ทั้งที่เลขาฯ กกต. ขู่จะยุบพรรคแล้วนะ อดีต
ส.ส.พรรคเพื่อไทย ๕๐ คนไม่ยั่น ยกขบวนไปพบทักษิณที่สิงคโปร์กันแน่นร้านอาหารจีน
ซึ่งอดีตนายกฯ สั่งโต๊ะจีนเลี้ยงถึง ๘-๙ โต๊ะ รวมทั้งครอบครัวชินวัตรที่พากันไปพบ ‘พ่อและอาปู’ พร้อมหน้า
โดยเฉพาะ วัน อยู่บำรุง อดีตผู้สมัคร ส.ส.
กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพ (เมื่อ ๖ พ.ค.) นั่งโต๊ะจีนกับพ่อ (เฉลิม)
และทั้งสองอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร ติดแฮ้สแท็กว่า #ผมชอบภาพนี้ #ผมสะดวกแบบนี้
ก่อนหน้ามี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา
รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง อ้างว่าจำเป็นต้องออกโรงเตือนบรรดาอดีต
ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ไปพบทักษิณว่า อาจจะผิดกฎหมายถึงขั้น 'ยุบพรรคการเมือง' ก็ได้
การนี้ iLaw ได้นำข้อกฎหมายมาตีแผ่ให้ดูว่า
'พ.ร.ป.พรรคการเมือง' ที่กำหนดไว้ในมาตรา
๒๘ และมาตรา ๙๒ (๓) “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใด
อันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิก กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา
กิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ
ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
แต่กระนั้นอดีตนายกฯ (ชาย) ตระกูลชินวัตร “ได้มีการพูดถึงทิศทางการเมืองไทย
ทิศทางการเมืองของพรรคพท. และเรื่องบ้านเมือง โดยย้ำว่าเป็นการวิเคราะห์ในฐานะคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาเท่านั้น”
เนื้อหาข้อวิเคราะห์ของทักษิณยังคงยืนยันเช่นเดียวกับที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า
ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีมา “พรรคพท.จะกลับมาได้คะแนนอย่างท่วมท้นแน่นอน” แบบว่าเพื่อไทยจะชนะอย่าง
‘แลนด์สไลด์’ อีกครั้ง
นอกจากนี้ ‘มติชนสุดสัปดาห์’ รายงานว่าอดีตนายกฯ พูดถึงเรื่องพลังดูดของ คสช. ในการกวาดอดีต ส.ส.
เข้าไปรวมกลุ่มสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ด้วยว่า
“ไม่รู้สึกว่าจะต้องกังวลเรื่องพลังดูด
แต่เป็นฝ่ายทหารเองมากกว่าที่ต้องระวัง เพราะดูดไปมากๆ ก็ระวังจะได้คนสีเทาๆ
เพราะนิสัยของนักกาเมืองได้ประโยชน์ก็ไป ดังนั้น
คนที่ต้องระวังจึงไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์”
ต่อกิจกรรม ‘ดูด’ ของ คสช. ล่าสุดในการลงพื้นที่สุรินทร์และบุรีรัมย์ (๗-๘ พ.ค.) อันเป็นที่วิพากษ์กันมากว่ามีจุดมุ่งหมายทางการเมืองในอนาคตแอบแฝง
ที่จะดึงคะแนนเสียงของอดีต ส.ส. และนักการเมืองพรรคภูมิใจไทย
เข้าไปอยู่ในเครือข่ายพรรคประชารัฐของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ผู้ประกาศโจ่งแจ้งแล้วว่าจะผลักดันให้พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ
อีกครั้งอย่างแน่ๆ
เรื่องนี้ ‘กรุงเทพธุรกิจ’
หนังสือพิมพ์ค่ายเนชั่น เครือสปริงนิวส์
ทำการวิเคราะห์ไว้เช่นกันว่า การลงพื้นที่บุรีรัมย์ ประชุม ครม.สัญจร ของรัฐบาล
คสช. คนที่ได้เต็มๆ คือจ้าวพ่ออีสานใต้ เนวิน ชิดชอบ นักการเมืองฉายางูเห่าซ่อนเงียบ
นอกจากงบพัฒนาอีสานใต้ที่รัฐบาล คสช.
ทุ่มให้ ๒ หมื่นล้าน อันจะเป็นผลสนับสนุนงานใหญ่ของเนวิน
ในการจัดแข่งขันนานาชาติโมโตจีพี และโครงการสปอร์ตซิตี้ในอนาคตแล้ว
ยังมีคดีของ ‘ซ้อต่าย’ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยาของนายเนวิน
ถูกกล่าวหา “ทุจริตเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์
จำนวน ๒๐ ล้านบาท เพื่อพาประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่อเป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินโดยมิชอบ”
ซึ่ง “พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. บอกว่ายังไร้ข้อสรุป
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยบอกว่าคดีนี้ต้องจบให้ได้ภายในปี ๖๐” แต่กรุงเทพธุรกิจตั้งข้อสังเกตุว่า
ปปช. ที่แต่งตั้งมาโดย คสช.
“จะใช้เป็นเครื่องต่อรองกับ ‘ก๊วนเนวิน’ และ ‘ภูมิใจไทย’ เพื่อบีบให้มาเป็นฐานสนับสนุนทางการเมืองหลังเลือกตั้งหรือไม่”
