แม่งูเงี้ยวเขี้ยวเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน กินน้ำ ‘วังแดง’ แกงไปก็แกงมา ฮ่า ฮ่า ตำรวจถึงจะจับก็ได้ แต่ไล่ไม่ทันเด็กอย่างนี้เดี๋ยวโดนซ่อมตายห่ อุตส่าห์ไปปักหลักดักกันตั้งแต่ตีสี่ เช้าขึ้นมาเด็กบอกย้ายที่ไปหน้า SCB สำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์เสียนี่
อย่างที่ สุขุม สมหวัง ยังวัน ว่านั่นละ “ตอนนี้ยัง SCB พรุ่งนี้เช้าอาจ SCG พรุ่งนี้สายๆ อาจย้ายกลับมาสำนักงานทรัพยสินฯ อย่างเก่า” หนำซ้ำ Atukkit Sawangsuk แซว “สมมติพรุ่งนี้เที่ยงแกงอีกรอบ เอ้าเฮ ตำรวจเลิกปิดถนนแล้วเราย้อนไปทรัพย์สิน
โดนซ่อมอ่วมเลยนะเมริง ดังนั้นตำรวจก็จะยังปิดถนนฟรีให้ชาวบ้านด่าเปิง” นั่นละ ด่ากันไปแล้ว รถติดตั้งแต่เช้ามืด ม็อบว่าจะมีตอนบ่าย แถมย้ายที่ไปแล้วฉับไว แบบ ‘จรยุทธ์’ ย้ายตามไม่ทันหรอก ไหนจะลวดหนามม้วน แท่งคอนกรีต แผงเหล็ก
ซ้ำคราวนี้นวัตกรรมใหม่ ขนตู้คอนเทนเนอร์ไปตั้งเรียงซ้อนกลางถนน จะขนออกก็เรื่องใหญ่ Deep Blue Sea@WassanaNanuam เลยช่วยแก้ต่างให้ “ฝ่ายรัฐฯ ยังไม่วางใจ แม้ม็อบจะเปลี่ยนไป SCB แต่ยังปิดถนน ใช้ตู้คอนเทนเนอร์เป็นแบริเอ่อร์กันเข้าพื้นที่”
รอบ “ทำเนียบฯ ลานพระราชวังดุสิต สนง.ทรัพย์สินฯ” #รถติด ไปหมด มอย:· @seyom76 แจ้งให้ทราบ “เพราะรัฐบาลสั่งให้ปิดถนนเส้นต่างๆ นะคะ ผู้รับคำสั่งคือตำรวจ เพราะฉะนั้นถ้าจะด่า ด่ารัฐบาล ตำรวจ ม็อบไม่ได้ปิด ขอบคุณค่ะ”
ทั้งมี ‘หัวเกรียน’ ฝูงใหญ่ไปเตร็ดเตร่กันอยู่ริมทางเท้าหน้า “กำแพงวังแดง ที่ตั้งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ ๒๔ พ.ย.” ข่าวสด@KhaosodOnline เล่าแจ้ง ทำให้ระแวงระไวว่าอาจเป็นเพทุบายสวมรอยกับพวก ‘คณะพลังแผ่นดินสยาม’ ก็ได้
แกนนำกลุ่มนั้นนัดรวมพล “ขวางเส้นทางม็อบราษฎร” ประกาศว่า “ถ้าหากตนจะต้องเสียชีวิตไปก็ยินดี ยอมแลกชีวิตเพื่อให้การชุมนุมของคณะราษฎรสิ้นสุดลง” เหตุนี้ฝ่ายราษฎรถึงได้ย้ายที่ “เพื่อลดการปะทะจากม็อบจัดตั้ง” ทั้งที่ ‘วังแดง’ ไม่ใช่สถานที่อยู่ในเกณฑ์ต้องห้าม
วังแดงหรือ ‘วังลดาวัลย์’ เดิมนั้นรัชกาลที่ ๕ ทรงจัดสร้างให้แก่พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร ตั้งชื่อตามเสด็จตาของเจ้าฟ้า ระหว่างสงครามมหาเอเซียบูรพาญี่ปุ่นเช่าใช้ พอเสร็จสงครามทรัพย์สิน ‘ส่วน’ พระมหากษัตริย์ ขอซื้อต่อจากทายาทเพื่อใช้เป็นสำนักงาน
การที่สำนักงานเขตไปปักเสาป้ายรอบๆ วังแดงว่าเป็น ‘เขตพระราชฐาน’ และตำรวจประกาศห้ามชุมนุมในระยะรัศมี ๑๕๐ เมตร ไม่ต้องตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา ๗ เพราะไม่ใช่ที่ประทับของพระมหากษัตริย์ รัชทายาท บรมวงศานุวงศ์ และราชอาคันตุกะ
“การชุมนุมในวันที่ ๒๕ พ.ย. ๒๕๖๓ บริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จึงสามารถทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย” ทั้งไทยและสากล คือกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อบทที่ ๒๑ ซึ่งไทยมีพันธกรณีในฐานะภาคี
การย้ายที่ไป ‘ไทยพาณิชย์’ กระทันหัน น่าจะทำให้แผนการประกาศกฏอัยการศึกของ ผบ.ทบ.ต้องพับไป แล้วยังตรงวัตถุประสงค์ของการจัด ‘ม็อบ ๒๕ พฤศจิกา’ เดี๊ยะ จากที่ อานนท์ นำภา เกริ่นไว้หลายวันแล้วว่า บรรษัทต่างๆ ที่เคยเป็นของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กลับกลายเป็น ‘ส่วนพระองค์’ ไปหมด
ดังกรณีไทยพาณิชย์นี่ในรัชสมัย ร.๙ สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นหุ้นใหญ่ ในหลวงในโกศทรงทำให้ “มันเบลอๆ” (คำของ Pavin Chachavalpongpun) จะเป็นทรัพย์สินของชาติก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ส่วนพระองค์ก็ไม่เชิง แต่สมัยนี้ส่วนพระองค์ล้วนๆ
พระเจ้าอยู่หัวองค์นี้ทรงเป็นเจ้าของหุ้นไทยพาณิชย์ ๒๓.๓๘% หรือเกือบ ๘๐๐ ล้านหุ้น “ปีนี้มีการปันผลหุ้นละ ๔ บาท เงินปันผลของ (กษัตริย์) วชิราลงกรณ์จึงอยู่ที่ ๓ พันล้านกว่าบาท” นี่เฉพาะธนาคารแห่งเดียว ยังมีหุ้นบึกๆ อื่นอีกหลายขนาน
รวมแล้วพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของรัชกาลนี้ที่ได้จากสำนักงานทรัพย์สิน (ไม่มี ‘ส่วน’) พระมหากษัตริย์ (คัดจาก ‘ปวิน’) เหนาะๆ “มากถึง ๖ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ ๑.๘ ล้านล้านบาทไทย” ดังนั้นหากจะทรงซื้อตำหนักหลังใหม่ในเยอรมนี ขี้ประติ๋ว
นั่นตามที่เพจ Act4dem โพสต์ไว้ว่ามีแผนจัดซื้อคฤหาสน์หลังใหม่ริมทะเลสาบ Hopfensee โดย “จะทุบบ้านเก่าทิ้งและสร้างใหม่ทั้งหมด” ขนาดจุข้าราชบริพารได้ ๔๐๐ คน “รวมถึงสวนเอาไว้เลี้ยงช้างสี่เชือก” ส่วนวิลล่าเดิมที่ Starnberg นั้นกำลังประกาศขาย
(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/3596634880418315, https://twitter.com/lawcunotslave/status/1331215682839535617, https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1537619563113937&id=100005977239698 และ https://www.voicetv.co.th/read/QTafTWV7e)
