เหมือนจิ้งจอกกินองุ่นเปรี้ยว ‘ภูมิธรรม’ เมินผลโพลนิด้าที่ว่าคนต้องการให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ มากกว่า ‘เศรษฐา’ และ ‘แพทองธาร’ รวมกัน ทีงี้บอก ๓ เดือนเร็วไปที่จะมาวัดผล
แต่ก่อนโพลออกมา ประโคมงานที่คิดจะทำหรือเพิ่งลงมือทำ เป็นความสำเร็จไปเสียก่อนแล้ว ตอนนี้ให้รอดูปีหน้าจะได้เห็นผลจะแจ้ง เพราะปีนี้ปูทางไว้หมดแล้ว “สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น” ขี้คุยยิ่งนัก
อ้างอีกด้วยว่า “พรรคเพื่อไทยยังไม่แข็งแรงในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารยังคงมีข้อจำกัด” ไม่ใช่ละมัง ปัญหาอยู่ที่ใช้เครื่องมือไม่ถูกกับสภาพมากกว่า ในเมื่อเพื่อไทยใช้พวก ‘นักแบก’ สื่อสารแบบพูดพล่อยต่างหาก
อย่างไรก็ดี นับว่าเพื่อไทยมีตัวช่วยเยอะหลังจากข้ามขั้วไปขายวิญญานให้ปีศาจเกือบหมดแล้ว ถ้าหากก้าวไกลไม่รอดปากเหยี่ยวศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ ๓๑ มกราละก็ จะยิ่งดูไม่จืดเลยว่ารัฐบาลเศรษฐาจะเข้ารกเข้าพงเส้นทางเผโจการศักดินามากกว่านี้
ต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นการไต่สวนคดีถูกอดีตทนายของ ‘สมีฟรีดอม’ ร้องว่าพรรคก้าวไกลหาเสียงเรื่องแก้ไขกฎหมายอาญา ม.๑๑๒ เป็นการ “ล้มล้างการปกครอง” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๙ นั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้การไว้แน่วแน่แล้วว่า
“การเสนอร่างกฎหมายโดยการใช้กระบวนการนิติบัญญัติ และแก้ไขมาตรา ๑๑๒ รวมถึงกฎหมายอาญา หมิ่นประมาท เรายังมั่นใจว่า ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้” ก็ตาม ที่แน่ๆ “ข้อเสนอแก้ไขทางนิติบัญญัติไม่ได้มาจากพรรคเราเป็นพรรคแรก
“แต่มาจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดี รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในช่วงปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔...ดังนั้นน่าจะยืนยันได้ในเรื่องของเจตนาว่าไม่ได้มีเจตนาจะล้มล้างการปกครอง”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_4346872 และ https://khaosod.co.th/breaking-news/news_8024742)