โกตี๋ถูกอุ้มหาย ‘ปิดเคส’ อุกอาจอย่างมาเฟียเสียยิ่งกว่าตอนทำกับ
‘ไม้หนึ่ง’ หรือเป็นเพียง “การปล่อยข่าวหวังผลทางการเมือง”
เช่นที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอ้าง
ทั้ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และพล.อ.ทวีป เนตรนิยม ยืนกรานว่า
‘ไม่ทราบ’ ไม่มีการข่าวในเรื่องนี้แต่อย่างใด
อีกทั้งเลขาฯ สมช. ก็ย้ำซ้ำอีกว่าทางการลาวไม่เคยให้การยอมรับว่านายวุฒิพงศ์
กชธรรมคุณ ลี้ภัยอยู่ในลาวจริง
ถึงจะยังไม่อาจฟันธงได้ในทางสื่อสายหลัก แต่แน่ๆ
ขณะนี้ก็คือ ผู้ลี้ภัยจากคณะทหารไทยไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นลาวและเขมร
กำลังร้อนๆ หนาวๆ กันถ้วนหน้า
เนื่องจากชัดแจ้งแล้วว่าในลาว มี ‘ไอ้โม่ง’
และกลุ่มล่าสังหารตามเฝ้าคอย ‘สอย’ พวก ‘แดงฮ้าร์ดคอร์’ ลี้ภัย ที่โดนหนังหมาเสกหน้าผากไว้ว่า
‘ล้มเจ้า’ กันแทบทุกคน
ตามรายงานข่าวของบีบีซีไทยที่อ้างถึง ‘ลุงสนามหลวง’
หรือ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ นักจัดรายการวิทยุใต้ดินต้านรัฐทหาร คสช.
ซึ่งเชื่อว่าโกตี๋ หรือสหายหมาน้อยถูก ‘ปิดเคส’ หรือเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน
ลุงสนามหลวงบอกว่าสาเหตุการตายอาจเกิดจาก “หัวใจวาย” จากการที่มีกลุ่มคนคลุมหน้าไปดักจู่โจมจับตัว
ขณะโกตี๋กับภรรยาและเพื่อนอีกหนึ่งคนลงจากรถหน้าบ้านพักในนครเวียงจันทน์
เสร็จแล้วมัดมือปิดตานำตัวโกตี๋ไป แต่ปล่อยภรรยาและเพื่อนเขาไว้ในบ้าน
รูปการณ์ถ้าโกตี๋เสียชีวิตแล้ว น่าจะถูกกระทำให้หายใจไม่ออกจน
‘สิ้นลม’ เสียละมากกว่า แต่ไม่ว่าโกตี๋จะถูก ‘เก็บ’ ไปแล้วหรือไม่ เรื่องร้ายที่กำลังจะเกิดกับหมู่ผู้ลี้ภัยในประเทศข้างเคียง
(ซึ่งมีราว ๔๐-๕๐ คน ตามที่บีบีซีไทยอ้างว่าเป็นการเปิดเผยของลุงสนามหลวง)
สองอย่าง
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯ สมช. |
หนึ่ง ความปลอดภัยไม่มีเหลืออยู่อีกเลย
ในเมื่อทางการลาวไม่ยอมรับว่ามีผู้ลี้ภัยการเมืองไทยอยู่ในประเทศของตน ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรกับการที่มีหน่วยไล่ล่าจากนอกประเทศเข้าไปปฏิบัติการอยู่ภายใน
ตราบเท่าที่คนของตน (หรือแม้แต่ประชากรโดยรวม) ไม่เดือดร้อน
สอง เกิดความระส่ำระสายภายในกระบวนการ resistance ต่อต้านรัฐไทยซึ่งอยู่ภายใต้เผด็จการทหารผสมราชาธิปไตย หรือที่ ‘คมชัดลึก’ เรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นพวกเคลื่อนไหวแบบ “พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน”
บ้าง “แดงนอกคอก” บ้าง
บทความของคมชัดลึกเมื่อวันก่อน (๑ ก.ค.) ‘เจาะเละ’
ไล่เรียงพวก “แดงฮาร์ดคอร์หนีตาย ข้ามโขงไปอยู่ลาว
และข้ามพนมดงเร็กไปอยู่เขมร” ตั้งแต่ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ ชูชีพ สนามหลวง ดีเจซุนโฮ โกตี๋
สหายเผด็จอีสานใต้ สุรชัย แซ่ด่าน ไปจนถึง ๕ ทหารเสือ ‘ดีเจ’
ว่า “จัดอยู่ในพวกลัทธิวีรชนเอกชน ไม่มีวินัย ไร้การจัดตั้ง
จึงตกเป็นเหยื่อของผู้มีอำนาจ...ขบวนการแดงใต้ดิน
ไม่รู้จัก ‘งานลับ’ ไม่รู้จัก ‘แกนปิด-แกนเปิด’ และชอบแสดงตัวโอ้อวด
จนตกหลุมพรางฝ่ายความมั่นคง”
อันก่อให้เกิดการระหองระแหงไม่จบสิ้น
แม้กระทั่งในระหว่างผู้ที่สามารถกระเสือกกระสนจนหลุดออกมาจากวงจร
แต่ยังไม่ยอมละทิ้งวัฏจักรแห่งการต่อสู้เพื่อให้ไปถึงประชาธิปไตย genuine แท้จริง
ดังเช่นที่ หนุ่มเร็ดนนท์
กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับจอม เพชรประดับ ขณะนี้
ที่ซึ่งผู้อยู่ในแวดวงรายล้อมมองเห็นว่า
ถ้าการเพลี่ยงพล้ำทำให้ต้องกระทบกระแทกกันเองแล้วละก็
จะเอาแรงที่ไหนไปงัดข้อศัตรูต่อได้
จะมีโอกาสเมื่อไหร่ได้มัดรวมพลังเสริมสร้างรัฐอุดมการณ์ของความเสมอภาคเท่าเทียม
หนึ่งคนหนึ่งเสียง เลิกตกเป็นขี้ปากของพวกผู้ลากมากดี
ยุติระบบมาตรฐานเดียวของคนส่วนน้อยนิยมความได้เปรียบของอำนาจเผด็จการ กันล่ะ