คืนสู่เหย้า ‘อักษะ’ ผ่านไปสวย แดงพรึ่บจำนวนเกือบ ๕๐% “แห่โลงศพและวางดอกไม้จันทน์รำลึกถึงคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต” ตามด้วยผลัดกันขึ้นปราศรัยเช่นเคย
โดยไฮไล้ท์อยู่ที่ ‘เพ็นกวิน’ ดันเพดานต่อ พูดถึง “งบประมาณส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์” ทั้งที่เจ้าตัวเผยเอง “ตร.โทร.บอกให้มารับทราบข้อหา ม.๑๑๒ เพิ่มเติมจาก ม.๑๑๖”
แสดงว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงกลืนกลับพระเขฬะ เรื่องไม่ให้ใช้ ม.๑๑๒ หรือไม่ก็เฮียตูบเค้าเลิกกล้าๆ กลัวๆ ยอมขัดพระราชหฤทัย ดองเค็มสถาบันฯ เอาไว้โหนต่อ
หลังจาก อานนท์ นำภา โพสต์ดักฟายว่าประยุทธ์จะลาออกก่อน ๒๕ พ.ย. แล้วประยุทธ์รีบปฏิเสธว่าเฟคนิวส์เหลวไหล วานนี้ พริษฐ์ ชีวารักษ์ เอาบ้าง โพสต์ว่า “ช่วงนี้กลิ่นรัฐประหารแรงขึ้นเรื่อยๆ” แนะถ้างั้น “ให้พี่น้องประชาชนออกมาต่อต้านอย่างสุดความสามารถ”
นั่นประยุทธ์คงไม่ต้องออกมาปฏิเสธ อะไรจะเกิดมันก็เกิด เป้าหมายตอนนี้อยู่ที่ #ม็อบ25พฤศจิกา หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ สำนักนายกฯ สั่งเตรียมอาวุธครบมือไว้ควบคุมฝูงชน ทั้งกระบองยาง สายล็อคข้อมือ ฯลฯ
ทั้งสิ้นเกือบ ๕๐ รายการ รวมทั้ง แก๊สน้ำตานานาแบบ (๕ รายการ) ลูกขว้างควัน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ปืนลูกซองสำหรับยิงกระสุนยาง ปืนยิงช็อตไฟฟ้า ปืนยิงตาข่าย แผงกั้นเหล็ก กรวยยาง แท่นปูน ลวดหนามหีบเพลง และเครื่องรบกวนคลื่นเสียง
ดูท่าเตรียมจะจัดการอย่างหนัก พร้อมการจับกุมเอาไปใช้ชนักกฎหมายปักหลัง รวมทั้งการฟ้องความผิด ม.๑๑๒ คงจะเพิ่มขึ้น นอกจาก ‘รุ้ง’ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โดน ‘ดี้’ นิติพงษ์ ห่อนาค ฟ้องไปแล้ว และเพ็นกวินเพิ่งได้รับแจ้งจากตำรวจ
ข้อหา ม.๑๑๖ และ พรก.ฉุกเฉิน ก็จะตามมาเช่นกัน จากช่วง ๑ เดือนที่ผ่านมา ‘ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน’ เปิดเผยว่า “มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองเพิ่มขึ้น รวมเป็นอย่างน้อย ๑๗๕ คน ในจำนวน ๗๕ คดี”
พร้อมกันไปนี้จะมีการชุมนุมคู่ขนานของมวลชน (สวมเสื้อเหลือง) จัดตั้งโดยทางการ เห็นได้จากหนังสือลับของสภาความมั่นคงแห่งชาติ สั่งผู้ว่าราชการจังหวัด “ดูแลความปลอดภัย” ของม็อบดังกล่าวในช่วงวันที่ ๒๓-๒๗ พ.ย.
อีกทั้งให้มหาดไทยประสานในทางลับกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ “จัดกิจกรรมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ” ซึ่งกำลังทรงตกที่นั่งลำบากในเยอรมนี เพราะมีพรรคการเมืองฝ่ายค้าน (คะแนนเสียง ๑๐%) ที่นั่นรุกหนัก
คราวนี้เสนอรัฐบาลสั่งห้ามพระองค์กลับเข้าไปที่นั่นอีก หากว่ามีการปราบปรามการชุมนุมของเยาวชนในวันที่ ๒๕ นี้อย่างรุนแรง ส.ส.พรรคนี้อ้างว่าเอกสิทธิ์ทางการทูตไม่สามารถคุ้มครองต่อการกระทำโหดร้ายต่อประชาชนอย่างนั้นได้
พร้อมด้วยปฏิบัติการทางสังคมโดยพวก ‘ห้อยโหน’ สืบทอดอำนาจรัฐประหาร ในคราบนักการเมือง ทั้งจากการ ‘เลือกดูดและลากตั้ง’ ไม่บังเอิญที่ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ป้อมดูด กับ สมชาย แสวงการ สว.ตู่ตั้ง ออกมาซัด ‘หนูถูกครูทำอนาจาร’ คล้องจองกัน
‘เอ๋’ นั้นเหมือนจะพยายามทำตัวให้เป็นข่าวรักษาพอร์ตของตนไว้ หาว่าน้องที่แต่งชุดนักเรียนชูป้ายนั่น “ไม่ใช่นักเรียนมาใส่ชุดนักเรียน” จะต้องโดน “ดำเนินคดีนะคะ...จะตามมาพรุ่งนี้” (๒๓ พ.ย.) ส่วนสมชายจี้ให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ
“ควรเชิญมาสอบ ถ้าไม่จริงควรพิจารณาลงโทษ” อ้างว่าถ้าโดนจริงก็ต้องแจ้งความสิ นี่ “นำสิ่งที่สอบสวนยากเมื่อ ๔-๕ ปีแล้ว มาแสดงออกจริงหรือหวังผลแค่สื่อข่าวในการชุมนุม” แสดงว่าสมชายไม่ได้ค้นคว้ารายละเอียดของเรื่องสินะ
เด็กเขาบอกว่าเมื่อตอนเกิดเหตุก็แจ้งโรงเรียนแล้ว แต่ครูไม่สนใจ ครั้นมาแจ้งอีกเมื่อสี่ปีให้หลัง ทางโรงเรียนก็เมินอีก ตนเองตอนยังเด็กมีความหวาดกลัวไม่กล้าโวยวายมาก เหมือนกับเหตุแบบเดียวกันทั้งหลายในประเทศไทย
พวกไดโนเสาร์ไทยสูงวัย จิตสำนึกแบบใยป้าที่ไปคอมเม้นต์ว่า ‘ให้ท่าครูถึงเอา’ ก็ ‘ไอทู้บ’ นั่นเองเคยพูดว่าเพราะสาวนุ่งบิกินีถึงได้โดนปล้ำ คนเหล่านี้ล้วนแก่กล้าเพราะอยู่นาน อย่าง ‘แสวงการ’ นี่จัดเป็นหนึ่งใน ๑๓ ‘นักลากตั้งอาชีพ’ เลยละ
‘ว้อยซ์ทีวี’ ทำสกู๊ปบทความชิ้นหนึ่งยอดเยี่ยม เปิดเบิ่งสาธารณะให้เห็นประดาลิ่วล้อบริวาร คสช. “ไม่ต้องลงทุนลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง รอคณะรัฐประหารเทียบเชิญรับตำแหน่ง หลายรายอยู่ต่อเนื่องยาวนานเกินกว่า ๑๐ ปี”
สมชาย แสวงการ อยู่ในกลุ่มลากตั้ง ๑๒ ปี ๔ เดือน เป็น สนช.เมื่อ ๒๕๔๙ งาบไปล้านกว่าเกือบครึ่ง เป็น สว.ปี ๒๕๕๑ รับอีก ๔ ล้านกว่า ถึงปี ๕๔ เป็น สว.อีกหน ฟาดเกิน ๔ ล้าน พอปี ๕๗ เป็น สนช.ใหม่ คราวนี้ได้กินเกือบ ๗ ล้าน
เท่ากับตลอด ๑๒ ปีครึ่ง สมชาย “นั่งกระดิกเท้า” รับไป ๑๖ ล้านครึ่งสบายมาก งานไม่ยาก คอยหาเรื่องด่าฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์หรือต่อต้านอดีตหัวหน้ารัฐประหารที่ยังนั่งเจ่าเก้าอี้นายกฯ
ใช้ปากเป็นหลัก ไม่ต้องใช้หัวคิดหรือจำ
(https://www.voicetv.co.th/read/YM2LK70_a, https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3421998387849991 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2453465)