เป็นข้อเสนอนโยบายดึงดูดจิต ‘สำนึก’ ที่สุดในรอบทศวรรษ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่พูดในงานวันปรีดี พนมยงค์ ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
“การเลือกตั้งครั้งหน้า
จำเป็นจะต้องนำภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของคณะราษฎร คือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจจริงๆ
ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในขั้นแรก คือการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ
๒๕๖๐ ขจัดสิ่งที่เป็น ‘อประชาธิปไตย’ ออกมาจากรัฐธรรมนูญ โดยนำจิตวิญญาณธงเขียวของรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ ให้สังคมเห็นด้วยกลับมาอีกครั้ง”
ข่าว ‘แนวหน้า’ เขียนแหวกครรลองขององค์กรออกไปไกลโข โคว้ตคำของธนาธรว่า “หากได้เป็นนายกฯ
การแก้รัฐธรรมนูญคงไม่ถูก แต่ควรยกเลิกมากกว่า
เพราะมีรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย...รัฐธรรมนูญ ๖๐ เขียนกลไกไว้มาก แก้ไม่ได้
แต่ยกเลิกได้”
ซึ่งใช่สิ ในเมื่อเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเพื่ออำนวยให้
คสช. ครองอำนาจยาวนาน ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องยกเลิกเท่านั้น
จะให้ทนรับกรรมที่คณะทหารก่อไว้ละหรือ
ดูจากแฟนคลับรัฐประหารที่เข้าไปเม้นต์เป็นพวง
พวกนี้มีจิตวิญญานอประชาธิปไตยจริงๆ อย่าง Ananda Bhamonchant บอกว่า “โห... ฝันไกลจังเลย
เอาให้ได้เป็น แค่ สส.ก่อน ก็บุญแล้ว 5555. พรรคอนาคตดับ”
โดยที่ แสน สุรศักดิ์ ขยับเข้าสู่ฐานความคิด
‘สลิ่มสำเร็จรูป’ เต็มพิกัด “ไอ้ตี๋จอมเนรคุณ
มึงเอาพรรคมึงให้ได้สักเสียงก่อนไอ้ซิ้นตึ๊ง
กูว่ามึงไม่ปรกติวะที่มึงฝันจะได้เป็นนายก มึงดูละครหลังข่าวมากไปหรือเปล่าวะไอ้เหี้ยจอมลัมเจ้า”
ทั้ง ‘เนรคุณ’ และ ‘ล้มเจ้า’ เป็นวาทกรรมปั้นน้ำเป็นตัวที่รับไม่ได้กับเผด็จการเสียงข้างมาก
แต่หงองอก่องอขิงเมื่อได้เผด็จการทหารมาครอบ ทำให้มั่นใจได้ว่าชาตินี้ไม่มีการปรองดองทางการเมืองระหว่างฝั่งต้องการประชาธิปไตยแท้จริงกับฝ่ายนิยมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
โดยเฉพาะน่าสนใจยิ่งเมื่อดูโปรไฟล์ซึ่งผู้เข้าไปร่วมสนทนาระบุศักดาของตนไว้
มาใช้เป็นองค์ประกอบพิจารณา อย่างเช่น Nemeth Tassa
ผู้อ้างเป็น ESL Teacher (ครูสอนภาษาอังกฤษ) สับยับหาว่า “...วางโครงการไว้ไกลเหลือเกิน
รอให้เลือกตั้งเสร็จก่อนนะคะ
แล้วค่อยวางตำแหน่งให้ตัวเอง อยากให้รอดูคะแนนเลือกตั้งก่อน
ขนาดนายทักษิณที่ว่าแน่แล้ว เห็นไหม ตอนนี้เป็นอย่างไร”
อีกราย Chunya Kanongmak แห่ง Khon Kaen University เติมว่า “ความฝันเหมือนไอ้หน้าเหลี่ยมเลย”
ขณะที่ ชัชวาลย์ จันทรทิพย์ ซึ่งอ้างเป็น
‘ที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ’ ใส่ทั้งครุย
(รูปโปรไฟล์) เลยว่า
“คงเป็นชาติหน้าตอนค่ำๆ น้ะ
ขอถามหน่อยเถอะเคยทำคุณความดีต่อประเทศชาติบ้างใหม
เคยช่วยเหลือประชาชนมีทุกข์ร่วมทุกข์บ้างใหม
เคยมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวพ่อของแผ่นดินบ้างใหม
ถ้าหากคำถามที่ถามไปเหล่านี้ล้วนไม่มีในสมองของพวกแก
แล้วที่พวกแกฝันที่จะเป็นนายก มันจะเป็นได้ใหม
อย่านึกว่าหัวใจของคนไทยเกือบทั้งแผ่นดินจะโง่ดั่งควายแดงซิ” ขออภัยเขียนคำผิดบ่อยหน่อย
พอดีมีคนมาตอบโต้ให้ Attapon
Triampon จาก
Chiangmai University ย้อนเอาว่า “พธม. กปปส.
ก็โง่ไม่ต่างกันหรอก” คนเหล่านั้นคงอ่านแต่แนวหน้า
ไม่อ่านว้อยซ์ทีวีนั่นแหละ ที่ซึ่งถอดคำสัมภาษณ์ธนาธรอีกตอนว่า
“ขณะที่ คสช.ระบุจะจัดการเลือกตั้ง ก.พ. ๖๒
นายธนาธรกล่าวว่า
ขอเชื้อเชิญพี่น้องประชาชนทุกคนที่รักประชาธิปไตยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
นี่เป็นวิธีเดียวที่จะได้มาซึ่งการเลือกตั้ง
เพราะเราเห็นอยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์
ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนเรื่องการเลือกตั้งไว้หลายครั้ง แล้วก็เลื่อนมาตลอด...เราอยากเห็นการยืนยันที่หนักแน่นของ
คสช.
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในเดือน
ก.พ. ๖๒ หากมีจริงก็ไม่ใช่จุดจบของระบอบ คสช. เพราะระบอบ
คสช.จะอยู่กับเราตราบเท่าที่รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ยังอยู่กับเรา
ดังนั้น
วิธีการที่จะเอาทหารออกจากการเมืองและนำประเทศไทยให้กลับมาเป็นประชาธิปไตยเต็มใบได้จริงๆ
นอกจากจะมีการเลือกตั้งแล้ว ยังต้องล้มระบบ คสช.ให้ได้ นั่นก็คือล้มระบบรัฐธรรมนูญปี
๒๕๖๐ ให้ได้”
นี่คือความจริงที่ธนาธรพูดออกมาจากจิตสำนึกของปัจเจกชนผู้ตระหนักซึ้งในเสรีภาพ
และสิทธิส่วนบุคคล ๑ เสียงเหมือนกันหมดทั้งประเทศ เมื่อใดสิทธิและเสรีภาพเหล่านี้ถูกจำกัดโดย
‘อภิ’ สิทธิและเสรี
‘วิเศษ’ ปัจเจกชนมีพันธกิจต้องฮึดสู้
เหมือนเช่นกลุ่มคนอยากเลือกตั้งกำหนดจะฮึดฮัดกันในวันที่ ๒๒ พฤษภาคมนี้
แน่ละมันอาจทำให้ ‘พระสยามเทวาธิราช’
ต้องเหนื่อย เพราะพระสยามฯ เป็นเพียงสมมุติเทพที่ชนชั้นผู้ปกครองสร้างขึ้นมาในสมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง
เพื่อครอบงำประชาราษฎร์ และสร้างความชอบธรรมแก่การครองอำนาจบาตรใหญ่ของตน
วาสนา นาน่วม รายงานว่า “บิ๊กตู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
บอกพระสยามเทวาธิราชก็เหนื่อย ดูแลประเทศชาติมานานแล้ว ขอให้ท่านพักบ้างนะ” ใช่อีกสิ
หยุดพักจากการกดขี่ครอบงำประชากรเสียที
ถึงเวลาที่ประชาชนต้องเรียกคืนอธิปไตยของตน
ซึ่งคณะทหารยึดเอาไปในสมมุตินามแห่งพระสยามฯ ได้แล้วละ
