วันอังคาร, พฤษภาคม 01, 2561

ชีวิตชาวบ้านยุคเผด็จการครองเมือง... "ตักแค่ ๒๕ บาทได้ไหม ?" พ่อค้าอมยิ้มนิด ๆ...



"ตักแค่ ๒๕ บาทได้ไหม ?"

ผมงี้ สตั้นส์ แวบแรก รู้สึก วูบชา สงสาร กลัวเขาอาย

นึกอะไรไม่ออก แต่ด้วย รีเอฟเฟก ของกล้ามเนื้อแบบไม่คิด ผมมองสบตา กับชายหนุ่มรูปงาม (พ่อค้า) ในชุดเสื้อกล้ามขาว กางเกงยีนส์ ใส่เอี้ยมกันเปื้อนสีแดง (ผมยืนอยู่ข้างหลัง ชายคนที่ต่อรอง) พยักหน้าให้เขา แล้วชี้มาที่อกตัวเอง

แปลว่าให้ไปเหอะ มาเอา ห้าบาทที่กูนี่ (จะออกให้เลยก็เกรงศักดิ์ศรี ลูกผู้ชาย กลัวเขาจะอาย)

พ่อค้าอมยิ้มนิด ๆ เอาถุงต้มยำไก่ ที่มัดไว้แล้ว แต่ใช่ปากกาเมจิคเขียนเลข ๓๐ ไว้ส่งให้ พร้อมยิ้มให้กับชายคนนั้นแล้วพุดว่า

"เอามาแค่นี้ก้ได้ครับ "

แล้วก็ยื่นมือไปรับลูกกะตังค์ เหรียญห้าและเหรียญบาทจากชายคนนั้น

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

เรื่องของเรื่องก็คือ ผมแวะตลาดนัดก่อนถึงบ้าน

เพื่อซื้ออาหารเย็น ผลไม้ ขนม ให้หลาน ๆ และแม่เป็นประจำอยู่แล้ว

เดินเข้าตลาดวันนี้ ก็ชอปตามปกติ ผลไม้ ข้าวโพดต้ม สลัดผัก เป็ดตพะโล้บ้าง แกงสำเร็จบ้าง ก็แล้วแต่ วันนี้ตลาดมีอะไรขาย

แต่วันนี้ เขาจัดตลาดใหม่ คือร้านประจำมันหายไปไหนไม่ทราบ เลยเดินผ่านไปที่ร้านมีป้ายว่า เก่งเรื่องไก่

มีถาด ไก่ผัดพริก ลาบไก่ ต้มยำไก่ วางโชว์ โดยมีใส่ถุงมัดและเขียนราคาติดไว้

ผ่านทีแรก ก็คิดว่าไม่เอา เห็นชายคนนึง มองไปที่ถุง ต้มยำไก่ ตาเขม็ง ชายคนนีใส่หมวกแก๊ปเก่า ๆ กางเกงเก่า ๆ เสื้อยืดมอซอ กับรองเท้าคีบธรรมดา แต่คววามที่สมาธิแกอยู่กับแกง เลยยืนตรงแหนวขวางทางเดิน

ทีแรกพี่ดำก็เดินเลยไปไม่คิดอะไร แต่พอสังเกตเห็นแกนับเศษเหรียญบาทในมือ สลับกับมองถุงแกงไก่ด้วยแววตา มันคือหูฉลามชั้นยอด ของยองยองเหลา

แต่ด้วยความที่หาร้านเป็ดไม่เจอ เอาวะ ซื้อลาบไก่ ต้มยำไก่ไปฝากหลาน ๆ ดีกว่าเลยเดินกลับมาที่ร้าน ยืนมาหลังชายคนนั้น กับเสียงที่แทบจะกระซิบว่า ตักให้ยี่สิบห้าบาทได้ไหม (คือหมดตูดแล้วมีแค่นั้น)

ชายคนนันรับถุงแกงไป เดินกลับไปที่รถจักรยาน แล้วปั่นออกไป

พี่ดำยิ้ม ๆ กับคนขาย สั่งลาบกับต้มยำ แล้วส่งให้ร้อยนึง

น้องเขาทอนมาให้ตามราคา ไอ้ห้าบาทไม่เอา

พี่ดำเลยท้วง "เอ้าน้อง เกินมาห้าบาท เอาคืนไป "

น้องยิ้มบอก "ไม่เกินพี่ ผมตั้งใจให้เขาอยู่แล้วครับ" (พี่ไม่พยักหน้าน้องก็ไม่เอาอยู่แล้ว)

หนอย มึชิงซีนความหล่อกูหรา ถึงพี่จะดำกว่าอายุมากกว่า แต่เรื่องหัวใจหล่อ ผมไม่ค่อยแพ้ใครเท่าไหร่ (นึก)

บอก "เอาเถอะ น้องค้าขายนะ มันจะขาดทุน"

น้องบอก "ไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มหัวใจมากกว่า"

ไอ้ห่าเอ้ย มึงนี่คมจริง ๆ หน้าตาชาตินี้ก็ดีมากพออยู่แล้ว อยาให้หล่อในชาติหน้าอีกเลยไอ้หอก เดี๋ยวพี่หาเมียแข่งกับมึงไม่ได้

ผมเดินออกจากร้านนั้น ด้วยความรู้สึกสองอย่างนะ

๑ ผมโคตรเวทนาชีวิตคนไทยในยุค ไอ้เหี้ยตูบ มาก ๆ เลย คนไทยลำบากกันแสนสาหัส กันสุดประมาณจริง ๆ

๒. ผมประทับใจในน้ำใจของเด็กคนนั้นมาก ๆ พ่อแม่เขาคงอบรมมาดี ให้มีน้ำใจกับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นพ่อค้ารากหญ้าในตลาดนัดธรรมดาคนหนึ่ง

บอกไม่ถูกนะ มันหดหู่ปนอิ่มเอมใจ

จบนะ



Somchai Makmee


...

Chotechuang Thirapatto เท่่าที่พบมา คนรากหญ้ามักมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกันมากกว่าคนรวย

Seeharat Singhkham อ่านแล้วโกรธไอเหี้ยตู่จับใจ

Wisnu Ticho อ่านแล้วมีก้อนมาจุกคอหอยครับ ประเทศแบบไหนที่ทำให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น คงเกิดทุกเวลาในทุกตลาดในแดนกะลานี้ #ขอสาปแช่งพวกจัญไรที่พาชีวิตคนไทยมาถึงจุดนี้ทุกคนทุกชาติไป