วันอาทิตย์, เมษายน 02, 2560

ร่องรอยอัปลักษณ์ ในบรรยากาศของการเชิดชูทหารหาญ ที่ปีชาติไม่เคยได้รบทัพจับศึกกับอริราชศัตรูที่ไหน ขณะที่กอบกำงบประมาณปีละเป็นแสนล้าน บุคคลากรระดับนายพันนายพลอยู่กินสมบูรณ์ มีบ้านพักฟรี สวัสดิการพร้อมเพียบ และได้ไอ้เณรที่เกณฑ์มาเป็นทหารรับใช้





ช่วงนี้ฤดูเกณฑ์ทหาร เห็นดาราชายออกตัว ‘รับใช้ชาติ’ กันใหญ่ คนนั้นลูกผู้ชายคนนี้ก็แมน แต่ไม่สามารถกลบข่าวทหารเกณฑ์โดนซ้อมโดนข่มเหงถึงชีวิตไปได้

วันนี้ (๒ เมษา) มิกค์ ทองระย้า พระเอกหนุ่มวัย ๒๔ ปี แห่งละครดัง ๗ สี ‘นักบุญทรงกลด’ ไปยังจุดคัดเลือกทหาร อ.เสาไห้ สระบุรี เพื่อขอผ่อนผันเป้นครั้งที่ ๔ เนื่องจากกำลังศึกษาปริญญาตรี ม.รามฯ แถมยังติดแสดงละครอีกสองเรื่อง

แต่กระนั้นก็เป็นข่าวให้ท่านผู้ชมทางบ้านเป็นปลื้มเมื่อเขาบอกว่า “หากเรียนจบ ก็มีความตั้งใจจะสมัครเข้ารับใช้ชาติตามหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยด้วย”

(http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=774279)

อีกคนที่เป็นข่าวดังเพราะเนชั่นพาดหัวว่า “แมนมาก” เขายังประกาศว่าจะจับใบดำใบแดงพร้อมรับใช้ชาติเหมือนกัน

เบิ้ล ปทุมราช นักร้องวัยรุ่นค่ายอาร์สยามไปรับการคัดเลือกที่หน่วย อ.ปทุมราชวงศา อำนาจเจริญ ท่ามกลางบรรยกาศคึกคัก แถมเขาร้องเพลงฮิตให้แฟนคลับฟังกลางลาน ชื่นชมกันขรม

(http://www.nationtv.tv/main/content/entertainment/378541248/)

อีกด้านหนึ่งบรรยากาศตรงข้าม เต็มไปด้วยความเศร้าสลด เมื่อวานซืน “ทหารเกณฑ์ในค่ายวิภาวดีรังสิต โดนทำโทษในข้อหาผิดวินัยตั้งแต่วันที่ ๒๗ มี.ค. ถูกหามส่ง รพ. เมื่อวันที่ ๓๑ มี.ค. เสียชีวิตเมื่อเวลา ๐๕.๐๐ น....

โดยนางเรณู หมดราคี มารดา ได้มาร้องเรียนต่อ พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๕ สุราษฎร์ธานี...

มั่นใจว่าลูกชายถูกทำร้ายภายในเรือนจำทหารแน่นอน แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบว่า เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย ไตทำงานผิดปกติ”

(http://www.thairath.co.th/content/902426)

การนี้ โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า “เป็นเรื่องเฉพาะในเรือนจำทหาร ซึ่งไม่เกี่ยวกับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปีนี้

ที่ผ่านมาส่วนใหญ่การเสียชีวิตของพลทหารจะเป็นกรณีที่มีอาการเจ็บป่วยและร่างกายไม่แข็งแรง เมื่อมาฝึกทหารแล้วเกิดอาการผสมกับเป็นโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรค

ซึ่งมีไม่กี่กรณีที่เกิดจากการลงโทษเนื่องจากกระทำความผิดและผู้บังคับบัญชาใช้อารมณ์รุนแรงเกินไป” พ.อ.วิธัย สุวารี อ้าง

(http://www.matichon.co.th/news/516268)

แน่ละมันไม่เกี่ยวกับเรื่องราววิสามัญฆาตกรรมด้วยน้ำมือทหาร-ตำรวจ ที่ชักเกิดขึ้นบ่อยในยุค คสช. รายล่าสุดนี่ที่นราธิวาส

“ครอบครัวผู้เสียชีวิตออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีมีพยานเห็นเหตุการณ์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ที่มีการแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชน”

(http://www.krobkruakao.com/local/40065)






การซ้อมไอ้เณรหรือการวิสามัญชาวเขาอาจไม่ใช่เนื้อเน่าของทั้งกองทัพ แต่ว่าในบรรยากาศของการเชิดชูทหารหาญ ที่ปีชาติไม่เคยได้รบทัพจับศึกกับอริราชศัตรูที่ไหน ขณะที่กอบกำงบประมาณปีละเป็นแสนล้าน บุคคลากรระดับนายพันนายพลอยู่กินสมบูรณ์ มีบ้านพักฟรี สวัสดิการพร้อมเพียบ และได้ไอ้เณรที่เกณฑ์มาเป็นทหารรับใช้

มันเป็นร่องรอยอัปลักษณ์ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ที่จะอ้างเหตุแห่งคอรัปชั่นและการไม่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ในการยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาด้วยการเลือกตั้งตามวิถีประชาธิปไตยมากลบไม่ได้





เพราะทั้งสองเหตุย่อมหาได้ไม่ยากในแวดวงทหารหาญที่ครองเมืองอยู่ขณะนี้ ดูจากตัวอย่างง่ายๆ ที่ราชกิจจานุเบกษาเมื่อสองวันก่อน “มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดนายทหาร สัญญาบัตรออกจากยศทหาร” ๗ คน

“ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง”

(http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490872616)

หนึ่งในนั้นคือ พันโทหญิง ศิริโสภา จันทรุกขา สังกัดกองทัพบก ที่ซึ่ง Krittanai Thepsai ให้รายละเอียดว่า

“เป็นเครือข่ายการทุจริตการขายซากรถเก่าหน่วยงาน ขส.ทบ. นำเงินเข้ากองทัพบกแค่ ๒ ล้าน ที่เหลือลอยไปเข้ากระเป๋าพลเอกปรีชา จันทร์โอชา และพลเอกวลิตโรจนภักดี...

เพื่อนรัก บทสุดท้ายติดคุกมีไว้สำหรับพวกนายทหารระดับล่าง ตัวใหญ่หลุดหมด...

พลเอกธีรชัย (นาควานิช ผช.ผบ.ทบ.-ขณะนั้น) เคยมีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวน แต่พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจสะกัดให้เรื่องเงียบ (ชื่อทหารคนแรกก่อนถูกปลดได้ไปเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ดูตลกจำคนเดิมไม่ได้ - พันโท โอติมหลอด เบียดนอก สังกัดกองทัพบก)

(https://www.isranews.org/israne…/…/47964-report02_84031.html)

เช่นนี้ สิ่งที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พูดเมื่อวันก่อน (๑ เมษา) ว่า “กระบวนการยุติธรรมทุกวันนี้ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกัน แม้แต่ประชาชนที่ยากจนไม่มีที่ทำกิน...ทุกคนอยู่บนบรรทัดฐานกฎหมายเดียวกัน ไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือใช้กฎหมายกระทำกับใครคนใดคนหนึ่ง”

(http://news.voicetv.co.th/thailand/476454.html)

นั้นน่ะ อมพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่พระ “หัวดื้อ-พาล” สุวิทย์อิสระวัดอ้อน้อยปลุกเสกด้วยเลือดของตนเอง มาพูด นอกจากเชื่ออะไรไม่ได้แล้วยังเป็นพิษเป็นภัย หากน้ำลายกระเด็นใส่