วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 17, 2560

เสร็จสมอารมณ์หมาย สปท. เรียงหน้าเข้ามาปฏิรูปประเทศต่อ

เสร็จสมอารมณ์หมาย สปท. เรียงหน้าเข้ามาปฏิรูปประเทศต่ออีก ๒๐ ปี “ไม่มีเงินเดือน” นะ ได้แค่เบี้ยประชุมคนละ ๔ หมื่น ๘ พันต่อเดือนเท่านั้น

ทั่นรองฯ ฝ่ายกฎหมายแจงสรรพคุณ ๑๒๐ อรหันต์ผู้เสียสละ “ได้น้อยกว่าค่าตอบแทนของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ถึง) ครึ่งหนึ่ง” เชียวละ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีบอกกับนักข่าว


ขณะที่ทั่นรองฯ ฝ่ายกลาโหมแย้งเสียงลือ ว่าทุกคนมีผลงาน ที่ผ่านมาทุ่มเทให้กับประเทศ แก้ไขปัญหา จริงจัง ตั้งใจ (กำจัดระบอบทักษิณให้สิ้นซาก) ทั้งสิ้น

“ที่บอกว่ามีแต่เด็กบิ๊กป้อมเยอะนั้น ผมถามว่าใครล่ะ ไม่มีแน่นอน” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธเสียงแข็ง “หากมีให้ไปหาชื่อมา”

(http://www.thairath.co.th/content/1039495 และ http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=803948 ข่าวนี้เขาแถมเรื่องวันที่ ๒๕ สิงหาด้วย)

อย่าง เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แห่ง ม.รังสิตงี้ เพิ่งประกาศตน “เชื่อมั่นประเทศไทย” ขอเป็นข้ารองบู้ทส์ คสช. “ทำงานใหญ่ต่อไป” เลยได้คุมคณะปฏิรูปการเมือง

สมกับที่ Thanapol Eawsakul ยอยศเอาไว้ :“ทำให้เห็นว่า การเชลียร์ผู้มีอำนาจนั้น เป็นหนทางไป (ยังสถานะแห่ง) ลาภ ยศ สรรเสริญ”

คนอื่นๆ เห็นชื่อแล้วรู้เลย หมอพรทิพย์ ทนายสงกานต์ ดร.เสรี ทีเด็ดทั้งนั้น ได้ปฏิรูปกันมือสั่นละทีนี้ ขออนุญาตใช้ถ้อยความของ Atukkit Sawangsuk เอามาแจกแจงแล้วกัน เขาจำแนกได้มันกว่า


“ถ้าหมอพรทิพย์กับทนายสงกานต์ร่วมปฏิรูปยุติธรรมได้ ก็เอาจ่าพิชิต แหม่มโพธืดำ เข้าไปด้วยซะดีไหม” ส่วนด้านสาธารณะสุขนั้นอธึกกิตบอกว่า “บัตรทองไปแน่” เพราะมีทั้งหมอรรงค์ สหเมธาพัฒน์ และหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ร่วมคณะ กำกาล อยู่ด้วย

ด้านสื่อนั้น ใบตองแห้งแว้งว่า “เจริญละ” เมื่อได้ คณิต สุวรรณเนตร ตัวเอกที่ออกกฎหมายคุมสื่อนั่นไง “นั่งร่วมกับเสรี วงษ์มณฑา ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด แล้วมีประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ สุทธิชัย หยุ่น” ว้าว ตัวเอ้ เรียงหน้า เสียท่าขาด ชื่นฤทัย(เ) สื่อที่มีแบ็คใหญ่ไปคน ไม่งั้นดึงดันกว่านี้

สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม ขาดไม่ได้พวก รักษ์ๆ ทั้งหลาย “อยู่ประเทศนี้ต้องสร้างภาพดีๆ ใสๆ ไม่สนใจประชาธิปไตย (รับได้ก้แต่) เผด็จการ” นั้นมิสเตอร์แสวงสุขโซ้ยว่า “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ติดโผตามคาด เช่นเดียวกับบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์”

สรุปที่อธึกกิตแจงไว้ “ในภาพรวม แกนหลักของการปฏิรูปคือพลังอนุรักษ์นิยมสร้างภาพมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ...คิดว่าจะช่วยกันกู้ซากประเทศ” นั่นละ โดยเฉพาะบรรดา สลิ่มนกหวีด ทั้งหลาย

ไม่ว่าจะเป็น คำนูณ สิทธิสมาน กับ วันชัย สอนศิริ (ด้านการเมือง) หรือ เจษฎ์ โทณะวณิก กับ ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ (ด้านปราบทุจริต) ได้คนเหล่านี้เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการจัดระเบียบบ้านเมือง รับรองราบคาบเป็นหน้ากอง

ส่วนพวกที่ชื่อคุ้นๆ เคย controversial อื้ออึงมาแล้ว ยังอีกเยอะ อย่าง ถวิล เปลี่ยนศรี อำนวย นิ่มมะโน ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทร์ และวิชา มหาคุณ เป็นอาทิ

นอกนั้นเสาะดูกันอีกได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/205/1.PDF

ข้อสำคัญเรื่อง เอาให้อยู่หมัด เนี่ยรัฐบาล คสช. เขารอบคอบเสมอ โดยก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษาสองวัน มีโพลสวนดุสิตออกมานำร่องไว้ก่อนแล้วว่า ประชาชนในกะลาแลนด์ยินดีปรีดากับการปกครองแบบกดไว้ข้าง ยกหางอีกข้าง ใช้อำนาจลุงตูบอย่างนี้ควบคุมผู้คนง่ายดี สงบหงอยเรียบจ้อย


ซ้ำร้ายคล้ายประกาศสัตยาบันเผด็จการกันโจ๋งครึ่ม อ้างว่าคนจำนวนมาก (ทีอย่างนี้แม่งไม่นับเสียงส่วนน้อย) “ไม่อยากให้มีการปลดล็อคการเมือง” เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองหาเสียงเสนอนโยบาย ให้นักวิชาการ นักกิจกรรมวิพากษ์วิจารณ์เข็มทิศที่ คสช.ตั้งไว้ได้

พยายามจะฟันธงให้ขาดไปเลยละ ต่อจากนี้อีกสักยี่สิบปี พวก กำกาลทั้งมวลได้ช่วยกัน ยำ ปฏิรูปอร่อยเหาะ