วันอังคาร, เมษายน 04, 2560

มีทางเป็นจริง การเลือกตั้งจะมาเร็วในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าปีหน้าต้นๆ





พลันความหวังได้เลือกตั้งเร็วในปี ๖๐ นี้ ก็เจิดจรัสขึ้นมาสำหรับคนที่รอคอย รวมถึงส่วนใหญ่ที่โหวตให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านๆ ไปเมื่อเดือนสิงหา ปีที่แล้ว

อันนี้ตามที่ ‘Thanapol Eawsakul’ บอกว่า “ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็มีสัญญาณแปลก ๆ ที่ทำให้อาจจะมีการเลือกตั้งในปี ๒๕๖๐”

เขาอ้างข่าวคืบทางการเมืองต่างๆ นับแต่ ๒๗ มีนา เรื่องบิ๊กป้อมแย้มเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน (จากไทยรัฐ) แม้ว่าบิ๊กคนเดียวกันจะ ‘ปัด’ (ในวันรุ่งขึ้น) ว่าไม่ได้ไฟเขียวให้เลือกตั้งท้องถิ่น เพราะต้องรอประกาศใช้ รธน.เสียก่อน

แต่ประชาชาติธุรกิจก็ฟันธงว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่ใน คสช. ส่งสัญญาณผ่าน ‘พีระศักดิ์ พอจิต’ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ ๒ ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการ ป.ย.ป.

ว่าจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งใหญ่”

(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491150789)

ธนาพลยังได้ยกเหตุจูงใจอีกสองสามอย่างว่าคือสัญญาน ‘อาจ’ มีเลือกตั้งในปี ๖๐ จากการที่กรรมการเลือกตั้ง “โชว์ยุทธศาสตร์ กกต. ๔.๐ ลุยเลือกตั้งให้สุจริต-เที่ยงธรรม” (จากมติชน) และ

“จดหมายด่วนที่สุดจากสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง เรื่องการเตรียมความพร้อมในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.”

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/1436558313077670?pnref=story)

แล้วก็มี ‘หมายกําหนดการ พระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐’ ออกมาเมื่อ ๑ เมษายน นัยว่าจะเป็นการเอิกเกริกคล้ายเมื่อครั้งสมเด็จพระปกเกล้าทรงพระราชพิธีสถาปนารัฐธรรมนูญกระนั้น

“เวลา ๑๕ นาฬิกา เสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงยืนหน้าพระราชอาสน์ หน้าพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยเครื่องประกอบ พระราชอิสริยยศ มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงาน ประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี”






จะเป็นไปได้อย่างที่ใฝ่ฝันหรือไม่ต้องฟังทั่นรองฯ วิษณุ เครืองาม ก่อนว่าวันนี้ (๕ เมษา) “ช่วงบ่ายจะเรียกปลัดทุกกระทรวงมาหารือวิธีการปฏิบัติที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะจะมีวิธีการที่แตกต่างไปจากการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้”

นั่นคือจะต้องมีกฎหมายรอง (ยิ่งกว่าลูก เพราะไม่รอให้โตเป็นหนุ่มเป็นสาวเสียก่อนเหมือนลูก) สองอย่าง คือเรื่องการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ไม่มีไม่ได้ภายใน ๑๒๐ วัน เท่ากับว่าต้นเดือนสิงหาต้องพร้อม

แต่อาจมีปัญหานิดนึงตรงว่าจะต้องทำกฎหมายลูก ๑๐ ฉบับให้เสร็จภายใน ๒๔๐ วัน (ต้นเดือนธันวา) ซึ่งขณะนี้เสร็จไปแค่ ๒ ฉบับ

ทว่าอันนี้ไม่น่าห่วง ดูจากฝีมือของพวก สปท. สนช. สามารถผลิตกฎหมายออกมาอย่างรัวๆ ได้ แล้วผ่านอภิปรายสามวาระรวดภายในคืนเดียวไหว สบายโก๋

ข้อสำคัญ มีสมาชิก สปท. และ สนช. จำนวนไม่น้อยกระสันต์จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งกัน น่าจะช่วยดันให้กฎหมายลูกเสร็จผ่านโดยเร็ว

“นายวันชัย สอนศิริ สมาขิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า...ตนได้พูดคุยกับสมาชิก สปท. และ สนช.หลายคน ทราบว่าจะมี สปท. ประมาณ ๒๐ คน และสมาชิก สนช. ๑๐ คน จะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ได้สิทธิลงสมัคร ส.ส.”

(http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx…)

นอกเหนือจากนั้น ดุเหมือนว่า คสช. จะเบื่อเสียงด่า (ข้อหาอยากอยู่นาน) กันแล้วละ โดยเฉพาะไอ้ที่ใครไม่รู้ทำกร๊าฟฟิคแปะไว้บน (สื่อ) ‘โซเชียล’ ให้แชร์กันลามทุ่งว่า





“มาอย่างปล้น... อยู่อย่างปลิ้น... กินอย่างปลวก... เกาะอย่างปลิง...” นั้นมันทำให้เกิดความรำคาญเสียจนไม่อยากอยู่อย่าง คสช. ก็ได้

อยู่ต่อไปตามสไตล์ ‘อียิปต์โมเดล’ ไม่ดีกว่าหรือ มีการชี้โพรงให้กะรอกตั้งแต่เมื่อเดือนมีนา ปี ๕๘ โน่นแล้วว่า

“รัฐบาลทหารของนายพลเอล-ซิซี จึงน่าจะเป็นที่พิสมัย เอาเยี่ยงอย่างโดยคณะยึดอำนาจไทยได้อย่างดี”

(http://tgdr.blogspot.com/2015/03/blog-post.html)

ท้าวความกันนิดว่ารัฐบาลอียิปต์ปัจจุบันมาจากคณะทหานักยึดอำนาจเหมือนไทย ยึดได้แล้วก็กวาดล้างฝ่ายรัฐบาลเก่าราบเรียบ ชนิดมีพวก ‘บราเธอร์ฮู้ด’ ตายเป็นพัน จากนั้นก็จัดเลือกตั้งอย่างไม่มีคู่แข่ง นายพลอัลซีซีหัวหน้ารัฐประหารได้รับคะแนนท่วมท้นกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ได้เป็นประธานาธิบดีมาจนบัดนี้

แถมเมื่อวานอัลซีซีไปเยือนกรุงวอชิงตันให้ประธานาธิบดีอเมริกันต้อนรับหนุงหนิง “อั๊วอยากบอกให้ทุกคนรู้นะ ในกรณีที่จะมีใครตั้งแง่สงสัย” ทรั้มพ์แถลงด้วยตัวเอง “ว่าเราให้ท้ายประธานาธิบดีอัลซีซีเต็มที่ ท่านสามารถรับมือสถานการณ์ที่ยุ่งยากได้อย่างวิเศษเลยทีเดียว”





ซ้ำร้าย ข่าวบอกว่ารัฐบาลสหรัฐทำไม่รู้ไม่ชี้เรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในอียิปต์ ไม่มีการเอ่ยถึงเลยแม้แต่นิด พอถูกซักเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของทรั้มพ์เลี่ยงที่จะตอบนักข่าว โดยบอกเพียงว่า “แนวทางของเราจะจัดการกับประเด็นสุ่มเสี่ยงอย่างนี้ในแบบปกปิดจะดีกว่า”

(https://www.yahoo.com/…/meeting-egypts-sisi-trump-publicly-…)

เป็นที่เข้าใจกันว่าลึกๆ แล้วรัฐบาล คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการที่จะให้สหรัฐยอมรับแนบสนิทแบบเดียวกับอียิปต์ หากแต่ติดขัดขลุกขลักตรงที่มาจากการยึดอำนาจ และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐไม่สามารถตระบัดไปจากหลักการประชาธิปไตยได้

หากว่ารัฐบาลทหาร คสช. สามารถต่อสายป่านยาวออกไปด้วยอาณัติจากการเลือกตั้งได้ ทุกสิ่งก็จะสดใสซาบซ่าตามยุทธศาสตร์ ๒๐ ปีอย่างแน่นอน





เมื่อคำนึงถึงข่าวฮือฮาเมื่อเดือนสิงหา ปี ๕๙ ที่เผยว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ประกาศจะตั้งพรรคการเมืองรองรับให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปโดยผ่านการเลือกตั้ง เมื่อ คสช.ลงจากหลังเสือแล้ว

(http://www.matichon.co.th/news/244402)

การเลือกตั้งที่จะมาเร็วในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าปีหน้าต้นๆ จึงมีทางเป็นจริง ไม่ใช่ฝันค้างเติ่งก็ได้