ที่มา คมชัดลึก
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2558
ทหารแจ้งจับ‘เสรีพิศุทธ์’จัดรายการกระทบมั่นคง หลังจากทหารบุกค้นสถานีโทรทัศน์หาหลักฐานขณะที่เจ้าของคลื่นยอมรับเคยเตือน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.นรินทรักษ์ เชษฐศิริ รอง ผบ.ส.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 45/410-411 ซอยบอนด์สตรีท ถนนติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.เลขที่ 3/2558 ลงวันที่ 1 เมษายน 2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ ประกอบรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 44 ภายหลังตรวจสอบพบว่า มีการออกอากาศรายการทีวีรายการหนึ่ง (คุยสบายสไตล์รองฯ แดง) ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานี
ภาพจาก มติชนออนไลน์ |
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ น.ส.พรทิพา สุพัฒนุกุล อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของช่องรายการดังกล่าว และนายจิรภัทร์ น้อยปรีชา อายุ 40 ปี จึงให้นำเข้าตรวจสอบภายในบริเวณห้องควบคุมการออกอากาศ , ห้องจัดรายการ ชั้น 2 และห้องตัดต่อ ชั้น 3 พบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการออกอากาศรายการทีวีรวม 44 รายการ อย่างไรก็ดี หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ แต่ทางเจ้าของช่องรายการไม่สามารถนำมาแสดงได้ เบื้องต้นได้พิจารณาและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 8 รายซึ่งมีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.รวมอยู่ด้วย
ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ 6 ราย คงเหลือเพียง นายปัณณธร หรือดีเจ.ปันปัน และ พล.ต.อ.เสรีศุทธ์ อดีต ผบ.ตร. ที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ ทั้งนี้ ทาง พ.อ.บุรินทร์ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 6 ราย มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พ.ต.ท.สิงห์ สิงห์เดช พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.2 บก.ป.เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดอันไม่ใช่การกระทำภายใต้ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความเห็นโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนในประการที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร
หลังจากนี้มีการส่งตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมดมาให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. สอบปากคำและดำเนินคดีนั้น ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 20,000 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา ก่อนจะอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย นั้น ทางทหารที่เกี่ยวข้องในการตรวจค้น และจับกุม ได้ประสานกับทางตำรวจเพื่อออกหมายเรียก เชิญตัวมาสอบสวนดำเนินคดีแล้ว
ด้าน น.ส.พรทิพา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้ใหญ่ที่รู้จัก ซึ่งตนให้ความเคารพนับถือได้ขอใช้สถานีดังกล่าวจัดรายการ “เสียงเสรี” มาระยะหนึ่ง ซึ่งตนก็ยินดีให้ดำเนินการ ก่อนจะมีการจัดรายการโทรทัศน์ดังกล่าว ซึ่งตนเคยขอร้องให้ยุติไป โดยแจ้งกับทาง ผอ.สถานีไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้สั่งระงับการออกอากาศ แต่ก็ยังพบว่ามีการออกอากาศตามปกติ จนเกิดปัญหาขึ้น
น.ส.พรทิพา กล่าวด้วยว่า ช่วงที่มีการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเข้าข่ายความผิด จนถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ ตนไม่ได้อยู่ที่สถานี และไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ นอกจากนี้ยังใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ แจ้งถึงผู้ใหญ่ที่เคารพขอให้ระงับการถ่ายทำ และออกอากาศรายการด้วยซ้ำ หลักฐานข้อความที่ส่งไลน์ยังอยู่ในโทรศัพท์ตน และได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่และผู้จัดผังรายการของสถานีไปแล้ว 5 คน
...
เสรีพิศุทธ์ชี้ทุจริตอุทยานราชภักดิ์เข้าข่าย ม.112 ฉบับเต็ม 25 นาที