วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 03, 2561

‘I-Tube’ ชวนประชาชนร่วมปฏิรูป แต่ยูเอ็นเตือน “สถานการณ์การจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมต่อกลุ่มประชาสังคมในวันแรงงานสากลที่ผ่านมา”


ถึงบท โอด แล้วเหรอ ‘I-Tube’ ที่ว่า ทุกข์ของผม จะเอาเรื่อง “เห็นคนขายของทำให้นึกถึงว่าวันนี้เขาจะกินอะไร” หรือว่า “ผมก็เหนื่อยทำงานเหมือนกัน ทั้งคิดทั้งทำไม่รู้จะไปขึ้นค่าแรงกับใคร” ดีล่ะ

ไอ้ที่ออดอ้อนว่า “ผมมีเงินเดือนน้อยกว่านายกฯ คนอื่นในอาเซียน” นั้นนะ Phichai Ph เขาถามหน่อยเดียวว่า

แต่นายกฯ คนอื่นในอาเซียนรับเงินเดือนแค่ตำแหน่งเดียว ไม่ใด้รับเงินเดือนจากหลายตำแหน่งแบบนายกฯไทย เปรียบเทียบแบบเอาแต่ได้ ไหม” เนี่ย

ตอนนี้เห็นทีเตรียมเนื้อเตรียมตัวไปเป็นนักการเมืองอีกแล้ว ถึงได้เห็นอกเห็นใจพวกนักการเมืองนักละ “ผมไม่ได้ไปว่าอะไรท่าน รู้ว่าอยากทำอะไรเยอะแยะ...

ไม่ว่าจะเป็นใคร นักการเมืองหรืออะไรก็ตามก็เป็นคนไทย เราเกลียดกันไม่ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็เกลียดกันไม่ได้”


ใช่สิ จะหาเรื่องยืดเวลาท่าจะไม่ได้แล้ว ต้องหันมาดันสูตรเดิมดูดส้วมการเมืองเอาเศษอาจมที่ยังไม่เน่าดีมาใช้ แต่ไอ้ที่ดูดๆ อยู่น่ะเห็นท่าจะไม่พอ อย่างดีแค่แปดสิบกว่าๆ จะให้แน่ต้องได้เกิน ๑๒๕ ฉะนั้นจึงต้องหันมาเอาใจนักการเมืองทั้งหลายที่เคยด่าพวกเขาไว้เยอะไง

หากดูตามสูตรของ Thai Ariyaskun ที่ว่าถึงจะมีเสียงจากพรรค สว. ซึ่ง คสช. แต่งตั้งได้ ๒๕๐ คนก็เถอะ แม้รัฐธรรมนูญ มีชัย วางหมากให้พรรคการเมืองอ่อนแอ และเปิดช่องให้ นายกฯ คนนอก ก็ตาม

“มีชัย (ฤชุพันธุ์) ซ่อนอะไรเอาไว้เยอะ โดยที่ทหารอาจรู้ไม่ทัน มารู้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว เพราะต่อให้ตั้ง สว.ได้ ๒๕๐ คน หากได้เสียง สส.ไม่ถึง ๒๕๐ คน ก็ยากบริหารได้ คือเป็นรัฐบาลไม่ได้แน่นอน”

ผู้ใช้นามแฝงของ ‘Thai Farmer'son ให้อัตถาธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า “รธน. ฉบับนี้ ถูกออกแบบมาแบบเดียวกับยุคเปรม ปี ๒๕๒๓-๒๕๓๐ ที่การเมืองมีระบบหลายพรรค นายกฯ คนนอกแบบเปรมสามารถรวมพรรคเล็กๆ เกินครึ่งได้

เราดูระบบนับคะแนนก็เห็นว่ามีชัยต้องการให้เกิดแบบนี้ คือมีแต่พรรคเล็ก ไม่มีพรรคเกินครึ่งแบบเพื่อไทย จะว่ามีชัยส่งเสริมฝ่ายประชาธิปไตย คงไม่ใช่

แต่สิ่งที่มีชัยคุมไม่ได้คือ พฤติกรรมการเลือกตั้งคนไทยเปลี่ยนไปเลือกระบบพรรค ทำให้แนวโน้มเสียงกระจายแบบยุคก่อนปี ๒๕๔๐ นั้นยาก...คสช.จึงหันรีหันขวางหาทางลงไม่ได้

ทำได้แบบหน่อมแหน่มไร้ยุทธศาสตร์ทางออกที่มีพลัง คือตอนนี้ทำได้แค่ ดูด สส. ซึ่งได้แต่ สส.ที่ไร้พลังในสังคมยุคใหม่ โอกาสที่ สส.ที่ถูกดูดไปจะได้คะแนนเกินครึ่งนั้นคงเป็นไปไม่ได้”

แต่อาการหันรีหันขวางของ คสช. นี่ยังคงทำให้ชาวบ้านหญ้าแพรกล้มระเนระนาดกันต่อไป การใช้เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจสกัดกั้นชาวบ้านเกษตรกรภาคเหนือ ที่เดินทางจะไปร่วมชุมนุมกับเครือข่าย พี-มู้พหรือ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมในวันแรงงานสากล

(ดู ๖ ข้อเรียกร้องของ พี-มู้พ ได้ที่ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10160445646520551 )

ชาวบ้านบ่นว่าเจ้าหน้าที่ใช้วิชามารต่างๆ เช่นจับตัวคนขับรถ ๒ นาย กับแกนนำหายไปยังที่ว่าการอำเภอแม่ทา ลำพูน จากนั้นบุคคลทั้งสามถูกส่งตัวไปควบคุมไว้ที่มลฑลทหารบกที่ ๓๓ ชาวบ้านต้องนอนค้างแรมกับพิ้นกันที่ด่านตรวจรถแม่ทา
 
ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า “ทหาร-ตร.เข้าตรวจป้ายของเครือข่ายสิทธิแรงงานข้ามชาติ ที่เตรียมไว้เดินขบวนในวันกรรมกรสากล บริเวณย่านมหาชัย โดยมีการตรวจยึดไปสองป้าย ป้ายหนึ่งข้อความว่า แรงงานข้ามชาติไม่ใช่ตู้ ATM’”

อาการเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่เป็นเรื่อง อยากจะเป็นนักการเมืองจากการเลือกตั้งก็อยาก แต่ขาดกึ๋นหรือจิตวิญญานของการเป็นประชาธิปไตย กลัวชาวบ้านประท้วง กลัวการแสดงออกของประชาชน ก็เลยยังคงทำอะไรอันเป็นเผด็จการอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ร้อนถึงองค์การสหประชาชาติต้องสะกิดเตือนทันควัน ในฐานที่ รมว.ต่างประเทศเพิ่งไป โกหก ไว้ที่เวทีนานาชาติหมาดๆ เมื่อเดือนที่แล้ว ว่าประเทศไทยภายใต้เผด็จการทหารนี้มีสิทธิมนุษยชนเต็มที่แล้ว อ้างผลงานที่มีอยู่นิดเดียวย้อนหลังเกี่ยวกับแรงงานทาสชาวเล ที่ถูกองค์การระหว่างประเทศจี้ผิดให้จำต้องแก้ไข

เมื่อวานนี้ (๒ พฤษภา) สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ แถลงตักเตือน คสช.อีกครั้ง ต่อการที่ “สถานการณ์การจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมต่อกลุ่มประชาสังคมในวันแรงงานสากลที่ผ่านมา” ในประเทศไทย

รัฐบาลไทยในฐานะที่เป็นรัฐสมาชิกกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ต้องดำเนินการให้สิทธิเหล่านี้ได้รับการเคารพอย่างเต็มที่” เฟชบุ๊ค 'UN Human Rights - Asia' ระบุถ้อยแถลงของซินเทีย เวลิโก้ ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน

 
สำนวนลิเกการเมืองของประยุทธ์ จันทร์โอชา “๕ ปีจากนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปประเทศ เป็นช่วงชี้เป็นชี้ตายประเทศ ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการปฏิรูปร่วมกัน” นั่นหรือ 

สิ่งเดียว คนเดียว ที่ต้องปฏิรูปก่อนอื่นใดอยู่ที่ คสช. ปฏิรูปตัวเองให้ได้ก่อน 

วิธีคิดที่หลุดจากอำนาจนิยม การพูดที่ตรงกับความเป็นจริงและการกระทำ ฝึกสมอง ท่องจำให้ขึ้นใจกับประชาธิปไตย ความเสมอภาค และจิตสำนึกเรื่อง อกเขาอกเราเป็นเอกอุ ก่อนที่จะคิดแจกสมุดพก คสช. เสียด้วยซ้ำไป