ตอกย้ำซ้ำซากอีกครั้งจนนับไม่ถ้วน ว่ารัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจชุดนี้นี่บิดเบือนนิติธรรม
บิดเบี้ยวนิติรัฐมหาวายร้ายเพียงใด
เด็กๆ กับป้าๆ ไปยืนกิน ‘มาม่า’ ‘ไวไว’ ‘ควิก’ ในที่สาธารณะเป็นสัญญลักษณ์
‘อยากเลือกตั้ง’ ถูกตำรวจเรียกไปสถานีทำบันทึกประจำวัน
ไม่แจ้งข้อหา แค่ขู่ว่า
“ถ้าฝ่ายกฎหมายของ คสช. พิจารณาแล้วพบว่าการยืนกินมาม่าของเราในวันนี้ขัดต่อคำสั่งของหัวหน้า
คสช. และพ.ร.บ.ชุมนุมก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป” (จากโพสต์ของ Tanawat
Wongchai @drballban คู่หูเรียกร้องเลือกตั้งประชาธิปไตยของ
‘เพ็นกวิน’ พริษฐ์ ชีวารักษ์)
เมื่อสีกากีเป็นลูกไล่สีเขียวก็อย่างนี้แหละ
นักกิจกรรมรุ่นเฟร็สชี่ทั้งสองชวนกันไปยืนกินบะหมี่สำเร็จรูป “รอการเลือกตั้ง”
ที่สกายว้อคหน้าศูนย์การค้าเอ็มบีเค เย็นวานนี้ (๒๘ พ.ค.)
เป็นนัยยะว่าถ้ายิ่งรอเลือกตั้งนานเท่าไร ยิ่งอดอยากมากเท่านั้น
ก็มีป้าๆ
อีกสองท่านไปร่วมรับประทานบะหมี่กระป๋องโฟมกับสองวัยรุ่นก้าวหน้าด้วย ร่วม “ฝึกอดอยาก”
หากเลือกตั้งช้า หรือว่าไม่มีเลย แต่ป้าทั้งสองไม่เอามาม่า คนหนึ่งขอกิน ‘ไวไว’ แทน
บอกว่า “เพราะป้าอยากจะเลือกตั้งไวไวแล้วค่ะ”
อีกป้าคว้า ควิก มาเปิดกินแทนเช่นกัน ป้าคนนี้อ้างว่า “อยากจะเลือกตั้งควิกควิก”
น่ะ (เก็บจากทวี้ตของ TyphooNzz @Typhoonapr)
ที่ รังสิมันต์ โรม คอมเม้นต์เรื่องนี้ว่า
อะไรมันจะเปราะบางขนาดนั้น ผู้ยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองน่ะ เราว่าไม่ใช่ ที่จริงพวกเขา
‘เขี้ยวลากดิน’ ชั้นเชิงสุดวายร้าย
ขนาดเอา ‘คำสั่ง’ ของตนมาอ้างเป็นกฎหมาย
โดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผลแห่งหลักยุติธรรมสากล นี่ไม่ใช่ปุถุชนธรรมดาแล้วละ (โจรป่าห้าร้อยหรือผีห่าซาตาน
ก็เป็นได้)
ดูแต่ที่หัวหน้าใหญ่พูดเรื่องพรรคอนาคตใหม่ประกาศว่าจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
๒๕๖๐ และลบล้างคำสั่ง คสช. ที่ดำเนินคดีกับนักกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหลายสิ
“การจะมาติติงให้ร้ายอะไรต่างๆ
มันสมควรหรือไม่ ก็ต้องไปดูในประเด็นข้อกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขู่ว่า “เป็นเรื่องที่
คสช.จะติดตามอีกทีว่าการดำเนินการใดๆ ก็ตามเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่”
ถ้าเป็นกฎหมายปกติก็ว่าไปอย่าง แม้กระทั่งกฎหมายที่
คสช. เอามาตีความใช้แต่กับพวกเรียกร้องต้องการประชาธิปไตย มาตรา ๑๑๖ งี้
พรบ.คอมพิวเตอร์งี้ ล้วนแต่ตีความกำหนดข้อกล่าวหาให้ตรงกับเจตนากดขี่ผู้ที่เห็นต่างกับอำนาจเผด็จการทั้งนั้น
ยิ่งคำสั่งต่างๆ ของ คสช. โดยเฉพาะฉบับที่
๓/๒๕๕๘ ซึ่งเขียนขึ้นมาให้อำนาจ คสช.ล้นพ้น
ก็เป็นข้อบังคับต่อประชาชนที่จัดตั้งมาไม่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรมของหลักกฎหมายสากลที่เรียก
‘Rule of Law’
แน่ละ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวในวันประชุมพรรคอนาคตใหม่ครั้งแรกที่โรงยิมฯ
ธรรมศาสตร์ รังสิต ว่า รธน. ๖๐ นั้นลิ่วล้อเขียนไว้ให้แก้ไม่ได้ ก็จะต้อง “ฉีกเลย”
เป็นคำโวหารเปรียบเปรยให้เห็นความเหลวไหลของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่เจือปนบทบัญญัติให้อำนาจพิเศษกับคณะบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเหนือกว่า
‘ปวงชน’
กระทั่งเนติบริกร มือกฎหมายของ คสช. ก็ยังพยายามจะบิดให้เป็นข้อกล่าวหาความผิดให้จงได้
“ขอให้ทุกคนขีดเส้นใต้ไว้เพราะเป็นคำรุนแรง จะทำให้เป็นปัญหาได้ ดังนั้น
ใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบเอง” นายวิษณุ เครืองามบอกกับนักข่าวเมื่อถูกถามเรื่องพรรคอนาคตใหม่จะแก้รัฐธรรมนูญ
ในเมื่อพวก คสช. ทำเซ่อ พออย่างนี้ตีความแคบแค่คำเดียว
(ปกติเรื่องอื่นๆ ตีความกว้างครอบจักรวาลไว้ ถ้าไม่ถูกใจหรือกระทบ คสช.ให้เจ็บ)
รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นักรัฐศาสตร์จึงต้องอธิบายให้นักกฎหมายและนักรัฐประหารฟัง
“การฉีกรัฐธรรมนูญหมายถึงการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ก็เหมือนตอนรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ ที่ร่างขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ ก็เป็นการฉีกฉบับเดิม
โดยใช้วิธีการตามกฎหมาย ที่นำไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)”
ชี้แจงเสร็จ ชำนาญ จันทร์เรือง ตบกะโหลกด้วยวจีเตือนความทรงจำ
“ไม่เข้าใจว่าจะโกรธ จะฮึ่มทำไม ในเมื่อจะฉีกรัฐธรรมนูญด้วยวิถีทางตามกฎหมาย
ไม่ได้ฉีกรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการยึดอำนาจซักหน่อย”
มิหนำซ้ำพ่อตัวดี ขี้อวดขี้โอ่ ตะคอกใส่ “ใครที่มาพูดว่าเศรษฐกิจเพิ่มแค่
๒ เปอร์เซ็นต์ระวังหน่อย เป็นการบิดเบือนผิดกฎหมาย ถ้าไม่ใช่ละก็ เตือนทุกคนนะ
อย่ามาหาว่าผมไปรังแกใคร”
อันนั้นเนื่องมาจาก นายกฯ ๔.๐ ‘I-Tube’ คุยโต “กระทรวงพาณิชย์รายงานว่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ ๑๒.๓ ในเดือนเมษายนขยายตัวถึงร้อยละ
๗.๑”
และว่านี่ “เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่
๑๔” แต่เฮียไม่บอกว่าขยายตัวจากที่มันหดวูบวาบไปเท่าไหร่เมื่อสามปีก่อนหน้านั้น
แล้วที่ไอ้คนผมบางของบิ๊กตุ่นเขาออกมาแย้งว่า
“สถาบัน IMD ลดอันดับความสามารถแข่งขันของไทยลงหนักมาอยู่อันดับที่
30 สาเหตุหลักมาจากความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
และขาดดุลงบประมาณมาก และได้ชี้ให้เห็นว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยปีละ 2% กว่า เท่านั้น
และถึงปีนี้จะโตได้ 4% กว่า แต่ยังต่ำสุดในอาเซียน”
นั่นล่ะจะว่าไง
(ดูข่าว “พิชัย ลั่นไม่บิดเบือน เศรษฐกิจโต
2% แนะบิ๊กตู่ อ่านหนังสือ” http://www.thairath.co.th/content/1294116)
เอางี้ จะจวกจะด่า จะหาช่องเตะตัดขาอะไรกับพรรคอนาคตใหม่
ไปดูข้อเท็จจริงที่พวกเขาเอามาเปิดเบิ่งให้ประชาชนได้เห็น
เป็นแผงกร๊าฟฟิคจับต้องได้ ในงานประชุมเลือกตั้งผู้บริหารพรรคเมื่อวันที่ ๒๗
ที่ผ่านมาเป็นไร
เรื่องงบประมาณหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ถูกงบฯ
ทหารแซงในยุค คสช. เรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทุกรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยเขาจะทำกันต่อเนื่องสม่ำเสมอ
แต่มาหยุดนิ่งในยุคทหารครองเมืองล่ะว่าไง
แล้วก็การปราบคอรัปชั่นไหงมาอ่อนเปลี้ยตอนมีนายทหารใหญ่สะสมนาฬิการาคาเหยียบล้าน
๒๐ กว่าเรือน อ้างเพื่อนให้ยืม ฉะนี้นี่เอง เขาจึงบอกว่า ถ้าขาดประชาธิปไตย (คำย่อว่า
คสช.) ละก็คอรัปชั่นถาโถมกันมาทันที