ส.ส.ก้าวไกล รุมอัดรัฐ ถามจงใจฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ยั่วยุให้ผู้ชุมนุมตอบโต้ หรือเปล่า?
8 พฤศจิกายน 2563
มติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. กรณี ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปบริเวณพระบรมหาราชวัง เพื่อนำตู้จดหมายไปยื่นข้อเรียกร้อง แต่ถูกเจ้าหน้าที่นำรถ ลวดหนามและตั้งแผงสกัดเมื่อผู้ชุมนุมมาถึง ต่อมาได้มีการฉีดน้ำใส่ สร้างความโกรธแค้น ก่อนที่ตำรวจจะประกาศขอโทษและมีการเจรจา ให้ตั้งตู้ไปรษณีย์หย่อนจดหมายตามเดิม และมีการประกาศยุติการชุมนุม
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ทวิตข้อความว่า
มีการตั้งข้อสงสัยว่า การฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม อาจจะเป็นการจงใจลั่นหรือเปล่า?
เพื่อยั่วยุให้ผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยความรุนแรง และ จนท. จะได้ใช้ความรุนแรงที่หนักขึ้นกับผู้ชุมนุม
แต่เมื่อผู้ชุมนุมมีวุฒิภาวะที่มากพอ จนท. จึงต้องออกมาขอโทษแก้เกี้ยว
นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงรายพรรคก้าวไกล ทวิตข้อความว่า
ย้ำอีกครั้ง… การฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่ได้มีลักษณะของการจลาจลถือว่าเป็นการทำที่ผิดต่อกฏการการใช้กำลังของสหประชาชาติ ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐก็ยังทำผิดซ้ำซากกับผู้ชุมนุม!!!!
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ระบุว่า
ตำรวจเรียกร้องการเจรจากับผู้ชุมนุม แต่ยังไม่มีใครทันทำอะไรกันเลย ก็ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า นี่คือความต้องการการเจรจาเหรอครับ?
ยิ่งนานวันมาตรฐานการควบคุมการชุมนุมของพวกคุณยิ่งต่ำลงเรื่อย ๆ นะครับ
มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการถูกแรงดันน้ำ และถูกลวดหนามกระเด็นใส่
ตำรวจต้องมีการแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งผมเห็นว่าคำขอโทษนั้นมักง่ายเกินไปสำหรับความ “พลาด” ครั้งนี้
เพราะถ้าแค่ขอโทษส่ง ๆ แบบนี้ คนจะมองเอาได้นะครับว่าอาจเป็นการ “จงใจ” พลาด
เช่นเดียวกับนายณัฎชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ ทวิตข้อความว่า
นอกจากแยกคำว่า “ปฏิรูป” กับ “ล้มล้าง “ไม่ออกแล้ว ยังแยกแยะคำว่า “ไปยื่นจดหมาย” กับ “บุกรุกเข้าวัง” ไม่ออกด้วย
