เก็บความ ‘ตามถนัด’ จากรายงานว้อยซ์ทีวีที่เล่าว่า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อ่านแถลงปิดคดีในช่วงต้น มี ๖ ประเด็น
เริ่มด้วยการดำเนินคดีครั้งนี้ “ไม่เป็นธรรมและไม่ถูกกฎหมาย” (เพราะ) “นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายสาธารณะที่เป็นประโยชน์”
มีระเบียบกฎหมายรองรับ
ส่วนที่ไม่ได้ยับยั้งตามที่ทีดีอาร์ไอและปปช. ชงเรื่องใส่ไคล้
ไม่ใช่ ‘เพิกเฉย’ แต่ว่าไม่สามารถทำตามอำเภอใจ
ขัดกับขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญได้
ในเมื่อโครงการนี้มีประโยชน์และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
“ตามที่ฟ้อง” จึงมิได้ “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ทำให้ไม่ได้เป็นการ “ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต”
ดังที่อัยการสูงสุดอ้าง
ในวันเดียวกันนี้
อัยการสูงสุดได้เพิ่มเติมพยานหลักฐานอีก ๖๐๐ หน้ากระดาษ
ส่วนใหญ่เป็นการย้ำซ้ำเติมเรื่องความเสียหายในการระบายข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่การระบายของ
คสช. ที่เป็นปัญหา
(ปัญหาดังกล่าวก็คือ คลังข้าว
๘ แห่งร้องโวยวายว่า ทหารมุบมิบทำกันไม่ยอมให้เจ้าของคลังเข้าไปดู
ตามมาตรฐานคิดขึ้นเองของ ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล ปลัดสำนักนายกฯ ขณะนั้น
ข้าวเป็นพันๆ กระสอบตรวจแค่ ๕
กระสอบแล้วบอกว่าทั้งหมดต่ำกว่ามาตรฐาน ๒๐ เปอร์เซ็นต์
เสร็จแล้วนำออกขายราคาถูกเป็นอาหารสัตว์ แถมมีทหารแอบเอารถบรรทุกราชการไปนัดคุยกับผู้ประมูลเป็นกรณีพิเศษ
ผลก็คือตอนนี้ไม่เพียงรัฐได้รับค่าตอบแทนจากข้าวค้างสต็อกน้อยกว่าที่ควรเป็นจำนวนมหาศาล
ไม่รู้ว่าส่วนต่างไปตกระหว่างทางที่ไหนในความรับผิดชอบของทหาร
แล้วยังเจ้าของโกดังต้องมาร่วมรับภาระความเสียหายรายละเป็นสิบๆ ล้านกันด้วย)
ที่ซึ่งทหายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้องต่อศาลขออย่าได้นำหลักฐานใหม่ของอัยการที่ยัดให้ในนาฑีสุดท้ายนี้เข้าสู่การพิจารณา
จำเลยยังแถลงเพิ่มเติมด้วยปากเปล่าหลังอ่านคำแถลงด้วยว่า
“หวังว่าศาลจะพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวตามข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมาย และหลักฐานที่เข้าสู่สำนวนโดยชอบ ไม่รับฟังการชี้นำจากฝ่ายใด”
ศาลยังนิ่งเฉยต่อกรณีอัยการทำเหมือนเล่นแร่แปรธาตุ
จำเลยต้องไปรอดูตอนตัดสินว่าศาลเห็นด้วยกับอัยการแค่ไหน
อย่างไรก็ดี
ที่ศาลมิได้นิ่งเฉยในวันนี้ต่อกรณีจำเลยยื่นคำร้องไว้ก่อนหน้าแล้ว
ขอให้นำการพิจารณาคดีนี้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความเสียก่อน (ตาม ม.๒๑๒)
ศาลฎีกาสำหรับนักการเมืองบอกว่า ขอยกคำร้องนั้นอีกเป็นครั้งที่สาม จบ
หลังเสร็จความในห้องพิจารณา น.ส.ยิ่งลักษณ์
ออกมาภายนอกพบกับประชาชนจำนวนล้นหลามเฝ้ารอให้กำลังใจกันเนืองแน่นหน้าศาล
เสียงตะโกนก้องพร้อมเพรียงกันว่า “นายกฯ ยิ่งลักษณ์สู้ สู้” กระหึ่ม
ทำให้ใบหน้าของอดีตนายกฯ หญิงชื่นบาน ริ้วรอยสะอื้นอันตรธานไป