นั่นไง ทั่นรองฯ เปิดช่องให้แล้ว อ้าซ่า
สนช. ไปเป็น สว.ลากตั้งต่อก็ได้ ขอแค่เว้นช่วงอย่างน้อย ๑ วันก่อนเปิดสภาผู้แทนฯ
(น่า 'คิดมาก' ก็ได้ว่า สนช.ที่ได้เป็น สว. สามารถให้คุณให้โทษต่อการเลือกตั้ง ส.ส. ถ้า คสช.สั่งให้ทำด้วย
ม.๔๔)
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย
พูดถึงการที่ พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มีผลบังคับใช้แล้ว
และเริ่มกระบวนสรรหาไปให้ คสช.คัดตั้งแต่วันนี้ (๑๓ ก.ย.) จนกระทั่งประกาศรายชื่อทั้งหมด
๒๕๐ คนภายใน ๑๕ วันก่อนมีการเลือกตั้ง ส.ส.
ซึ่งก็คือวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ดังที่
กกต. ประกาศไทม์ไลน์เอาไว้แล้ว “ยังไม่มีการเปลี่ยนเป็นอื่น”
โดยกรรมวิธีสรรหาแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งจากสาขาอาชีพ
๑๐ กลุ่ม กับที่สมัครเข้ามาด้วยตัวเอง แล้วคัดสรรกันเองเหลือ ๒๐๐ รายชื่อส่งให้
คสช. เลือกเหลือ ๕๐ คน กับรายชื่อสำรองอีก ๕๐ คน
นอกนั้น คสช.จะเป็นผู้กำหนดวิธีการคัดสรร
สว. อีก ๒๐๐ คนต่อไป เท่าที่มีการเสนอแนวทางไว้บ้างแล้วโดยให้ คสช.ตั้งกรรมการคัดสรรสิบกว่าคนจัดทำรายชื่อผู้เหมาะสม
๑๙๔ ราย เว้นไว้ ๖ สำหรับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ที่ คสช.ตั้งโดยตำแหน่ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.แจ้งว่า
กกต.จะเร่งจัดทำระเบียบการได้มาซึ่ง สว. ให้เสร็จภายในอาทิตย์หน้า
แล้วประกาศให้มีการลงทะเบียนองค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเข้ารับคัดเลือกเป็น สว.
พร้อมกับเปิดรับสมัครรายบุคคลที่สำนักงาน กกต.ทั่วประเทศ
ประการสำคัญที่มีคำถามจากสื่อมวลชนต่อนายวิษณุ
กรณีเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มานานแล้วว่า บรรดาสมาชิก สนช.
ชุดปัจจุบันที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. หลายต่อหลายคนมุ่งหมายจะได้ไปเป็น สว.จากการคัดสรรของ
คสช. กันต่ออีก (อายุสมัย) ๕ ปี
“นายวิษณุกล่าวว่า
สนช.จะสามารถทำงานต่อไปได้จนถึง 1 วัน
ก่อนวันเปิดสภาผู้แทนราษฎร และเขาสามารถได้รับเลือกเป็น ส.ว. ได้
เพราะไม่มีอะไรห้าม”
นายวิษณุยังชี้แจงเกี่ยวกับไทม์ไลน์ไปสู่การเลือกตั้งว่า
ตาม พรป. เลือกตั้ง ส.ส. จะต้องรออีก ๙๐ วันก่อนมีผลบังคับใช้ ซึ่งก็เป็นวันที่ ๑๐
ธันวาคม ดังนั้นพรรคการเมืองยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมได้ ระยะ ๙๐
วันที่รอนี้ ๖๐ วันจะเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งโดย กกต. อีก ๓๐ วันเป็นการสสรหาตัวผู้สมัคร
(ไพรมารี่)
อย่างไรก็ดี คสช.จะใช้ ม.๔๔ ประกาศ ‘คลายล็อค’ ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมบางอย่างได้
แต่ไม่ ‘ปลดล็อค’ ในการรณรงค์หาเสียงกัน
(คาดว่า) จนกว่าจะมีการเปิดรับสมัครผู้ลงแข่งขันเลือกตั้ง
ต่อกรณีที่ผู้สื่อข่าวซักถามนายวิษณุว่า คสช.ไม่ยอม
‘ปลดล็อค’ หาเสียงเสียที
พรรคการเมืองจะมีเวลาไม่พอ ทั่นรองฯ ฝ่ายกฎหมายของ คสช.ตอบด้วยถ้อยความอันแสนฉลาด ‘สม้าร์ทแอส’ ว่า
“กรอบเวลาหาเสียงครั้งนี้ถือว่านานที่สุดที่เคยมีในประเทศไทย
เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยให้เลือกกันภายใน ๙๐ วันหลังยุบสภา...ไม่เคยมีนานถึงขนาดนี้ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมา”
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_133196,
https://www.mcot.net/view/5b9a329be3f8e40353f4a5c7?utm_source=TNA&utm_medium=TOPNEWS&utm_campaign=fixtna,
และ https://prachatai.com/journal/2018/09/78688?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter)
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนี้
ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มีปฏิกิริยาต่ออาการชาญฉลาดของทั่นรองฯ ว่า “คำพูดของนายวิษณุ
เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมาย นายวิษณุไม่ใช่กฎหมาย” ธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศ
ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามพูดเรื่องนโยบาย
อนาคตใหม่จะเปิดศักราชใหม่เดือนตุลาคมนี้ โดยจะพูดเรื่องนโยบาย
จะปลดล็อกหรือไม่ปลดล็อกไม่สน นายวิษณุจะพูดอย่างไรก็ไม่สน
เดือนตุลาคมนี้จะพูดเรื่องนโยบาย เพื่อปักวาระให้สังคมนี้”
ทางด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช
ว่าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ก็เช่นกัน บอกว่า “ไม่มีอะไรจะช่วยยืนยันเสรีภาพในการพูดเพื่อเป็นเสาหลักค้ำยันประชาธิปไตยได้
นอกจากสื่อมวลชน
แน่นอนช่วงนี้ไม่มีประชาธิปไตย
แต่หากต้องการมันกลับคืนมา ต้องใช้ความกล้าหาญที่จะต้องยืนยันว่าสิทธิเสรีภาพเหล่านี้เป็นของเรา...
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายไหนชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม
การพูดถึงเสรีภาพหรือความจริงที่กระทบ คสช.แล้วถูกดำเนินคดี
ทุกคนรู้ว่านี่คือกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม แล้วพร้อมต่อต้านมันกับเรา
เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ประชาธิปไตยจะกลับคืนมา”