กระทรวงเกษตร คสช. มีมุขใหม่
เปิดที่นาประชาชนแปลงใหญ่ๆ ให้เจ้าสัวเช่าทำการเพาะปลูกพืชผลหลังหน้านา ๗
ยักษ์ใหญ่รับซื้อตรง แต่เป็นผู้กำหนดชนิดและขนาดการผลิต
อีกทั้งเป็นผู้คัดเลือกคนปลูก เฉพาะ ‘สม้าร์ทฟาร์เมอร์’ เท่านั้น
กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ของ คสช.
คุยโวเรื่องแผนการเพิ่มราคาสินค้าเกษตรด้วยการจัดสรรที่ดินให้บริษัทขนาดยักษ์ ๗
แห่ง โดยเฉพาะ ไทยเบพ ซีพี บิ๊กซี เซ็นทรัล เช่าดำเนินการ
อ้างเวลานี้มีเจ้าของที่ดินสนใจเข้าโครงการแล้ว ๒.๘ ล้านไร่
โครงการใหญ่นี้จะมีการปลูกพืชทดแทนในฤดูทำนาครั้งที่สองแทนข้าว
ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ถั่ว และผัก นอกจากบริษัทเจ้าสัวจะเข้าไปดำเนินการ วางแผนการเพาะปลูกและผลิต
จัดส่งเมล็ดพันธุ์พืช และรับซื้อตรงแล้ว ยังมีบริการหาเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้
และประกันภัยพืชผลด้วย
ชาวไร่ชาวนาสามารถเลือกเมนูแผนการปลูกได้ตามใจชอบ
โดยบริษัทเจ้าสัวแต่ละแห่งจะกำหนดแผนงานของตนไม่เหมือนกัน เช่น ซีพี “ขอเช่าที่ดินและจ้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ให้ทำงานกับเขา
แล้วรับซื้อผลผลิตทั้งหมด
พร้อมทั้งนำโรงงานแปรรูปมาไว้ใกล้ ๆ
โดยเกษตรกรจะได้ค่าเช่าพื้นที่ ได้แบ่งปันผลประโยชน์”
นายกฤษฎาคุยสรรพคุณเจ้าสัวด้วยว่าชอบที่นาแปลงใหญ่ “คุณธนินท์บอกผมว่า...ชาวนาเคยทำกำไรจากการทำผลผลิตในแปลงใหญ่ได้เท่าไหร่
ซี.พี.จะบวกเพิ่มอีก ๑๐%”
“ส่วนมอนซานโต้ให้เมล็ดพันธุ์ฟรี แต่เวลาขายให้ขายกับเขาเท่านั้น
ในราคาตามท้องตลาด” เป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ “จะลงไปชี้แจงกับเกษตรกรว่า
เอกชนมีข้อเสนอแบบใดบ้าง พอใจหรือไม่ ให้ตกลงจับคู่กันเอง”
ต่อกรณีที่บอกว่าจะมีการแบ่งผลกำไร หรือทำ ‘profit
sharing’ นั้น รมว.เกษตรฯ อธิบายว่าจะเริ่มใช้วิธีการนี้ในเดือนพฤศจิกายน
“เนื่องจากสำรวจแล้วมีชาวนาสูงอายุหลายแห่ง นำที่นาไปปล่อยให้ชาวนาเพื่อนบ้านเช่า
จึงให้กรมส่งเสริมการเกษตร เสนอให้สมาร์ทฟาร์มเมอร์ซึ่งมีอยู่ประมาณ ๑ ล้านราย
มาเป็นผู้เช่าช่วง”
สำหรับเรื่องข้าวนายกฤษฎาคุยว่า
ถึงฤดูปลุกข้าวรอบใหม่จะได้ราคาเกวียนละ ๑ หมื่นบาทแหงๆ
เพราะจับมือกับกระทรวงพาณิชย์ผลิตข้าวคุณภาพสูง (โห) และเรื่องราคายางนั่นตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง
ไม่เคยมีราคายางที่ ๓ กิโลร้อย มีแต่กิโลละ ๔๐ บาทกว่า (ฮ้า)
อ้อ
แล้วก็ยังมีมาตรการเยียวยาชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมด้วย เรื่องนี้ทั่น
รมว.เกษตรฯ ของ คสช.ทันสมัยมาก เพราะได้เอา ‘โมเดลถ้ำหลวงฯ’ มาใช้ขณะยังอุ่นๆ อยู่เลย
ทั่นว่าชาวนาใกล้ถ้ำหลวงที่ถูกน้ำจากการสูบออกจากถ้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก
รัฐบาล คสช.ให้ค่าเยียวยาไร่ละ ๑,๑๑๓ บาท บวกกับปุ๋ยและพันธุ์พืช เวลานี้กำลังให้ข้าราชการไปคิดคำนวณว่า
ถ้าเป็นชาวนาที่น้ำท่วมตามฤดูกาลปีนี้จะให้เพิ่มได้เท่าไร
ไม่พ้นสิ้นเดือนนี้รู้แน่
นี่แหละสิ่งดีๆ ที่ได้จากรัฐบาล
คสช.ในช่วงเปลี่ยนผัน ไม่ใช่ประชานิยมอย่างทักษิณ
ไม่ใช่ประกันราคา-แจกอั่งเปาชนชั้นกลางอย่างอภิสิทธิ์ นี่เป็นพลังประชารัฐของแท้
แม้จะอิงเจ้าสัวบ้าง ต้อง ‘ชั่งหัวมัน’
นึกถึงแต่สิ่งดีๆ ในอดีตก็แล้วกัน
ทั้งที่สื่อสายสลิ่มรายหนึ่งกำลังเล่นหนัก
เรื่อง “ซีพีกว้านซื้ที่นาสองอำเภอ ขึ้นเมืองใหม่แปดริ้ว” และพาดหัวไม้ตัวยักษ์ “ซีพียึดที่รัฐ
๔ พันไร่” นัยว่าเป็นที่ราชพัสดุบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
ซึ่งข่าวแย้มว่าไม่ใช่แค่สองอำเภอ ๔ พันไร่เท่านั้น
เวลานี้กำลังกว้านซื้อที่ดินนอกเหนือจากบริเวณสร้างเมืองใหม่แปดริ้ว
ในพื้นที่ราชพัสดุซึ่งกองทัพเรือใช้ประโยชน์และกรมธนารักษ์หุบปากนิ่งโบ้ยบ้ายไปให้สำนักงานโครงการอีอีซี-ระเบียงตะวันออก-ตอบ
ข่าวว่าขยายออกไปมากกว่า ๓ อำเภอ นับเป็นหมื่นไร่
(อยากได้รายละเอียดยุบยิบต้องไปที่ข่าวออนไลน์ของ
‘ฐานเศรษฐกิจ’ ที่ www.ookbee.com/Shop/Magazine/THANSETTAKIJ เฉพาะข่าวนี้ราคา ๑๙ บาท)