“พิธา” คว้าตำแหน่ง “ดาวดับรัฐสภา” ประจำปี 2566
27 ธันวาคม : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนประจำรัฐสภาได้ประชุมร่วมกัน เพื่อตั้งฉายาประจำปี 2566 ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นประจำทุกปี เพื่อสะท้อนการทำงานของสมาชิกรัฐสภา
ไทยรัฐ
.....
Atukkit Sawangsuk
17h
·
ทุเรศนักข่าวสภาให้ฉายาพิธาเป็นดาวดับ
ไม่ใช่เพราะเป็นพิธานะ
แต่การจะให้ใครเป็นดาวเด่นดาวดับ ควรอยู่บนพฤติกรรมของเขาเอง
ไม่ใช่เพราะเขาถูกกระทำ ถูกแขวน ถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้เข้าสภา
:
นักข่าวสภาเหมือนตีกรอบว่า เหตุการณ์แห่งปี วาทะแห่งปี
ต้องเกิดในรั้วสภาเท่านั้น
เหตุการณ์การเมืองสำคัญ วาทะแสบสันต์ ที่เกิดก่อนประชุมสภา ที่ไม่ได้เกิดในรั้วสภา ไม่ใช่เรื่องของกรู
เหตุการณ์แห่งปีก็เลยเป็นการเลือกนายกฯ ซึ่งบรรยายงั้นๆ
วาทะแห่งปีเป็นคำพูดหมอชลน่านในสภา ซึ่งที่พูดนอกสภาคนจำได้ (และด่า) มากกว่านี้เยอะ
:
คนดีศรีสภา ไม่ตั้งเป็นปีที่ 5 อันนี้ขรรม
สมัยก่อนเคยตั้งจอมแฉมารู้ทีหลังจอมตบทรัพย์
แล้วก็ไม่กล้าตั้งใครอีกเลยทั้งที่ควรตั้ง สส. สว. ที่เขาทำหน้าที่โดดเด่นแต่ละปี
รังสิมันต์ โรม ไม่เคยได้ ไม่ใช่ สส.แบบที่นักข่าวสภาชอบ
:
คนดีศรีสภาปีนี้ อันที่จริง ถ้ามองว่า สส.ชุดนี้ยังไม่ถึง 5 เดือน
ให้ สว.ก็ได้ สว.ที่กล้าโหวตพิธาไง
อย่าง สว.หญิงหนึ่งเดียว ประภาศรี สุฉันทบุตร
หรือหมอไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์
หรือยกให้ทั้ง 13 คน
ทำไมไม่ตั้ง
:
นักข่าวสภาไม่มีจิตสำนึกประชาธิปไตย มองไม่เห็นความน่ายกย่องชื่นชม ความกล้าหาญ ความเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อใบสั่ง ไม่กลัวคำขู่
นักข่าวสภามักจะเห็นแต่คนดีย์แบบชวน แบบอภิสิทธิ์ มองไม่เห็นคนที่สู้เพื่ออำนาจประชาชน ทั้งที่ทำข่าวอำนาจนิติบัญญัติ
นี่เป็นปัญหาที่สะท้อนออกมาเวลาจัดอันดับความสำคัญของข่าวแต่ละปี ในทัศนะนักข่าวสภา
มองการเมืองเป็นเกม เป็นเรื่องนอมินี มองเปลือกๆ วาทกรรม
มองตัวเองเป็นผู้สังเกตการณ์การเล่นเกม ไม่ได้ตระหนักว่าต้องมีจิตสำนึกประชาธิปไตยให้ความสำคัญกับอำนาจประชาชน
