ก็เลย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาขอโทษประชาชน ว่าที่พูดไปนั่น “สื่อสารคลาดเคลื่อน” เท่านั้น “ไม่มีแนวคิดจะดำเนินการแต่อย่างใด” เอ๊า อย่างนี้เขาเรียกปากพล่อยไม่ใช่หรือ แต่ฝ่ายค้านเขาว่าเป็นเพียง “โยนหินถามทาง” ต่างหาก
ด้านคนที่เป็น ‘ตัวใหญ่’ สูงโย่ง ได้แต่ท่องอาขยาน “เราจะเร่งเจรจากับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า...ในกรุงเทพฯ” เป็น ๒๐ บาทตลอดสาย (ย้ำ ไม่ใช่ ‘ทุกสาย’ นะ) ส.ส.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ถึงได้แซะ นี่หรือ “คิดใหญ่ทำเป็น
...อีกประมาณปีครึ่งถึงจะรู้ผล เพราะขอขยายเวลาจาก ๓ เดือน ไปเป็น ๒ ปี สำหรับนโยบายนี้ในรถไฟฟ้าทุกสาย” ขณะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเคาะมาแล้ว มกราถึงเมษาปีหน้า จะมีค่า ‘เอฟที’ การปรับอัตราโดยอัตโนมัติ ๘๙.๕๕ สตางค์ ไม่รวมแว้ท
แล้วมามีเรื่อง ปั๊มจ่ายน้ำมันไม่ครบลิตรเข้าอีก จากการที่ผู้ใช้อุปโภครายหนึ่งที่แก่งคอยเกิดเอะใจ เช็คปริมาณน้ำมันที่เติมหลายครั้ง พบว่าได้รับน้ำมันไม่ตรงกับราคาต่อลิตรที่จ่ายเงินไป พอร้องโวยวายเป็นข่าวฮือขึ้นมา
กรมการค้าภายในก็หัวหมอ บอกจะไปต่อว่า ปตท.ไม่ได้นะ เขาไม่ผิด “ตามกฎหมายได้กำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้ไม่เกิน ๑% ซึ่งเป็นหลักการและมาตรฐานเดียวกันกับที่ต่างประเทศใช้” นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีชี้แจง
แต่ไม่ว่าประเทศไหน ไอ้เผื่อเหลือเผื่อขาดนั่นมันสำหรับใช้อ้างเป็นครั้งคราว ไม่ใช่พอกฎหมายเปิดช่องโหว่ ก็เลยปั๊มจ่ายขาดจนเป็นสันดาน ผู้บริโภคเจออย่างนี้ทุกวันยันปี ปริมาณการสันดาปในเครื่องยนต์มันไม่ครบตามจำนวนเงินเยอะนะ
ร้อนถึง รมว.พลังงาน ต้องออกมาสั่งการให้ ปตท.จัดการแก้ไข “การชำระเงินค่าน้ำมันเป็นการชำระเต็มตามจำนวนลิตร มิใช่ชำระแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลยได้ช่องหาเสียงเพิ่มอีก “ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจครับ
ว่ากระทรวงพลังงานยุคนี้จะไม่ละเลยต่อปัญหาของประชาชนแน่นอน และจะพยายามแก้ไขปัญหาเต็มความสามารถ” เอ่อ เอาเป็นว่าป้องกันไม่ให้เกิด ดีกว่าคอยแก้ทีหลัง บ่อยครั้งผู้บริโภคเสียรู้ไปแล้วไม่ได้คืน อะ
(https://www.matichon.co.th/economy/news_4344397, https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8021682 และ https://twitter.com/MatichonOnline/status/1738084889948463345)
