เห็นผลงานความดักดานของสภาจับยัดลิ่วล้อรัฐประหารไหมนี่ ออกกฎหมายเอาผิดทั้งตระกูลสี่ชั่วคน
นัยว่าเป็น ‘ยาแรง’ แก้คอรัปชั่น
หลังจากที่ สปท. ร่างตามใบสั่ง คสช. เมื่อปีกลาย และนายวิษณุ
เครืองาม มอบให้คณะกรรมการกฤษฎีการับไปจัดทำ บัดนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีรัฐบาลประยุทธ์
จันทร์โอชา ออกมาแล้ว
กฎหมาย “ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม” ที่ ครม.อนุมัตินี้ ยังคงมีการอ้างชื่อให้เก๋ไก๋ย้อนอดีตกลับไปสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า
‘กฎหมาย ๗ ชั่วโคตร’
แม้ว่าจะมีการปรับแก้จากเดิมที่ให้ครอบคลุมเอาผิดกับผู้ทุจริตและครอบครัวทั้งยวง
ย้อนไปถึงพ่อแม่ ลุงป้าน้าอา พ่อตาแม่ยาย ลูกเขยลูกสะใภ้ ลูกหลานเหลนและคู่สมรสของเขาเหล่านั้น
ช่วงกันยา ๕๙ เปลี่ยนมาเรียกว่ากฎหมาย ๓ ชั่วโคตร ลดลงเหลือแค่พ่อแม่ ลูก และคู่สมรสของลูก
ฉบับล่าสุดนี่ “ ครอบคลุมถึงญาติใน ๔ ลำดับ คือ
ผู้สืบสันดาน, บุพการี, คู่สมรส, พี่น้อง รวมไปจนถึงบุตรบุญธรรม”
โฆษกรัฐบาล สรรเสริญ แก้วกำเนิด อ้าง (PPTV-36)
ขอบข่ายของกฎหมายฉบับนี้โดยหลักระบุเอาผิดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ
และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง “ใช้ข้อมูลภายในของรัฐที่ยังเป็นความลับอยู่” และ/หรือ “รับของขวัญ ของที่ระลึก เงิน ทรัพย์สิน
หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้...
ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ยังไม่ถึง ๒ ปี เป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง
หรือดำรงตำแหน่งอื่นในธุรกิจของเอกชนซึ่งเคยอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของตน”
ที่สำคัญเจาะจงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐทำสัญญากับบุคคลภายนอก
หากอัยการสูงสุดตรวจพบว่าเป็นการกระทำโดยทุจริต ให้แจ้งความหน่วยงานเกี่ยวข้อง
หรือคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการ
นอกเหนือจากนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ
เห็นความไม่ชอบมาพากล ก็สามารถยื่นคำร้องถึงคณะกรรมการ ปปช. โดยตรงได้
จุดเด่นที่ คสช.
คิดว่าเป็นจุดขายน่านิยมของกฎหมายฉบับนี้นอกจาก เอาผิดทั้งโคตรแล้ว
ยังกำหนดความผิดต่างๆ ละเอียดยิบกว่ากฎหมาย ปปช. ที่จะเฟดหายและยกเลิกไปในที่สุด
เช่น
“การเข้าค้ำประกันไม่คิดค่าธรรมเนียม
การให้ค่านายหน้า การขายหรือการให้เช่าซื้อทรัพย์สินแก่เจ้าหน้าที่ในราคาต่ำกว่า”
หรือสูงกว่าปกติ
“การให้ส่วนลดในสินค้าหรือทรัพย์สินที่จำหน่าย
การให้รางวัล การจ่ายเงินล่วงหน้าและคืนให้ภายหลัง การให้ค่าเดินทางหรือบริการขนส่ง...
ให้บริการวิชาชีพอิสระ
เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล สถาปนิก วิศวกร กฎหมาย หรือบัญชี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
หรือคิดค่าใช้จ่ายน้อยกว่าปกติ เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นการกระทำผิด”
หากแต่ว่าความผิดที่กฎหมายฉบับนี้ระบุไว้ยุบยิบถึง
๘ ประเด็น ซึ่งอ้างว่าสอดคล้องกับหลักการ Conflict
of interest ที่สหประชาชาติถือว่าเป็นการคอรัปชั่น
บัญญัติอยู่ในอนุสัญญาต่อต้านการทุจริต หรือ UNCAC 2003
มิใช่ความผิดเหมารวม ที่จะกำหนดบทลงโทษตามสายเลือดเหมือนในยุคสมบูรณายาสิทธิราชได้
หลักการลงทัณฑ์ทั้งโคตรเช่นนั้น
ประชาคมโลกถือกันว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ชาติไหนเคยมีต่างก็ยกเลิก
ชาติไหนไม่เคยเจอก็จะกำหนดเป็นข้อห้ามไว้มิให้มีโอกาสได้พบพานในกาลข้างหน้า
ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ ๑๙ มาแล้ว