เก็บมาเล่ากันวันนี้ ชิล ชิล เกี่ยวกับ Free Speech ในอเมริกา
เจาะจงลงไปคือที่ ลอส แองเจลีส แคลิฟอร์เนีย ถิ่นที่ว่ากันว่ามีคนไทยอยู่อาศัยมากที่สุดในสหรัฐ
อันเนื่องมาแต่ข่าวโทรทัศน์เอ็นบีซีท้องถิ่น เสนอเรื่องราวที่เกิดกับหญิงไทย (ผู้ไม่ต้องการแสดงตัวในข่าว) คนหนึ่ง เธอเป็นพนักงานบริการลูกค้าร้านอาหารไทยในย่านรีดอนโด บีช เมืองฮิปฮิปชายหาดในแคลิฟอร์เนียภาคใต้
ปรากฏว่าลูกค้านายหนึ่งรับประทานอาหารเสร็จแล้วไม่ยอมทิป ตามขนบ (norm) ที่ปฏิบัติกันทั่วไปในสหรัฐสำหรับผู้ใช้บริการต่างๆ ซึ่งหากมีพนักงานคอยช่วยเหลือ (เสิร์ฟอาหาร ยกกระเป๋า ฯลฯ) ถึงจะไม่มีระเบียบกฏหมายกำหนด และขึ้นอยู่กับผู้รับบริการ หรือผู้ประกอบกิจการสามารถระบุไว้เป็นพิเศษให้ต้องจ่าย ‘ค่าตอบแทนด้วยความพึงพอใจ’ (Gratuity) นี้ได้
เหตุเกิดเมื่อกระทาชายนายนั้น ซึ่งสำนักข่าวสามารถเอาคลิปรูปพรรณจากกล้องวงจรปิดมาดู และพยายามติดต่อหาตัวยังไม่ได้ เพื่อให้เขาเล่าแจ้งว่าทำไม ไม่ทิปแล้วยังไม่พอ ดันเขียนลงตรงช่องสำหรับเติมทิปบนบิลค่าอาหารด้วยว่า
“ทิปมีให้สำหรับคนที่เป็นพลเมืองสหรัฐเท่านั้น”
ข้อเขียนเช่นนี้ ทั้งที่อาจอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ว่าไม่ต้องการจ่ายเพิ่มค่าบริการนอกเหนือจากสนนราคาที่ทางร้านกำหนด แต่การใช้สิทธิว่ากล่าว หรือ free speech นี้กลายเป็นการก้าวร้าว ล้ำเส้นความเป็นสิ่งอัน ‘บังควร’
การมิได้อึงมี่อยู่แต่ในหมู่เวทเตรสและคนครัวของร้านอาหารไทยแห่งนั้นเท่านั้น ไม่รู้มือดีคนไหนถ่ายภาพใบเสร็จ nasty ล้ำเส้นใบนั้นไปลงโซเชียลมีเดีย จึงเกิดอาการ viral แพร่หลายขยายขอบจนสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีต้องไปเก็บเอามาเสนอข่าวเมื่อวันศุกรที่ผ่านมา
(http://www.grubstreet.com/2015/…/anti-immigrant-receipt.html)
ผลปรากฏว่า ชาวเมืองรีดอนโดบีชไม่เพียงเห็นใจสตรีไทยพนักงานเสิร์ฟผู้ซึ่งเป็น undocumented worker หรือไม่ได้มีสถานะพลเมืองตามกฏหมาย เท่านั้น พวกเขาแสดงน้ำใจด้วยการช่วยกันจ่ายทิปเพิ่มขึ้น บอกว่าเพื่อทดแทนรายได้ส่วนหนึ่งที่เธอน่าจะได้รับ
รายหนึ่งวางทิปไว้ให้ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของยอดรวม (norm ปกติในแคลิฟอร์เนียและเมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐปัจจุบันอัตราทิปอยู่ที่ ๑๕ ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์)
บ้างเขียนแนบว่า “เสียใจกับการกักขฬะของชายคนนั้นนะ” บางรายระบุเลยว่าลูกค้าที่อ้างสิทธิให้ทิปเฉพาะแก่พลเมืองเท่านั้น เป็นพวก ‘เหยียดผิว’ (ประมาณเดียวกับที่สลิ่มไทยพูดถึงโรฮิงญา)
ผู้ประกาศข่าวเอ็นบีซีเริ่มรายงานของเขาว่า “สิ่งสำคัญยิ่งใหญ่อันหนึ่งของการอาศัยอยู่ในอเมริกาก็คือ เรามีเสรีภาพในการแสดงออก”
แต่สิ่งที่ชาวรีดอนโดมีปฏิกิริยาต่อกรณีชายก้าวร้าวลูกค้าร้านอาหารไทยคนนั้น เป็นการตอบโต้ว่าเสรีภาพในการแสดงออกว่ากล่าว ไม่อาจที่จะทำ ‘เกินไป’ ได้
ฉันใด ก็ฉันนั้น คนละเรื่องเดียวกัน วกเข้ามาถึงเรื่องบ้านเรา (จนได้สิน่า)
อภิสิทธิ์ในการตอบโต้ ชี้หน้า ตวาด จวก และข่มขู่นักข่าว ว่า “ไม่ใช่ฐานะ” บ้าง ระวังอย่าให้ทหารต้อง “ออกมาอีกนะ” บ้าง ดูท่าทาง ‘เกินไป’ ด้วยเหมือนกัน
มันกำลังจะกลายเป็นขนบใหม่ที่ใช้ในการทำลาย free speech ในประเทศไทย จนต่อไปภายหน้าต่างชาติเขาจะไม่พักที่จะให้เกียรติกับเสรีภาพในการว่ากล่าวของไทยก็ได้
เจาะจงลงไปคือที่ ลอส แองเจลีส แคลิฟอร์เนีย ถิ่นที่ว่ากันว่ามีคนไทยอยู่อาศัยมากที่สุดในสหรัฐ
อันเนื่องมาแต่ข่าวโทรทัศน์เอ็นบีซีท้องถิ่น เสนอเรื่องราวที่เกิดกับหญิงไทย (ผู้ไม่ต้องการแสดงตัวในข่าว) คนหนึ่ง เธอเป็นพนักงานบริการลูกค้าร้านอาหารไทยในย่านรีดอนโด บีช เมืองฮิปฮิปชายหาดในแคลิฟอร์เนียภาคใต้
ปรากฏว่าลูกค้านายหนึ่งรับประทานอาหารเสร็จแล้วไม่ยอมทิป ตามขนบ (norm) ที่ปฏิบัติกันทั่วไปในสหรัฐสำหรับผู้ใช้บริการต่างๆ ซึ่งหากมีพนักงานคอยช่วยเหลือ (เสิร์ฟอาหาร ยกกระเป๋า ฯลฯ) ถึงจะไม่มีระเบียบกฏหมายกำหนด และขึ้นอยู่กับผู้รับบริการ หรือผู้ประกอบกิจการสามารถระบุไว้เป็นพิเศษให้ต้องจ่าย ‘ค่าตอบแทนด้วยความพึงพอใจ’ (Gratuity) นี้ได้
เหตุเกิดเมื่อกระทาชายนายนั้น ซึ่งสำนักข่าวสามารถเอาคลิปรูปพรรณจากกล้องวงจรปิดมาดู และพยายามติดต่อหาตัวยังไม่ได้ เพื่อให้เขาเล่าแจ้งว่าทำไม ไม่ทิปแล้วยังไม่พอ ดันเขียนลงตรงช่องสำหรับเติมทิปบนบิลค่าอาหารด้วยว่า
“ทิปมีให้สำหรับคนที่เป็นพลเมืองสหรัฐเท่านั้น”
ข้อเขียนเช่นนี้ ทั้งที่อาจอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ว่าไม่ต้องการจ่ายเพิ่มค่าบริการนอกเหนือจากสนนราคาที่ทางร้านกำหนด แต่การใช้สิทธิว่ากล่าว หรือ free speech นี้กลายเป็นการก้าวร้าว ล้ำเส้นความเป็นสิ่งอัน ‘บังควร’
การมิได้อึงมี่อยู่แต่ในหมู่เวทเตรสและคนครัวของร้านอาหารไทยแห่งนั้นเท่านั้น ไม่รู้มือดีคนไหนถ่ายภาพใบเสร็จ nasty ล้ำเส้นใบนั้นไปลงโซเชียลมีเดีย จึงเกิดอาการ viral แพร่หลายขยายขอบจนสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีต้องไปเก็บเอามาเสนอข่าวเมื่อวันศุกรที่ผ่านมา
(http://www.grubstreet.com/2015/…/anti-immigrant-receipt.html)
ผลปรากฏว่า ชาวเมืองรีดอนโดบีชไม่เพียงเห็นใจสตรีไทยพนักงานเสิร์ฟผู้ซึ่งเป็น undocumented worker หรือไม่ได้มีสถานะพลเมืองตามกฏหมาย เท่านั้น พวกเขาแสดงน้ำใจด้วยการช่วยกันจ่ายทิปเพิ่มขึ้น บอกว่าเพื่อทดแทนรายได้ส่วนหนึ่งที่เธอน่าจะได้รับ
รายหนึ่งวางทิปไว้ให้ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของยอดรวม (norm ปกติในแคลิฟอร์เนียและเมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐปัจจุบันอัตราทิปอยู่ที่ ๑๕ ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์)
บ้างเขียนแนบว่า “เสียใจกับการกักขฬะของชายคนนั้นนะ” บางรายระบุเลยว่าลูกค้าที่อ้างสิทธิให้ทิปเฉพาะแก่พลเมืองเท่านั้น เป็นพวก ‘เหยียดผิว’ (ประมาณเดียวกับที่สลิ่มไทยพูดถึงโรฮิงญา)
ผู้ประกาศข่าวเอ็นบีซีเริ่มรายงานของเขาว่า “สิ่งสำคัญยิ่งใหญ่อันหนึ่งของการอาศัยอยู่ในอเมริกาก็คือ เรามีเสรีภาพในการแสดงออก”
แต่สิ่งที่ชาวรีดอนโดมีปฏิกิริยาต่อกรณีชายก้าวร้าวลูกค้าร้านอาหารไทยคนนั้น เป็นการตอบโต้ว่าเสรีภาพในการแสดงออกว่ากล่าว ไม่อาจที่จะทำ ‘เกินไป’ ได้
ฉันใด ก็ฉันนั้น คนละเรื่องเดียวกัน วกเข้ามาถึงเรื่องบ้านเรา (จนได้สิน่า)
อภิสิทธิ์ในการตอบโต้ ชี้หน้า ตวาด จวก และข่มขู่นักข่าว ว่า “ไม่ใช่ฐานะ” บ้าง ระวังอย่าให้ทหารต้อง “ออกมาอีกนะ” บ้าง ดูท่าทาง ‘เกินไป’ ด้วยเหมือนกัน
มันกำลังจะกลายเป็นขนบใหม่ที่ใช้ในการทำลาย free speech ในประเทศไทย จนต่อไปภายหน้าต่างชาติเขาจะไม่พักที่จะให้เกียรติกับเสรีภาพในการว่ากล่าวของไทยก็ได้