ข้อด้อยของ ‘ลิเบอร่าน’ บางครั้งอยู่ที่ความไม่งมงาย ทำให้เถียงกันไม่จบ ไปได้ช้า และอาจไม่ถึงที่หมาย เพราะบางที ‘ฉันทามติ’ ที่ยังไม่พร้อมนั่นเองทำให้ไปต่อไม่ได้ บ่อยครั้งความสำเร็จเกิดจากตัวนำมุ ‘ทะลุกลางปล้อง’ ไปจนได้
ดูอย่างการเมืองอเมริกา กว่าเดโมแครทจะเอาชนะรีพับรีกันได้ครานี้ ก็เกือบจะหืดขึ้นคอเมื่อเจอกับนักอำนาจนิยมอย่าง ‘ทรั้มพ์’ แต่เรียกว่าอเมริกาโชคดีที่ทรั้มพ์มีความเห็นแก่ตัวสูงมาก เสียจนคนที่ตามชักกลัว ไบเด็นจึงมา
ในขบวนการคณะราษฎร ๖๓ ปัญหา ‘ท่อน้ำเลี้ยง’ เกิดเพราะเป็นท่อที่มาจากหลากสาย ไปรวมอยู่ที่ ‘แม่ยกประชาธิปไตย’ และทีมเสกของเช่น ‘เฮียบุ๊ง’ เป็นกระบวนการ ‘ตกกระไดพลอยโจน’ อย่างหลวมๆ มีกันอยู่สองสามคน ไม่ได้จัดตั้ง
ความลิเบอร่านก็เลยทำให้เกิดเสียงจุกจิก ซื้อเป็ดยางมุ้งมิ้งทำไม ไม่ซื้อเสื้อเกราะให้การ์ด “เงินที่เราเคยโอนให้ ไม่เห็นแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้เราฟัง (ถ้า) ไม่สามารถทำได้ วานโอนคืนได้มั้ยคะ” คำท้วงทวงถึง ทราย เจริญปุระ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนไป
“หลังจากวันที่ ๒ เป็นต้นไป ทีมเสกของจะขอลดบทบาทลง เหลือแค่เรื่องดูแลผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม และอีกเรื่องคือรถห้องน้ำ” ปกรณ์ พรชีวางกูร โพสต์ “เม้าท์กันก็แล้วกัน” แจงตั้งแต่ต้นจนจบ “กูกับทรายรู้จักกันได้ เพราะแจกของม็อบนี่ละ”
ทรายเริ่มด้วยแจกไอติม ๑๐ ถัง บุ๊งแจกน้ำ ๑๐๐ แพ็ค พอผ่านไปสองม็อบรู้สึกว่าจะจัดการไม่ไหว คนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการเพิ่มขึ้น “ทรายก็ไปดึง ‘พี่มุก’ ซึ่งทำอาชีพเกี่ยวกับงานอีเว้นท์เข้ามาช่วย” รวมกันเป็นหลักอยู่สามคน
“ในขบวนการการจัดการทั้งหมดนี้ เรายังเผชิญปัญหาถูกคุกคามจาก จนท.ตลอดเวลาอีกด้วย ผู้ให้บริการทุกรายถูกเจ้าหน้าที่กดดันตลอดเวลา เราจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการจ้างในราคาที่แพงมากกว่าปกติ” แต่เรื่องตัว ‘เอเลี่ยนยักษ์’ ราคาเป็นหมื่นที่โดนด่านั่น
“มีคนสนับสนุนมา เค้าอยากโปรโมตแบรนด์” เช่นกันกับเรื่องเสื้อเกราะให้การ์ด “เสนออุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ให้อาชีวะหลายกลุ่มมาแล้ว แต่เค้าไม่เอากัน หลายๆ กลุ่มยืนยันว่าชอบแบบนี้ ได้โชว์ช็อปสถาบัน ได้เป็นตัวของตัวเอง”
แล้วอย่าลืมว่าการ์ดม็อบราษฎรนี่มีเป็นสิบกลุ่มเอกเทศต่อกัน เขม่นกันบ้างไรบ้าง “มากคนก็มากความ” แต่ก็ยังดี “หลายกลุ่มก็เคลียร์กันแบบแมนๆ กลุ่มไหนไม่พอใจกันก็ถอยๆ กันไปคนละก้าว ก็แยกย้ายกันไปดูแล ทีมไหนถนัดอะไรก็ไปทำตรงนั้น”
ล่าสุด “การ์ดอาชีวะราษฎรยืนยัน เฮียบุ๊ง-ทราย เจริญปุระ จัดหาอุปกรณ์เซฟตี้ให้อย่างเต็มที่ แต่การ์ดเองที่ไม่ได้สวมใส่ เพราะต้องการใส่เสื้อช็อป โชว์สถาบัน เป็นวัฒนธรรมของอาชีวะ ส่วนอุปกรณ์มีการจัดเก็บอย่างดีและนำมาใช้หน้างาน” @EakThestandard แจ้ง
สำหรับ ‘อุปกรณ์’ ที่ว่านั้นใช้ป้องกันได้เฉพาะกระสุนยาง เสื้อกันกระสุนไม่มีขาย ใช้ได้เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนโล่ห์ “ที่กุไปทำมา มีคนถามว่าอยู่ไหน กุขอตอบเลยว่าไม่บอก เพราะกุจะตอบทำไมให้โง่ เด่ว ตร.แม่งก็ไปบุกที่เก็บอีก” เฮียบุ๊งใส่ตรงๆ
ยังอีกหลายเรื่อง ทีมพยาบาลอาสา รถห้องน้ำเช่าแพงทำไมไม่ซื้อขาดเสียเลย ยูนิคอร์ด ม้าโพนี่ซื้อมาทำไม ปกรณ์ตอบไว้เกลี้ยง เพียงแต่ว่า “การทำงานกับคนหมู่มากมันไม่ง่าย...การบริหารความพอใจในหมู่คน มันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขาซะอีก”
อย่างที่ Atukkit Sawangsuk แสดงความเห็นใจ “กองทัพเดินด้วยท้อง ถ้าไม่มีทีมเสกของ ม็อบก็ลำบาก แทนที่จะให้กำลังใจกลับไปตั้งแง่กันให้เสียกำลังใจ” คงจะมีไม่กี่คนที่คิดเล็กคิดน้อย แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เอาแบบอินทิราว่า “ไม่ถูกใจส่งสลิปมา จะโอนคืนให้”
ประเด็นอยู่ที่ว่าเรื่องอย่างนี้เหมือนไวรัสที่ทำลายภูมิต้านทาน เปิดช่องให้เชื้อมารร้ายแทรกซ้อนได้ ‘ไอโอ’ ของอำนาจรัฐยิ่งหาช่องเก่งอยู่ด้วย เช่นแฮ้สแท็กใหม่ #แบนเพ็นกวิน นี่ใครทำเป็นเล่นไม่ได้นะ จะแบนให้ผอมหรือแบนเพราะเอาแต่ ‘สันติ’ ก็ตาม
“เรามาไกลมากก็จริง และอาจจะไกลพอที่จะทำอะไรบางอย่างแล้ว” ตามคำ อานนท์ นำภา แต่ยังขาด ‘จังหวะ’ อย่างเขาว่า “จะชนะคะแนนหรือชนะน็อกขึ้นอยู่กับจังหวะ จะรอจังหวะหรือสร้างจังหวะ” ขอแต่อย่าทำให้เสียศูนย์
(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1278348282528508&id=100010600441087, https://twitter.com/charoenpura/status/1331692785594843136 และ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4721706151204077&id=100000942179021 หมายเหตุ เพจอานนท์นี่หลังๆ ‘สายมู’ หนัก ต้องไปดู)