สัญญานการเมือง ปชต. สมบูรณ์ยั่งยืนแบบ กปปส.กับ คสช.เริ่มแล้ว เตะตัดขากันอีรุงตุงนัง

ตอนนี้สัญญานการเมืองสับสนอย่างไรพิกลอยู่ เมื่อ ไพศาล พืชมงคล (ตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ตั้งข้อ ‘น่าสังเกตุ’ ก่อนการเดินสายลงพื้นที่สระแก้วของประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งจะต้องได้พบกับ ‘ป๋าเหนาะ’ (เทียนทอง) ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าถ้าตุ๊ดตู่อยากพบประชาชนที่นั่นก็ได้ เดี๋ยวจัดให้ “จะเอาสัก ๕๐,๐๐๐ คนก็ได้” จะเชิญชวนมาต้อนรับ

พอดีพ้องกับที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ “แฉ คสช.จ่อทะลวงเพื่อไทย สถานีต่อไปดึงก๊วนเจ้าพ่อวังน้ำเย็น”

ไพศาลแถมอีกหน่อยว่า “ป๋าเหนาะพูดอีกว่า ป้อมกับประยุทธ์นั้นไม่ใช่คนไกล เขาโตมาจากที่นั่น” หมายถึงแถวค่ายจักรพงษ์ คุมภาคตะวันออกด้านปราจีนบุรียันสระแก้ว (แต่เดิมจังหวัดเดียวกัน) เลยมาถึงข้อน่าสังเกตุ

“ว่าแนวคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันสามัคคีปรองดองกัน กำลังได้รับการขานรับมากขึ้น” จำได้ไหมไพศาลคนนี้เคยเปรยว่าเหลืองแดงเลิกทะเลาะกันเสียทีท่าจะดี

เขาอ้างว่าป๋าเหนาะเนี่ย (ต่างกับเนวินอย่างหน้ามือกับหลัง ‘teen’ ที่ว่ามีอาถรรพณ์ เนรวินสมสู่กับใคร ตายหมด) ชูใครได้เป็นนายกฯ ทุกคนไป จากชาติชาย (ชุณหวัณ) สู่บรรหาร (ศิลปอาชา) ถึงทักษิณ (ชินวัตร) และชวลิต (ยงใจยุทธ์)

ลงท้ายว่า “แผ่นดินแห้งแล้งมานาน สักวันสายฝนจะฟื้นคืนความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น” เนื่องจากบิ๊กตุ่นมาคราวนี้ จะได้รู้เสียที “ว่าทำไมตลาดโรงเกลือซึ่งมีการค้าขายชายแดนแต่ละวัน มีผู้คนไปค้าขายกว่าแสนคน แต่ตอนนี้เงียบเป็นป่าช้า”

(https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/1631719193593413)

เนี่ยนะ ที่ปรึกษาพี่ตือพูดอย่างนี้ ทั้งที่พล.อ.ประวิตรเพิ่งพ่นออกมาหมาดๆ “มีคนอยากเลือกตั้งแค่นิดเดียว คนอีก ๗๐ ล้านเขาไม่อยาก เขาเดินตามโร๊ดแมปของรัฐบาลอยู่แล้ว” ตีความตามการกระดกลิ้น ไม่พ้นคิดยืดเวลาอีกนิดมั้ง เลือกตั้ง

สืบสาวมาจากกรณีที่คนหนุ่มสาวกลุ่มอยากเลือกตั้งย้ำหนักแน่น ๒๑ พฤษาปักหลักชุมนุมใหญ่ ๒๒ เดินขบวนกันไปหน้าทำเนียบฯ ไล่ คสช. ที่พี่ป้อมยันกลับ “ไม่กังวล แต่ไม่เข้าใจ” ทำไมจะต้องเลือกให้ได้ในเดือนพฤศจิกา ไม่รอโร้ดแม้พกุมภา ๖๒

ขอโทษทีนะลุง ที่เขาไม่ยอมรอเพราะคณะของลุงเชื่ออะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แถมยังมั่วชิบ...ซะอีก พูดไม่คิด (หรือไม่รู้จริงสักแต่ว่าพูด) ว่าคนไทยมีอีก ๗๐ ล้าน “ทั้งๆ ที่ประชากรตอนนี้มีแค่ ๖๖,๒๐๘,๖๘๑ คน (http://www.thailandometers.mahidol.ac.th/)

ความมั่นใจกับความมโนมันแค่เส้นบาง และยังถือเอาความเห็นของตัวเองคนเดียว มาบอกว่าเป็นความต้องการของคนทั้งประเทศ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่เคยเห็นหัวประชาชน

ไม่เคยถามประชาชน แต่พูดเองเออเอง เพราะเคยชินกับการยัดเยียดให้ประชาชนมาตลอด” นั่นจากคำของ ‘จ่านิว’ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ โพสต์บนเฟชบุ๊ค ที่ ispacethailand.org นำมาใช้อ้าง

ขณะที่อีกด้านเหตุเกิดในกรุงฯ เมื่อ สุรชาติ เทียนทอง เชื้อสายเสนาะเขียนข้อความ “เรียนผู้มีอำนาจ” ว่าได้รับจดหมายจาก ผอ.เขตหลักสี่ ขอความร่วมมือ ‘ห้าม’ ติดป้ายประชาสัมพันธ์ “รวมถึงกิจกรรมฉีดยุงและฉีดวัคซีนสุนัขและแมว”

จดหมายอ้างคำสั่ง คสช. ห้ามกิจกรรมทางการเมือง แต่อดีต ส.ส. เขตหลักสี่ชี้ว่าตนทำงานการเมืองมา ๑๓ ปี เรื่องคำสั่งคณะรัฐประหารนั้นออกมานานจะครบสี่ปีแล้ว แต่คำสั่ง ผอ.เขตเพิ่งออกมาตอนนี้ “เป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะเขตหลักสี่หรือไม่”

เพราะว่านั่นเป็นการ “เพื่อดูแลทุกข์สุขและการบริการประชาชน” ตามหน้าที่ของตัวแทนประชาชน ที่เขาทำอย่างสม่ำเสมอตลอดมา “ทั้งปีและทุกปี...อดีต ผอ.เขตหลักสี่ท่านก่อนยังเคยพูดขอบคุณหลายครั้งที่ช่วยกันดูแลบริการประชาชน เพราะหน่วยงานทางภาครัฐไม่สามารถให้บริการบางเรื่องได้อย่างทั่วถึง”

ในเมื่อมีคำสั่งห้ามออกมาเช่นนี้มีนัยยะอะไรหรือ ก็พอดีวานนี้ (๙ พ.ค.) มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส. เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ

 

แล้ว มอบนโยบายแก่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ ๕๐ เขต โดย “กำชับในที่ประชุมให้ดำเนินการกวดขันการติดตั้งป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตบนถนน ทางเท้า หรือทางสาธารณะ”

และ “ให้กวดขันทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง ป้ายที่ติดตั้งในที่สาธารณะที่ผิดกฎหมายทุกประเภท” จึงเป็นเครื่องชี้แนะว่าคำสั่งมาจากระดับสูง กทม. โดยเฉพาะนายสกลธีเคยลงสมัครเป็น ส.ส.เขตเดียวกับสุรชาติในปี ๕๔ แต่แพ้ไป

(https://prachatai.com/journal/2018/05/76825)

งานนี้จะเป็นการเตะตัดขากันหรือไม่ น่าสงสัย ถึงอย่างนั้นก็มีลักษณะ ‘งูกินหาง’ อย่างไรอยู่ โดยที่ไพศาลผู้เป็นลิ่วล้อประวิตรพูดถึงเสนาะทำนองว่าจะเป็นช่องทางปรองดองเหลืองแดงเพื่อ ‘รัฐบาลแห่งชาติ’

ในเวลาเดียวกันสกลธี กปปส.เก่าที่ คสช.ตั้งเข้าไปช่วย อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่ง คสช.ส่งเข้าไปคุมเสียง กทม. ลงมือเตะข้อเท้าสุรชาติลูกชายเสนาะ สกัดการต่อสายใยกับฐานเสียงใน กทม. ของพรรคเพื่อไทย

อ๊ะ อีกตั้งนานกว่าจะเลือกตั้ง แต่เริ่มแล้วอีรุงตุงนังกัดกันขรมการเมืองประชาธิปไตยสมบูรณ์และยั่งยืนแบบ กปปส. และ คสช.