นายพานทองแท้ ชินวัตร ระบุ "ณ จุดๆ นี้ จุดที่การให้กำลังใจต่อคนที่เรารัก กลายเป็นภัย...ต่อความมั่นคงของชาติ เรามาถึงจุดๆ นี้ กันได้อย่างไร?" pic.twitter.com/buhYAbAmBu— TV24 | สถานีประชาชน (@TV24Official) August 17, 2017
ooo
Thai military is making red shirt leaders in north sign letters promising not to bring supporters to Yingluck's trial next week.— Jonathan Head (@pakhead) August 17, 2017
ooo
มทภ.3 ปัดทหารทำหน้งสือห้ามขนมวลชนเชียร์ยิ่งลักษณ์
ที่มา คมชัดลึก
มทภ.3 โต้ข่าว ทหารทำหนังสือตกลงห้ามขนมวลชนเชียร์ "ยิ่งลักษณ์" เตือนเข้ากรุงฯ รถติด แนะให้กำลังใจที่บ้าน
17 ส.ค. 60 - พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 3 (กกล.รส.กองทัพภาคที่3) กล่าวถึงกรณีการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จะให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 25 ส.ค.นี่้ ว่า ทางทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือนในพื้นที่จะเน้นทำความเข้าใจกับประชาชน และแกนนำในพื้นที่ ว่าในวันดังกล่าวทุกท่านสามารถให้กำลังใจกันได้กันในท้องที่ หรือในบ้านตนเอง ซึ่งเราไม่ได้ห้ามการให้กำลังใจ เพราะการรักชอบพอกัน ให้กำลังใจกัน เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่อยากให้คิดว่าหากเข้ามาในกรุงเทพฯจะลำบากหลายประการ ไม่ว่าจะปัญหาการจราจรติด ด และพื้นที่บริเวณศาลค่อนข้างจำกัด
เมื่อถามว่า มีการเผยแพร่ว่าทหารทำหนังสือข้อตกลงกับแกนนำในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ให้ขนมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการเช่นนี้จริงหรือไม่ พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าวว่า กรณีแบบนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเราใช้การพูดคุยทำความเข้าใจกันมากกว่า ในลักษณะแบบพรรคพวกเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักกัน เพราะคนเมืองเขาพูดคุยกันด้วยวาจาเขาก็เข้าใจกันแล้ว ดังนั้นการทำหนังสือข้อตกลงตามที่เป็นข่าวนั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่น่าจะเป็นความจริง เป็นเพียงข่าวลือมากกว่า อย่างไรก็ตามตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เผยแพร่และบิดเบือนข้อเท็จจริง
"ในที่นี้รวมถึงกรณีโลกสังคมออนไลน์ แชร์ภาพทหาร ยืนถือปืนตามแยก ถนนในหมู่บ้าน วัดต่างๆ พื้นที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ไปควบคุมประชาชนในพื้นที่ด้วย ผมยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลย เป็นเพียงการลงพื้นที่ไปฝึก เพราะเป็นพื้นที่ฝึกของเขา เพื่อผลัดเปลี่ยนกำลังประจำปีงบประมาณหน้า ไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ ดังนั้นเรื่องนี้คนส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจ" แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว.
...
เห็นทหารภาคเหนือฝึกก่อนลงพื้นที่ภาคใต้
การทำงานใน ๓ จังหวัดภาคใต้ ทุกอย่างต้องเหมือนจริงที่สุด ถ้าฝึกไม่ตรงกับเรื่องจริงจะทำงานไม่ได้ผล
ประการแรก ลักษณะการสร้างบ้านจะต่างกัน ประตูเข้าออก ที่อยู่ในบ้านก็ต่างกัน
ประการที่สอง การคุ้มครอง ครู พระ เป็นเรื่องปฏิบัติตามเวลา มีโอกาสเกิดเหตุแน่นอน แล้วทำไมไม่คิดหาทางอื่นนอกจากเดินไปด้วยกันแบบเดิมๆนี้
ประการที่สาม คิดเรื่องเทคโนโลยีมากๆ ผมเคยคิดจะเอาโดรนที่ผลิตได้ในไทยติดกล้องลอยอยู่ข้างบน แต่โดนยกเลิกไป ลองทบทวนดูก็ได้ กล้องติดบอลลูนขนาดเล็กก็ได้ลอยกลางพื้นที่สำคัญๆมากๆหน่อย อย่าเอาชนิดยิงกันเสร็จแล้วค่อยมาเปิดดูหรือดัมมีนะ อะไรก็ตามไม่ต้องซื้อแพงยิ่งแพงยิ่งไม่ลอย
ทำอย่างไรก็ได้ เมื่อเขา ไม่ว่าใคร ขยับตัวนิดเดียวก็ถูกจับได้ ทำแค่นี้ความสงบก็เกิด โดยวิสัยของทรัพยากรชาติขนาดนี้ไม่ยาก ถ้าคิดจะทำให้งานจบ
ที่จริงงาน ๓ จังหวัดเป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจ เขาจะรู้เรื่องวิธีไม่ให้ผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิฯ ทหารเป็นผู้ช่วยฯก็พออย่าออกหน้ามากมันผิดกติการะหว่างประเทศ ให้ทรัพยากรตำรวจเขาอย่างเพียงพอเพราะเขาอยู่ในพื้นที่ไม่ต้องหมุนเวียนคนใหม่ๆมาให้เป็นข้าศึกสมมติกับผู้ก่อเหตุก็ได้
และห้ามให้ประชาชนติดอาวุธและทหารออกทำการแบบในสนามรบ เพราะเข้าเงื่อนไขฝ่ายก่อเหตุ
บ่นไปงั้นแหละ ครับ
