พลันคดี ‘ยู่ยี่’ กลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนทันทีในปี ๒๕๖๑ นี้ เพราะลูกบุญธรรมของ กรณ์
จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับมียาเสตติดโคเคน ๙๒๐
มิลลิกรัมในครอบครอง ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาจากสถานีทองหล่อด้วยวงเงินประกันเพียง
๑ หมื่นบาท
ข้อครหาและคำวิพากษ์วิจารณ์ในบางแง่มุม
น่าจะรวมอยู่ที่คอมเม้นต์ของ Moty @KittyMomayKung2 บนทวิตเตอร์ว่า “ยู่ยี่
โคเคนน่าจะพอๆ กันหรืออาจจะน้อยกว่าด้วย เพราะนางบอกว่าเพื่อเสพ
–ไม่ได้ประกันตัวทั้งๆ ลูกยังเล็ก
ตอนนี้ติดคุกหลายปีแล้ว ได้ข่าวว่านางเหยียบตีนผู้ยิ่งใหญ่เรื่องสัตว์ป่าส่งออก
ระบอบยุติธรรมไทยนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ”
ปริมาณโคเคนในข้อหาที่ทำให้ยู่ยี่ หรือ อลิสา
อินทุสมิต (ชื่อทางการ ชัชชญา เกวสต้า รามอส)
นางแบบสาวโด่งดังคนหนึ่งเมื่อปี ๒๕๕๕ ขณะเกิดเหตุนั้นเพียง ๒๕๑ มิลลิกรัม
น้อยกว่าของ ‘ติ๊ง’ พันธิตร
มหาเปารยะ ลูกติดแม่ของนางวรากร จาติกวณิช ภรรยาของนายกรณ์
‘Moty’ เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์คนเดียวกันเพิ่มเติมอีกว่า
“ยู่ยี่โดนข้อหานำเข้ายาเสพติด
แต่เคยอ่านจากหนังสืออะไรสักเล่มที่ไปสัมภาษณ์สามีนาง (บทสัมภาษณ์นั้นเป็นของ
นสพ.บางกอกโพสต์ โดย นันท์ชนก วงษ์สมุทร์ ซึ่ง ไทยอีนิวส์
ถอดความเป็นไทยตีพิมพ์เมื่อ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘)
เค้าบอกว่า นำเข้ามาจริงแต่ไม่มากเพราะเพื่อใช้เสพ
ไม่ใช่เพื่อขาย แต่มีปัญหากับผู้ใหญ่ในเมืองไทยจึงโดนติดคุกจนทุกวันนี้
รายละเอียดต้องไปหาอ่านค่ะ ประเด็นคือจะด่าระบอบยุติธรรมกะลาแลนด์นี่แหละ”
ความยุติธรรมที่ว่า ส่วนหนึ่งมาจาก รังสิมันต์
โรม หนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งโดดเด่นอยู่ขณะนี้ในการเป็นปากเป็นเสียงให้ประชากรของชาติ
เรียกร้องการเลือกตั้งภายในปีนี้ และยุติการใช้อำนาจ ‘บู๊ทใหญ่’ ของคณะทหารยึดอำนาจเสียที
@RangsimanRome
ทวี้ตข้อความเป็นปฏิกิริยาต่อคดีโคเคนของติ๊งว่า “ลูกเลี้ยงกรณ์ได้ประกันตัว ๑
หมื่นบาท ในคดียาเสพติดหลังมีโคเคนในครอบครอง หันมามองตัวเองแค่พูดว่าต้องมีเลือกตั้งปีนี้
กลับต้องประกันตัวในราคา ๑ แสนบาท ประเทศนี้เป็นธรรมจนอยากจะอ๊วกจริงๆ วะ”
ทว่าประเด็นอยุติธรรมตามกฎหมายในคดีของยู่ยี่
ที่เกี่ยวกับปริมาณโคเคนในครั้งนั้น ยู่ยี่ถูกตัดสินว่านำเข้าโคเคน
ซึ่งกฎหมายไทยกำหนดระวางโทษ ๒๐ ปีถึงตลอดชีวิต ปรับอีก ๒-๕ ล้านบาท
แต่ถ้าเพียงมีไว้ในครอบครอง ไม่ใช่นำเข้า (Trafficking)
หากไม่เกิน ๑๐๐ กรัม โทษจำคุก ๓-๒๐ ปี ปรับอีก ๖ หมื่นถึง ๒ แสนบาท
สามียู่ยี่ให้สัมภาษณ์ ‘น้ำหวาน’ ผู้เขียนคอลัมน์สเป็คตรัมในบางกอกโพสต์ว่า
๒๐ นาฑีก่อนเครื่องบินที่ยู่ยี่เดินทางกลับไทยจากเวียตนามจะลงสู่สนามบิน “บอกให้รีบไปยังสนามบินโดยด่วน เพราะยู่ยี่มียาเสพติด”
ครั้นเมื่อ “ฟรานซิสโก
รามอส ฉายา ‘แฟร้งค์แห่งป่า’ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ของช่อง ดิสคัพเวอรี่”
สามีของยู่ยี่ไปถึงสนามบิน ๑๐ นาฑีหลังจากเครื่องลง ตำรวจได้จับกุมยู่ยี่แล้วทำบันทึกว่าเธอมีโคเคนติดตัวมา
๕ มิลลิกรัม
“มูลค่าตามท้องถนนแค่ ๑๒ บาท ทว่าศาลไทยได้ตัดสินจำคุกยู่ยี่ ๑๕ ปี พร้อมค่าปรับอีก ๑.๕
ล้านบาท” แฟร้งค์ รามอส เล่าด้วยว่า “ที่สถานีตำรวจ
ยู่ยี่ถูกปฏิเสธไม่ให้ได้พบทนาย และไม่ยอมให้มีการตรวจปัสสาวะ ทั้งที่เธอร้องขอ”
ตำรวจทำคดียู่ยี่เป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากเธอและสามีเป็นนักกิจกรรมเพื่อความเป็นธรรมของสัตว์ป่า
มีสัตว์สงวนที่ไปไถ่ชีวิตมาเลี้ยงดูกับบ้านหลายชนิด
กระบวนยุติธรรมไทยจึงเพิ่มข้อหามีสัตว์ป่าไว้ในครอบครองด้วยโทษเพิ่มอีก ๓ เดือน
โทษแถมนี้คงมาจากเมื่อเดือนพฤษภา
๕๕ ยู่ยี่กับสามีไปช่วยชีวิตลูกเสือดาวตัวหนึ่งออกมาจากเจ้าสัว ‘นักล่า’ คนหนึ่ง แล้วนำส่งสวนสัตว์ดุสิต
ราคาเสือดาวที่ยู่ยี่ช่วยออกมานั้นในตลาดมืดส่งนอกอยู่ที่ครึ่งล้านนั้น
“งานนี้ทั้งสองไปขวางทางผู้ยิ่งใหญ่ในไทยคนหนึ่งเข้าโดยไม่รู้ตัว ถ้าเรารู้ว่าลูกเสือตัวนี้เขาจับไว้ส่งให้ตามใบสั่งผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
เราก็คงไม่ไปช่วยออกมาหรอก”
สามียู่ยี่เล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังต่อการที่มีชายคนหนึ่งตามเขาไปในห้องน้ำสนามบินถามถึงเรื่องเงิน
๔ แสนที่เขาไม่ยอมจ่าย จากการที่ไปเหยียบตาปลาผู้ยิ่งใหญ่กรณีลูกเสือดาว
แล้วมีตำรวจสองนายขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาเขาและยู่ยี่ที่บ้านเรียกร้องเงินจำนวนนั้น
เรื่องของยู่ยี่เป็นอีกมิติหนึ่งของกระบวนอยุติธรรมไทยในปี ๕๕ ที่ตรงกันข้ามกับกระบวนยุติธรรมชั้นวิเศษในปี
๖๑ ซึ่งนายกรณ์ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อประดุจคนสำคัญบ้านเมืองได้มีส่วนทำให้ความรุ่งเรืองสะอึกไปนิดหนึ่ง
“ระบุว่า
ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผมและภรรยานะครับ ในฐานะคนในครอบครัวเดียวกัน
ในเมื่อติ๊งได้ออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงตัวเอง
เราก็ต้องให้โอกาสและความช่วยเหลือ...บทเรียนครั้งนี้น่าจะทำให้เขาโตขึ้น
และหวังว่าสังคมจะให้โอกาสเขาในอนาคต หลังจากกระบวนการทางกฏหมายต่างๆ สิ้นสุดแล้ว”
ก็แค่นั้นละ เพียงเล่าสู่กันฟังว่าบ้านนี้เมืองนี้
คดีโคเคนในปี ๖๑ มันดันโยงใยให้เห็นความไม่ชอบมาพากลกับคดีโคเคน ๒๕๕๕ ได้
ซ้ำยังพาดพิงพัลวัลกับคดีสัตว์ป่าสงวนครั้งเก่า ซึ่งเข้าเค้าคดีสัตว์ป่าสงวนของปี
๖๑ ที่กำลังจะเงียบหายเป็นคลื่นเลียทราย ในอีกไม่ช้าไม่นาน