วันอาทิตย์, สิงหาคม 20, 2560

เห็นรายชื่อคณะกรรมการปฏิรูปฯ แล้ว บอกได้เลยว่า ฐานอำนาจที่แท้จริงของรัฐบาลทหารชุดนี้ ไม่มีแล้ว ไม่ว่าฐานประชาชน หรือฐานระบอบอำมาตย์เดิม เลยไปเอาข้าราชการเกษียณมา แทบหมด + ดูเหมือนว่าสงครามมวลชนเริ่มร้อนแรงขึ้นมาอีก




ภาพจากมติชนออนไลน์


ที่มา FB

Thai Ariyaskun


เห็นรายชื่อคณะกรรมการปฏิรูปฯ แล้ว ไม่มีคนดังในสังคมที่เป็นผู้นำทางความคิด ไม่เห็นคนของฝ่ายการเมืองทั้งสองพรรค ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณ ผมบอกได้เลยว่า ฐานอำนาจที่แท้จริงของรัฐบาลทหารชุดนี้ ไม่มีแล้ว ไม่ว่าฐานประชาชน หรือฐานระบอบอำมาตย์เดิม

เลยไปเอาข้าราชการเกษียณมา แทบหมด
(ฝ่ายการเมืองอาจไม่ยอมร่วมสังฆกรรม คนดัง Save ตัวเองดีกว่า)


ยุคอุตสาหกรรม ข้าราชการประจำไม่ได้เป็นผู้นำสังคม ไม่ได้เป็นผู้นำความคิดอยู่แล้ว

คนกลุ่มนี้ ไม่ใช่ผู้นำสังคม ที่จะชี้นำสังคมได้ สุดท้ายจะขึ้นกับรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะเอาอย่างไรนั่นแหละ

อำนาจแฝงของระบอบอำมาตย์ วันนี้นั้นผมไม่คิดว่าจะมีแล้ว ขึ้นกับอำนาจนำทางประเพณี ที่ไม่ใช่ฐานเดิมหรือฐานที่คนกลุ่มนี้จะเข้าถึงได้แบบที่ผ่านมา ที่มีนอมินี สายสงขลาควบคุม

ตอนนี้พวกนี้คือข้าราชการเกษียณ ที่ไม่ได้มีพลังในระบบราชการแต่อย่างใด

ประยุทธนั้น อาจเหยียบเรือสองแคม คือพยายามลงจากอำนาจอย่างปลอดภัย นั้นหมายถึงมีการค้ำประกันจากระบบประเพณีเดิม

หรือหากไม่มีความมั่นใจว่าจะมีการคุ้มครอง ก็คงพยายามเป็นนายกฯต่อ แต่เป็นนายกฯ ที่ขาดฐานอำนาจที่แท้จริงเช่นนี้ ไม่ต่างจาก พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ที่ฐาน สว.เองก็พัง มันต้องมีฐานกองทัพหนุนถึงจะไปได้ เพราะการบริหารประเทศต้องพึ่ง สส.อยู่ดี มีแต่ สว.นั้น บริหารประเทศไม่ได้หรอก กฏหมายอะไรก็ไม่ผ่าน

แต่วันนี้อำนาจคุมกองทัพ นั้น น่าจะรู้กันอยู่ว่าไม่น่าจะใช้ ทหารเกษียณเหล่านี้ กองทัพมีนายตัวจริงของเขาเองแล้ว ที่มาคุมเอง

โอกาสที่เพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้นนั้นมีมาก โอกาสที่จะเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั้นมีสูงมาก

การทำรัฐประหารอีกครั้ง หากไม่ได้รับการสนับสนุน นั้นทำไม่ได้โดยลำพังของคนในกองทัพหรอก นายพลในกองทัพทำเองไม่ได้หรอกครับ

วันนี้กองทัพเงียบมาก เหมือนไม่มีการวิ่งเต้น เข้าบ้านใครเลย

ยุคต่อไปผมเดาว่าอาจจะเป็นแบบนี้คือ ทหารจะไม่วิ่งไปบ้านใคร ไปหาบิ๊กคนไหน ใครสงบสุด อาจได้ตำแหน่ง ใครอื้อฉาวจะถูกปัดแข้งปัดขา ใครรังแกชาวบ้าน อาจถูกให้ฝึกใหม่ จนอาจเหนื่อยตายเลยก็ได้ หากไม่ฟิตพอ

ปล. ผมอยากให้ผู้พิพากษา ไปฝึกแบบทหารมั่งจัง จะได้ฟิต มีสุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะพวกที่ไม่ยึดหลักนิติธรรม น่าจะให้ไปอบรมสร้างเสริมสมรรถนะทางกายบ้าง แต่ไม่แน่นะอาจได้ฝึกก็ได้ใครจะรู้

...


ภาพจากมติชนออนไลน์


ดูเหมือนว่าสงครามมวลชนเริ่มร้อนแรงขึ้นมาอีก มีการส่งตำรวจออกไปขู่ชาวบ้าน มีการทำสัญญาห้ามมาให้กำลังใจนายกฯปู

นั่นหมายถึงพลังของฝ่ายทักษิณยังมีอยู่เพียบ ไม่ได้ลดลงไปเลยจากการครองอำนาจของฝ่ายทหารในสามปีมานี้ ไม่สามารถทำลายฐานมวลชนของฝ่ายทักษิณได้เลยแม้แต่น้อย นั่นคือความล้มเหลวอย่างยิ่งของการต่อสู้ทางการเมืองของระบอบอำมาตยาธิปไตย ในขณะที่ระบอบอำมาตย์มีปัญหาโครงสร้างอำนาจในตัวระบบ ฝ่ายทักษิณกลับไม่มีปัญหากับฐานมวลชนของตนแต่อย่างใด

ส่วนการเคลื่อนไหวมวลชนอะไร นั่นเป็นเรื่องที่ฝ่ายทักษิณต้องแก้เกมเอง หากคิดจะทำ ซึ่งหากเขาตั้งใจจริงก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะยุคที่ระบบการสื่อสารสุดยอดนี่ ส่วนสำคัญยิ่งคือการสื่อสารกันเท่านั้น

เกมการเมืองยังร้อนแรงเหมือนเดิม สามปีที่ผ่านมา จึงเป็นแค่ยุทธศาสตร์รอเท่านั้น แต่ไม่ใช่ถอยร่นเสื่อมโทรม หมดพลัง มวลชนทิ้งแต่อย่างใด

ฝ่ายทักษิณยังมีศักยภาพในการรุกแบบปี 2552-2553 ได้อย่างสบายหากพวกเขาคิดจะทำแบบนั้น (ซึ่งผมไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร) ดังนั้น สงครามจึงไม่ได้จบลง เพราะการใช้กำลังเข้ายึดอำนาจรัฐของฝ่ายกองทัพแต่อย่างใด

การทำลายสงครามแบบนี้คือ ทำลายเอาชนะกันทางความคิด ไม่ใช่กำลังขมขู่ เพราะหากอีกฝ่ายยังรักษาความคิด อุดมการณ์ ความศรัทธาเอาไว้ได้ พวกเขาแทบจะไม่ได้สูญเสียอะไรเลยในสงคราม แต่ฝ่ายอำมาตย์ไปรุกรบในแนวรบที่ไม่ได้มวลชนขึ้นมาแต่อย่างใด ทำให้การต่อสู้ในสงครามที่ยืดเยื้ออยู่แล้ว ไม่ได้ผลแต่อย่างใดเลย

การปฏิรูปที่ว่า ผมคิดว่าล้มเหลวไม่สามารถสร้างความศรัทธาจากมวลชนได้ ไม่สามารถสร้างความหวังได้ การตั้งกรรมการอะไรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายในทางการปฏิรูปจริงๆ ผมฟันธงว่ามันคือความล้มเหลวอีกครั้ง

หากผู้มีอำนาจตัวจริงทางประเพณีไม่เอาทางนี้ สิ่งที่ฝ่ายระบอบอำมาตย์วางไว้ทั้งหมดก็พังทลายหมดสิ้น

กำลังต่อรองที่แท้จริงคือ ฐานมวลชนต่างหาก ไม่ใช่กรรมการปฏิรูปอะไรนั่น มันห่างไกลจากมวลชนมาก

.....

เรื่องเกี่ยวข้อง...

3 ปี รัฐบาล 'พล.อ.ประยุทธ์' คะแนนพึงพอใจลดลงทุกด้าน

(https://news.voicetv.co.th/thailand/516793.html)

..