ไฮ้ หัวหน้าใหญ่เกาะกระแสติดหนึบ “ต้องเอาอย่างเหมียนหม่า” ออกมาใช้สิทธิ ๘๐ เปอร์เซ็นต์

ไฮ้ หัวหน้าใหญ่เกาะกระแสติดหนึบ “ต้องเอาอย่างเหมียนหม่า” ออกมาใช้สิทธิ ๘๐ เปอร์เซ็นต์

บอกใครล่ะเพ่ง “ไม่ออกมาเพราะว่าไม่ชอบการเมือง แต่พอการเมืองเขาทำอะไรไม่ดี ออกมาก็เอ้ยผมไม่ได้เลือกมา มันไม่รับผิดชอบ อย่างนี้ไม่ได้นะ”

(http://prachatai.org/journal/2015/11/62374)

บร๊ะ ถ้าพวกเขารับผิดชอบ จะมีวันนี้ให้ทั่นหรือ

ไหน ว่าไงนะ อ้อ ไม่ใช่ ของทั่นเคยบอกไว้พระราชทานล้วนๆ

ส่วนกรณีคนไทยไม่ชอบออกเสียง ก็คงเป็น ‘พูดไม่มีหูรูด’ อีกละ เพราะ อ.เจษฎา แก fact-checked ไว้แล้ว

“เค้าก็ไปเลือกตั้งกันตั้ง ๗๕ % ...อย่ามาตะคอกสั่ง”

แต่ยังไงก็ดี วันนี้วางใจ “กรมควบคุมโรคยัน ไทยยังไม่พบไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่”

ข่าวจริง สปริงนิวส์เขาแจ้งไว้ ไอ้ที่ติดเชื้อนั่นสงสัยสายพันธุ์เดิมที่ว่ามีอยู่สี่และติดได้สี่ครั้ง รุ่นหลังๆ fatal

(http://www.springnews.co.th/social/252580)

‘ติดเชื้อตาย’ ตอนนี้ไปแล้วสอง อีกสองแค่ลือ กลาโหมยังไม่ยืนยัน เพียงปลด ถอดยศพิสิฐศักดิ์ ส่วนสุชาติหายป่อม

คนที่ลือแล้วไม่หาย ที่เห็นๆ น่าจะเป็น ‘เหรียญทอง’ ออกประกาศสีเขียวหัวเป็ด “คนอย่างผมไม่หายไปไหน”

“ผมมีธุรกิจ ที่ไม่จำเป็นต้องไปหากินเหมือนไอ้หยอง”

ก็โล่งใจไปอีกเปราะ เพราะไม่งั้นต้องมีลือกันอีกหลาย เหนื่อยใจ อะ

และที่เหนื่อยหน่ายเหลือเกินแล้วตอนนี้คือเรื่องของพวกลูกไล่ คสช. ‘ทหารไปเยี่ยมแม่’

นี่ “‪#‎พวกมึงยังจะไปรบกวนเขาทำเชี่ยอะไรวะ‬” อย่างที่ สศจ. ว่า จริงๆ แหละ

ทำกันอย่างนี้เป็นนิจสิน (ขออนุญาตใช้ศัพท์แบบ ‘คนดี’ แทนคำว่า ‘สันดาน’ นี้ดนุง)

ทำนองเดียวกันนี้ ปวิน (ชัชวาลพงศ์พันธ์) เคยโดนแล้ว (นอกเหนือจากที่สั่งให้สถานทูตตามประกบก่อกวน)

ใครต่อใครในหมู่เซเล็บ ปชต. โดนกันถ้วนหน้า จิตรา (คชเดช) ดูเหมือนจะโดนบ่อย ทั้งที่ไม่ได้ย้ายไปต่างประเทศ

“แม่โทรมาบอกว่ามีทหารสี่คน ขี่มอเตอร์ไซด์สองคันมาหน้าบ้าน แล้วมีคนหนึ่งถ่ายรูปในบ้าน แม่ถามว่ามาหาใครก็ไม่พูดอะไร ถ่ายแล้วไปถามก็ไม่พูด” (as per ‘Somsak Jeamteerasakul’)

เห็นว่าหน้าบ้านณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) ก็มีฮัมวีสีขี้งัวไปจอดแทบทุกวัน วิธีการแบบนี้ในประเทศตะวันตกเขาเรียกว่า harassment อย่างสถุล

คุยนักคุยหนาว่าเข้ามาแก้ความขัดแย้ง กลายเป็นสร้าง ‘ยุคเข็ญ’ เสียเอง

เห็นทีหลักการ ‘พลเมืองโต้กลับ’ ต้องกระชับความยุติธรรมกันจริงจังมากยิ่งขึ้น เหมือนอย่างที่ นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือเมย์ เธอทำไว้เมื่อน้าชาย พลทหารวิเชียรถูกกลุ่มทหารรุ่นพี่ซ้อมถึงตาย เธอใช้เวลาสี่ปี ยื่นคำร้อง ฟ้องหน่วยงานที่รับผิดชอบ จนกระทั่งเวลานี้อัยการจังหวัดนราธิวาสรับเรื่องไว้ไต่สวน

ในภาวะที่ขื่อแปของบ้านเมืองเดี๋ยวนี้จะเดินเครื่องก็แต่ในเรื่องปกป้องพวกสลิ่มนกหวีด จึงเป็นภาระบนบ่าของภาคประชาชนประชาธิปไตยต้องช่วยกันเปิดโปงความชั่วร้ายทั้งหลายให้ปรากฏ

อย่างน้อยๆ คดีฆ่าพลทหารวิเชียร ไม่ควรที่จะยืดเยื้อและเงียบหาย มีฝ่ายเจ้าทุกข์ได้นำรายนามผู้ต้องหาแปะไว้บนหน้าโซชียลมีเดีย ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกาศให้โลกรู้ ตีกันไว้ไม่ให้เจ้าพนักงานทำการงุบงิบอีกต่อไป

(https://www.facebook.com/permalink.php?
story_fbid=426755607522504&id=100005642058295)

“‪#‎รายชื่อผู้ร่วมก่อเหตุ‬

ร้อยโท ภูริ เพิกโสภณ (ผู้ต้องหา)
ร้อยตรี โอม มาลัยหอม (จำเลยที่ ๑)
สิบเอก สุรศักดิ์ หรือ หรั่ง บุญเมือง (จำเลยที่ ๒)
สิบเอก กมล หรือ เด่น บัวทอง (จำเลยที่ ๓)
สิบเอก อาคม หรือ จิ๋ว จังหรีด (จำเลยที่ ๔)
พลทหาร ฐากูร หรือ แก็บ สมานุกร (จำเลยที่ ๕)
พลทหาร กิตติพงศ์ หรือ แม็ค โจ้งจาบ (จำเลยที่ ๖)
พลทหาร เกริกพันธ์ หรือ บอล แกล้วทนงค์ (จำเลยที่ ๗)
พลทหาร สมัย หรือ หมัย ไกรทิพย์ (จำเลยที่ ๘)
พลทหาร สาธร หรือ อ้อย เพชรจำรัส (จำเลยที่ ๙)”