วันจันทร์, พฤศจิกายน 23, 2563

ยุทธศาสตร์ One Two Three (ไม่ต้องมี Four Five...) ม็อบสายพันธุ์ใหม่ของนักเรียนเลว



ยุทธศาสตร์ One Two Three (ไม่ต้องมี Four Five...)

เมื่อคืนติดตามม็อบสายพันธุ์ใหม่ของนักเรียนเลวจนเลิก ได้แง่คิดดังนี้

1. เนื้อหามาเต็มๆ นักเรียนเลวจัดม็อบทุกครั้ง สร้างความสั่นสะเทือนได้ทุกครั้ง เนื้อหาทางการเมืองแน่นและเน้นๆ หลากหลายแง่มุม ตั้งแต่การศึกษา การเมือง สถาบันฯ เศรษฐกิจ การคมนาคม ปัญหาชายแดน การทหาร ศาสนา วงการบันเทิง ความหลากหลายทางเพศ ฯลฯ สารพัดรวมไว้ในม็อบเดียวอย่างกลมกลืน ไปม็อบนี้ม็อบเดียว เหมือนไปม็อบสิบม็อบ ที่สำคัญ สามารถเชื่อมโยงทุกประเด็นข้างต้น เข้าสู่ปมทางการเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรม เข้าใจง่าย

2. ความปลอดภัย เพราะไม่มีประเด็นทางการเมืองที่ต้องขับเคลื่อนอย่างรุนแรง จึงเป็น"ม็อบนั่ง" ไม่ใช่ "ม็อบเดิน" และยิ่งผู้จัดม็อบเป็นแค่เด็กนักเรียน ทั้งมัธยมต้นและมัธยมปลาย ขาสั้นคอซอง จึงทำให้เผด็จการปวดตับ หาข้ออ้างปราบด้วยวิธีรุนแรงไม่ได้ รถฉีดน้ำ โล่ กระบอง แก๊สน้ำตา ก็เลยต้องเก็บไว้ในกรุ งัดออกมาใช้ไม่ได้ แม้แต่กลุ่มอันธพาลเสื้อเหลือง ก็ไม่อาจปรากฏกายออกมาต่อต้าน ขืนออกมา ภาพจะกลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ฉิบหายทางการเมืองหนักเข้าไปอีก จึงเป็นม็อบที่โคตรปลอดภัย

3. รูปแบบและเทคนิคแพราวพราว เมื่อเป็นม็อบนั่งติดที่ ก็เลยจัดเวที โปรเจ็คเตอร์ฉากหลัง การแสดง และกิจกรรมอื่นๆได้อย่างอลังการ น่าตื่นตาตื่นใจ คนมาม็อบไม่เบื่อหน่าย ทั้งสนุกสนาน และได้สาระไปในคราวเดียวกัน
4. บทบาทใหม่ของอาชีวะ ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกๆ ที่เหล่าอาชีวะได้ขึ้นเวทีปราศรัย แม้จะพูดไม่เก่งตะกุกตะกักบ้าง แต่รู้เลยว่า ทุกคำพูดออกมาจากใจที่พวกเขาถูกกดทับมานาน เราเพิ่งได้รับรู้ปัญหาที่ไม่เคยรู้ของพวกเขา น่าจะเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับอาชีวะ ให้เขามีบทบาทมากกว่าการเป็นแค่การ์ด และลบภาพจำเกี่ยวกับการยกพวกตีกันได้เป็นอย่างดี อคติทั้งหลายที่สังคมเคยมีกับพวกเขา ถูกแทนที่ด้วยความรักความเข้าใจ และอ้อมกอดอันอบอุ่น

คราวนี้มามองในภาพรวม..

One. จากม็อบเฟสท์ครั้งก่อนที่ราชดำเนิน และที่จะจัดอีกในวันอาทิตย์ที่ 22 นี้ที่ถนนอักษะ เปรียบไปเหมือนโรงเรียนประถม ประชาชนทุกคนเข้าร่วมได้อย่างสบายใจ ปลอดภัย เพราะมีความบันเทิงหลากหลายดึงดูด แต่ที่เขาจะได้กลับไป คือความรู้เบื้องต้นทางสังคมและการเมือง พอจะเรียกได้ว่า ผ่านวิชาม็อบ 101

Two. ม็อบนักเรียนเลว เป็นม็อบระดับมัธยม เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย เพราะเป็นม็อบนั่ง เนื้อหามาล้วนๆ เต็มๆ แต่ก็ไม่น่าเบื่อ เพราะมีรายการบนเวทีให้ตื่นเต้นได้ตลอด ผ่านม็อบนี้ เท่ากับจบวิชา ม็อบ 102

Three. ม็อบราษฎร นักเรียนจากทั้งสองม็อบข้างต้น ท้ายสุดก็เข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ใช้ความรู้ ความตื่นตัวที่สองม็อบก่อนประสิทธิ์ประสาทมา เข้าสู่เวทีต่อสู้จริง เพราะม็อบนี้ ไม่เน้นบันเทิง ไม่ค่อยนั่งติดที่ แถมยังอาจเจอการปะทะรุนแรง มวลชนที่จู่ๆเข้าคอสนี้เลย อาจยืนระยะได้ไม่นาน ตรงข้าม ถ้าเป็นมวลชนที่ถูกบ่มเพาะมาเป็นอย่างดีจากสองคอสก่อน ย่อมยืนหยัดได้ยาวนานด้วยจิตสำนึก ถึงไหนถึงกัน เป็นกำลังพลที่มีคุณภาพ ในการรบ สิ่งที่น่ากลัวที่สุด หาใช่ยุทโธปกรณ์ที่ร้ายแรงล้ำสมัยแต่อย่างใด หากแต่อยู่ที่พลรบที่มีคุณภาพ มีจิตสำนึกหนักแน่นนั่นต่างหาก

มีครบสามขั้นตอนนี้ One Two Three ก็มีกองทัพอันเกรียงไกร ที่สามารถยืนระยะในสนามรบได้อย่างมีคุณภาพ และมีกำลังหนุนเติมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย Four Five ก็เลยไม่จำเป็น
เท่าที่ผมมองเห็นก็มีเพียงเท่านี้ ไม่ว่าคนคิดยุทธศาสตร์นี้ จัดม็อบทั้งสามขั้นนี้อย่างรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ยุทธศาสตร์นี้โคตรจะเจ๋งเป้ง

เดินตามยุทธศาสตร์นี้ รบให้แพ้ยังยากกว่ารบให้ชนะเลย พับผ่าสิ..

มิตรสหายท่านหนึ่ง
...