ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่พ้นจากความเป็น ส.ส. กรณีถือหุ้นบริษัทวีลัค-มีเดีย
โดยอ้างว่าแม้จะตีพิมพ์นิตยสารก็ถือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เช่นกัน
ผลร้ายจากคำตัดสินไม่มีมากต่อธนาธรและพรรคของเขา
เท่ากับ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญทั้ง ๙ คนนั้นเอง
คำวินิจฉัยของศาลว่าไม่พบมีการ ‘จดแจ้ง’ ยกเลิกบริษัทวี-ลัค แม้นว่าจะอ้าง “ปิดกิจการและเลิกจ้าง/แจ้งหยุดกิจการชั่วคราวไปแล้ว”
ก็ยัง “จะกลับมาทำอีกเมื่อไรก็ได้ เท่ากับประกอบการสื่อมวลชนในวันที่ธนาธรสมัครรับเลือกตั้ง”
เป็นไปตามที่ กกต.ชงส่งศาลรัฐธรรมนูญว่า
เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑(๖) ประกอบมาตรา ๙๘(๓)
นั้นย่อมมีผลต่อการวินิจฉัยการถือบริคณห์สนธิกิจการสิ่งพิมพ์ของ ส.ส.อีก ๖๔ คน
(รัฐบาล ๓๒ ฝ่ายค้าน ๓๒) ในอนาคตด้วย
จะอ้างว่าบางกรณีเหล่านั้น (ของฝ่ายรัฐบาล)
“ไม่มีสื่ออยู่จริง” อีกคงไม่ได้ ‘ใบตองแห้งOnAir’
เขาเลยเกิดสงสัย “ศาลจะตีความเจตนารมณ์หรือไม่...” ในเมื่ออดีต กกต.
อย่าง สมชัย ศรีสุทธิยากร ยังห่วงว่าเป็น “ท่อนคำวินิจฉัยที่น่ากลัวที่สุด
คือ
หากยังมีสถานะเป็นบริษัทที่จดแจ้งว่าทำสื่อ ก็มีโอกาสทำได้”
และถือว่ามีความผิดฐานเป็นสื่อ เพราะหนังสือบริคณห์สนธิระบุไว้ในบางข้อว่าทำสื่อด้วย
“จะถูกบรรทัดฐานนี้ ในการวินิจฉัยแบบเดียวกันหรือไม่”
“หรือจะรอเปลี่ยนตุลาการชุดใหม่ค่อยตัดสิน”
Atukkit Sawangsuk ตามมาร่วมแย้ป
พร้อมไปกับข้อกังขาต่างๆ นานาที่มีต่อศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้เรื่อยมาเป็นเวลานับสิบปี
เริ่มกลับมาหลอน มีการนำภาพและชื่อเสียงเรียงนามของตุลาการทั้งหมดตีพิมพ์ทางสื่อสังคมให้จำหน้าค่าตากันไว้
ว่า ๗ ใน ๙ มาจากคณะรัฐประหาร ๕ คน
คสช.ใช้อำนาจมาตรา ๔๔ ต่ออายุการทำงานให้โดยตรง อีก ๒ คน
สนช.ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติโดย คสช.เป็นผู้แต่งตั้ง
ที่เหลืออีกสองสรรหาในช่วงรัฐบาล คสช.๑ จึงไม่ต้องแปลกใจที่มีข้อครหาสะพัด
“ประเด็นน่าสงสัย
ศาลจะบอกว่าเป็นเรื่องผิดปกติไปซะหมด ยิ่งเทียบกับคดีของอีกฝ่าย หลายๆ ประเด็นถูกยก”
(@Pheerawat14)
คอมเม้นต์เช่นนี้แม้แต่ในรายงานข่าวของสื่อสากล (เอพี) ก็ยังมีปรากฏ โดยเฉพาะองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในรัฐสภาอาเซียน
‘APHR’ ออกแถลงการณ์จากกรุงจาการ์ต้า
ว่าการตัดสินของศาลฯ บ่งชี้ว่า “ผู้มีอำนาจของไทยยังไม่พร้อมจะมีประชาธิปไตยที่โปร่งใสและเป็นอิสระ”
และว่าเป็นความพยายามปิดปากพรรคการเมืองที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
(https://hilight.kapook.com/view/196477, https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/2456972917685430
และ https://www.nytimes.com/aponline/2019/11/20/world/asia/ap-as-thailand-politics.html)
นอกจากทำให้นักกิจกรรมอย่าง ‘เพนกวิน’ - Parit Chiwarak @paritchi โพล่งออกมาบ้างว่า
“ประชาชนเลือกธนาธร ประชาชนไม่ได้เลือกศาลรัฐธรรมนูญ” และ “Among hashtags trending in Thailand are
#RIPThailand
and #StandWithThanathorn”
โดย Matthew Tostevin @TostevinM ทวี้ตข้ามชาติไปทั่วว่า @Thanathorn_FWP
ยังคงเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อยู่ต่อไป และประกาศ ‘สู้’ ไม่หยุดยั้ง จนเกิดแฮ้สแท็ก #ยิ้มสู้
ขึ้นมาอีกอย่าง แม้นว่าจะมีเสียงแซะการต่อสู้ในกะลาแลนด์เต็มไปด้วย ‘#’ ไม่เหมือนไหนๆ ในโลก
ถึงอย่างนั้นทีมอนาคตใหม่หลายคนฉวยโอกาสจากวิกฤต
Pannika Wanich บอก “#ธนาธร ยังคงเป็นหัวหอกทีม #อนาคตใหม่ เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์
ใครมีเบาะแสการทุจริต ใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล ส่งมาที่ whistle@futureforwardparty.org กลางเดือนธันวาคมนี้เจอกันแน่”
ส่วน #ครูจุ๊ย @Kunthida_FWP
ว่า “#ธนาธร จะยังทำงานต่อไป #อนาคตใหม่ ยังคงทำงานต่อไป ใครอยากสนับสนุนพวกเรา
สมัครสมาชิกได้ที่ https://futureforwardparty.org/join
แสดงพลังกันให้เต็มที่ไปเลยค่ะ”
ประการสำคัญ “ผลของการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้
ผมเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานการเมืองร่วมกันของ ๗ พรรคฝ่ายค้าน”
ภูมิธรรม เวชยชัย จากพรรคเพื่อไทยโพสต์ให้กำลังใจ อนค. พร้อมกับบ่งว่า
“คำตัดสินจะถูกทำให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป นี่คือเหตุผลที่คงต้องมาทบทวนพิจารณากันว่า
กติกาและรายละเอียดของ รธน.ฉบับนี้มีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร” เพื่อไม่ให้เป็น “กติกาที่ไม่สะท้อนความวิปริตและความไม่ปกติของการทำงานทางการเมือง”
อีกต่อไป
มีคนบันทึกผลกรรมจากน้ำมือของศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้เอาไว้
เป็นรอยสลักประจานบนพานรัฐธรรมนูญว่า “ผมเคยเชื่อว่าคดีเมียซื้อที่ผัวต้องติดคุกมีเงี่ยนงำ
มาวันนี้ผมเห็นชัดแล้ว ผมเคยเชื่อว่าทำกับข้าวออกทีวีต้องหลุดจากตำแหน่งมันอึมครึม
มาวันนี้ผมคิดได้แล้ว
ผมเคยเชื่อว่าโครงการจำนำข้าวทำประเทศเสียหายผมงุนงง
มาวันนี้ผมเก็ตแล้ว ผมเคยเชื่อว่าแก๊สน้ำตาทำให้ระเบิดอย่างรุนแรงจนเสียชีวิตอย่างกังขา
มาวันนี้ผมรู้ความจริงแล้ว ผมเคยเชื่อว่าประเทศเรายังไม่พร้อมมีรถไฟความเร็วสูงเพราะดินลูกรัง
มาวันนี้ผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
ผมเคยเชื่อว่าม็อบคนดีมาเพื่อปฏิรูปประเทศ
มาวันนี้ผมเห็นแกนนำม็อบได้รับตำแหน่งต่างๆ แล้ว ทำให้ผมเห็นถึงความจริง ผมเคยชื่นชมม็อบต้านโกงเพราะรักชาติ
มาวันนี้ผมไม่เห็นพวกเขาแล้ว ผมเคยเชื่อว่าพรรคการเมืองหนึ่งเป็นพรรคคุณธรรมเพราะหลุดทุกคดีแบบน่ากังขา
มาวันนี้ผมเห็นความจริงแล้ว
ผมเคยเชื่อว่ายางโลละ ๘๐ อยู่ไม่ได้
มาวันนี้ผมเห็นพวกเขาอยู่ได้แล้ว ผมเคยชอบเปาบุ้นจิ้น เพราะมีแต่ความยุติธรรม
มาวันนี้ผมเห็นแล้วว่าคนอย่างเปาบุ้นจิ้นหาไม่มีอีกแล้ว”
ฉะนี้ การแก้รัฐธรรมนูญที่จะมีมา
จะให้ดีควรมีประเด็นโละทิ้งศาลรัฐธรรมนูญแบบสรรหากันเองในหมู่ ‘คนดี’ เสียทีได้แล้ว