วันอาทิตย์, ธันวาคม 31, 2566

๓ “คนธรรมดาที่ไม่ใช่แกนนำ” ผู้ควรแก่การสดุดีเป็น ‘บุคคลแห่งปี’ สำหรับ Puangthong Pawakapan

สามบุคคลน่านับถือ อย่างสูงสำหรับ Puangthong Pawakapan ที่น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยเห็นพ้องไปด้วยถ้าจัดให้เป็น บุคคลแห่งปี ได้แก่ เป๋า ยิ่งชีพ อัชฌานนท์, ‘พี่ถึก อธึกกิต แสวงสุข (ใบตองแห้ง) และ หนูหริ่ง สมบัติ บุญงามอนงค์

พวงทอง ไม่ได้มองข้าม อานนท์ นำภา ซึ่งเป็น “หนึ่งในบุคคลที่เสียสละต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง จนทำให้เขาถูก ลงโทษอย่างหนักมากที่สุดคนหนึ่ง” หากแต่เธอต้องการสดุดี “คนธรรมดาที่ไม่ใช่แกนนำ” ในครั้งนี้

เธอว่าทั้งสามที่ยกย่อง “ทำงานตามความเชื่อของตัวเองอยู่ทุกวัน ทำงานในพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองทุกวัน อย่างไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะถูกรุมกระหน่ำจากทัวร์รอบทิศ แต่ก็ยืนยันในหลักการของตนอย่างแน่วแน่ ไม่บิดไม่งอ”

ที่เธอได้ติดตามงานของพวกเขาอย่างใกล้ชิดตลอดมา จึงเขียนถึงคุณูปการของเขาทั้งสามอย่างลุ่มลึก และเห็นแจ้ง ดังต่อไปนี้

“เรารู้จักยิ่งชีพตั้งแต่ครั้งมีการรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) ไอลอว์ทำหน้าที่รวบรวมตรวจสอบเอกสารรายชื่อของประชาชนเพื่อยื่นต่อสภา หลังจากนี้ ยิ่งชีพและไอลอว์ก็เป็นองค์กรหลักที่พยามผลักดันการแก้ไขกฎหมายโดยประชาชน และให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแข็งขัน

แม้ว่าหลายโครงการจะแพ้แล้วแพ้อีก คนแบบยิ่งชีพก็จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่ ไม่โอดครวญ ไม่หยาบคายใส่ใคร เขายังสุภาพและเข้มแข็งทุกครั้ง เดินนำเพื่อนร่วมงานอย่างมั่นคงต่อไป แม้ว่าหลายครั้งข้อเขียนของเขาจะบอกเราถึงความอึดอัดคับแค้นใจอย่างมาก”

แต่ในหนทางที่ต้องถูกคนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าช่วยกันก่อกำแพงกั้น ปิดทางตันให้ประชาชนต้องทนทุกข์ ยิ่งชีพกับทีมงาน ไอลอว์ ก็ฟันฝ่ากันมาอย่างแกร่งกล้า ไม่ยั่น

พวงทองพูดถึงการ ปกป้องความเชื่อมั่นในตนเอง (self-esteem) เสียจน “ไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ตนเองเคยสนับสนุนนั้นมีปัญหา...กลับดึงดัน-บิดเบือนหลักวิชาการเพื่อสนับสนุนการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน

คิดหาหลักการต่างๆ มาสนับสนุนการตระบัดสัตย์-การลอยนวลพ้นผิด (impunity) ), การเพิกเฉยต่อผูกขาดอำนาจสารพัดชนิดของระบบเก่า, ละทิ้งคำสัญญาทอดทิ้งประชาชนที่เคยสู้เพื่อพวกเขาเพียงเพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อไป

เมื่อพรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนเปลี่ยนไป คนแบบพี่ถึกเลือกที่จะเดินออกมาแม้จะต้องสูญเสียรายได้หลักไปก็ตาม เราเชื่อว่าพี่ถึกละอายใจเกินกว่าจะต้องพยายามแถเพื่อให้ตนได้ทำมาหากินต่อไป แกยังเป็นเสียงของเหตุผลที่กังวานชัดเจนที่ไม่แคร์ทัวร์สูญสติใดๆ”

เช่นกันกับ “คนแบบหนูหริ่งเลือกที่จะเดินจากมา เขามีความนับถือตัวเอง (integrity) มากเกินกว่าจะต้องแถเพื่อปกป้องสิ่งที่เขาเห็นว่า indefensible” และ “Integrity ของคนแบบนี้ไม่ได้วางอยู่บนการดีเฟนด์ความเชื่อของตัวเองอย่างหัวชนฝา

แต่มาจากการปฏิเสธที่จะปกป้องสิ่งที่ปกป้องไม่ได้ ขอเงียบดีกว่าแถต่อไป...เขาจึงเลือกกลับไปทำงานที่ก็ยังเป็นประโยชน์ให้กับผู้คนตัวเล็กตัวน้อยได้อยู่ ยังเปลี่ยนโครงสร้างไม่ได้ ก็ทำจุดเล็กๆ ที่มีคุณค่าหลายๆ จุด”

เธอว่า “ปีนี้เป็นปีที่มีคนตั้งให้เป็นปีแห่งการตระบัดสัตย์ เพื่อนหลายคนคงเจ็บปวดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่การมีอยู่ของคนทั้งสามนี้เป็นเหมือนสายน้ำเย็นที่ช่วยชุบชูจิตใจอันห่อเหี่ยว

มนุษย์ที่ไร้ความนับถือในตัวเองทำให้ศรัทธาของเราแห้งเหือดลงทุกวัน แต่คนแบบเป๋า พี่ถึก และหนูหริ่งทำให้เรายังมีความหวังกับมนุษย์ในสังคมนี้เหลืออยู่บ้าง”

(https://www.facebook.com/puangthong.r.pawakapan/posts/NxZX71oh2aX)