วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 22, 2563

เรื่องเล่าและขอเรียกร้องจาก​ #เด็กที่เคยถูกครูทำอนาจาร​ ☺️เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ใน​ #โรงเรียนแดงขาวย่านบางแค


Nalinrat Tuthubthim
September 29 ·

เรื่องเล่าและขอเรียกร้องจาก​
#เด็กที่เคยถูกครูทำอนาจาร
---------------------------------------------------------------------
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น
ใน​ #โรงเรียนแดงขาวย่านบางแค
เมื่อ 5​ ปีก่อนหนูถูกครูทำอานาจาร​พยายามเอามือจับหน้าอก​ จับด้านในตัว​ เพราะขอให้ครูช่วยล็อคกลอนประตูห้องน้ำ​
เรื่องโง่ๆที่เกิดขึ้น​ คือ​ ตรงนั้นมีกล้องวงจรปิด​ แต่สิ่งที่หนูเลือกทำ​ คือ​ ทำท่าทีให้ปกติที่สุด​ เพราะ​ กลัวคนอื่นรู้ว่าหนูถูกลวนลาม​ รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่าอับอาย​ กลัวสังคมจะด่าว่าเป็นผู้หญิงแบบไหนปล่อยให้ผู้ชายมาลวนลาม...
ความจริงหนูถูกครูคนนี้ลวนลามก่อนหน้าแต่ไม่รู้​ จนมาเล่าให้เพื่อนฟัง​ เหตุการณ์แรกครูลวนลาม​บนรถ​ตอนพามาส่งที่บ้าน​ ครูบอกว่า ''​ลงดีดีนะ''​ พร้อมกับเอามือลูบขาเบาๆ​ (ตอนนั้นไม่ได้ฉุกคิดเลย​ จนเพื่อนบอกว่านี่คือการลวนลามนะเว้ย)​
เหตุการณ์ที่สอง​ครูจงใจเบรกรถให้หน้าอกหนูชนหลังครู​ ครูขี่มอไซด์ไปส่งหนูหน้าห้องน้ำ​ แต่ระหว่างทางไปครูขี่มอไซด์ไปเบรกไป​ แล้วก็บอกว่า​ ''​ นั่งแบบนี้เดี๋ยวก็หล่นหรอกทำไมไม่นั่งคร่อม''​ ตอนนั้นหนูนั่งไพ่ข้าง​ เขาเบรกจนหนูต้องเปลี่ยนท่าเป็นนั่งคร่อม​ แต่ถึงต่อให้เปลี่ยนท่าเขาก็เบรกจนถึงหน้าห้องน้ำ
เหตุการณ์ที่สามที่ต่อจากตอนก่อนหน้า​ หนูถูกครูกอดในห้องน้ำ​ ด้วยเหตุผลว่าครูเห็นหนูกลัวที่ครูแกล้งเปิดปิดไฟในห้องน้ำ​ พอหนูเข้าห้องน้ำครูก็เริ่มเปิดปิดไฟรัวๆ​ หนูตกใจจนร้องไห้​ ครูเลยเข้ามากอดแล้วบอกว่า​ ''​ไม่เป็นไรใช่ไหม​ ไม่คิดว่าจะตกใจกลัวขนาดนี้''​ ​ (ปัจจุบันห้องน้ำนั้นทุบทิ้งแล้วเป็นพื้นที่ให้เด็ก​ และผู้ปกครองนั่งเล่นแทน)​
... แน่นอนว่าหนูปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป​ เพราะคิดว่าครูแกล้งด้วยความไม่รู้​ ความเอ็นดู​ ความอะไรสักอย่างที่บอกว่าครูทุกคนเป็นคนดีแหละ
​แต่สุดท้ายครูก็ทำเหตุการณ์นั้น
ด้วยเหตุผลว่า​ ''​คิดว่าหนูสมยอม''
นี่คือคำตอบของที่​ทำ​ ''​อาชีพครู''​
ผ่านมา​ 4​ ปี​ หนูตัดสินใจเข้าไปพบผู้อำนวยการเพื่อคุยเรื่องมาตราการดูแลเด็กที่ชัดเจน​ แต่ทางโรงเรียนบอกว่า​ ''​โรงเรียนมีมาตราการอยู่แล้ว​ แต่อยากให้ตระหนักว่า​ #ในหมู่คนดีย่อมมีคนไม่ดี แม้จะป้องกันแล้ว​ ย่อมมีคนฝ่าฝืน''​ และ​ ''​เราไม่สามารถออกมาตราการเฉพาะเพื่อใช้ภายในโรงเรียนได้เพราะเป็นสถานศึกษาใต้การควบคุมกระทรวงศึกษาธิการ''
คำถามของหนูก็คือ ต่อให้มีคนไม่ดีในกลุ่มคนหมู่มาก การตรวจสอบทางด้านจริยธรรมก็เป็นสิ่งที่พึงทำไม่ใช่หรอ​ ต่อให้มีหรือไม่มีอำนาจอย่างไร หน้าที่ของโรงเรียนคือต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้นักเรียน และให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนเมื่อเกิดการเรียกร้องใช่หรือไม่
ในเมื่อทางโรงเรียนไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับหนูได้ หนูเลยมองว่าการพิมพ์และเผยแพร่เรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้จึงเป็นเรื่องที่ควรทำมากที่สุด
เพราะ... อย่างน้อยถ้าหนูไม่ได้ความยุติธรรมจากเรื่องนี้แล้ว หนูหวังว่าอย่างน้อยที่สุด รุ่นน้องและคนอื่นๆที่จบออกมาจากโรงเรียนนั้นจะได้อยู่ในโรงเรียนที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา และสามารถให้ความเป็นธรรมกับเขาได้​ ถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
เพราะ....หนูไม่อยากให้​ ''​โรงเรียน​''​ สถานที่ที่พ่อแม่เชื่อว่าเป็นที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด​ กลายเป็นสถานที่แห่งการบ่มเพาะความรุนแรง​ การคุกคามทางเพศ​ และการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ
เพราะ... หนูไม่อยากให้​ ''​ครู''​ คนที่เด็กมอบความไว้ใจกลายเป็นคนที่ใช้ความไร้เดียงสาของเด็กในการทำร้ายเขาอีกแล้ว​
เมื่อถึงขนาดนี้
หนูมีข้อเรียกร้องสามข้อให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาและดำเนินการต่อไปเพื่อให้นักเรียนได้รับความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
ข้อหนึ่ง​ ขอให้ทุกโรงเรียนมีนโยบายอบรมคุณครูเรื่องการรู้จักสิทธิในร่างกายนักเรียน​อย่างเป็นรูปธรรม
''​ครูหลายท่านเขาจับตัวเด็กด้วยความเอ็นดูนะ​ ถ้าหนูเรียนจิตวิทยาหนูจะเข้าใจว่ามันทำให้เด็กรู้สึกดี​''​ นี่คือประโยคของครูที่พูดในห้องขณะพบผู้อำนวยการ​
คุณรู้ไหมหนูเคยเข้าใจว่าเขาเอ็นดู​ หนูเข้าใจอย่างนั้นจนเขาบอกกับหนูว่า ''​ที่มาสเซอร์ทำ​เพราะเข้าใจหนูต้องการอย่างนั้น​''​
ข้อสอง​ ขอให้ทุกโรงเรียนมีหลักสูตรอบรมนักเรียนในสิทธิในร่างกาย และรู้วิธีการป้องกันตัว รวมถึงการปกป้องตัวเองหลังจากเจอเหตุการณ์การถูกคุกคามทางเพศ​ การทำอนาจาร​ และการข่มขืน​
มีเด็กจำนวนมากถูกคุกคามทางเพศ​ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้​ เพราะ​ตัวเองไม่มีความรู้​ และคนที่ไปขอคำปรึกษาก็ไม่มีความรู้​ เน้นให้ปล่อยวาง​ ทำใจให้สบาย​ อย่าบอกเลยเราเป็นผู้หญิง​ ฝ่ายเราเสียหายมากกว่า​ เน้นที่การป้องกันตัวเองดีกว่า​
หรือแม้แต่ผู้ชายก็พบการคุกคามทางเพศที่ไม่พึงประสงค์​ แต่ไม่มีเด็กออกมาเรียกร้อง​ เพราะ​ ไม่รู้ว่าโดนคุกคาม อับอายเพื่อน​ กลัวมีปัญหากับทางโรงเรียน
ดังนั้นการให้ความรู้เรื่องนี้เด็กจะรู้จักการปกป้องสิทธิของตัวเอง​ รวมถึงไม่คุกคามผู้อื่นด้วยควาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำคือการคุกคามทางเพศ​ ​ เนื่องจากได้รับการศึกษาที่เหมาะ​สม
ข้อสาม เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีความรับผิดชอบและความโปร่งใสมากขึ้นในการสอบจริยธรรมคุณครูผู้กระทำผิด หนูเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนที่ครอบคลุมถึงเรื่องของการละเมิดทางเพศของเด็กนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะมาจากโรงเรียนภายใต้การกำกับของรัฐบาลหรือของเอกชนก็ตาม และให้อำนาจเต็มกับคณะกรรมการดังกล่าวในการฟ้องร้องให้บุคคล กลุ่มบุคคล หรือสถานศึกษามีความผิดได้ตามกฎหมาย
ทั้งหมดที่หนูได้พูดมานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับหนู เพราะตั้งแต่ตอนนั้นมา เอินไม่ได้รับสิทธิ​และการปกป้องอย่างที่พึงจะเป็น​ รวมถึงสูญเสียโอกาสในการบำบัด​ เพราะ​ หลังจากเหตุการณ์นั้นเอินมีภาวะทางจิตเวช​ [PTSD] เอินวิ่งหนีผู้ชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยด้วย​ เริ่มกลัวเสียงมอไซต์​ ฟ้าร้อง​ ฟ้าผ่า​ (วันนั้นมีเหตุการณ์ฝนตกด้วย)​ อาการกลัวของเอินถูกพัฒนาจนกลายเป็นโรค​ panic​ disorder​ โรคที่เกิดอาการหวาดกลัวตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นเร็ว​ บางคนหนักถึงมีอาการคล้ายอาการชัก​ (หนูเป็นแบบหนัก​ เพราะ​ ได้รับการรักษาช้า)​
เอินสูญเสียชีวิตที่จะได้ใช้แบบคนอื่น​...
เอินสูญเสียโอกาสในการทำงาน​...
เอินสูญเสียความฝันที่อยากทำ​ เพราะมีโรคนี้เป็นเงื่อนไขในการใช้ชีวิต​…
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หนูออกมาขอร้องทางผู้ใหญ่ให้มีการสอนเรื่องนี้แบบจริงจัง​ หนูไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องเป็นแบบหนูแล้ว….
ขอให้การศึกษา​ที่ไม่ครอบคลุมเรื่องการรู้จักสิทธิของตนเอง และครูที่มีความเป็นคนไม่พร้อม​มาทำร้ายเด็กอีกเลย​….
ปล.​ ถ้าคุณอยากเห็นโรงเรียนไทยเปลี่ยนแปลงช่วยแชร์เรื่องนี้ออกไป​ อย่าให้เด็กคนไหนต้องทนทุกข์กับเรื่องแบบนี้อีกเลยนะคะ​
#โรงเรียนแดงขาวย่านบางแค

https://www.facebook.com/nalinrat.toothubtim/posts/4399942670077746