จะครั้งที่สามหรือสี่ ก็มีแต่ ‘พี้ช’ และ ‘ว้อยซ์’ ทีวี เท่านั้นที่โดน
กสทช. สั่งปิดเป็นนิจสิน “ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย" จริงๆ
ดังที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ โตจิราการ ที่ปรึกษา นปช. บอกกับ ‘ข่าวสด’
พี้ชทีวีเคยถูกสั่งปิดในช่วงทำประชามติรัฐธรรมนูญหมกเม็ดซ่อนอำนาจพิเศษ
คสช. ที่กลายมาเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการทหาร ราชาธิปไตย ๒๕๖๐
ที่ใช้กันอยู่ภายใต้คำสั่ง คสช. และมาตรา ๔๔
อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวของคณะรัฐประหาร ในขณะนี้
บีบีซีไทยรายงานว่า “สมาคมเครือข่ายผู้สื่อข่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(ซีป้า)ได้ออกแถลงการณ์ประณามคำสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ที่ให้พักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพี้ช
ว่ารุนแรงเกินไป
...แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่กว้างขวางของ
กสทช. ซึ่งต้องนำมาใช้อย่างระมัดระวัง
เนื่องจากมีโอกาสที่จะเป็นตัวอย่างของการละเมิดเสรีภาพสื่อ และสิทธิของประชาชนที่จะรับรู้เนื้อหาทางการเมืองทุกด้าน”
บทความชื่อ ‘ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
ปิดพีซทีวีสังเวยก่อนพิพากษาคดียิ่งลักษณ์’ โดย นันท์ชนก วงษ์สมุทร์ & วัชชิรานนท์
ทองเทพ อ้างถึงในตอนหนึ่งว่า การสั่งพักใบอนุญาตของพี้ชทีวีเป็นเวลา
๓๐ วัน ครอบคลุมช่วงเวลาก่อนและหลังกำหนดการพิพากษาคดีนโยบายจำนำข้าวของ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พอดี
ไม่ว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบิดปากพูดว่า “ถ้าปิดเพราะเกี่ยวกับวันที่
๒๕ สิงหาคม อย่างนั้นต้องปิดสื่อทั้งหมด นักข่าวตกงาน” หรือประวิตร วงษ์สุวรรณ ขมิบปากพูดว่าเพราะ
“ได้ทำการโจมตีรัฐบาล” อย่างไรก็ตามแต่
หนีไม่พ้นประเด็นลิ่วล้อ คสช. ต้องการปิดปากพลพรรคยิ่งลักษณ์
ดังที่ข่าวเนชั่นทีวีระบุว่า “เป็นจังหวะพอดีที่ประชาธิปัตย์ออกมาเรียกร้องเมื่อ
๘
ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ กสทช.ตรวจสอบการออกอากาศของสถานีพีซทีวี”
เนื่องจากนำรายการสัมภาษณ์ประธาน นปช. จตุพร พรหมพันธุ์ จากในคุกมาออกอากาศ
เนชั่นโยงให้เห็นว่าจตุพรพูดถึงคดีที่ นปช.ไปชุมนุมคัดค้านการประชุมอาเซียนที่พัทยาและคดีจำนำข้าว
เป็นความผิดมาตรา ๓๗ ของ พรบ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ พ.ศ. ๒๕๕๑
“ประเมินว่า
(การปิดพี้ชทีวี) เป็นแนวทางในการสกัดมวลชนที่จะมาให้กำลังใจหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เพราะระยะหลังมีการโหมกระแสเรื่องนี้ผ่านพี้ชทีวีมาอย่างต่อเนื่อง”
น้ำเสียงเหมือนเสี้ยม
คำสั่งปิดพี้ชทีวี “ทำให้การสกัดมวลชนคนรักยิ่งลักษณ์ได้เพียงระดับหนึ่ง เพราะขณะนี้ยังมีช่องดาวเทียมอย่าง
‘ทีวี 24’
ฝาแฝดของพี้ชทีวี
ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย สามารถออกอากาศได้ตามปกติ”
เนชั่นจะมีเจตนาชี้เป้าให้ลิ่วล้อ คสช. ไปจัดการกับ ‘ทะเวนตี้โฟร์ทีวี' ด้วยหรือเปล่า
ไม่แน่ แต่เนชั่นก็จัดการขนานนามให้ช่อง TV24 ไปเรียบร้อยแล้วว่า
‘ยิ่งลักษณ์ทีวี’
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาฯ กสทช. แจงความผิดของพี้ชทีวีว่า “เข้าข่ายเป็นการเกิดการล้มล้างการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
รวมถึงความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน”
อันเนื่องมาแต่การออกอากาศรายการ
‘เข้าใจตรงกันนะ’ เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม และรายการ ‘ห้องข่าวเล่าเรื่องสุดสัปดาห์’ วันที่ ๙ กรกฎาคม
ถ้าจะใช้คำของ อจ.ปิยะบุตร แสงกนกกุล กล่าวถึงสถานการณ์ผู้โดยสารการบิน
๓ พันคนรอคิวตรวจคนเข้าเมืองที่ดอนเมือง ๕ ชั่วโมง ว่าเหนือจริง ‘surreal’ การตั้งข้อหาพี้ชทีวีล้มล้างการปกครองฯ คงต้อง ‘out of this world’
หาไม่ได้ในโลกใบนี้
ชี้ให้เห็นความเป็นไปในบรรยากาศฟ้าสซิสต์แบบไทยๆ อย่างหนึ่ง
พวกลิ่วล้อ คสช. ในหน่วยงานรัฐต่างๆ ทำตัวเป็นนักกฎหมายศรีธนญชัยสไตล์ คสช.
กันไปหมด ไม่เฉพาะแต่ในหมู่ผู้พิพากษาตลาการเกลียดนักการเมือง ที่พยายามหาตัวบทมาอ้างอิงให้เข้ากับข้อวินิจฉัยที่ตัดสินไว้แล้วในใจ
(หรือมีเทวดากระซิบ)
“เริ่มทำใจให้ชิน สถานการณ์แบบนี้เราเคยผ่านกันมาแล้ว
ต้องทำใจกับมันให้ได้ (ว่า) ถ้าเป็นสื่อประชาธิปไตยในยุคเผด็จการ
รัฐบาลทหาร ย่อมที่จะไม่อยู่สบาย” วัฒนา อ่อนกำปัง
ผู้สื่อข่าวของพี้ชทีวีคนหนึ่งให้ความเห็นกับบีบีซีไทย
“นับครั้งที่ ๔
(เนชั่นว่าเป็นครั้งที่สาม)
ที่พี้ชทีวีถูกระงับการออกอากาศ
โดยก่อนหน้านี้เคยถูกระงับเป็นเวลาตั้งแต่ ๗ วันถึง ๙๐ วัน อย่างไรก็ดีไม่มีผลต่อการทำงาน
เพราะการออกอากาศจะอาศัยช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นยูทิวบ์หรือเฟซบุ๊ก”
อยากจะตั้งตารอดูว่าพวกที่ร่วมกันตัดสินให้ปิดพี้ชทีวีคราวนี้
จะไปได้บำเหน็จในอีกปีสองปีข้างหน้ากันบ้างไหม ขนาดใด
แต่เวลาที่จะต้องรอมันเนิ่นนานเกินไปสำหรับความเสียหายต่อการเป็นรัฐชาติศิวิลัยในทางประชาธิปไตย
สภาพเช่นนี้มันจวนเจียนใกล้ถึงความเป็นรัฐล้มเหลว ‘failed state’ ยิ่งแล้ว ด้วยวิธีจัดการกับเกือบทุกสิ่งทุกอย่างดั่งใจของพวก คสช. และลิ่วล้อ
ในอัตราเร่งชนิดต่างคนต่าวสาวได้สาวเอา น่าจะไม่ถึงปีหรอก ต้องพัง