่ข่าวออนไลน์ของ ฐานเศรษฐกิจ ที่ www.ookbee.com/Shop/Magazine/THANSETTAKIJ เฉพาะข่าวนี้ราคา ๑๙ บาท)