วันจันทร์, เมษายน 10, 2560

รำลึกสดุดีวีรชน10เมษายน 2553 - 7 ปีเต็มแล้ว การแสวงหาความจริงและความยุติธรรม? สำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ยังเดินหน้าต่อ





จักรภพ เพ็ญแข รำลึก 10 เมษายน 2553

วีรชน 10 เมษาในอากาศ
คือกรอบรูปภาพวาดชาติไทยใหม่
รัฐของชาติของชนของคนไทย
มิใช่ชาติสาไถยใต้บาทา

วิ่งเผชิญโดยไม่หวาดอำนาจรัฐ
สู้กับสัตว์ตัวร้ายที่ใหญ่กว่า
แม้สิ้นชีพสิ้นชีวันในมรรคา
ฝากคำกล้าข้าไม่ขลาด "ราษฎร์ดำเนิน".

จักรภพ เพ็ญแข
นอกราชอาณาจักรไทย
10 เมษายน 2560


จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

.....

ขอรำลึกสดุดีวีรชน10เมษายน 2553 ทุกท่าน เหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมสรุปว่า รัฐบาลที่ปราบปรามประชาชนอย่างนองเลือด มีผู้เสียชีวิต25 คน บาดเจ็บว่า800 คน แต่ยังอยู่ต่อไป ฝ่ายประชาชนก็เช่นกันยังชุมนุมต่อไปกว่าเดือน ไม่เหมือนกรณี14ตุลาคม และ17 พฤษภา2535

ความคิดที่เคยเชื่อกันมาตั่งแต่กรณี14 ตุลาคม ว่า ทันทีที่รัฐบาลลั่นปืนปราบการชุมนุม เดินขบวนของประชาชน จะแพ้ ไม่ถูกต้องอีกต่อไป

ความจริงแล้ว ความคิดนี้ ไม่จริงมาตั้งแต่กรณีพันธมิตรปิดล้อมสภาเมื่อวันที่7 ตุลาคม 2551 ที่ถูกสลายการชุมนุม มีคนตาย 2 คน (โบว์ สารวัตรจ๊าบ ) บาดเจ็บกว่า400 คน


Jaran Ditapichai

.....




http://news.voicetv.co.th/thailand/479307.html

นปช.ทำบุญอุทิศกุศลวีรชน 10 เมษาฯ 53

แกนนำ นปช.ตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนเสียชีวิต จากเหตุการณ์สลายชุมนุม 10 เมษายน 2553

ที่มา Voice TV

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่ม นปช.ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 10 รูป ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมในเดือนเมษายน 2553 โดยเป็นพิธีเล็กๆ และเรียบง่าย เนื่องจากยังติดคำสั่ง คสช.มาตรา 44 ห้ามชุมนุมทางการเมือง

นายจตุพร กล่าวว่า การทำบุญในวันนี้ไม่ใช่เพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นการทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศล ให้วีรชนที่ได้ต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งบาดเจ็บล้มตาย รวมประชาชน ทหาร ถึง 25 ราย รวมถึง นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ถูกยิงเสียชีวิต และในชั้นไต่สวนหาสาเหตุการตาย ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำได้

.....



ชมคลิปข่าวได้ที่
http://news.voicetv.co.th/thailand/479310.html


เป็นเวลา 7 ปีเต็มแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553 การแสวงหาความจริงและความยุติธรรม? สำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ยังเดินหน้าต่อ

หนึ่งในกระบวนการที่ผ่านมา ก็คือการไต่สวนหาสาเหตุการตายของบุคคลโดยศาล ซึ่งที่ผ่านมาเฉพาะในกรณี 10 เมษายน มีการไต่สวนไปแล้ว 7 ศพ ศาลวินิจฉัยว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ศพ "โชคชัย อ่างแก้ว" ทนายความฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตบอกว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นนี้น่าจะเป็นคำตอบว่า ใครคือผู้ที่ควรต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์วันนั้น

7 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามดำเนินคดีอาญา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการ ศอฉ.ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ต่อผู้สั่งการสลายการชุมนุม แต่ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ รวมทั้ง ป.ป.ช.ยกคำร้องทั้งหมด

คงเหลือเพียงความหวังที่ชั้นศาลฎีกา ซึ่งทนายความ ได้ยื่นคำร้องโต้แย้งในข้อกฎหมายไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2559 และสำนวนอีกส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ DSI

ตัดภาพมาที่ฝ่ายผู้ชุมนุม ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในอดีตนักโทษการเมือง อย่างนฤมล วรุณรุ่งโรจน์ หรือ "จ๋า-ผู้หญิงยิง ฮ." เธอถูกฝากขังในเรือนจำนานนับปี ทุกวันนี้เธอแบกเอาร่างกายและจิตใจที่เจ็บป่วย มาฝากตัวอยู่กับร้านค้าเล็กๆในอิมพีเรียลลาดพร้าวชั้น 5 เปิดห้องนวดอยู่ข้างในร้าน และยังต้องแบกรับผลที่ตามมาข้างหลังอีกมากมาย

10 เมษาฯ 2553 เป็นความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย มีทหารอีกหลายนาย ที่ต้องบาดเจ็บและล้มตาย ทั้งระดับผู้บังคับบัญชา อย่าง "เสธ.เปา" หรือ พันเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตจากระเบิดเป็นศพแรกสาหัสอีกว่า 90 นาย ฝ่ายรัฐชี้ว่า นี่คือฝีมือของชายชุดดำ

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ศาลอาญาพิพากษาคดี “ชายชุดดำ” ซึ่งมีจำเลย 5 คน ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ตัดสินจำคุกจำเลย 2 คน ๆ ละ 10 ปี ส่วนที่เหลือยกฟ้อง
ที่มา Voice TV

ooo










ญาติวีรชนรำลึกครบรอบ 7 ปี 10 เมษาฯ 53 ท่ามกลางสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้มงวดในการจัดกิจกรรม โดยในปีนี้อนุญาตเพียงให้ญาติจุดเทียนเท่านั้น

ภาพจาก อินเตอร์เน็ท

.....

.....

7 ปีที่แล้วเวลาเย็น

ผมติดตามเหตุการณ์ที่ผ่านฟ้าจนแน่ใจว่า นี่คือการสลายการชุมนุมของจริง ไม่มีลับ ลวง พรางจะวกเข้าราชประสงค์

ตัดสินใจกระโดดขึ้นรถรีบไปที่นั่นตอนพลบค่ำ เสียงปืนดังรอบทิศ วิกฤติถึงที่สุด

สอบถามสถานการณ์จากเพื่อนแกนนำที่ทำหน้าที่อยู่ตรงนั้น แล้วลงมติหัวใจว่าต้องหยุดความรุนแรงนี้ทันที

ผมเจรจากับคนของรัฐบาล ในที่สุดเสียงปืนก็สงบลง หลังจากนั้นเป็นเสียงกรีดร้อง ร่ำไห้ ถามหาคนที่หายไปอื้ออึงอยู่รอบตัว

จากวินาทีนั้นจนเช้ามืดผมอยู่ที่นั่น จนเดี๋ยวนี้ความทรงจำของผมก็ยังชัดเจนเหมือนยังอยู่ในคืนอำมหิตนั้น

ผมสงสัยตลอดมา ว่าคนสั่งการยังจำได้ไหม?

เราเพียงเรียกร้องเสรีภาพของประชาชน นึกไม่ถึงว่านอกจากไม่ให้เสรีภาพ พวกเขายังพรากเอาลมหายใจคนมือเปล่าได้ลง

วันหนึ่งความจริงและความยุติธรรมจะปรากฏ

ผมเชื่อมั่นเช่นนี้ตลอดมา


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ