เห็นด้วยกับคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร จริง ๆ ครับ
ปกติ ผมไม่ชอบความคิดความเห็นของคุณสมชัยเอาซะเลย
เพราะความคิดความเห็นของแกมักออกแนวขาด ๆ เกิน ๆ
เป็นการแสดงความคิดความเห็นแบบโอหังและเอาใจผู้มีอำนาจ
แตหลังจากโดนปลดจาก กกต. ก็ดูมีความคิดความเห็นเข้าท่าขึ้น
คุณสมชัย บอกว่า คำวินิจฉัยปมหุ้นสื่อธนาธรของศาลรัฐธรรมนูญ
อาจมีปัญหาอย่างน่ากลัว คือคำวินิจฉัยประโยคที่ว่า
"แม้จะอ้างว่าหยุดกิจการ
แต่บริษัทสามารถประกอบกิจการอีกเมื่อไรก็ได้
จนกว่าจะจดทะเบียนแจ้งยกเลิกกิจการ"
ผมเห็นด้วยกับคุณสมชัยจริง ๆ ครับ
ว่าคำวินิจฉัยนี้มีปัญหาแน่ ๆ และน่ากลัวมาก ๆ
ก็มี ส.ส. อีกกว่า 60 คนที่จัดอยู่ในกรณีเช่นเดียวกันนี้
คือ บรรดา ส.ส. อีกกว่า 60 คนที่อยู่ในระหว่างการวินิจฉัยเหมือนกัน
ต่างก็อ้างว่า ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ ประกอบกิจการนั่นนี่ต่างกันไป
แต่ในการระบุวัตถุประสงค์บริษัทในหนังสือบริคณห์สนธินั้น
ต่างก็ระบุแบบรวบไปหมดทุกข้อตามแบบของกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งมีข้อที่ระบุว่าประกอบกิจการสื่อด้วย
ตรงนี้แหละครับ คือปัญหาที่น่ากลัว
เพราะคำวินิจฉัยคดีธนาธร ได้เกิดบรรทัดฐานแล้ว ว่า
สามารถประกอบกิจการสื่อเมื่อไรก็ได้
เมื่อธนาธรโดน แล้วอีก 60 กว่าคนจะไม่โดนได้ไง
การพิพากษาคดี ศาลจะอิงข้อเท็จจริง ให้ได้ข้อเท็จจริงจนสิ้นสงสัย
แล้วจึงเข้าสู่ข้อกฎหมาย ว่าข้อเท็จจริงนั้นผิด หรือไม่ผิด อย่างไร
ข้อเท็จจริงคือ วี-ลัค มีเดีย หยุดกิจการแล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์บริษัท
ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ทิ้งปัญหาเรื่องถือหุ้นได้เลย
เหมือนกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี
ของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ในรัฐบาลประยุทธ์ ที่ถือหุ้นเกิน 5%
ด้วยการวินิจฉัยว่า บริษัทมีมติเลิกกิจการ ไม่ได้ทำกิจการตามปกติ
จึงถือว่า การถือหุ้นของนายสุวิทย์ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
แต่คดีธนาธร
ศาลรัฐธรรมนูญกลับเห็นข้อเท็จจริงไปอีกด้านว่า
แม้จะหยุดกิจการ แต่ยังไม่ได้แจ้งยกเลิกบริษัท
สามารถกลับมาเปิดกิจการอีกเมื่อไรก็ได้ จึงถือว่าธนาธรผิด
ฉะนั้น บริษัทของอีกกว่า 60 ส.ส. ก็ต้องอยู่ในข้อเท็จจริงเดียวกัน
ว่าแม้จะไม่ได้ทำสื่อ แต่ได้ระบุวัตถุประสงค์ไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
ก็ย่อมสามารถทำกิจการสื่อเมื่อไรก็ได้ ก็ย่อมผิดเช่นเดียวกันกับธนาธร
วุ่นไหมล่ะครับ
เพราะหากวินิจฉัยออกมาไม่เหมือนกัน แถไปอีกทาง อ้างไปอีกเรื่อง
ตะบักตะบวยสาหัสเลยครับ
สิ่งใดเป็นไปโดยธรรม จะไม่มีข้อกังขา
กระบวนการยุติธรรมประเทศไทย เต็มไปด้วยข้อกังขา
มีแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ เต็มไปด้วยอภินิหาร
"อยู่เป็น" แบบศิโรราบต่ออำนาจเท่านั้นถึงจะรอด
ไหว ๆ เห็นอยู่ไกล ๆ
บรรลัยกวักมือ
ตระกองขวัญ
คนที่ทำหน้าที่ในศาลมันมีปลอกคอ
ความเห็นหนึ่งในโพสต์
อ่านความเห็นอื่น ๆที่
https://www.facebook.com/trakongkhwan/photos/a.434601733307533/2189473954486960/?type=3&theater
.
หลายต่อหลายคน ที่เคยเป็นพวกเดียวกัน ก็ยังรับไม่ได้
นี่คือปรากฎการณ์ ที่เราเคยคิดกันว่า
จะทำยังไง ที่จะให้ สีต่างๆ ลดความเกลียดชังกัน (แม้จะไม่รักกัน ก็ตาม)
วันเวลานั้น มันเริ่มขยับใกล้เข้ามาแล้ว
เพราะทุกสีเริ่มรู้ว่า ใครคือศัตรูที่แท้จริง
😈😈😈
พลเมืองไซเบอร์เสรี
..
