มีคนว่า ‘ซานต้าอ้วน’ จัดโปรคริสตมาส เป็น “ผลงานดาดๆ แบบนี้ที่ระดับอธิบดีกรมการค้าภายในทำเป็นประจำอยู่แล้ว” (@tawanten) แค่อีเวินต์ลดแลกแจกแถม ๕ วัน ที่ฮอลส์อิมแพค เมืองทองธานี “ลดสูงสุดถึง ๘๒%”
บอกว่า “มีสินค้าจาก ๓ กลุ่มสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ และค้าออนไลน์ กว่า ๔๑,๒๖๗ รายการ” แต่ว่าราคาคุยอยู่ที่ ‘เอสเอ็มอี’ อ้างเอานโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมาต่อยอด “เตรียมลดแพ็กเกจแฟรนไชส์ให้สูงสุด ๓๐%”
อีกอัน กระทรวงพาณิชย์จะทำเอง ในการเพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นเวลา ๓ เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งด้านการบริหารจัดการและการบัญชีคำนวณต้นทุน กับ “การพัฒนาผู้ส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทของโลก”
ที่เป็นรูปธรรมหน่อยก็การช่วยผู้ประกอบการร้านอาหาร สปา คาเฟ่ โรงแรม (จิ้งหรีด) ใช้ลิขสิทธิ์เพลงฟรี ๓ เดือน และรับส่วนลด ๑ ปีเมื่อต่ออายุใช้งาน นอกนั้นเป็นการ “ขยายระยะเวลาการให้บริการต่าง ๆ ของกระทรวง” เช่นออกใบอนุญาต ออกหนังสือรับรอง
อย่างที่เขาว่านั่นละ สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ต้องทำตาม ‘job requirements’ พื้นฐานอยุ่แล้ว แต่ภูมิธรรม เวชยชัย เอามาคุยว่าจะลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้กว่า ๔ พันล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจได้เกือบ ๑ หมื่น ๒ พันล้านบาท
กลายเป็นว่ารัฐบาลนี้ทั้งโขยง เป็นพวก ‘พีอาร์’ กันไปหมด อะไรที่มันดูดีเอามาโปรโมทไว้ก่อน ทำได้ไม่ได้แค่ไหนว่าไปตามเพลง อย่างเรื่องขึ้นค่าแรง นายกฯ เศรษฐา ทำท่าทางขึงขัง เฮ้ย เว้ย อะไรกันขึ้นแค่นี้ ๒ บาท ไม่ไหว ไม่ได้ ไปคิดมาใหม่
เสร็จแล้วก็โดนบอร์ดไตรภาคี “หักดิบ” ในการประชุมครั้งที่สอง ยืนกรานอัตราค่าจ้างแรงงานตามเดิมที่เคยเคาะไว้แล้ว ลดหลั่นกันตามพื้นที่ในปีหน้า คือเพิ่มตั้งแต่ ๒ บาท ถึง ๑๖ บาท น้อยที่สุดเป็น ๓ จังหวัดชายแดนใต้
ก่อนการประชุม ตัวแทนฝ่ายนายจ้างพูดไว้ชัดแจ้ง เมื่อนักข่าวถามว่าที่นายกฯ สั่งไปทบทวนอัตราค่าแรงใหม่นั้น ถือเป็นการแทรกแทรงทางการเมืองหรือเปล่า เขาตอบห้วนๆ ว่า “ใช่” เขาคงรู้ดีว่าตนมีลำหักลำโค่นเหนือกว่านายกฯ ทดลองงาน
ก็ได้แต่ให้โฆษกรัฐบาล (เลขาฯ ส่วนตัว) ออกมายืนกราน ขายผ้าเอาหน้ารอด “ยังเดินหน้าเพิ่มค่าแรง ชี้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ไม่ใช่แรงงานรับภาระ” เมื่อไหร่ล่ะ ปีโน้น หรือปีมะโว้ ไม่ยักได้อย่างใจเหมือนขึ้นเงินเดือนข้าราชการ
(https://ch3plus.com/news/economy/morning/379388 และ https://www.matichon.co.th/economy/news_4339867)