เจ็บปวดตรงที่ ข้าราชการไม่ได้ทำไทยแลนด์ 4.0 จริง .. เพียงแต่เอาตัวเลข 4.0 ไปใส่ท้ายโครงการทุกโครงการ เสร็จแล้วก็ทำแบบเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เกษตร 4.0 พาณิชย์ 4.0 มหาดไทย 4.0 จังหวัด 4.0 ทางหลวง 4.0 กลาโหม 4.0
..
- ไทยแลนด์ 4.0 มีแนวคิดที่ถูกทางแล้ว เพียงแต่ในภาคปฏิบัติ งานระดับย่อย ๆ ไม่ไปในทางเดียวกันเลย ราชการยังทำแบบเดิม คือเอาทุกเรื่องที่ตัวเองทำไปใส่คำว่า 4.0 เหมือนสมัย AEC แล้วก็ทำแบบเดิมทุกอย่าง
..
- ทุกเรื่องในไทยจะติดปัญหากลไกขับเคลื่อนของราชการ เรื่อง 4.0 ก็เหมือนกัน อย่าว่าแต่ประชาชนไม่ค่อยเข้าใจเลย ซึ่งรวมไปถึงนักธุรกิจด้วย นักธุรกิจในกรุงเทพฯอาจจะเข้าใจ แต่นักธุรกิจจำนวนมากในต่างจังหวัด อยากจะรู้ว่ามันคืออะไรกัน ฉะนั้น อย่าเพิ่งพูดกันว่าจะทำอะไร เอาเป็นว่าอธิบายก่อนว่ามันคืออะไร
..
- การจะไปสู่ 4.0 เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการปฏิรูปด้วย แต่จุดอ่อนคือรัฐบาลหวังว่าจะให้เกิดโดยไม่ต้องปฏิรูปอะไรมาก หรือพยายามทำให้เป็นคนละเรื่องกัน หลายเรื่องต้องมีการปฏิรูป แต่รัฐบาลไม่ค่อยจะกล้าทำสักเท่าไร ... ที่สำคัญคือรัฐบาลยังใช้ข้าราชการเป็นตัวนำในการปฏิรูป
..
- ง่าย ๆ ถ้าจะไป 4.0 ต้องเปิดเสรีในบางสาขา เช่น อยากให้ไทยเป็นเมดิคอลฮับตามนโยบายเอสเคิร์ฟ แต่เรากำลังขาดหมอขาดพยาบาล ซึ่งจะนำเข้ามาก็ได้ แต่รัฐบาลจะกล้าเปิดเสรีไหม เพราะกระทบกับพยาบาลบางกลุ่ม อย่างการศึกษาจะเป็น 4.0 ก็ต้องปฏิรูปการศึกษาใหม่ มีการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ ซึ่งจะกระทบกับครูที่เป็นอยู่ หรือการจะเป็น 4.0 ต้องกระทบกับรัฐวิสาหกิจที่มีอยู่ รัฐบาลกล้าไหม
..
- วิธีปฏิรูปมหาวิทยาลัยอย่างหนึ่งก็คือ ให้มหาวิทยาลัยไทยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ และทำงานกับภาคธุรกิจ ซึ่งสปีดเขาเร็วกว่าเรา แม้ไม่ได้เชื่อมสนิท 100% แต่ถ้าเริ่มทำให้ดี ๆ ฉลาด ๆ มหาวิทยาลัยจะเก่งขึ้น และดึงอินโนเวชั่นฮับเข้ามาได้ด้วย สิงคโปร์เริ่มทำมานาน ไทยควรเรียนรู้ และอย่าไปแข่งในสาขาที่เราสู้ไม่ได้
..
- มหาวิทยาลัยไทยมีเก่งหลายด้าน อย่างวิจัยด้านการแพทย์ เรามีมหิดล จุฬาฯ ซึ่งต้องออกแรงเข็นให้มหาวิทยาลัยเหล่านี้กลับมาทำวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ปรับกระบวนการ ดีไซน์แพ็กเกจดี ๆ เชื่อว่าสู้ได้
..
อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้จากประชาชาติธุรกิจ ตามลิงค์ครับผม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491053839
เกษตรอัจฉริยะ - Smart Farm