นัดหนึ่ง ......มาสอง
25. ไป ศาล.........
เมื่อตอนบ่าย ตำรวจ ยศ พ.ต.ต.โทรมาหา บอกว่านายอยากพบ อยากคุยด้วย ผมบอกว่ามีไร คุยกันทางโทรศัพท์ตอนนี้เลย จะได้ไม่เสียเวลา(ชีวิต) ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ทางตำรวจ ยืนยันว่าขอพบ โดยรองผู้กำกับ จะมาพบที่บ้าน
คือยืนยันจะพบให้ได้ ผมเลยบอกว่า ให้ผมไปพบที่โรงพักเลยไหม ทางตำรวจบอกว่านัดร้านกาแฟดีกว่า
จึงนัดหมายกัน ร้านกาแฟ ในเมืองราชบุรี
เมื่อเวลาประมาณ 4โมงครึ่ง ก็ได้พบกัน แนะนำตัวกัน รองผู้กำกับที่มา เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท คุยกันสักครู่ เขาก็โทรหานายเขา แล้วให้ผมคุยกับนายเขา ยศ พ.ต.อ. เป็นรองผู้การ ที่รับผิดชอบสายงานนี้
คุยกันอยู่ สักครู่ พี่ทหาร4-5 คนก็มาร่วมวง โดยมิได้นัดหมาย เลยถามเขาตรงๆว่า ไม่ได้นัดหมาย ทำไมมา
ได้รับคำตอบไม่ตรงคำถามว่า ข้อมูลการข่าวถึงกัน
เกือบ1 ชม. ที่นั่งคุยกัน ผมได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังเอง ถึงเรื่อง ทำไมมาเป็นเสื้อแดง ความประทับใจในนโยบายของนายกทักษิณ โดยเฉาะในเรื่อง โครงการ30บาท และเรื่องหนึ่งทุน หนึ่งอำเภอ และเรื่อง ความคิดและอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงโดยรวมๆ
สิ่งที่ จนท.ทั้งตำรวจและทหารเข้าใจ และบอกผมคือ รู้ว่ายังไรเสียหมอก็จะไป ไม่ห้าม ไม่มีสิทธิห้าม ผมบอกว่า ใช่ แต่ จนท.สามารถสร้างเงื่อนไข ในการเดินทางของประชาชนได้ เช่น การตั้งด่านสกัด เรื่องไปสั่งห้ามรถตู้ ที่เราจะเช่า เรื่องการไปพูดคุยกับชาวบ้านทำนองปรามๆ หรือข่มขู่ เช่นตัวอย่าง ที่ผมได้รับทราบมาวานนี้ จากพี่น้องอำเภอหนึ่งของจ.ราชบุรี คือไปบอกกับลูกสาว ว่าถ้าพ่อไป ลูกสาว( ที่ทำงานราชการ) อาจจะตกงาน หรือไปบอกว่า หากไปกันเกิน5 คน จะผิดเข้าข่ายชุมนุมทางการเมือง
ส่วนของผม จนท. ขอโทรหา ช่วง24-25 ผมบอกได้เลย ว่างรับสายได้ก็จะรับ ยินดี
ผมบอกกับ จนท. ไปว่า ผม และพี่น้องที่มาร่วมกันเป็นเสื้อแดง มาสู้เพื่อประชาธิปไตย และสนับสนุน นายกทักษิณ และนายกยิ่งลักษณ์ ต่างคิดและมีสำนึกที่อยากให้ประเทศเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่แท้จริง ประเทศเรา ไม่สมควรอยู่ในวังวนของการรัฐประหาร นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากโกงกิน ประชาชนด่าได้ ตรวจสอบได้
แต่รัฐบาลทหาร ซื้อเรือดำน้ำ3 หมื่นล้าน ประชาชนตรวจสอบอะไรได้
ทางจนท. พูดย้ำกับผม เรื่องการไปที่ศาล เรื่องความที่ผม( ดูเหมือน) เป็นแกนนำกลุ่มที่ยังคงมีความเคลื่อนไหว
ผมบอกว่า ผมหวังว่าวันหนึ่ง การเมืองเราจะมีเสถียรภาพ บ้านเมืองมีประชาธิปไตย ทหารก็กลับเข้ากรมกอง ตำรวจก็จะได้เอาเวลาไปทำงานอื่น ผมก็จะได้ทำแต่งานวิชาชีพหมอ
แต่ตราบใดที่ยังไม่มี พวกผม ก็ทำงานการเมืองภาคประชาชนกันแบบนี้ ไปเรื่อยไป
ก่อนจบการสนทนา ผมฝากจนท. ว่า เราทุกคนที่นั่งคุยกันนี่ ให้เก็บให้จำ ความคิด และการกระทำ ของตนเองในช่วงเวลานี้ ในเรื่องนี้ไว้ และผม ก็จะจำจะเก็บความคิดและการกระทำส่วนของผมเช่นกัน
เพื่อว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนไป อาจสัก 10 ปีจากนี้ เราจะได้มาสำรวจ ทบทวน สิ่งที่เราคิด และทำในเรื่องนี้ ในวันนี้ ว่า จริงๆแล้ว ฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหนถูก อันไหนควร ไม่ควร
ท้ายสุด ผมถาม จนท. เล่นๆว่า ด่านที่ตั้งสกัดรถ ที่ถนนเพชรเกษม หากผมขับรถไปกรุงเทพ จะโดนสกัดกั้นไหม จนท.ตอบว่า มันคนละส่วนงานกัน แต่ถ้าเป็นเขารับผิดชอบ รับรองได้ว่ารถผมจะไม่โดนสกัด ผมบอกไปว่า ผมไม่กลัวนะแต่ผมรำคาญ และเมื่อ คุณไปทำอะไรๆให้คนเขารู้สึก เขาก็จะตอบโต้คุณได้เมื่อมีโอกาส
จบ การสนทนา
อ้อ ผม ลืมเลย ลืมถามจนท. ว่า
จะเอา "จม. สัญญาว่าจะไป " ไหม แหม ไม่น่าลืมเลยครับ
ขอ ปชส. นิดครับ
วันนี้ Al Jazeera มาคุยกับผมและเก็บภาพไปด้วย
เห็นเขาบอกว่า ทาง สำนักข่าวเขาจะทำรายงานข่าวเรื่องคดีท่านนายกยิ่งลักษณ์ 3 วันติดกัน 23-24-25 ยังไงหาเปิดดูนะครับ ทางเวป หากไม่ถูกตัดออก ก็น่าจะเจอกัน สั้นๆในสกู๊ปข่าว
25 ไปศาล.......
หมายเหตุ
ขอบคุณรูปถ่ายที่ ตำรวจถ่ายให้
ผมกดเลือกรูป FB ทำslideshow ให้ เออ ดูดี เลยเอามาลงครับ
ที่มา FB
น.พ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล
