วันเสาร์, ธันวาคม 23, 2566

สรุปความเห็นแนวทางประชามติ จ่อชง คกก.ชุดใหญ่ 25 ธ.ค.นี้ เคาะ” ทำประชามติ3 ครั้ง-ชงคำถาม เห็นด้วยกับแก้รธน.หรือไม่ -ที่มา 100สสร. จากลต.77 คน,ผู้เชี่ยวชาญ 23 คน



นิกร เปิดสูตรแก้ รธน. ตั้ง 100 สสร. เลือกตั้ง 77 คน ทำประชามติ 3 ครั้ง

22 ธันวาคม 2566
มติชนออนไลน์

นิกร เปิดสูตรแก้รธน. ตั้ง 100 สสร. เลือกตั้ง 77 คน ทำประชามติ 3 ครั้ง

สรุปความเห็นแนวทางประชามติ จ่อชง คกก.ชุดใหญ่ 25 ธ.ค.นี้ เคาะ” ทำประชามติ3 ครั้ง-ชงคำถาม เห็นด้วยกับแก้รธน.หรือไม่ -ที่มา 100สสร. จากลต.77 คน,ผู้เชี่ยวชาญ 23 คน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทําประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการ ว่า จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทําประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.ของนิสิต นักศึกษากลุ่มอาชีพและภาคส่วนต่าง ๆ ประชาชน 4 ภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เพื่อจัดทํา รายงานผลการดําเนินการของคณะอนุกรรมการฯ เสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทํา ประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 พิจารณา

นายนิกรกล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการฯ ใน 3 ประเด็น ได้แก่ จํานวนครั้งในการทําประชามติ เนื่องจากเสียงส่วนมากของทุกกลุ่มเห็นด้วยกับการจัดให้มีการทําประชามติก่อนเริ่มดําเนินการในกระบวนการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเห็นด้วยให้มีการทําประชามติ เมื่อจัดทําร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว จึงมีความเห็นและข้อเสนอแนะให้รัฐบาลจัดให้มี การออกเสียงประชามติ จํานวน 3 ครั้ง ส่วนประเด็นคําถามประชามติ เห็นว่าควรเป็นคําถามที่ง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา ครอบคลุมสาระสําคัญที่จะสร้างแนวร่วมเพื่อความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ

โดยถามเพียงคําถามเดียว “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภา และแบ่งเป็น 2 คําถาม คือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวดหนึ่งและหมวดสอง ”และ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้สภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้จัดทําร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่

นายนิกร กล่าวว่า ขณะที่ประเด็นจํานวนและที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)แม้ว่ากลุ่มนิสิต นักศึกษา ประชาชน และสส. เสียงส่วนมากเห็นด้วยกับการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เสียงส่วนมากอีกส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยที่ สสร.จะมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสัดส่วนและวิธีการได้มา ตามที่กรรมาธิการกําหนด ประกอบ กับสว.เสียงส่วนมาก เห็นด้วยกับสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสัดส่วนและ วิธีการได้มาตามที่กรรมาธิการกําหนด จึงมีความเห็นและข้อเสนอแนะให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทําหน้าที่จัดทําร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกอบด้วยสมาชิกจํานวน 100 คน โดยมีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน จังหวัดละ 1คน รวม77คน และรัฐสภาเลือกจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ จํานวน 23คน ผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายมหาชน จํานวน 5คน ,ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์หรือสังคมศาสตร์หรือเศรษฐศาสตร์ จํานวน 4 คน ,ผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินหรือการร่างรัฐธรรมนูญ ตามหลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากําหนด จํานวน 4 คน ,รัฐสภาเลือกจากบุคคล ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ หรือทํางาน หรือเคยทํางานในองค์กรด้านเด็กและเยาวชน ด้านสตรี ด้านผู้สูงอายุ ด้านผู้พิการหรือทุพพลภาพ และด้านผู้มีความหลากหลายทางเพศ ด้านละ 2คน รวม10คน โดยรัฐสภาต้องเป็นผู้มีมติโดยรัฐสภา

นายนิกร กล่าวว่า นอกจากนั้นคณะอนุกรรมการฯ มีข้อสังเกตว่า ประชาชนมีความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แตกต่างหลากหลาย จึงจถรวบรวมความเห็นของประชาชน เป็นภาคผนวกเพื่อจัดส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่จัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อสรุปของคณะอนุกรรมการฯจะให้ครม. เห็นชอบใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ครม.จะเป็นผู้สรุป โดยการประชุมในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ คณะอนุกรรมการฯจะเสนอที่ประชุมชุดใหญ่ พิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำประชามติในแต่ละครั้ง