ม็อบวานนี้ (๒๑ พ.ย.) ถึงที ‘นักเรียนเลว’ ชุมนุมสร้างสรรค์ ใต้สถานีบีทีเอสสยาม ในจั่วหัว ‘บ๊ายบายไดโนเสาร์’ น่าสนใจกับเต๊นท์ข้างเวทีปราศรัย “เปิดพื้นที่ให้...เขียนความฝันที่อยากให้ประเทศเป็นในอนาคต”
และ “การเขียนข้อความโพสต์อิทระบายความในใจต่อระบบการศึกษา” ซึ่ง Mone Sawadsri สรุปคุณลักษณ์เอาไว้อย่าง ‘ใช่เลย’ ว่าเต็มไปด้วย “รูปความคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบการศึกษา เรื่องความหลากหลายทางเพศ
เรื่องแสดงออกของอัตลักษณ์บุคคล เรื่องศาสนา เรื่องศิลปะ เรื่องประเพณีบางอย่างที่ล้าหลัง มากกว่าจะเป็นม็อบไล่นายกฯ ออกไป ออกไป ออกไป อย่างเดียว” เนื่องเพราะ “เด็กสมัยนี้เห็นปัญหาสังคมได้รวดเร็วและชัดเจนกว่า
เจอผลกระทบกับตัวเองมากกว่า และสิ่งที่พวกเขาพอจะทำได้ก็คือ ความกล้าที่จะออกมาพูดตรงๆ เนื่องจาก ‘เหลืออด’ กับประเทศที่ถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน” เช่นกันกับหญิงสาวสวมชุดนักเรียนคนหนึ่ง ถือป้าย “หนูถูกครูทำอนาจาร” ในมือ
ที่กลายเป็นประเด็นโต้เถียงอย่างหนักทางสื่อสังคม โดยเฉพาะเมื่อมีผู้สูงอายุที่ยังยึดติดกับจิตสำนึกแบบโบราณวัตถุ เอาไปคอมเม้นต์กันอย่างหยามเหยียด “ดูหน้าไว้ หนุ่มไหนจะจีบ หนูคนนี้ไม่บริสุทธิ์แล้วนะ...” Nanthana Chiawitthayanan แถมสต็กเกอร์ ‘Ha Ha Ha’
อีกรายใช้ชื่อเฟชบุ๊ค Nungning Tat-chai ที่ระบุว่าเคยทำธุรกิจให้เช่าตึกแถว โพสต์ “ถ้านักเรียนไม่ให้ท่า ครูก็ไม่กล้าเอา นักเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ย่อยซะที่ไหน” หากแกจะเบิกตาหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะได้ข้อมูลประดับสมองว่าธรรมชาตินั้น ‘เด็ก’ อายุ ๑๔ เริ่มรู้สึกทางเพศแล้ว
ทว่าป้าคนนี้ “แกยังโพสต์รูปวัด รูปพระเยอะมาก แถมป้ายังเคยเป็นครู มิหนำซ้ำยังมีลูกสาว” สมชาย แซ่จิว แชร์โพสต์ของใครคนหนึ่งซึ่งบอกว่า ป้า “มีอคติชอบชัง...ทับถมได้กระทั่งคนคราวหลาน อยากถามป้าแกว่า มองตัวเองแล้วหรือยัง”
เอาเถอะ หากจะว่า ‘นานาจิตตัง’ ก็ยังทำเนา แต่ปัญหาอยู่ที่ สื่อบางแหล่งที่ชอบทำตัวเป็น ‘ปฏิกิริยา’ ไปขุดคุ้ย ‘ภาพ’ ต่างๆ เบื้องหลังสาวคนนี้เอามาตั้งใจประจาน หากหลักฐานยังอ่อน นสพ.ผู้จัดการ เสนอบทความสองชิ้นเกี่ยวกับสาวคนนี้
ชิ้นหนึ่ง “เปิดวาร์ปสาวชุดนักเรียนถือป้ายถูกครูทำอนาจาร” อีกชิ้น “คอสเพลย์ ม.ปลาย ปลอมเป็นนักเรียนฉีกหน้าประเทศชาติ” พาดหัวชิ้นหลังนี่แสดงวุฒิภาวะตื้นไปหน่อย ก็ถ้าเธอคอสเพลย์แล้วมันก็ต้อง ‘ปลอม’ อยู่ดี
เรื่องของเรื่อง น.ส.นลินรัตน์ ตู้ทับทิม นี้เธออายุ ๒๑ ปี “เป็นนางแบบ นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์” ใช้ชื่อบัญชีเฟชบุ๊คหนึ่งว่า ‘หมวยแมวเมี้ยว-muaymaewmeowww’ “ที่ผ่านมาเคยโพสต์ภาพตัวเองในชุดคอส (เพลย์) ต่างๆ มากมาย”
ผู้จัดการเอาโพสต์วิพากษ์จาก ‘ปราชญ์ สามสี’ (อ้างเป็นเพจการเมืองชื่อดัง) มาประจานว่าสาวผู้นี้ “ปลอมเป็นนักเรียนเพียงเพื่อฉีกหน้าประเทศชาติ...หน้าไม่อาย หลังจากนี้ ม็อบสามนิ้วนี้คงเป็นแค่เด็กเลี้ยงแกะ...คนเลวมันเลวจริงๆ ครับ”
ก็ยังดีที่อุตส่าห์เอาคำวิจารณ์ของเพจ Drama-addict มาถ่วงดุล โดยแจงรูปพรรณเจ้าของบัญชีอย่างละเอียดว่าเป็นคนเดียวกับ ‘จ่าพิชิต ขจัดพาลชน’ นามแฝงของ วิทวัส ศิริประชัย ซึ่งย้ำให้เห็นแก่นแท้ของป้ายที่สาวคนนั้นชู
ว่า “โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย” จริงๆ “ซึ่งมีข้อมูลเป็นตัวเลขยืนยันจาก นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.)...พบว่ามีการก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศกับนักเรียนกว่าเจ็ดร้อยกรณี
นี่ยังไม่รวมเคสที่ไม่กล้าแจ้งความ ไม่กล้าร้องเรียน เพราะอับอายหรือกลัวอิทธิพลอำนาจของคนกระทำ...เวลาเกิดเหตุ เด็กที่ตกเป็นเหยื่อ อาจจะไม่ได้แจ้งความหรือบอกคนใกล้ชิดทันท่วงที จนเวลาผ่านล่วงเลยไป คดีหมดอายุความ”
สำหรับเหตุที่เกิดกับหญิงสาวรายนี้ “เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว ตอนเธอเป็นนักเรียนมัธยม...เธอถูกครูคนหนึ่งทำอนาจารหลายครั้ง เช่น เอามือลูบขา พยายามเอามือจับหน้าอก และล้วงเข้าไปในเสื้อ” ครั้นเธอแจ้งเรื่องต่อโรงเรียนกลับได้รับคำตอบว่า
“บางครั้งครูก็จับตัวเด็กด้วยความเอ็นดู ในทางจิตวิทยาจะทำให้เด็กรู้สึกดี...เธอมองว่ามันเป็นเรื่องน่าอับอาย กลัวสังคมจะด่าว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี เธอจึงปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป” แล้วสี่ปีต่อมาเหตุการณ์ยังฝังแน่นในใจ จึงกลับไปแจ้งต่อโรงเรียนอีก
ก็ยังไม่ได้ผลเช่นเดิม ส่วนหนึ่งเนื่องจาก “พวกครูด้วยกันเองช่วยกันปกป้อง” ด้วยเหตุว่าเพื่อนครูมักจะเป็นผู้คำประกัน ‘หนี้สหกรณ์ครู’ “ถ้าครูที่กระทำผิดติดคุกไม่มีปัญญาจ่าย เพื่อนครูที่ค้ำประกันให้ต้องใช้แทน เวลามีเรื่องแบบนี้เลยต้องเข้าข้างพวกเดียวกันเองสุดๆ”
ในเมื่อสังคมเต็มไปด้วยตรรกะวิปริตอย่างนี้ เธอเริ่มโพสต์เล่าเรื่องราวที่เกิดกับตน “อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับรุ่นน้องอีก”
(https://www.facebook.com/100001861685555/posts/4399942670077746/?d=n, https://www.facebook.com/poetryofb/posts/1753026304900595 และ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000120151RJfN)