วันจันทร์, ธันวาคม 25, 2566

คอลัมนิสต์มติชนสุดสัปดาห์ ประกาศชื่อผู้ที่สมควรได้รับ เครื่องเคียงข้างจออวอร์ด ประจำปี 2566 โดยเอา AI “เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง” มาช่วยตัดสิน



เครื่องเคียงข้างจออวอร์ด

มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 ธันวาคม 2566
คอลัมน์ เครื่องเคียงข้างจอ
ผู้เขียน วัชระ แวววุฒินันท์

เป็นธรรมเนียมที่พอใกล้สิ้นปี สำนักข่าวหรือสื่อต่างๆ ก็จะพากันสรุปความเคลื่อนไหวเหตุการณ์ในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งการมอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติกับบุคคลหรือผลงานนั้นๆ ซึ่งคอลัมน์ “เครื่องเคียงข้างจอ” นี้ ก็ขอเกาะเทรนด์ไปกับเขาด้วย

โดยจะขอประกาศผู้ที่สมควรได้รับ “เครื่องเคียงข้างจออวอร์ด” ประจำปี 2566 นี้ไปครอง ทั้งนี้ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ การรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการตัดสินนั้นได้นำ AI มาใช้ด้วย

แต่ AI ที่ว่านี้ไม่ใช่ Artificial Intelligence ที่แปลว่า “ปัญญาประดิษฐ์” นะครับ

หากแต่เป็น “Atama Individual” อ่านว่า “อาตมา อินดิวิดวล” ซึ่งแปลว่า “เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง” นั่นเอง

เริ่มรางวัลแรกกันเลยครับ กับรางวัล “นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” และผู้ที่ได้รับรางวัล ได้แก่…(มีเสียงแตรฟันฟาร์ประกอบ)… “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร”

ต้องยอมรับกันว่า ชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” หรือ “แพทองธาร ชินวัตร” นั้น เริ่มเป็นที่จับจ้องพูดถึงมากขึ้นนับตั้งแต่เธอได้แสดงตนว่าเป็น “ตัวแทนของตระกูลชินวัตรคนล่าสุดที่จะทำงานการเมือง”

แต่แรกบทบาทและท่าทีของเธอยังไม่ชัดเจนนัก ด้วยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และได้ปรากฏตัวหรือขึ้นเวทีก็เพื่อยึดโยงกับอดีตนายกฯ ทักษิณ แต่ประกายของนักแสดงนำฉายแสงมากขึ้นเมื่อเธอได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ร่วมกับ เศรษฐา ทวีสิน และ อ.ชัยเกษม นิติสิริ

แม้จะมีข่าววงในว่าตระกูลชินวัตรยังไม่อยากให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีในวาระของการรับสมัครเลือกตั้งที่ผ่านมา ด้วยเห็นว่าเร็วเกินไป และอาจตกเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย

เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับสองรองจากพรรคก้าวไกล ช่วงที่พยายามจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายที่รวมตัวกันว่าเป็นฝ่าย “ประชาธิปไตย” สังคมก็จะเห็นว่าในวงประชุมต่างๆ จะมีอุ๊งอิ๊งร่วมอยู่ด้วยเสมอ และเมื่อขยับตัวอะไรก็จะเป็นที่สนใจของสื่อ อย่างที่สร้าง “ช็อกมิ้นต์” ให้เป็นเครื่องดื่มติดตลาดขึ้นมาได้ เป็นต้น

แม้ในห้วงเวลาสำคัญๆ เราก็จะได้เห็นเธอเดินนำแกนนำของพรรคเพื่อไทยในกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ

และการเป็นนักแสดงนำของ น.ส.แพทองธาร ก็จรัสแสงเต็มที่เมื่อได้รับการเลือกอย่างเอกฉันท์จากสมาชิกพรรคให้เป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่” เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา

ออร่า และภาพลักษณ์ของเธอก็โดดเด่น เด้งดึ๋ง ทะลุจอและหน้าสื่อออกมาทุกครั้งที่ปรากฏตัว จนมีการพูดกันว่าเธออาจจะได้ก้าวขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของเมืองไทย” ในเร็ววันนี้ หากว่าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายกฯ คนปัจจุบัน “เศรษฐา ทวีสิน”

ด้วยเรื่องราวอันเป็นที่ประจักษ์นี้ จึงขอมอบรางวัล “นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” ให้แก่ “น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร” ด้วยประการฉะนี้ (ปรบมือ)…

จากฝ่ายหญิงก็มาถึงฝ่ายชายกันบ้าง และผู้ที่ได้รับรางวัล “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ได้แก่…(เสียงแตรฟันฟาร์ประกอบ)… “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์”

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” โดดเด่นเป็นอย่างมากตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และฉายแววของการเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่น่าสนใจมากขึ้นในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียวของพรรคก้าวไกล ด้วยภาพลักษณ์ที่ดี รูปหล่อ คารมดี และมีวิสัยทัศน์ จึงพาให้เกิด “ด้อมส้ม” ขึ้นมากมาย ที่กลายเป็นฐานเสียงสำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเคยมีมาแล้วที่ผู้ลงคะแนนไปออกเสียงให้อีกพรรคหนึ่งเป็นรัฐบาล แต่ลงคะแนนเสียงให้พิธาเป็นนายกฯ นี่แสดงถึงความนิยมและความโดดเด่นเฉพาะตัวของเขาผู้นี้

พิธามาเป็นศูนย์รวมของความสนใจเมื่อพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง และเขาได้ประกาศว่าพร้อมเป็น “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ในระหว่างนั้นถ้าเป็นภาพยนตร์ ก็จะเป็นช่วงที่พระเอกถูกกระทำต่างๆ นานา ทั้งจากการไม่โหวตให้เป็นนายกฯ จากที่ประชุมสภาฯ ร่วม

หนำซ้ำถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และตัวเองต้องตกอยู่ในคดีความกรณีถือหุ้นไอทีวีอีกด้วย

ถ้าเป็นหนังแขกก็ต้องประมาณ ถูกไล่ออกจากบ้าน มาโดนงูกัดและถูกรถชนเข้าให้จนพิการนั่นแหละ

ถึงกระนั้น ยิ่งพระเอกถูกรังแก ผู้ชมก็ยิ่งสงสาร เห็นใจ และเทคะแนนความนิยมให้ แม้พิธาจะต้องยืนอยู่วงนอกของการเมืองไทยปัจจุบัน แต่ตัวเขาก็ยังได้รับความสนใจเสมอไม่ว่าจะขยับตัวไปที่ใด แม้ช่วงหลังพรรคก้าวไกลจะโดนกระแสข่าวไม่ดีเล่นงานเอาจนเป๋ไปบ้าง แต่ความโดดเด่นของพิธายังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งนิตยสาร Time ยังยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้อยผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตอีกด้วย

ด้วยเรื่องราวอันเป็นที่ประจักษ์นี้ จึงขอมอบรางวัล “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ให้แก่ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ด้วยประการฉะนี้ (ปรบมือ พร้อมเสียงกรี๊ดๆ จากเหล่าด้อมส้ม)

รางวัลต่อมาคือรางวัล “นักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ผู้ที่สมควรได้รับรางวัลนี้ ได้แก่… “นายเศรษฐา ทวีสิน” (ปรบมือ)

เศรษฐา ทวีสิน ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย กำกับดูแลรัฐบาลที่นิยามกันว่าเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ (กิจของใคร?) หากการพยายามก้าวขึ้นนั่งตำแหน่งนี้ของพิธานั้นเต็มไปด้วยขวากหนามผสมหมามุ่ย ของเศรษฐานั้นก็แทบจะเป็นการปูพรมที่โรยด้วยกลีบกุหลาบผสมลาเวนเดอร์ เพราะเหล่า ส.ว. เทคะแนนให้จนได้คะแนนเสียงท่วมท้น

และเมื่อได้ขึ้นมานั่งเบอร์หนึ่งของตึกไทยคู่ฟ้า ภาพที่เราได้เห็นคือการลุยงานหนักของเขา ช่วง 3-4 เดือนที่เข้ารับตำแหน่ง นายกฯ เศรษฐาเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศจนขาแทบขวิด เชื่อว่าคงได้ไมล์สะสมจนบินรอบโลกได้สิบเที่ยวแล้วล่ะ

ทุกวันต้องมีข่าวของนายกฯ เศรษฐาปรากฏในสื่อต่างๆ ไม่มากก็น้อย เมื่อโดดเด่นออกหน้าจะแจ้งแดงแจ๋ขนาดนี้ ทำไม “เครื่องเคียงข้างจออวอร์ด” ถึงได้มอบรางวัล “นักแสดงประกอบฝ่ายชาย” ให้ แทนที่จะเป็นนักแสดงนำฝ่ายชาย

นั่นก็เพราะความรู้สึกและการรับรู้ของผู้คนที่เป็นคอการเมืองรวมทั้งสื่อต่างๆ ล้วนรู้สึกว่า ในหมากการเมืองอันซ่อนเงื่อนนั้น เศรษฐา ทวีสิน เหมือนเป็นตัวประกอบให้กับใครบางคน เป็นตัวประกอบชั้นดี แสดงเยี่ยม ถึงบทถึงบาท ที่พร้อมจะส่งนักแสดงนำให้ฉายแววตามเบื้องลึกเบื้องหลังนั่น

และด้วยข้อมูลลับๆ ที่พูดกันวงในที่แพลมออกมาเป็นระยะ จึงทำให้เศรษฐานั้นไม่ใช่เบอร์หนึ่ง แต่มี “ตัวจริง เสียงจริง” บนตึกสูงคอยกำกับอยู่นั่นเอง

ด้วยเหตุผลอันเป็นที่ประจักษ์นี้ จึงขอมอบรางวัล “นักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ให้แก่ “นายเศรษฐา ทวีสิน” ด้วยประการฉะนี้ (ปรบมือ…แม้ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม)

ต่อมาก็ต้องเป็นรางวัล “นักแสดงประกอบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” ซึ่งรางวัลตกเป็นของ “น.ส.วทันยา บุนนาค” (ปรบมือ)

“วทันยา บุนนาค” หรือ “มาดามเดียร์ แห่งค่ายประชาธิปัตย์” รับตำแหน่งนี้ไปครองก็ด้วยเรื่องราวที่เพิ่งผ่านไปในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ที่โกลาหล ล่มแล้วล่มอีก มาแล้วหลายหน แต่ในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ได้เลือกตั้งกันสำเร็จ โดยได้ “นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน” รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปตามที่ทราบ

มาดามเดียร์ เป็นสมาชิกหญิงที่ประกาศลงสมัครแข่งขัน โดยเปิดหน้าสู้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นสมาชิกมาได้ไม่กี่ปีก็หาญกล้าท้าชิงตำแหน่งใหญ่นี้ ก็ด้วยความคิดที่ว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์มีทางออก เกิดการเปลี่ยนแปลง และก้าวหน้าเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้ แม้จะเป็นการสมัครที่ไม่แน่ใจในชัยชนะ และรู้ลึกๆ ว่าเป็น “ตัวประกอบ” แต่ด้วยความมุ่งมั่นเกินร้อย และไม่อยาก “คาใจในวันหน้าว่าทำไมถึงไม่ลงสมัคร” จึงทำให้เธอก้าวขึ้นสู้ในศึกเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ผ่านมา และผลก็เป็นอย่างที่ทราบคือ เธอไม่ผ่านด่านคุณสมบัติจนทำให้หมดสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย

แม้เธอจะไม่สมหวัง แต่มาดามเดียร์ก็สร้างเรื่องราวที่น่าประทับใจในความเป็นนักสู้นี้จนต้องขอมอบรางวัลให้เป็นกำลังใจ

ด้วยเรื่องราวความเป็นมาที่ว่านี้ จึงขอมอบรางวัล “นักแสดงประกอบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” ให้แก่ “น.ส.วทันยา บุนนาค” ด้วยประการฉะนี้ (ปรบมือ)

ยังมีอีก 3 รางวัลที่จะมอบให้ แต่ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ไม่ใช่บุคคล หากเป็นเหตุการณ์ที่เหมาะสมในแต่ละสาขาเป็นที่ยิ่ง มีอะไรกันบ้าง เริ่มจากรางวัล “บทยอดเยี่ยม” กันเลย

ซึ่งรางวัลนี้ตกเป็นของ “กรณีกำนันนก ณ นครปฐม” แม้เรื่องจะผ่านมาร่วม 4 เดือนแล้ว แต่กรณีนี้เป็นข่าวใหญ่และดังมาก ผู้คนยังจำกันได้ว่า กรณีดังกล่าวได้มีข้อมูลที่ถูกเปิดเผยออกมามากมาย ล้วนสลับซับซ้อน ซุกข้อกังขาเอาไว้มากมาย แถมส่งผลต่อชีวิตการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่าง “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” เรื่องราวที่โผล่แพลมออกมาแต่ละวัน ล้วนน่าติดตาม ลุ้นระทึก หักไปหักมาไม่ต่างจากหนังสืบสวนแอ๊กชั่นมันส์ๆ เลย

จึงขอมอบรางวัล “บทยอดเยี่ยม” ให้กับ “กรณีกำนันนก” ไปครองด้วยประการฉะนี้

ต่อมาคือรางวัล “ตัดต่อยอดเยี่ยม” และผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ไปคือ “กรณีเสี่ยแป้ง นาโหนด” (ปรบมือ)

เป็นอีกข่าวหนึ่งที่โด่งดังและสร้างความเสื่อมเสียให้กับกระบวนการยุติธรรมบ้านเราอย่างมาก ทั้งตำรวจ อัยการ ทนาย และกรมราชทัณฑ์ ร้อนแรงด้วยคลิปฉาวที่เสี่ยแป้งออกมาแฉความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตน จนมีบุคคลหลายคนติดร่างแหไปด้วย

แค่ครั้นมีการตั้งข้อหาขึ้นมา ปรากฏว่ามีเสี่ยแป้งที่โดนหนัก คนอื่นๆ ยังคงลอยนวล รวมทั้งการติดตามไล่ล่าก็เหมือนมีการตัดต่อให้หลบหนีไปได้ ทั้งหมดนี้เหมือนมีการตัดต่อเล่นแร่แปรธาตุกันอยู่เบื้องหลังกลายๆ จนคนดูงงงวยแบบพลิกความคาดหมายไปตามกัน

ด้วยเหตุผลนี้จึงขอมอบรางวัล “ตัดต่อยอดเยี่ยม” ให้กับ “กรณีเสี่ยแป้ง นาโหนด” ด้วยประการฉะนี้แล

และก็มาถึงรางวัลสุดท้าย ได้แก่ รางวัล “ทีมนักแสดงยอดเยี่ยม” รางวัลนี้ตกเป็นของ… (รางวัลนี้แตรฟันฟาร์ดังเป็นพิเศษ)… “คนไทยทุกคน”

ด้วยเหตุผลที่ว่าในรอบปีที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ คนไทยตาดำๆ ล้วนแสดงได้ถึงบทบาทกันมาก โยนบทไหนมาให้ก็รับได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ดราม่าแสนเข็ญ หรือต้องแอ๊กชั่นผจญภัยกับเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆ หรือบางครั้งก็เป็นบทตลก ที่ต้องหัวเราะไปร้องไห้ไป

หรือแม้กระทั่งบทที่ถูกหลอกหลอนด้วยความเชื่อทางการเมืองต่างๆ แต่คนไทยตาดำๆ อย่างพวกเรา ก็ยังยืนสู้กับทุกบทบาทที่จำต้องรับมาได้อย่างเลือดตาแทบกระเด็นสมบทสมบาทเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับรางวัลนี้ จึงขอปรบมือให้แรงๆ ดังๆ ยาวๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้มีพลังต่อสู้กับชีวิตต่อไปในปีหน้าที่จะมาถึงซึ่งหวังว่ามันจะดีกว่าเดิม

และนี่คือ “เครื่องเคียงข้างจออวอร์ด” ประจำปี 2566 ครับทุกท่าน สวัสดี •